ปลายสาย น้ำเสียงของจ้าวเย็นหรานเคร่งขรึมจริงจัง ถังเฉาฟังจบสีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที
“ทำไมจะต้องเป็นตอนนี้ด้วยนะ…”
จ้าวเย็นหรานก็ฟังความยากลำบากของถังเฉาออก อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามว่า “ทำไมเหรอคะ ทางฝั่งคุณเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”
ถังเฉายิ้มเจื่อน ๆ “ภรรยาของผมถูกยิงในงานเลี้ยง พ่อของผมช่วยชีวิตเธอเอาไว้ แต่ตัวเองกลับโดนยิง”
“สาหัสไหมคะ?”
จ้าวเย็นหรานอดที่จะเอ่ยถามออกมาไม่ได้
ถังเฉาส่ายศีรษะ “ตอนนี้อยู่ในระหว่างการช่วยชีวิต ไม่รู้สถานการณ์”
จ้าวเย็นหรานเงียบไปพักหนึ่ง แล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างฉับพลัน “ในเมื่อเป็นแบบนี้ คุณก็ไปดูแลครอบครัวของคุณให้ดีก่อนเถอะค่ะ ทางฝั่งฉันยังพอต้านทานไว้ได้ค่ะ”
“เดี๋ยวก่อน…”
ถังเฉายังพูดไม่ทันจบ โทรศัพท์ก็วางสายไปแล้ว
ถังเฉารีบร้อนโทรกลับไป อีกฝ่ายกลับปิดเครื่องไปแล้ว
“เป็นอะไรคะ?”
หลินชิงเสว่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ พันผ้าเช็ดตัวหนึ่งผืนเดินออกมา เอ่ยถาม
“ไม่มีอะไรครับ”
ถังเฉาแย้มยิ้ม จากนั้นก็มองหลินชิงเสว่ด้วยสายตาอ่อนโยน “ดึกมากแล้ว คุณรีบนอนเถอะครับ”
“แล้วคุณล่ะคะ?”
หลินชิงเสว่จ้องมองเขานิ่ง ๆ
ถังเฉายิ้ม “อีกสักพักผมก็ไปนอนแล้วครับ”
เดินออกไปจากห้องอย่างเงียบ ๆ สีหน้าของถังเฉาเปลี่ยนเป็นเข้มครึ้มขึ้นมา
ไม่ว่าจะเป็นการลอบฆ่าของมือปืนซุ่มยิง หรือการก่อความวุ่นวายอย่างกะทันหันของตระกูลจ้าว เขาล้วนแต่รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดา
เหมือนกับว่านัดแนะกันมาอย่างดีแล้วอย่างนั้นแหละ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันในตอนนี้ ไม่สามารถที่จะจัดการทุกเรื่องพร้อมกันได้ ทำได้ไม่สำเร็จ
แต่ว่า เป็นใครกันแน่ คนที่ควบคุมทุกอย่างอยู่เบื้องหลัง ก็ไม่มีทางที่จะรู้ได้
มองดูดวงจันทร์ที่ถูกเมฆดำบดบัง ในใจของถังเฉาก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่เป็นมงคลบางอย่างขึ้นมากะทันหัน
ผ่านไปประมาณสองชั่วโมง ตีสอง
ถังเฉาและหลินชิงเสว่ล้วนถูกเสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือปลุกจนตื่น พอมองหน้าจอที่แสดงรายการโทรเข้า คาดไม่ถึงว่าจะเป็นหลินฉ่ายเวย
ความง่วงของถังเฉาหายไปเป็นปลิดทิ้ง เดินออกจากห้องกับหลินชิงเสว่ ตอนนี้ถึงได้รับโทรศัพท์
“ฉ่ายเวย คุณพ่อเป็นอย่างไรบ้าง?”
“พวกคุณรีบมาเร็ว ๆ ค่ะ อาการของคุณพ่อไม่สู้ดีนัก หมอบอกว่าเสียเลือดเยอะเกินไป จำเป็นจะต้องถ่ายเลือดค่ะ!”
