“อะไรนะ? อุโมงค์ใต้ดิน?”
พอได้ยินคำนี้สีหน้าของถังเฉาก็เปลี่ยนไปอย่างล้ำลึก
บนใบหน้าของหูจิ้งซูเขียนคำว่าละอายใจเต็มไปหมด “ขอโทษค่ะ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง เป็นฉันที่ไม่ได้ปกป้องเสี่ยวลี้ให้ดี พาเธอมาที่บ้านตระกูลหู”
ที่จริงแล้วถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าหูจิ้งซูพาเสี่ยวลี้มาที่บ้านตระกูลหูก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเด็ดขาด
แต่ว่านี่ใช้เป็นเหตุผลที่ถังเฉาตำหนิหูจิ้งซูไม่ได้
ตรงกันข้าม เขาต้องซาบซึ้งใจที่หูจิ้งซูปกป้องลูกสาวของเขา
“ขอบใจเธอที่ปกป้องเสี่ยวลี้นะ”
ถังเฉาขอบคุณออกมาจากใจ
เป็นเพราะหูจิ้งซูปกป้องถังเสี่ยวลี้ ถึงได้เดินมาอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตระกูลหู จนถูกกักบริเวณ
ในตอนนี้ผู้คุ้มกันของตระกูลลู่ ตระกูลเซี่ยและหูอีซานก็ล้วนทยอยกันกลับมาที่เดิมแล้ว เอ่ยกับถังเฉาว่า “ไม่เจออุโมงค์ใต้ดินอะไรเลยครับ”
สีหน้าของถังเฉาเปลี่ยนเป็นมืดครึ้มขึ้นมาในชั่วพริบตา หมุนตัวกลับมา มองไปที่หูเซียวกับพวกของหูจิ้งจู๋อย่างช้า ๆ
“อุโมงค์ใต้ดินอยู่ที่ไหน?”
เสียงของเขาหนาวเย็นอย่างหาที่เปรียบมิได้ อุณหภูมิทั่วทั้งบ้านใหญ่ตระกูลหูลดลงไปไม่น้อย คนจำนวนมากตัวสั่นสะท้านด้วยความตกใจ
หูเซียวไม่ได้ตอบคำถามของถังเฉา เพียงแค่มองเขานิ่ง ๆ “ถังเฉา นี่แกจะไม่เหลือทางรอดไว้ให้ตระกูลหูของฉันเลยใช่ไหม?”
“ผมแค่ต้องการจะตามหาลูกสาวของผมกลับมา!”
ถังเฉาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ น้ำเสียงเข้มขึ้นมาแปดระดับ
เปลวไฟในดวงตาของเขาก็ยิ่งลุกโชน
ทุกคนที่ถูกกวาดตามอง ไม่มีผู้ใดไม่สั่นสะท้านอย่างรุนแรง
“ตั้งแต่ก้าวแรกที่ผมเหยียบเข้ามาในตระกูลหู ผมก็แค่ต้องการที่จะตามลูกสาวผมกลับ ไม่มีความคิดอะไรต่อตระกูลหูของพวกคุณ”
“เป็นพวกคุณที่บีบบังคับผมมาโดยตลอด!”
“ทางที่ดีพวกคุณภาวนาอย่าให้ลูกสาวของผมเป็นอะไรจะดีที่สุด ถ้าขนของเธอหายไปแม้แต่เส้นเดียว ตระกูลหูของพวกคุณจะต้องตายตกไปตามกัน!”
เสียงของถังเฉาเย็นชาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ไม่มีความรู้สึกของมนุษย์อยู่แม้แต่น้อย
อย่าว่าแต่ทั้งตระกูลหูเลย แม้แต่เฟิ่งหวงที่อยู่ข้าง ๆ ก็ไม่กล้าที่จะหายใจแรง
แต่ก่อนรองหัวหน้าก็เคยมีท่าทางโกรธเช่นนี้อยู่ก็จริง และทุก ๆ ครั้งก็เกี่ยวกับญาติพี่น้องทั้งสิ้น
ญาติสนิทคือเรื่องที่ห้ามแตะต้องของรองหัวหน้า!
