จ้าวเย็นหรานเหมือนไม่มีความดีใจที่จะเป็นผู้นำเลย เธอมองศพของจ้าวเหล่าลิ่วด้วยสีหน้าที่เอ๋อ
ไม่นาน ดวงตาของเธอเริ่มแดงและน้ำตาเต็มดวงตาของเธอไปแล้ว
แต่เธอก็พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
ถังเฉาเห็นภาพนี้แล้วก็ได้ถอนหายใจในใจเบาๆ
คืนนี้ถึงเขาจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการกบฏของตระกูลจ้าว ตระกูลจ้าวก็ได้เผชิญกับการจัดระเบียบสถานภาพครั้งใหญ่ และตำแหน่งผู้นำก็ตกไปอยู่ที่จ้าวเย็นหราน
แต่ก็ทำให้จิตใจของจ้าวเย็นหรานมีบาดแผล
คืนนี้สิ่งที่เธอได้เผชิญหน้ามันมากพอแล้ว
เขามองไปที่จ้าวเชียนจูน: “นายมาออกคำสั่งนะ”
จ้าวเชียนจูนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หล่อ: “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณเย็นหรานจะเป็นผู้นำคนใหม่ของเรา ใครไม่ยอม ก็จะมีสภาพเดียวกับพวกเขา!”
เขาชี้ไปที่ศพที่เกลื่อนกลาดลานบ้านไปหมด และใบหน้าเต็มไปด้วยความอาฆาต
พวกผู้พิทักษ์ของจ้าวเหล่าลิ่วตกใจกลัวสุดขีด ตอนแรกพวกเขาคิดว่าถ้าติดตามจ้าวเหล่าลิ่วแล้วจะนำพาพวกเขาไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต แต่ตอนนี้จ้าวเหล่าลิ่วได้ตายไปแล้ว ยิ่งไม่ต้องลูกน้องอย่างพวกเขาเลย
แต่จ้าวเชียนจูนก็ไม่ได้จะฆ่าพวกเขา เพราะพวกเขาเป็นผู้พิทักษ์หนึ่งเดียวที่ทำหน้าที่ดูแลตระกูลจ้าวในคืนที่ไม่สงบ ถ้าฆ่าพวกเขาไปแล้ว ตระกูลจ้าวก็จะกลายเป็นตระกูลที่โดดเดี่ยว
“พวกนายจัดการศพพวกนี้ด้วย แล้วประกาศออกไปว่า ช่วงนี้ตระกูลจ้าวงดรับแขกทุกกรณี!”
“ธุรกิจของตระกูลจ้าวก็เหมือนกัน!”
ถึงความฉลาดของจ้าวเชียนจูนจะเทียบไม่ได้กับจ้าวจือชิว แต่ก็ถือว่าเป็นคนที่ฉลาดระดับหนึ่ง ไม่นานก็ได้ประกาศสองเรื่องนี้ออกไป
“ยังมีคำสั่งอีกหนึ่งคำสั่ง”
ถังเฉาพูดออกมากะทันหัน: “หลายปีที่ผ่านมาธุรกิจของตระกูลจ้าวมากมาย เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย ผมอยากให้ทุกคนในตระกูลจ้าวเลิกทำสิ่งเหล่านี้ และจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจเทาอีก”
“คนที่ไม่ปฏิบัติตาม ตายสถานเดียว!”
ถังเฉามีสีหน้าที่จริงจังน้ำเสียงที่หนักแน่นนิสัยของเขาก็เป็นแบบนี้ ถังเฉารังเกียจเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายที่ตระกูลจ้าวเคยทำเป็นอย่างมาก
เมื่อเทียบกันแล้ว ตระกูลเย่ได้เลิกทำธุรกิจสีเทาแล้วจริงๆ
ขณะเดียวกันคนทุกคนในตระกูลจ้าวเงียบกันหมด รวมไปถึงจ้าวเชียนจูนก็เหงื่อไหลเต็มหน้าผากไปหมดแล้ว
ถ้าเป็นสมาชิกของตระกูลจ้าว น้อยหรือมากก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ถ้าจะสืบจริงๆ ไม่มีใครหนีพ้นแน่นอน
ถังเฉาอยากให้ตระกูลจ้าวเลิกทำธุรกิจปลอดภัยจริงๆหรือ…..
“รับทราบครับ คุณถังเฉา!”
