ถังเฉากับหลินฉ่ายเวยตั้งใจจะเข้าไปห้องวีไอพีแล้ว ได้ยินประโยคนี้เข้าก็เดินออกมา
“นายว่าใครเป็นผู้หญิงสองคนใช้สามีร่วมกันนะ?”
หลินฉ่ายเวยเดือดดาลไปทั้งหน้า จ้องเห้อหยางเขม็ง
ฟางหย่าก็ยิ่งโมโหจนสั่นไปทั้งตัว “เห้อหยาง ถ้านายยังพูดจนเหลวไหลต่ออีกฉันจะฟ้องหมิ่นประมาทกับนาย!”
ถึงแม้ว่าถังเฉาจะไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาที่เย็นยะเยือกก็บ่งบอกทุกอย่างแล้ว
ประโยคเดียวของเห้อหยางนี้ล่วงเกินทั้งสามคนโดยตรง
ก่อนอื่นยังไม่ต้องพูดถึงที่ถังเฉาแต่งงานแล้ว ลำพังเพียงแค่ฟางหย่ากับหลินฉ่ายเวยสาวบริสุทธิ์ที่ทั้งตัวเองและครอบครัวสะอาดสุจริตก็ยอมรับความอับอายเช่นนี้ไม่ได้
แต่ว่าเห้อหยางกลับไม่มีสำนึกประเภทนี้ มุมปากยกขึ้น มองเธอด้วยใบหน้าเยาะหยัน
“หรือว่าฉันพูดผิดเสียล่ะ? ร้านอาหารเยว่หูหยวนนี้เป็นร้านอาหารเฉพาะของคู่รัก พวกคุณกลับเดินเข้าไปด้วยกันสามคน นี่ไม่ใช่ผู้หญิงสองคนใช้สามีคนเดียวกันแล้วจะเป็นอะไร?”
พอคำนี้พูดออกมา สีหน้าของฟางหย่ากับหลินฉ่ายเวยก็เปลี่ยนไปกะทันหัน
ถังเฉาเงยหน้ามองข้างในแวบหนึ่ง ด้านในห้องวีไอพีล้วนแต่เป็นสีชมพูสลัว แม้แต่ชื่อของรายการอาหารก็ล้วนแต่เป็นชื่อที่ทำให้คนจินตนาการไปไกลประเภท ‘เป็ดแมนดารินเล่นน้ำ’
ไม่ต้องสงสัยเลยสักนิด นี่เป็นร้านอาหารคู่รักที่ให้บริการเฉพาะทางคู่รักโดยเฉพาะร้านหนึ่ง
แปร๊ด… ใบหน้าของฟางหย่าแดงขึ้นในทันที มองถังเฉาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอึดอัดขัดเขิน “ขอโทษค่ะ ตอนที่ฉันเลือกไม่ได้ระวังว่าร้านนี้เป็นร้านอาหารคู่รัก…”
ถังเฉาส่ายศีรษะ แต่ไม่ได้ใส่ใจ
ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ สังเกตุเห็นว่าเห้อหยางจ้องมองฟางหย่ามาโดยตลอด ฉับพลันก็โมโหขึ้นมา หยิกเห้อหยางอยากโหดร้ายทันที
“นี่คือนางฟ้าที่คุณบอกว่าชอบมาสามปีสมัยเป็นนักเรียน? เฮอะ ฉันว่าก็แค่ผู้หญิงแพศยาที่จ่ายสองร้อยหยวนก็ขึ้นเวทีได้มากกว่า!”