หลินฉ่ายเวยพูดอย่างร้อนใจ “แต่ว่ากรุ๊ปเลือดของคุณพ่อค่อนข้างจะพิเศษ ในโรงพยาบาลไม่มี!”
พอคำนี้พูดออกมา สีหน้าของถังเฉากับหลินชิงเสว่ทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก
สต๊อกในธนาคารเลือดไม่เพียงพอ นี่เป็นเรื่องที่แก้ไขยากที่สุด
เลือดที่มีกรุ๊ปเลือดไม่ตรงกันถ่ายเข้าไปในร่างกาย ไม่เพียงแต่ไม่มีประโยชน์ กลับยิ่งทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่ขึ้นไปอีก
“พ่อมีกรุ๊ปเลือดอะไรครับ?”
ถังเฉาเอ่ยถามทันที
“กรุ๊ปเลือด Rh negative!”
ขวับ!
พอคำนี้ลั่นออกมา สีหน้าของถังเฉาก็เปลี่ยนเป็นไม่น่ามองอย่างหาใดเปรียบ
เขาเคยได้ยินมาว่ากรุ๊ปเลือดประเภทนี้ ทั้งประเทศมีประชากรเพียงไม่ถึง 0.3%
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเลือดกรุ๊ปโอที่ถูกเรียกว่าเป็นกรุ๊ปเลือดสารพัดประโยชน์ แต่ก็ไร้หนทางที่จะถ่ายเลือดให้กับกรุ๊ปเลือดที่มีอยู่น้อยมากนี้
“พวกคุณรีบมากันก่อนเถอะค่ะ!”
หลินฉ่ายเวยเอ่ยขึ้น “ถ้าหากไม่มี ก็ทำได้แค่ตั้งรางวัลใหญ่ขอเลือดแล้ว ทั้งประเทศมีคนมากขนาดนั้น จะต้องมีคนที่มีเลือดกรุ๊ปเดียวกันแน่คะ”
ถังเฉาพยักหน้า ตัดสินใจจะออกจากบ้านไปกับหลินชิงเสว่
“พ่อคะ แม่คะ พวกท่านจะไปไหนกันคะ”
ฉับพลัน ถังเสี่ยวลี้ตื่นแล้ว มองถังเฉากับหลินชิงเสว่อย่างสะลึมสะลือ
ทั้งสองมองตากันแวบหนึ่ง ช่วยไม่ได้ ทำได้เพียงพาถังเสี่ยวลี้ไปด้วย
รอจนเร่งมาถึง หลินฉ่ายเวยกับโจวเหม่ยหยูนกำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่บนม้านั่งตัวยาว พอเห็นถังเฉามาแล้ว หลินฉ่ายเวยก็มาเผชิญหน้าทันที
“ทางโรงพยาบาลได้ประกาศออกไปทั่วทั้งเมืองแล้ว ซื้อเลือดในราคาสูง หนึ่งมิลลิกรัมหนึ่งหมื่นหยวนค่ะ”
“เพิ่มราคาอีกครับ หนึ่งมิลลิกรัมห้าแสน!”
ถังเฉากัดฟัน เพิ่มราคาไปห้าสิบเท่าในรวดเดียว
หลินฉ่ายเวยพยักหน้า หันกลับไปพูดกับคุณหมอ ขอเพียงมีคนยินดีบริจาคเลือด เงินไม่ใช่ปัญหา
โจวเหม่ยหยูนที่อยู่ข้าง ๆ เห็นว่าไม่มีใครสนใจเธอ ก็ยิ้มออกมาอย่างลำพองใจ
ยิ่งพวกเขาร้อนรนมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกสบายใจ
เธอเคยได้ยินกรุ๊ปเลือดประเภท Rh Negative หายากเป็นพิเศษ ทั้งประเทศก็มีคนที่มีอยู่น้อยมาก ต่อให้มี ก็ส่งมาในระยะเวลาอันสั้นไม่ได้…
“ใช้เลือดของฉันเถอะ!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงราบเรียบที่เยือกเย็นส่งมา
ทุกคนล้วนมองไปที่หลินชิงเสว่โดยพร้อมเพรียงกัน สีหน้าของโจวเหม่ยหยูนเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ลุกขึ้นยืนดังฟึ่บ จ้องเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “ใช้เลือดของเธอ เธอจะฆ่าเจิ้นสงหรือยังไง?”