จ้าวเชียนจูนรีบตอบตกลงไป ไม่กล้าที่จะรีรอเลย
ถังเฉาถึงได้พยักหน้า
ขณะเดียวกันหน้าบ้านตระกูลจ้าวมีรถหลายคันมาจอด และมีคนกลุ่มใหญ่ได้รีบเดินเข้ามา
ก็คือเย่เทียนหลงแห่งตระกูลเย่
ตอนแรกจะมาสนับสนุนจ้าวเย็นหราน แต่สื่อเหลยใช้กำลังทั้งหมดที่มีขวางพวกเขาเอาไว้ ตระกูลเย่ก็ได้เผชิญกับปัญหาเล็กน้อย เลยมาสนับสนุนจ้าวเย็นหรานไม่ทัน
ไม่ง่ายเลยที่จะจัดการปัญหาเหล่านั้นจนเสร็จ เย่เทียนหลงได้รีบไปยังตระกูลจ้าวทันที
เขาไม่สบายใจเป็นมากเกี่ยวกับความปลอดภัยของจ้าวเย็นหราน
แต่เมื่อเข้าไปถึงลานบ้านของตระกูลจ้าว เขาอึ้งไปเลย
ลานบ้านเต็มไปด้วยศพ ในนั้นยังมีศพของลูกนอกสมรสของตระกูลจ้าวด้วย ที่สำคัญมีศพของจ้าวเหล่าลิ่วอยู่ด้วย
ทันใดนั้นเย่เทียนหลงตาถลนปรากฏแววตาที่ไม่น่าเชื่อ: “นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”
ขณะเดียวกันจ้าวเย็นหรานได้สติกลับมา ก็เลยเล่าความเปลี่ยนแปลงของคืนนี้ออกมาอีกรอบ ประโยคสุดท้ายก็ได้พูดว่า: “ยังดีที่ถังเฉามาช่วยฉัน ไม่งั้นฉันคงตายไปแล้ว”
เมื่อได้ฟังจบแล้ว เย่เทียนหลงก็เริ่มกลัวขึ้นมา เขาไม่รู้เลยว่าธุรกิจของตระกูลจ้าวจะลึกลับขนาดนี้
ยังไม่ต้องพูดถึงว่าจ้าวจือชิวกับตระกูลเหยียนมีความสัมพันธ์ต่อกัน เพียงแค่จ้าวเหล่าลิ่วและพ่อบ้านท่านหงสองผู้มีฝีมือก็เป็นคนที่ตระกูลเย่ไม่สามารถขัดขวางได้แล้ว
นึกถึงตอนนี้ สีหน้าของเย่เทียนหลงโค้งคำนับต่อหน้าถังเฉาอย่างเป็นทางการ: “ขอบคุณคุณถัง ที่ช่วยน้องสาวไว้!”
ถังเฉาโบกมือ: “ต่อไปตระกูลจ้าวและตระกูลเย่ก็ไม่ต้องมีปัญหากันอีกแล้ว”
“แน่นอนอยู่แล้วครับ”
เย่เทียนหลงยิ้มกว้างขึ้นมา: “เมื่อก่อนผมมีความแค้นกับจ้าวเหล่าลิ่ว แต่ตอนนี้จ้าวเหล่าลิ่วได้ตายไปแล้ว ผมกับตระกูลจ้าวก็ไม่ต้องมีความแค้นต่อกันอีกต่อไป”
เงียบไปพักหนึ่ง เขาได้หันไปหาคนของตระกูลตัวเองและพูดว่า: “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะไม่มีตระกูลเย่อีกต่อไป จะมีเพียงเย่และจ้าวสองตระกูลเท่านั้น”
เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของจ้าวเย็นหรานถึงได้ดีขึ้นนิดหน่อย
ตระกูลเย่และตระกูลจ้าวกลายเป็นบ้านเดียวกันอีกครั้ง นี่อาจจะเป็นข่าวดีหนึ่งเดียวของคืนนี้นะ
ปัญหาหลังจากนี้ของตระกูลจ้าวถังเฉาอยากให้พวกเขาเป็นคนจัดการเอง เขาอยากที่จะกลับไปก่อน
แต่พึ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็มีอ้อมกอดที่นุ่มนวลและหอมได้เข้าไปกอดแขนของถังเฉาไว้แน่น
“ถังเฉา อย่าไปนะ”
สีหน้าถังเฉาเปลี่ยนไปเล็กน้อย: “มีเรื่องอะไรอีกหรือ?”
“คืนนี้อยู่เป็นเพื่อนฉันได้มั้ย?”
ดวงตาของจ้าวเย็นหรานเริ่มแดงขึ้นและมองถังเฉาด้วยความคาดหวังและความกระหาย
ถังเฉาถอนหายใจในใจเบาๆ เธอเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง คืนนี้เธอเผชิญกับการหลอกลวงและหลอกใช้ของพ่อ ยังเห็นพ่อของเธอเองตายต่อหน้า จิตใจเธอไม่ได้พังทลายถือว่าเธอเป็นคนที่จิตใจแข็งแกร่งมากแล้ว
“ขอโทษนะครับ ผมต้องกลับไปแล้ว ภรรยาผมรออยู่”
เมื่อพูดจบถังเฉาสะบัดมือของจ้าวเย็นหรานและหันหลังเดินออกไป
“ถังเฉา นายจะไม่ชอบอยู่กับฉันขนาดนั้นเลยหรือ?”