เห้อหยางรีบเก็บสายตากลับไป เอ่ยอย่างหยอกล้อว่า “ตอนนั้นผมตาบอดถึงได้ไปชอบเธอ แต่ตอนนี้ทั้งตาทั้งใจผมมีแต่คุณนะหูเยว่เยว่”
ที่แท้ผู้หญิงคนนี้ก็ชื่อว่าหูเยว่เยว่ ถังเฉามองเธออีกหลายครั้ง พบว่าเธอคล้ายกับหูเข่อเฟิงอยู่นิดหน่อย
ไม่แปลกใจ เป็นคนของตระกูลหู
มองพวกเขาสามีภรรยาล้วนแต่ใส่ร้ายเธออย่างเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ฟางหย่าก็รู้สึกว่าก้นบึ้งในหัวใจของเธอเดือดดาลจนถึงขีดสุด
สีหน้าของหลินฉ่ายเวยไม่น่ามอง ถูกคนว่าว่าเป็นหญิงสองคนใช้สามีร่วมกันอย่างไรเหตุผล ถ้ามีสีหน้าที่ดีสิถึงจะแปลก
“พวกเราเปลี่ยนร้านทานข้าวกันเถอะ”
ฟางหย่าพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอับอายและความเคียดแค้นจะจากไป เห้อหยางกลับเดินขึ้นหน้ามาหนึ่งก้าว ขวางทางไปของฟางหย่า
“อย่าเพิ่งไปสิ กล้าทำไม่กล้ารับเหรอ?”
“หญิงสองคนใช้สามีร่วมกันก็ใช้สามีร่วมกันไปสิ ไม่มีใครมองเธอไม่ดีเสียหน่อย แต่ว่า… พี่คนนี้นี่เก่งดีนะ นึกไม่ถึงว่าจะทำให้ผู้หญิงสองคนอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขได้ ผมเห้อหยางล่ะนับถือจริง ๆ ฮ่า ๆ ๆ…”
เห้อหยางหัวเราะเหอะ ๆ แล้วมองไปยังถังเฉา บนใบหน้าเต็มไปด้วยความเหน็บแนม
ตอนนี้กระแสคนหลั่งไหลที่ข้างถนนเยอะสุดขีด ยิ่งรวมไปถึงเห้อหยางที่จงใจจะหัวเราะเสียงดัง ยิ่งดึงดูดให้คนที่อยู่ในร้านและด้านนอกร้านมากมายมาสนใจ
สายตาของพวกเขามองพวกถังเฉาสามคนด้วยสายตาแปลกประหลาด ทั้งยังชี้ไม้ชี้มือมาที่ฟางหย่ากับหลินฉ่ายเวย
“ผู้หญิงสองคนนั้นเด็กขนาดนี้ ทั้งยังสวยขนาดนั้น ทำไมถึงได้ทำเรื่องแบบนี้ได้นะ?”
“ฮ่า… ไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นความรักนะ พวกเราจะไปดูถูกคนอื่นไม่ได้นะ”
……
รอบด้านล้วนเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์
ในที่สุดฟางหย่าก็ไม่สามารถที่จะอดทนได้
“เห้อหยาง ตกลงนายจะเอายังไงกันแน่ ฉันแค่มาผิดร้าน ทำไมจะต้องใส่ร้ายฉันขนาดนี้?”
เผชิญหน้ากับการซักถามของฟางหย่า เห้อหยางยิ้ม “ก็ไม่ยังไง แค่รู้สึกเหมือนเป็นพระเจ้า เคยเป็นนางฟ้าของโรงเรียน นึกไม่ถึงว่าหลังจากออกไปสู่สังคมจะทำเรื่องเลวทรามต่ำช้าแบบนี้ได้”
“ฉันไม่ได้เป็นนางฟ้าของโรงเรียนอะไรนั่น ถ้านายโกรธแค้นฉันอยู่ในใจเพราะเรื่องตอนนั้นที่ฉันปฏิเสธนายหลายครั้งละก็ ฉันต้องขอโทษนายด้วย นายพอใจหรือยังล่ะ?”
ฟางหย่าแทบจะเดือดดาลขึ้นมา
เห้อหยางตะลึงน้อย ๆ แต่พอตั้งสติขึ้นมาได้รอยยิ้มเยือกเย็นบนใบหน้าก็ล้ำลึกยิ่งขึ้น
มองดูนางฟ้าที่ตอนนั้นตัวเองมุ่งมั่นทุ่มเทตามจีบมาหลายปีถูกทำให้อับอายอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาเช่นนี้ ในใจของเขาก็รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
ถังเฉาก็เข้าใจแล้วว่าระหว่างพวกเขามีอดีตอย่างไร ตอนนี้สายตาจึงเยือกเย็นยิ่งขึ้น
ผู้ชายคนหนึ่งที่มีความตั้งใจที่จะแล้งน้ำใจเช่นนี้ ทั้งยังใส่ร้ายป้ายสีผู้หญิงอย่างไม่มีขีดจำกัด ทำให้เขารู้สึกรังเกียจ
“ไปกันเถอะครับ”
ครั้งนี้เขาเอ่ยปากด้วยตัวเอง ตั้งใจจะพาฟางหย่ากับหลินฉ่ายเวยไปจากที่นี่
“ขอโทษด้วยนะคะ ร้านนี้ไม่รับคืนห้องค่ะ”
ในตอนนี้เอง ผู้หญิงที่มีท่าทางเหมือนเห็นผู้จัดการร้านเดินมา บนใบหน้าก็มีสีหน้าเยาะหยันเช่นเดียวกัน
“อะไรนะ? คืนไม่ได้?”
