ในขณะเดียวกัน ที่ตระกูลหู
รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ สีดำคันหนึ่งค่อย ๆ จอดลง หูจิ้งซูอุ้มถังเสี่ยวลี้ลงจากรถ
เด็กน้อยมองไปรอบ ๆ มองดูสิ่งปลูกสร้างที่แปลกตา เธอถามด้วยความไร้เดียงสาไปว่า: “พี่สาวหูที่นี่คือที่ไหน?”
หูจิ้งซูยิ้มแล้วพูดว่า: “ที่นี่เป็นบ้านเดิมของพี่ วันนี้เป็นงานวันเกิดของคุณปู่ของพี่ เธอล่ะ รอคุณพ่อของเธอมารับอยู่ที่นี่ ดีไหม?”
“ดี……”
ถังเสี่ยวลี้ตอบด้วยเสียงเล็ก ๆ
เด็กน้อยยังคงกลัวคนแปลกหน้าอยู่บ้าง บางทีรอให้เธอโตอีกสักหน่อย ก็จะดีขึ้น
เวลานี้ยังเช้าอยู่ ตระกูลหูยังไม่มีใครมาถึง หูจิ้งซูพาถังเสี่ยวลี้เข้าไปในห้อง ๆ หนึ่ง
ถังเสี่ยวลี้เฉลียวฉลาด มาถึงในบ้านของผู้อื่น ไม่วิ่งเล่นซุกซนเหมือนอยู่ที่บ้านของตัวเอง หลบไปนั่งอ่านนิทานที่มุมหนึ่งของห้อง
หูจิ้งซูก็นั่งดูอยู่ข้าง ๆ
ไม่รู้เพราะอะไร จู่ ๆ หูจิ้งซูชื่นชอบถังเสี่ยวลี้ขึ้นมาอย่างมาก
ถังเสี่ยวลี้มีหน้าตาที่สวยงามเหมือนกับหลินชิงเสว่ อ่อนน้อมมาก มองออก อีกหน่อยถังเสี่ยวลี้โตขึ้นจะต้องสวยงามโดดเด่นมากขนาดไหน
แต่สิ่งทำให้หูจิ้งซูหลงรักไม่ใช่สิ่งนี้ แต่เด็กคนนี้เป็นคนมีน้ำใจเข้าอกเข้าใจผู้อื่นมาก
ความประพฤติที่น่ารัก ทำให้หูจิ้งซูมีความเป็นแม่มากขึ้น
เธอเกิดความคิดขึ้นในทันที ตนเองอายุก็ไม่น้อยแล้ว
ถึงเวลา ที่ควรจะพูดถึงความรักที่เรียบง่าย โดยไม่จำเป็นต้องโลดโผน จากนั้นก็มีลูกน้อยตัวอ้วนน่ารักสักคนหนึ่ง
หูจิ้งซูมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก โดยไม่รู้สึกตัว
เธอถอดแว่นตา เดินมานั่งข้าง ๆ ถังเสี่ยวลี้
“กำลังดูอะไรอยู่เหรอ?”
เธอยิ้มถาม
“นิทานของแอนเดอร์เซน!”
ถังเสี่ยวลี้ชี้ไปที่หน้าปกแล้วพูดตอบ
“พี่อ่านให้เธอฟังดีไหม?”
หูจิ้งซูถามอย่างจริงจัง
เด็กอายุห้าหกขวบ สามารถแยกวิเคราะห์ถูกผิดได้แล้ว
เธออยากรู้ว่า ในสายตาของถังเสี่ยวลี้ ตัวเองดีหรือไม่ดี
ถังเสี่ยวลี้เงยหน้ามองไปที่เธอ จู่ ๆก้หรี่ตาแย้มยิ้มพูดว่า: “ได้”
และยื่นหนังสือนิทานให้กับหูจิ้งซู
หูจิ้งซูดีใจมาก เล่านิทานออกมาเรื่องแล้วเรื่องเล่า
ไม่นาน ถังเสี่ยวลี้ขยี้ตา รู้สึกง่วง
“ทำไมคุณพ่อยังไม่มารับอีกล่ะ?”