หลินชิงเสว่มีสีหน้าจริงจัง “เลือดของฉัน ก็เป็น Rh Negative”
“อะไรนะ?!”
คำพูดของหลินชิงเสว่ทำให้คนในที่นั้นตกตะลึงกันยกใหญ่
ถังเฉากับหลินฉ่ายเวยมีสีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ โจวเหม่ยหยูนยิ่งเหมือนกับเห็นผี มองหลินชิงเสว่อย่างไม่อยากจะเชื่อ
ทันใดนั้นเธอก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ในดวงตามีความหวาดกลัวอยู่อย่างล้ำลึก
“ชิงเสว่ ที่เธอพูดมามันจริงเหรอ?”
ถังเฉาคว้าบ่าของหลินชิงเสว่เอาไว้แน่น เอ่ยถามขึ้น
หลินชิงเสว่พยักหน้าอย่างจริงจัง “จริงสิคะ เลือดของฉันเป็น Rh Negative”
“เยี่ยมไปเลย!”
ใบหน้าของหลินฉ่ายเวยเต็มไปด้วยความตื่นเต้น คว้ามือของหลินชิงเสว่เอาไว้ “พี่หลิน พี่จะต้องช่วยชีวิตพ่อของฉันให้ได้นะคะ!”
“แน่นอนค่ะ”
หลินชิงเสว่พยักหน้าเบา ๆ “คุณพ่อช่วยชีวิตฉันเอาไว้ เดิมทีฉันก็ทุกข์ใจอยู่แล้ว ตอนนี้มีเรื่องที่ฉันทำประโยชน์ได้ ฉันจะไม่นิ่งดูดายแน่ค่ะ”
“ไม่ว่าจะจำเป็นต้องใช้เลือดเท่าไหร่ ก็มาเอาจากฉันเถอะค่ะ!”
“ไม่ได้! นี่ไม่ได้เด็ดขาด!”
ทันใดนั้น โจวเหม่ยหยูนก็รีบร้อนลุกขึ้นมาทันที พูดกับหลินชิงเสว่ว่า “ถ้าหากว่าแกโกหกล่ะ ถ้าหากว่าแกไม่ได้มีเลือด Rh Negative อะไรนั่นล่ะ ไม่ได้เป็นการทำร้ายเจิ้นสงหรืออย่างไร? ฉันไม่ยอมแน่!”
หลินชิงเสว่ขมวดคิ้ว “ฉันไม่ได้โกหกนะคะ เลือดของฉันคือ Rh Negative จริง ๆ นะคะ!”
“ไม่เชื่อ ฉันไปตรวจเลือดก็ได้ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตรวจเลือด!”