ฮึ่ม ๆ ๆ…
ในตอนนี้เอง ที่ประตูก็มีรถอีกขบวนหนึ่งมาเทียบ ล้วนแต่เป็นรถอเนกประสงค์
กองทัพใหญ่กองหนึ่งเร่งเข้ามา มีเจ้าหน้าที่คุ้มกันติดอาวุธ และมีอัจฉริยะด้านธุรกิจสวมชุดสูทรองเท้าหนัง
แต่ในยามปกติทุกคนล้วนเป็นเจ้าพ่อที่คิดว่าตนเองแน่ที่สุด ตอนนี้กลับมารวมตัวกัน
“คุณเซี่ยครับ! พวกเรามาสายไปแล้วครับ!”
“ผู้นำ ท่านไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”
พวกเขามาอยู่ด้านข้างของเซี่ยสิงจู๋ ล้อมตัวเซี่ยสิงจู๋ไว้เป็นชั้น ๆ ปกป้องเขาเอาไว้
นี่คือผู้คุ้มกันของตระกูลเซี่ยและประธานของบริษัทที่อยู่ภายใต้การบริหารของตระกูลเซี่ย
ในที่ไม่ไกลยังมีผู้ชายที่มีกลิ่นอายยิ่งใหญ่อยู่หลายคนกำลังจ้องเขม็งอย่างห้าวหาญอยู่ข้าง ๆ
พวกเขาคือผู้แข็งแกร่งที่ตระกูลเซี่ยดึงตัวมาได้ ทั้งหมดล้วนอยู่ในระดับขั้นเดียวกับท่านวง
ต่อให้มีความต่างกับคู่นักมีดทั้งใต้และเหนืออยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไหร่
“เป็นกำลังคนของตระกูลเซี่ย!”
ทุกคนในตระกูลหูล้วนแต่มีความสิ้นหวังเต็มใบหน้า
รวมทั้งพวกของหูจิ้งจู๋กับหูเข่อเฟิงด้วย
โดยเฉพาะรังสีสังหารที่น่าสะพรึงกลัวบนร่างของถังเฉา ทำให้พวกเขามีความรู้สึกเหมือนถูกต้อนเข้าทางตัวชนิดหนึ่ง
หูเซียวในตอนนี้มีเหงื่อเย็นหลั่งไหล ร่างกายกำลังสั่นเล็ก ๆ
การที่คู่นักมีดทั้งใต้และเหนือตายไปนั้น โดยภาพรวมก็ได้ประกาศว่าโดยรวมตระกูลหูได้เดินทางสู่ความดับสูญแล้ว
ต่อต้านต่อไปอีกก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว
สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หนึ่งเฮือกแล้วหูเซียวก็ลุกขึ้นยืนพลางเอ่ยกับถังเฉาว่า “ฉันพาแกไปได้ แต่ว่าแกจะต้องรับปากฉันว่าจะปล่อยตระกูลหูของฉันไป!”
“ถ้าหากว่าลูกสาวของผมไม่เป็นอะไรละก็นะ”
สายตาของถังเฉามืดครึ้มหนาวเหน็บ ไม่ยอมลงให้เลยสักนิด
พวกของหูเซียวมีใบหน้าราวกับศพทันที
ก่อนหน้านี้ถังเสี่ยวลี้ถูกเฉิงเพ่ยพาตัวไปแล้ว ดูจากระดับความเคียดแค้นที่เฉิงเพ่ยมีต่อถังเฉากับหลินชิงเสว่แล้ว จะต้องไม่ปฏิบัติต่อถังเสี่ยวลี้อย่างดีแน่…
ภายใต้การนำของหูเซียว ถังเฉาก้าวยาว ๆ เดินลงไปที่อุโมงค์ใต้ดิน
……
“อย่ามัวแต่ร้องซะ ร้องเซ่!”