เธอมองไปที่นอกหน้าต่างแล้วพูด
“อย่ากังวลเลย อีกเดี๋ยวคุณพ่อก็จะมารับเธอกลับบ้านแล้ว”
หูจิ้งซูมองดูถังเสี่ยวลี้ด้วยแววตาออดอ้อน
แต่ส่วนลึกของดวงตานั้น กลับมีความวิตกกังวลอยู่ลึก ๆ
แม้เธอและถังเฉาจะมีความสัมพันธ์ เป็นศัตรูกัน แต่เมื่อยืนอยู่บนจุดยืนของตัวเอง เธอก็ไม่อยากให้ถังเฉาเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“จะต้องกลับมาให้ได้……”
เธออธิษฐานอยู่ภายในใจ
ถังเสี่ยวลี้โบกมือแล้วพูดว่า: “ไม่อยากฟังนิทานแล้ว ทุกครั้งก่อนนอนคุณพ่อจะไม่เล่านิทานให้ฟัง”
หูจิ้งซูถามด้วยความประหลาดใจ: “อย่างนั้นปกติคุณพ่อของเธอเล่าอะไรให้เธอฟังล่ะ?”
“เล่าเรื่องราวของคุณพ่อ!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ถังเสี่ยวลี้ยิ้มอย่างสุขใจ: “คุณพ่อมีเรื่องราวมากมาย คุณพ่อเป็นฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่!”
ทันทีที่พูด ในใจของหูจิ้งซูรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอดไม่ได้ที่จะถาม: “งั้นเสี่ยวลี้ยังจำได้มั้ย?คุณพ่อของเธอ มีเรื่องราวอะไรบ้าง?”
ถังเสี่ยวลี้เอียงศีรษะคิดดู แล้วพูดว่า: “บางส่วนก็ลืมไปแล้ว บางส่วนก็จำได้”
“งั้นก็เล่าในส่วนที่เธอจำได้แล้วกัน”
จู่ ๆ หัวใจของหูจิ้งซูก็เต้นแรงขึ้นมา
“ได้ ได้”
ถังเสี่ยวลี้พูดขึ้นมาทันที: “เมื่อห้าปีก่อนคุณพ่อเป็นทหาร ในสนามรบฆ่าศัตรูไปเป็นจำนวนมาก……”
เด็กน้อยพูดด้วยความตื่นเต้น ความง่วงก่อนหน้าพลันมลายหายไป
หูจิ้งซูฟังอย่างตั้งใจ
ฟังไปฟังมา ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ในใจรู้สึกถึงคลื่นอันน่าสะพรึงกลัว
ตอนที่ยังเรียนอยู่ต่างประเทศ เธอเคยได้ยินเรื่องราวของคน ๆ นี้
คำแล้วคำเล่าที่ปรากฏขึ้นอยู่ในใจ
ห้าปีที่เป็นทหาร ชนะสงครามนับไม่ถ้วน
เทพสงครามที่ปกป้องประเทศที่อายุน้อยที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งประเทศมา
เขาอยู่เหนือผู้คนนับหมื่น
มีสมญานามว่า เจ้ามังกร
“เจ้ามังกรก็คือถังเฉา?!”
หูจิ้งซู ดวงตากลมโตเบิกกว้าง
เรื่องราวที่ถังเสี่ยวลี้เล่านั้น แม้จะคลาดเคลื่อนไปบ้าง แต่การกระทำนั้นเหมือนกับเจ้ามังกรแห่งชายแดนทางเหนือไม่ผิดเพี้ยน
จากนั้น คำพูดต่อไปของถังเสี่ยวลี้ ก็ขจัดการคาดเดาของหูจิ้งซูไปอย่างสิ้นเชิง
“แต่ว่าเรื่องราวพวกนี้ที่คุณพ่อเล่าให้ฟัง หนูเคยเห็นในสารคดีตอนที่อยู่ที่โรงเรียน”
แรงกดดันที่ตัวของหูจิ้งซูมลายหายไป นึกหัวเราะเยาะตัวเอง
เรื่องราวเหล่านี้ของถังเฉา จะต้องมาจากสารคดีเจ้ามังกรที่ดูมาแน่ ๆ
ส่วนเรื่องราวของพ่อที่ถังเสี่ยวลี้เล่านั้น จะต้องเป็นถังเฉาใช้กล่อมลูกสาวเข้านอนแน่ ๆ จงใจแสดงให้ตนเองเป็นเจ้ามังกร
อย่างไรก็ตามพ่อทุกคนก็หวังจะให้ตัวเองมีภาพลักษณ์ที่ดีในใจของลูกสาว
ปัง!
ในตอนนั้นเอง ประตูห้องก็เปิดออก
หูจิ้งจู๋ในชุดสูทผูกเนกไทเดินเข้ามา กำลังจะถามอะไรบางอย่าง จู่ ๆ มองเห็นถังเสี่ยวลี้ที่อยู่ในอ้อมกอดของหูจิ้งซู ดวงตาเบิกกว้างขึ้นมาในทันใด
“น้องสาว เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?”
