ชั้นหนึ่งของปราสาท คนกลุ่มหนึ่งรวมตัวเข้ามาอยู่ด้วยกัน
ตำแหน่งตรงกลางสุดก็คือหลินโป๋หลายกับหลินอิ่นบิดาของเขา รวมทั้งหญิงมีอายุที่ยังมีเสน่ห์ดึงดูดคนหนึ่ง
เพียงแต่ว่าทุกคนล้วนมีสีหน้ากังวลเต็มทั้งใบหน้า
หลินหยวนผิง อารองของหลินชิงเสว่เอ่ยขึ้นอย่างฉับพลัน “พวกเราปิดบังความจริงกับผู้นำ แอบช่วยหลินชิงเสว่กำหนดการหมั้นหมาย จะเป็นอะไรไหม?”
คำพูดนี้ดังออกมา ทุกคนก็ยิ่งขมวดคิ้วมุ่นเข้าไปอีก สายตาที่มีความหวาดกลัวอย่างล้ำลึกอย่างที่คาดไม่ถึงทอดออกไปไกล
เดิมทีพวกเขาแค่อยากจะกำจัดสามีและลูกสาวของหลินชิงเสว่ จากนั้นก็จัดการงานแต่งครั้งใหม่ให้กับหลินชิงเสว่ แลกเอาผลประโยชน์ที่มากกว่านี้มา
ตอนนี้ถังเฉากับลูกสาวของเขาได้ตายไปแล้ว คนเดียวที่จะต้องเผชิญหน้าด้วยก็คือทางฝั่งของผู้นำ
หลินรั่วหวี!
ชายที่ถูกเรียกว่า ‘ผู้มีปัญญาแต่ไม่อวดความรู้’ คนนั้น เขาจะเห็นด้วยไหม?
ทุกคนล้วนรู้ว่า เนื่องจากครอบครัวที่แตกไปเมื่อหลายปีก่อนทำให้เขารู้สึกละอายใจต่อหลินชิงเสว่มาโดยตลอด สวรรค์รู้ว่าถ้าหากว่าหลินรั่วหวีได้รู้ว่าพวกเขาปฏิบัติต่อลูกสาวของเขาเช่นนี้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“ไม่ร้ายแรง”
หลินอิ่นเอ่ยอย่างกะทันหัน “พวกเราทำแบบนี้ก็เพื่อให้ชิงเสว่ได้ดี ต่อให้ถูกผู้นำจับได้ก็คิดว่าเขาคงจะไม่ทำให้พวกเราลำบากมากเกินไป”
“ใช่”
หลินโป๋หลายเองก็เอ่ยปากพูดขึ้นว่า “เดิมทีฉันกับทางเมืองหมิงจูนั่นร่วมมือกันโจมตีทั้งสองทาง ยังคิดจะเร่งพี่ให้กลับบ้านมา แต่ว่าตอนนี้ตระกูลฉินฝั่งนั้นตอบตกลงงานแต่งนี้มาแล้ว ทั้งสองฝ่ายไม่อาจจะเปลี่ยนใจ ทำแบบนี้จะทำให้พวกเราได้ประโยชน์อย่างมหาศาล ฉันว่าผู้นำคงจะไม่ค้านหัวชนฝาหรอก”
“โป๋หลายพูดถูก หลินอิ่น คนรุ่นใหม่สานต่อคนรุ่นเก่า ตอนลูกชายนายเป็นหนุ่มนี่เก่งกว่านายอีกนะ”
“คนที่จะรับตำแหน่งผู้นำตระกูลหลินคนต่อไป มีแค่โป๋หลายเท่านั้นที่คู่ควร!”
หลังจากที่ทุกคนสบายใจแล้วก็พากันเผยสีหน้าประจบประแจงออกมาอวยพรหลินโป๋หลาย
แอ๊ด…
ในตอนนี้เอง ประตูใหญ่ที่ปิดสนิทก็เปิดออกมาอย่างฉับพลัน เงาร่างสองร่างพุ่งเข้ามาพร้อมกัน
“แย่แล้ว เกิดเรื่องแล้ว!”
ทุกคนมองไป นึกไม่ถึงว่าจะเป็นลั่วเยนอวิ๋นกับหลินจ้าวหยูน ทันใดนั้นก็ไม่เหลือบแลคนที่อยู่ตรงหน้าอีก
“ที่นี่ตระกูลหลิน ไม่ใช่ตระกูลลั่วของพวกเธอ ไม่รู้จักเคาะประตูก่อนเข้ามาเหรอ!”
“จ้าวหยูนกลับมาแล้วเหรอ? มาดื่มน้ำก่อน พักผ่อนเสียหน่อย”
ผู้คนอีกหลายคนเริ่มเอาความสนใจไปวางไว้บนร่างของหลินจ้าวหยูน ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นลูกสาวคนเล็กที่ผู้นำรักใคร่มากที่สุด
ลั่วเยนอวิ๋นมีสีหน้าเยือกเย็นทันที เมื่อก่อนตอนที่พี่สาวของเธอยังอยู่ ใครไหนเลยจะกล้าเอะอะโวยวายใส่เธอ? แต่พอพี่สาวของเธอจากไป พวกเขาก็ไม่เห็นเธออยู่ในสายตาแล้ว
แต่ตอนนี้เป็นเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน เธอเองก็ไม่ได้บันดาลโทสะ
ยังคงเป็นหลินจ้าวหยูนที่พูดธุระออกมา “ผู้อาวุโสทุกท่านคะ เกิดเรื่องแล้วค่ะ พี่สาวของฉันถูกจับตัวไปแล้วค่ะ!”