ในอุโมงค์ใต้ดินที่มืดครึ้ม มีเสียงระเบิดด่าทออย่างเดือดดาลของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาทันที
หลังจากนั้นก็เป็นเสียงร้องไห้ที่น่าเวทนาของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
“คุณป้า อย่าตีหนู หนูไม่ร้องแล้ว…”
อย่างมากที่สุดที่นี่ก็เป็นได้แค่โรงจอดรถใต้ดิน ไม่ใช่อุโมงค์ใต้ดินจริงจังอะไร
ระหว่างทางมีรถยนต์หรูหราใหม่เอี่ยมจอดอยู่หลายคัน แต่ด้านหลังของรถยนต์คันสุดท้ายกลับเป็นห้องเล็ก ๆ ห้องหนึ่ง
ประตูของห้องเล็กเปิดแง้มไว้ แสงไฟสลัวรางส่องออกมาเบาบาง สามารถมองเห็นได้ว่าด้านในมีผู้หญิงหนึ่งคนกับเด็กหญิงอีกหนึ่งคน
ผู้หญิงคนนั้นก็คือเฉิงเพ่ย อดีตรองประธานของลี่จิงกรุ๊ป
ส่วนเด็กผู้หญิงนั้นแน่นอนว่าต้องเป็นถังเสี่ยวลี้ลูกสาวของถังเฉา
“รีบทำงานเข้า! อย่าอู้! ไม่อย่างนั้นฉันจะเฆี่ยนแกให้ตาย!”
เฉิงเพ่ยถือเข็มขัดหนังเส้นหนึ่งไว้ในมือ สะบัดอยู่ด้านข้างถังเสี่ยวลี้อย่างโหดเหี้ยม
เสียงอันดังทำให้หนูน้อยตกใจจนตัวสั่นไปพักหนึ่งในทันที ร่ำไห้อย่างงดงาม
“คุณป้าขา หนูขอร้องล่ะ อย่าตีหนูเลยนะคะ หนูทำ หนูจะทำตอนนี้เลยค่ะ”
ใบหน้าของถังเสี่ยวลี้เต็มไปด้วยน้ำตา บนท่อนแขนเห็นเป็นรอยเลือดจาง ๆ หลายเส้น ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้จะโดนตีไปหลายที
มือของเธอคว้าถังน้ำเอาไว้แน่น ด้านหน้าไม่ไกลคือบ่อเกรอะที่ทะลุเชื่อมไปถึงเส้นทางใต้ดินบ่อหนึ่ง
ระบบระบายของเสียทั้งหมดของคฤหาสน์ตระกูลหูจะมารวมตัวกันที่บ่อเกรอะนี้ จากนั้นจึงไหลเข้าท่อระบายน้ำไปด้วยกัน
หลังจากที่เฉิงเพ่ยถูกไล่ออกเธอก็กลับมาที่เมืองเจียงเฉิง อาศัยเส้นสายก่อนหน้านี้มาเป็นแม่บ้านทำความสะอาดที่ตระกูลหู
หากจะถามว่าทำไมถึงเลือกอาชีพนี้ละก็
ก็เพราะว่าที่นี่คือตระกูลหู เธอหวังว่าจะสามารถรู้จักกับคุณชายของตระกูลหู จากนั้นก็ช่วยตนเองแก้แค้นถังเฉากับหลินชิงเสว่
คิดไม่ถึงว่าลูกสาวของพวกเขาจะถูกเธอจับเอาไว้ได้ แน่นอนว่าเฉิงเพ่ยไม่ปล่อยโอกาสดี ๆ นี้ไว้แน่
แต่เธอเองก็ไม่ได้ตีถังเสี่ยวลี้ แต่ให้เจ้าหนูน้อยช่วยเธอทำงาน
ทำได้ไม่ดีก็เฆี่ยนหนึ่งที ทั้งยังไม่ให้กินข้าว
เจ้าหนูน้อยไม่ได้กินข้าวเย็น ท้องหิวจนแทบไม่ไหว มือเท้าไม่มีกำลัง
พอเท้าเธอลื่นก็ล้มลงไปอยู่บนพื้น
โครม!