จ้าวเย็นหรานไม่ยอมไม่อยากให้เขาไปและวิ่งไปขวางหน้าถังเฉาไว้
ตาดอกท้อคู่นั้นไม่มีความสวยหยาดเยิ้มอีกต่อไป เหลือเพียงความเสียใจและความเงียบ
ถังเฉาอึ้งไปและยิ้มอย่างลำบากใจ
เขาเองก็แค่อยากไปดูแลภรรยาที่ไม่สบายนอนอยู่บนเตียงก็เท่านั้น เธอคิดไปถึงไหนกัน?
“ผมไม่ได้เกลียดคุณ ผมยินดีที่จะเป็นเพื่อนกับคุณ แต่ตอนนี้ภรรยาผมพึ่งรับบริจาคเลือดเสร็จกำลังสลบอยู่ ผมต้องไปดูแลภรรยาผม!”
ถังเฉามีสีหน้าที่จริงจัง
เมื่อได้ยินคำพูดของถังเฉา จ้าวเย็นหรานหัวเราะออกมา: “จริงหรือ?”
“จริงครับ”
ถังเฉาพูดอย่างหมดหนทางว่า: “ผมรู้ว่าเรื่องนี้กระทบเธอไม่น้อย แต่ก็ยังมีคนแคร์เธออยู่ไม่ใช่หรือ?”
จ้าวเย็นหรานเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ และมองไปที่เย่เทียนหลงที่กำลังยิ้มมาให้เธอ
ทันใดนั้นเธอก็รู้ว่าคำขอร้องของเธอเองมันเกินไป เธอก็พูดอย่างเศร้าซึมว่า: “งั้นก็ได้”
ถังเฉายิ้มออกมา: “ตอนนี้เธอเป็นผู้นำตระกูลจ้าว แล้วนะ แถมยังเป็นผู้นำผู้หญิงคนแรกอีกด้วย เธอต้องแสดงฝีมือออกมาเยอะๆ นะ”
“อืม!”
จ้าวเย็นหรานได้รับกำลังใจ อารมณ์ของเธอก็ดีขึ้นมาไม่น้อย
ถังเฉาเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เสียงของจ้าวเย็นหรานก็ลอยมาจากด้านหลังอีกครั้ง
“ถังเฉา ฉันจะไม่มีวันทำให้นายผิดหวัง!”
ถังเฉายิ้มออกมาอ่อนๆ และโบกมืออย่าง สง่างาม
ไม่ไกลจากตระกูลจ้าวมีรถเก๋งสีดำจอดอยู่
คนที่อยู่ในรถเห็นภาพเหล่านี้แล้ว ก็ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครสักคน
“คุณชาย ครั้งนี้ตระกูลจ้าวพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงในทุกด้าน”
“อืม”
เสียงผู้ชายในสายหัวเราะอย่างเย็นชา เหมือนไม่สนใจกับผลที่ออกมา: “ฝั่งนี้ถึงจะพ่ายแพ้แต่อีกฝั่งกลับสำเร็จ”
“ต่อไปก็รอเพียงแค่ไม้ตายของคุณซ่งแล้ว”
…….
“คุณพ่อ!”
เมื่อถังเฉาไปถึงที่โรงพยาบาล ถังเสี่ยวลี้ก็รีบวิ่งเข้ามาหาและกอดขากางเกงเขาไว้
เจ้าเด็กคนนี้เหมือนมีเรื่องอะไรที่น้อยใจ สีหน้าดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย
“เสี่ยวลี้ไม่ดื้อนะ มาให้พ่อหอมหน่อย!”
ถังเฉารีบอุ้มถังเสี่ยวลี้ขึ้นมาแล้วหอมไปที่แก้มเธอ ถึงได้มองไปหาหลินฉ่ายเวย: “ไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย?”
“ไม่มีไม่มี……”
หลินฉ่ายเวยโบกมือ เธอลังเลอยู่สักพักแต่สุดท้ายก็ไม่ได้จะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ให้ถังเฉาฟัง
และความรู้สึกผิดในใจของเธอเพิ่มมากยิ่งขึ้น
“งั้นก็ดีแล้ว”
ถังเฉายิ้มและเดินตรงไปข้างเตียงของหลินชิงเสว่ แล้วจับมือของเธอไว้แน่น
ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เสียใจ
“ชิงเสว่ เธอต้องรับฟื้นขึ้นมานะ…….”
“รองหัวหน้า”
ขณะเดียวกัน เฟิ่งหวงได้เดินเข้ามามีสีหน้าที่จริงจัง
“ที่นั่นมีข่าวคราวแล้ว พรุ่งปลอดภัยจะมาถึงที่เมืองหมิงจู!”