พอทุกคนได้ยินก็ผ่อนคลายร่างกาย “ฉันนึกว่าจะเกิดเรื่องอะไรใหญ่โต ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง”
หลินจ้าวหยูนเบิกตาโต ไม่เข้าใจว่าทำไมพอทุกคนได้ยินว่าพี่สาวของตนถูกลักพาตัวไปแล้วถึงไม่กังวลใจสักนิด
หลินโป๋หลายลุกขึ้นยืน ยิ้มแล้วพูดว่า “อย่ากังวลไปเลย พี่สาวของเธอพักผ่อนอยู่ชั้นบนน่ะ”
“ชั้นบน?!”
พอคำนี้พูดออกมา หลินจ้าวหยูนกับลั่วเยนอวิ๋นก็มองหน้ากัน พอสำนึกได้ก็ขึ้นไปหาที่ชั้นสอง
เพียงชั่วพริบตาเดียว สายตาของลั่วเยนอวิ๋นก็เปลี่ยนเป็นคมกริบขึ้นมาทันที เธอมองไปที่หลินโป๋หลายแล้วพูดขึ้นว่า “นายให้คนไปลักพาตัวชิงเสว่มา?”
“ใช่ ฉันเป็นคนทำเองแหละ”
หลินโป๋หลายไม่ได้ปฏิเสธ พยักหน้าอย่างมีมาด
เพี๊ยะ…
ลั่วเยนอวิ๋นตบหนัก ๆ ลงบนใบหน้าของเขา
ฝ่ามือนี้เธอใช้แรงไปเยอะมาก มุมปากของหลินโป๋หลายมีเลือดสด ๆ ไหลทะลักออกมาทันที
“ลั่วเยนอวิ๋น เธอกล้าดียังไงมาตบลูกชายของฉัน!”
หญิงวัยกลางคนที่งดงามคนหนึ่งพุ่งปราดออกมาด้วยใบหน้าเดือดดาลทันที เธอชี้ลั่วเยนอวิ๋นแล้วเอ่ยถาม
คนอื่น ๆ ก็ทยอยกันก่นด่า
“ที่นี่คือตระกูลหลิน ไม่ใช่ตระกูลลั่วของเธอ เธอกล้ามาตบคนที่ตระกูลหลินงั้นเหรอ!”
“ลั่วเยนอวิ๋น ยัยผู้หญิงบ้า ไม่ช้าก็เร็วสักวันแกจะต้องโดนคนอื่นจัดการแน่!”
แต่ทว่าลั่วเยนอวิ๋นกลับไม่มีความเคลื่อนไหวใดใด สายตาที่เย็นยะเยือกยังคงจ้องไปที่หลินโป๋หลาย “ถ้าหากหลานสาวคนโตของฉันเป็นอะไรขึ้นมาละก็ ต่อให้คุณเป็นคนของตระกูลหลิน ฉันก็จะไม่ปล่อยคุณไว้แน่!”
ทุกคนพากันหัวเราะเสียงดัง
“ชิงเสว่เป็นคนในตระกูลหลินของพวกเรา จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้?”
“นั่นสิ ที่นี่คือตระกูลหลวงในเยี่ยนตู ใครจะกล้ามาหาเรื่อง?”
“พูดเพ้อเจ้ออะไรออกมา!”
“ฉันล่ะนึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าตระกูลที่พี่สาวของฉันเลือกจะเป็นแบบนี้!”
ในสายตาของลั่วเยนอวิ๋นปรากฏความปรารถนาที่อยากจะสังหารอยู่เลือนราง น้ำเสียงเยือกเย็นอย่างถึงที่สุด “พวกคุณก็รู้ดีนี่ว่าชิงเสว่มีนิสัยโผงผางมากแค่ไหน พอได้วินิจฉัยคนคนหนึ่งแล้วก็จะไม่แก้ไขอีก พวกคุณใช้วิธีการลักพาตัวเธอมาบีบบังคับให้เธอแยกกับสามีและลูกสาวของเธอ พวกคุณว่าเธอจะทำอย่างไร!”
“…”
ทั้งห้องโถงใหญ่เปลี่ยนเป็นเงียบสงัด ทุกคนมองสบตากันและกันเหมือนกับคิดอะไรได้ สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่น่าดู
“แย่แล้ว!”