ถังเหล็กที่บรรจุน้ำไว้เต็มที่เธอถืออยู่ในมือหกรดเต็มพื้น
เฉิงเพ่ยระเบิดโมโหทันที “ไอ้สัตว์ แกทำอะไร?”
เปรี๊ยะ!
เฉิงเพ่ยใช้เข็มขัดหนังฟาดลงไปบนถังน้ำเหล็กที่อยู่ด้านข้างของถังเสี่ยวลี้อย่างรุนแรง
ส่งเสียงบาดหูออกมา ทำให้เธอตกใจจนขดตัวแน่น ๆ อยู่บนพื้น
“อย่าตีหนู ขอโทษ ขอโทษค่ะ…”
“หนูหิวมากเลย หนูยกไม่ไหวแล้วจริง ๆ ค่ะ…”
“หนูจะเอาพ่อ! พ่อจ๋า พ่ออยู่ไหน…”
ถังเสี่ยวลี้ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ
เฉิงเพ่ยร้องเฮอะเสียงเย็นออกมาครั้งหนึ่ง “พ่อของแกไม่มาหรอกนะ ต่อให้มาแล้วตอนนี้ก็น่าจะถูกตระกูลหูฆ่าตายไปแล้วล่ะ!”
“ตั้งแต่นี้ไปแกก็เป็นทาสของฉันแล้ว ต่อไปงานสกปรก ๆ งานเหนื่อย ๆ แกก็ทำไป ไม่อยากทำก็โดนฟาด ฟาดแกให้ตายไปเลย!”
เฉิงเพ่ยขู่อย่างไม่กลัวต่อสิ่งใด น้ำตาในดวงตาของถังเสี่ยวลี้ก็เพิ่มมากขึ้น
เฉิงเพ่ยหยิบหมั่นโถวก้อนหนึ่งบนโต๊ะขึ้นมา จากนั้นก็โยนลงไปในบ่อเกรอะ
ทันใดนั้นหมั่นโถวสีขาวก็เปรอะเปื้อนสิ่งสกปรกที่มีกลิ่นเหม็น
เฉิงเพ่ยสั่ง “ไม่ใช่ว่าแกหิวหรอกหรือ? ไปสิ ไปเก็บหมั่นโถวนั่นมากินซะ”
กลิ่นเหม็นรมขึ้นมาจนถังเสี่ยวลี้ปิดจมูก เงยหน้าขึ้นมามองเฉิงเพ่ย
“หมั่นโถว… สกปรก…”
เพี๊ยะ!
มือของถังเสี่ยวลี้ถูกตีทันที เลือดสูบฉีดขึ้นมาทันที
“โฮ…”
ถังเสี่ยวลี้หดมือกลับราวกับถูกไฟช็อต เจ็บจนร้องโฮออกมาเสียงดัง
“ร้อง ร้องเข้าไป ถ้าหากแกไม่กินหมั่นโถวนั่นฉันจะตีแกให้ตาย!”
เฉิงเพ่ยด่ายกใหญ่
บางทีอาจจะเพราะไม่อยากถูกตีอีก ถังเสี่ยวลี้ซ่อนน้ำตาเอาไว้ ค่อย ๆ คืบคลานไปยังบ่อเกรอะ เตรียมจะหยิบหมั่นโถวเหม็นเน่าลูกนั้นขึ้นมา
พอเห็นฉากนี้แล้ว มุมปากของเฉิงเพ่ยก็ปรากฏรอยยิ้มเยียบเย็นที่น่ารังเกียจขึ้นมา
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรพอเห็นลูกสาวของหลินชิงเสว่เก็บขยะจากในบ่อเกรอะขึ้นมากิน ในใจของเธอก็เกิดความพอใจที่ไม่ปกติ
“ใครบังอาจ!”
ทันใดนั้นในที่ไม่ไกลก็มีเสียงตะคอกด้วยความเดือดดาลที่น่าเกรงขามส่งมาทันที
ราวกับอสุนีบาต เฉิงเพ่ยสั่นสะท้านไปทั้งร่าง