สีหน้าของโจวเหม่ยหยูนลนลานขึ้นมาทันที แต่ก็ยังทำใจกล้าเอ่ยขึ้นมา
ที่จริงมาถึงตอนนี้แล้ว เธอเชื่อแล้วว่ากรุ๊ปเลือดของหลินชิงเสว่กับหลินเจิ้นสงเป็นกรุ๊ปเลือดเดียวกัน เพียงแต่ว่า ไม่ยินดีจะยอมรับความจริงนี้
ถึงแม้ว่าความลนลานในดวงตาของโจวเหม่ยหยูนจะวาบผ่านไปแล้ว แต่ก็ยังถูกถังเฉาจับได้อย่างชัดเจน เขาหรี่ตาลงน้อย ๆ
ด้วยความรวดเร็ว หลินชิงเสว่กับคุณหมอเดินออกมาจากห้องตรวจเลือด บนมือของหลินชิงเสว่ยังกดสำลีเอาไว้ก้อนหนึ่ง
คุณหมอเอ่ยอย่างเรียบเรื่อย “ตรวจเสร็จแล้วครับ กรุ๊ปเลือดของคุณหนูท่านนี้เป็น Rh Negative จริง ๆ เข้ากันได้กับของผู้ป่วยครับ”
หลินฉ่ายเวยกับถังเฉาถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง โจวเหม่ยหยูนกลับนั่งลงไป สายตาที่มองไปยังหลินชิงเสว่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น
เห็นเพียงหลินชิงเสว่เดินเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง บนแขนมีสายรัดสีเหลือง ๆ เส้นหนึ่งรัดอยู่ หลังจากนั้น เข็มฉีดยาเล่มหนึ่งก็แทงเข้าไปในแขนของเธอ
เวลาผ่านไปหนึ่งนาทีหนึ่งวินาที ถุงเลือดค่อย ๆ ถูกบรรจุจนเต็ม สีหน้าของหลินชิงเสว่ก็เปลี่ยนเป็นขาวซีดราวกับกระดาษ
ถังเฉารีบพุ่งเข้าไปเป็นคนแรก พูดกับคุณหมอว่า “พอแล้วครับ พวกเราไม่ถ่ายเลือดแล้วครับ”
เขามองออกว่า เลือดที่ดูดออกจากร่างกายของหลินชิงเสว่มากเพียงพอแล้ว ถ้าหากยังถ่ายเลือดต่อไป ตัวเธอเองจะต้องเลือดจางแน่
“แม่ขา!”
เห็นแม่มีท่าทางอ่อนแอ ปากน้อย ๆ ของถังเสี่ยวลี้ก็คว่ำลง ท่าทางเหมือนใกล้จะร้องไห้ออกมาแล้ว
หลินชิงเสว่กลับส่ายศีรษะ บนใบหน้าที่ขาวซีดฝืนยิ้มออกมา “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นอะไรนะคะ”
พูดจบก็พูดกับคุณหมออีกว่า “ถ่ายต่อเถอะค่ะ”
“ชิงเสว่!”
ในใจดวงตาของถังเฉาอดไม่ไหวอย่างเต็มเปี่ยม
หลินชิงเสว่ไม่ได้ตอบรับอีก เพียงแค่กัดฟันฝืนไว้แน่น
เวลาผ่านไปหนึ่งนาทีหนึ่งวินาที สีหน้าของเธอยิ่งซีดลงเรื่อย ๆ บนหน้าผากปรากฏเหงื่อเย็นเป็นเม็ด ๆ เห็นเส้นเลือดดำได้อย่างชัดเจน
“พี่หลินคะ พอแล้ว อย่าถ่ายเลือดอีกเลยนะคะ!”
หลินฉ่ายเวยเองก็พุ่งเข้ามา ทำใจไม่ได้
คนธรรมดาถ่ายเลือดไปสี่พันมิลลิแอมแปร์ ร่างกายก็จะปรากฏให้เห็นได้ชัดว่าเริ่มรู้สึกไม่สบายตัวแล้ว แต่ตอนนี้หลินชิงเสว่ได้เกินปริมาณนั้นไปไกลมากแล้ว
“ถ่ายต่อ…”
หลินชิงเสว่กัดฟันพูด
ตอนที่พูดสองคำนี้ออกมา เส้นเสียงของเธอก็สั่นไปหมดแล้ว สมองมึนเบลออย่างรุนแรง
พอเห็นฉากนี้แล้ว สายตาของโจวเหม่ยหยูนก็แข็งกระด้าง บนใบหน้ายังมีรอยยิ้มเย็นชา
“ทางที่ดีถ่ายเลือดให้ตายไปเลย!”
เธอสาปแช่งในใจ
ด้วยความรวดเร็ว เลือดสองถุงเติมจนเต็มแล้ว
“เพียงพอแล้วครับ!”
ในที่สุดคุณหมอก็พูดออกมา
หลินชิงเสว่ลุกขึ้นยืนเหมือนยกภูเขาออกจากอก สีหน้าขาวซีดหาใดเปรียบ ถังเฉารีบร้อนเข้ามาประคองทันที
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ”
หลินชิงเสว่เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้กับถังเฉา ยังไม่ได้เดินแม้แต่ก้าวเดียว ดวงตาทั้งสองก็ปิดลง สลบไป