สีหน้าของฟางหย่าเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก หรือว่าจะต้องกินที่นี่ให้ได้หรืออย่างไรกัน?
เห้อหยางมองไปยังผู้จัดการสาว “ผมพาภรรยาของผมมาที่นี่ จัดห้องวีไอพีให้ผมห้องหนึ่งครับ”
เห็นได้ชัดว่าผู้จัดการสาวรู้จักเห้อหยางและหูเยว่เยว่ ค้อมกายอย่างรู้สึกผิดที่บกพร่องในหน้าที่
“ขอโทษจริง ๆ นะคะ คุณเห้อ คุณหู ห้องวีไอพีเต็มแล้วค่ะ ห้องวีไอพีห้องสุดท้ายถูกคุณฟางท่านนี้จองไว้แล้วค่ะ”
“อะไรนะ?”
เห้อหยางกำลังจะโมโห ผู้จัดการสาวก็เอ่ยขึ้นทันทีว่า “แต่ว่าไม่เป็นไรค่ะ ห้องเหมาของคุณฟางฉันจะเพิ่มเก้าอี้ให้อีกสองตัวค่ะ!”
ได้ยินอย่างนั้นเห้อหยางก็ตะลึงงัน
แต่พอคิดว่าจะได้ทำให้ฟางหย่าอับอายขายหน้าได้อีกพักหนึ่ง เขาก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ เช่นนั้นพวกเราก็ลำบากพวกคุณแล้ว ขอร่วมห้องกับคุณฟางท่านนี้ด้วยนะครับ”
“คุณฟาง คุณไม่มีปัญหาใช่ไหมคะ?”
ผู้จัดการสาวมองไปยังฟางหย่า
ฟางหย่าปฏิเสธตรงนั้นทันที “ไม่ได้!”
ร่วมห้องวีไอพีเป็นเรื่องเล็ก เธอไม่อยากจะมองเห็นคนถ่อยอย่างเห้อหยางอีก
ผู้จัดการสาวกลับหันหลังกลับไป ไม่ฟังความคิดเห็นของฟางหย่าเลยสักนิด
“นี่ ทำไมเธอมีท่าทีอย่างนั้นล่ะ?”
ตอนที่หลินฉ่ายเวยกำลังจะไปโต้เถียงนั้นเอง ถังเฉาส่ายศีรษะ “ช่างเถอะ เถียงไปก็ไม่ชนะ”
เป็นเช่นนี้ ทั้งห้าคนจึงเข้าไปในห้องเหมาด้วยกัน
ความเร็วที่บริกรนำอาหารมาเสิร์ฟรวดเร็วเป็นอย่างมาก ทั้งยังมอบแพ็กเกจไวน์แดงโด่งดังล่ำค่ามาอีกหนึ่งขวด
แต่ว่ากลับไม่มีใครขยับตะเกียบ
ถังเฉาสามคนเล่นโทรศัพท์ เห้อหยางกับหูเยว่เยว่กลับแสดงความรักกันต่อหน้าพวกเขา
“ที่รักขา ต้องโทษคุณเลย วันนี้มาช้าเกินไป ห้องวีไอพีห้องสุดท้ายก็ถูกพวกเขาชิงไปแล้ว ทำให้ฉันต้องมาร่วมห้องกับพวกเขา”
“ไม่เป็นไรนะ พรุ่งนี้พวกเรามาเร็วกว่านี้หน่อย”
“หวังจริง ๆ ว่าต่อไปจะไม่ต้องมาพบเจอคนหน้าไม่อายพวกนี้อีกนะ กระทบต่ออารมณ์อยากอาหาร ถ้าหากไม่ใช่เพราะพวกเรา พวกเขาจะสามารถดื่มไวน์แดงที่ล้ำเลิศราคาแพงขนาดนี้ได้เหรอ?”