หูจิ้งซูยิ้มแล้วตอบว่า: “เธอเป็นลูกสาวของรุ่นพี่ ฉันพบเข้าพอดี ก็เลยพากลับมา อีกสักครู่คุณพ่อของเธอก็จะมารับ”
“อ๋อ เป็นลูกสาวของรุ่นพี่ของเธอ……”
หูจิ้งจู๋โล่งใจ ขณะที่จะเอ่ยปากพูดนั้น จู่ ๆ ก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง
ครู่หนึ่ง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป มองหูจิ้งซูโดยไม่เชื่อในสายตา: “ลูกสาวของรุ่นพี่เธอ เป็นหลินชิงเสว่ไม่ใช่เหรอ?”
หูจิ้งจู๋มองดูถังเสี่ยวลี้: “เธอเป็นลูกสาวของถังเฉากับหลินชิงเสว่ใช่ไหม?”
หูจิ้งซูพยักหน้า: “ใช่แล้ว ทำไมเหรอ?”
โครม!
ขณะที่หูจิ้งซูพยักหน้านั้น ในสมองของหูจิ้งจู๋มีเสียงระเบิดก้อง รู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นลม
เขารีบล๊อคประตูอย่างรวดเร็ว แล้วดึงผ้าม่านลง
จากนั้น ก็ดึงตัวหูจิ้งซูออกมาจากถังเสี่ยวลี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจกลัว
“น้องสาว เธอบ้าไปแล้ว?พาลูกสาวของพวกเขามาที่ตระกูลหูได้ยังไง?”
หูจิ้งซูขมวดคิ้วแล้วพูดว่า: “เธอก็รออยู่ที่นี่สักพัก รอให้ถังเฉามารับ ก็เรียบร้อยแล้ว”
หูจิ้งจู๋อยากจะบีบคอให้หูจิ้งซูตายไปเสียตรงนี้
“น้องสาว เธอเป็นคนฉลาดมาตลอด ทำไมตอนนี้ถึงเลอะเลือนได้ล่ะ?ครู่เดียวก็ไม่ได้ ถังเฉาคนนั้นกับตระกูลหูของพวกเราเป็นศัตรูที่มีความแค้นต่อกัน เธอยังเอาลูกสาวเขามาที่นี่ หากคุณปู่รู้เข้า เด็กน้อยคนนี้ต้องไม่รอดแน่ ๆ!”
“ตอนนี้พวกเราเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ในตระกูลคนที่ไม่พอใจเธอมีมาก แต่ละคนต่างจับจ้องเธอ รอให้เธอพลาดอยู่นะ?เธอกลับทำพลาดเสียเอง”
“ตอนนี้งานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่กำลังจะเริ่มแล้ว ลูกสาวของพวกเขาเธอคิดจะทำยังไง?”
หูจิ้งซูเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดตอบว่า: “ฉันก็ให้อยู่ที่นี่ คงไม่มีเรื่องอะไรหรอก”
แม้ถังเสี่ยวลี้จะฟังไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาพูด แต่ก็รู้ว่าตัวเองอยู่ที่นี่จะนำความเดือดร้อนมาให้ หูจิ้งซู
เด็กน้อยรีบพูดว่า: “พี่สาวหูไม่เป็นไร หนูอยู่ที่นี่คนเดียวได้ ไม่ส่งเสียงดัง พี่ไปเถอะ”
หูจิ้งซูมองหูจิ้งจู๋: “คุณดูซิ เธอน่ารักขนาดไหน”
เสียงบ่น…..
เพิ่งพูดจบ เสียงท้องร้องหิวของถังเสี่ยวลี้ดังขึ้นเบา ๆ
ถังเสี่ยวลี้รีบเอามือปิดท้องเอาไว้ หูจิ้งซู มองไปด้วยความน่าสงสาร
ดูสถานการณ์แล้ว หูจิ้งซูทำได้เพียงอุ้มเธอขึ้นมา: “ไปงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ด้วยกันเถอะ เพียงแค่คุณไม่พูด ฉันไม่พูด ก็ไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของถังเฉา”
“ตกลง”
หูจิ้งจู๋ทำได้เพียงพยักหน้า แต่มองไปที่หูจิ้งซูที่เดินจากไป แววตาหูจิ้งจู๋เผยให้เห็นถึงความเย็นชาเล็กน้อย