หลินโป๋หลายพุ่งขึ้นไปชั้นบนเป็นคนแรก
หลินอิ่นก็ตามไปติด ๆ สุดท้ายทุก ๆ คนล้วนก็กรูกันขึ้นไป
ลั่วเยนอวิ๋นยืนอยู่ที่เดิม สีหน้าขมุกขมัวจนถึงที่สุด
เธอรู้สึกเศร้าใจต่อหลานสาวคนโตของเธอเหลือเกิน
“น้าคะ พี่สาวของฉัน จะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”
สีหน้าของหลินจ้าวหยูนขาวซีดราวกับกระดาษ จับมือของลั่วเยนอวิ๋นไว้แน่น
หลินจ้าวหยูนรีบเอ่ยคลายกังวลทันที “วางใจเถอะ หลานสาวคนโตจะไม่เป็นอะไรแน่”
หลังจากนั้นพวกเธอก็ขึ้นไปดูสถานการณ์ที่ชั้นบน
ใบหน้าของลั่วเยนอวิ๋นเต็มไปด้วยความกังวลใจ “หวังว่าฉันจะแค่คิดมากไปนะ…”
หลินอิ่นหยิบกุญแจออกมาเปิดประตู
แต่ทว่า พริบตาที่ประตูเปิดออก รูม่านตาของทุกคนก็หดลงอย่างรวดเร็ว
หลินชิงเสว่ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง กำลังกระแทกเข้ากับผนังอย่างโหดร้าย
ใช้แรงเยอะมาก ไม่เหมือนกับกำลังแสร้งทำเลยสักนิด แต่เป็น… คิดจะฆ่าตัวตายจริง ๆ
“ชิงเสว่!”
“หลาน!”
“พี่!”
เสียงร้องตะโกนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงทั้งสามเสียงดังขึ้นมาพร้อมกัน แยกออกเป็นพวกของหลินโป๋หลาย ลั่วเยนอวิ๋น และหลินจ้าวหยูน
ในสายตาของทุกคนล้วนมีแต่ความหวาดกลัว พุ่งเข้าไปทันที
พวกเขาคำนวณทุกอย่างมาหมดแล้ว มีเพียงการยอมตายเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของหลินชิงเสว่เท่านั้นที่มองข้ามไป
หลังจากที่ได้รู้ว่าถังเฉากับถังเสี่ยวลี้ไม่รู้เป็นตายอย่างไร นึกไม่ถึงว่าจะคิดฆ่าตัวตาย!
น่าเสียดาย… สายไปเสียแล้ว
“อย่านะ…”
ในระหว่างที่หลินจ้าวหยูนกรีดร้อง ศีรษะของหลินชิงเสว่ก็โขกเข้ากับผนังห้อง
ตึง…
หน้าผากของหลินชิงเสว่โขกจนมีเลือดทะลักออกมาทันที หลับตาล้มลงกับพื้น
“พี่…”
หลินจ้าวหยูนกรีดร้องอย่างเศร้าเสียใจสุดขีด วิ่งเข้าไปอย่างไม่คิดชีวิต กอดหลินชิงเสว่เอาไว้ในอ้อมอก
ลั่วเยนอวิ๋นมองฉากนี้อย่างเหม่อลอย หลังจากผ่านไปหลายวินาทีก็ค่อย ๆ หันหลังกลับมองไปยังพวกของหลินโป๋หลาย สายตาเดือดดาลอย่างถึงที่สุด
“เป็นพวกคุณที่บีบบังคับให้ชิงเสว่มาอยู่จุดนี้!”
หลินจ้าวหยูนกอดหลินชิงเสว่ที่มีเลือดไหลออกมาจากหน้าผาก ร้องไห้จนหัวใจแทบแตกสลาย เธอเองก็เงยหน้าขึ้นมา ในสายตาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น
“ฉันเกลียดพวกคุณ!”
หลินโป๋หลาย หลินอิ่นก็ยืนนิ่งอย่างทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
โครม…
ทันใดนั้น เสียงกระแทกดังสนั่นหวั่นไหวก็ดังมาจากด้านนอกของประสาท
จากนั้น ประตูใหญ่ของตระกูลหลวงในเยี่ยนตูก็ถูกเงาขนาดมหึมาชนจนปลิวอย่างโหดเหี้ยม
ฝุ่นควันฟุ้งตลบอบอวล ดินและฝุ่นปลิวว่อน
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?!”
สีหน้าของหลินโป๋หลายเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในทันที เขาตะโกนอย่างเดือดดาล
บอดี้การ์ดคนหนึ่งพุ่งเข้ามา มือเท้าสะเปะสะปะ ในสายตามีความหวาดกลัว
“ด้านนอกมีรถคันหนึ่งพุ่งเข้ามาครับ ชนพี่น้องของพวกเราบาดเจ็บไปหลายคนเลยครับ!”
“ว่าไงนะ?!”
ได้ยินอย่างนั้นทุกคนก็เดือดดาลกันใหญ่
“ใครกันแน่ กล้ามาชนประตูใหญ่ของตระกูลหลวงในเยี่ยนตู!”
ในตอนนี้ฝุ่นควันกระจายออกไป มีชายหนึ่งหญิงหนึ่งเดินออกมา
ก็คือถังเฉากับเฟิ่งหวง!
สายตาของเขาหนาวเหน็บถึงขั้นสุด น้ำเสียงหนาวเหน็บราวกับอเวจีมหานรก
“ภรรยาของผม… อยู่ที่ไหน?”