หูเยว่เยว่พูดด้วยความปิดบังความหมายในใจ ทันใดนั้นก็มองกระเป๋าของเฟิงหย่า หมื่นเดียวก็ไม่ถึง
ทันใดนั้นความหยิ่งยโสในดวงตาก็ล้ำลึกยิ่งขึ้น
เห้อหยางนึกอะไรขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน เอ่ยถามว่า “เยว่เยว่ครับ คุณรู้จักลี่จิงกรุ๊ป กิจการอันดับหนึ่งของเมืองหมิงจูนั่นไหมครับ?”
“รู้สิคะ ทำไมหรือคะ?”
ด้วยฐานะของหูเยว่เยว่ในตระกูลหู ไม่ได้รู้ความสัมพันธ์ของถังเฉากับหลินชิงเสว่
“ได้ยินมาว่าลี่จิงกรุ๊ปจะมาก่อตั้งสาขาย่อยที่เมืองเจียงเฉิงของพวกเราแล้ว พอถึงตอนนั้นจะต้องมีการจัดทรัพยากรให้โอนเอียงไปทิศทางนั้นแน่ ได้ยินมาว่าผู้อำนวยการสาขาย่อยของลี่จิงมาถึงเมืองเจียงเฉิงในวันนี้แล้ว ถ้าพวกเราสามารถเอาสัญญาความร่วมมือกับพวกเขามาได้ จะต้องได้เลื่อนขั้นเป็นตำแหน่งระดับสูงของจวี้เฟิงกรุ๊ปแน่ ได้เข้าถึงใจกลางการบริหารอย่างแท้จริง!”
สีหน้าของเห้อหยางเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นทันที
สีหน้าของถังเฉาเปลี่ยนเป็นประหลาด นึกไม่ถึงว่าพวกเขาสองคนจะเป็นพนักงานของจวี้เฟิงกรุ๊ป
แต่ว่าเขาได้สั่งให้หูเข่อเฟิงปลดสมาชิกตระกูลหูที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในกรุ๊ปออกแล้วนี่นา ทำไมถึงยังมีผู้กระทำผิดกฎหมายหนีรอดไปได้อีก?
หูเยว่เยว่ตะลึงไปพักหนึ่ง จากนั้นก็มองไปที่พวกของถังเฉาสามคนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเบิกบาน “พวกคุณมาจากเมืองหมิงจู รู้ไหมว่าผู้อำนวยการสาขาย่อยของลี่จิงกรุ๊ปเป็นใคร?”
เห้อหยางโบกไม้โบกมือ “คุณจะถามพวกเขาไปทำไมครับ แค่ดูก็รู้ว่าพวกเขาสามคนเป็นพวกคนจนทำงานรับจ้าง จะมารู้ได้อย่างไร?”
“ก็จริง”
สีหน้าของหูเยว่เยว่เปลี่ยนเป็นหยิ่งยโสทันที
เห้อหยางยิ้มอย่างลึกลับทันที “ผมได้ยินมาว่าผู้อำนวยการสาขาลี่จิงกรุ๊ปเมืองเจียงเฉิงแซ่ถัง”
“จริงหรือคะ?”
บนใบหน้าของหูเยว่เยว่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น “รีบพูดมาค่ะ เขาชื่ออะไรคะ?”
เห้อหยางส่ายศีรษะ “ชื่อแซ่อย่างละเอียดผมก็ไม่รู้หรอกครับ นี่เป็นความลับที่ผู้นำระดับสูงของจวี้เฟิงกรุ๊ปถึงจะรู้”
“ตอนกินข้าวจะยกเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม พวกเขาก็ฟังไม่รู้เรื่อง”
เห้อหยางมองไปทางพวกของถังเฉาสามคน “พวกคุณ ตอนนี้ไปทำงานใหม่ที่ไหนล่ะ?”
ฟางหย่าพูดขึ้นด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “ฉันก็คือรองประธานของลี่จิงกรุ๊ป”