พรึบ!
ในตอนที่มือของหลงชื่อเทาใกล้จะสัมผัสโดนหน้าของหลินชินเสว่นั้น มือข้างหนึ่งที่แข็งแรงมากๆ ก็เข้ามาคว้ามือของเขา
จากนั้น มันก็เหมือนราวกับก้ามปูเหล็กที่ไม่ยอมเปิดโอกาสให้หลวชื่อเทาได้ขยับต่อไปข้างหน้า
“อะไรเนี่ย?!”
สีหน้าของหลงชื่อเทาเปลี่ยนไปเล็กน้อย แล้วมองถังเฉาด้วยความตกใจ
ด้วยฐานะของตระกูล ทำให้เขาเองก็พอมีหน้ามีตาในสนามรบเยี่ยนจิงอยู่บ้าง ความสามารถของตัวเองก็ไม่ได้ด้อยเลย
แต่ชายคนนี้กลับสามารถคว้ามือของตนไว้ได้อย่างรวดเร็ว และเขาก็ยังรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามาด้วย
เห็นได้ชัดว่าแรงบีบของถังเฉานั้นมีค่อนข้างมาก
“ถ้าไม่อยากตาย ก็ช่วยให้ความเคารพในตัวภรรยาผมด้วย”
ถังเฉาสีหน้าเย็นชา แล้วมองหน้าหลวชื่อเทาอย่างไม่ชอบใจไปทีหนึ่ง
“แก……” หลงชื่อเทาสีหน้าเคร่งขรึม และจ้องเขม็งมาที่หน้าของถังเฉา
ซ่งเต๋อโหย่วที่ยืนอยู่ข้างๆ ตกใจจนช็อกไปแล้ว เขาไม่คาดคิดว่าถังเฉาจะกล้าทำร้ายหลงชื่อเทาแบบนี้
“นี่ไอ้หนู แต่จบเห่แล้ว การที่แกกล้าทำร้ายคุณชายหลงแบบนี้ แกก็ได้ล่วงเกินตระกูลหลงไปแล้วแกรู้มั้ย?”
พอตั้งสติได้ ซ่งเต๋อโหย่วก็ตวาดใส่ถังเฉาทันที
“ที่รักคะ! คุณห้ามทำอะไรนะคะ เราแค่รอให้คนอื่นๆ มาถึงก็พอแล้ว!”
หลินชิงเสว่ยืนพูดอยู่ด้านหลัง ใบหน้าเย็นเฉียบ
พอได้ยินคำพูดของหลินชิงเสว่ หลงชื่อเทาก็รู้สึกตกใจ หรือว่า พวกนี้จะเป็นคนที่มีฐานะอะไรรึเปล่า?
เยี่ยนจิงแห่งนี้ ยิ่งคนที่อยู่ระดับสูง ก็จะยิ่งระวังตัวกันมากขึ้น
เพราะคุณไม่รู้ว่าคนต่อไปที่จะได้เจอ จะมีฐานะที่สูงกว่าคุณรึเปล่า
ก้าวพลาดก้าวเดียว ก้าวต่อไปก็จะพลาดหมด
ทันใดนั้น ซ่งเต๋อโหย่วก็ได้พูดออกมาว่า “คุณชายหลงไม่ต้องไปฟังมันครับ มันแค่ขู่คุณเท่านั้น ฐานะของพวกมันสามคนก็อยู่ระดับเดียวกับคุณหนูตระกูลเจียงคนนี้เท่านั้นครับ!”
พูดจบ ซ่งเต๋อโหย่วก็ชี้ไปที่เจียงไป๋เสว่
หลงชื่อเทาถึงได้โล่งอกขึ้นมา แล้วจ้องเขม็งไปที่ถังเฉา “ไอ้หนู ก่อนหน้านี้ฉันได้พูดไปแล้ว ว่าฉันถูกใจผู้หญิงสองคนนี้ของแกเข้าแล้ว ขอแค่แกยอมถอยออกมา ในเมืองเยี่ยนจิงแกก็ถือเป็นพี่น้องที่ดีที่สุดของฉัน ถือว่าทำดีกับแกมากแล้ว ยังไม่รีบปล่อยมืออีก!”
“รนหาที่ตาย!”
ถังเฉาโกรธถึงสุดขีด สายตาก็ดูเยือกเย็นลงไป
ทันทีที่พูดจบ ถังเฉาก็ออกแรงที่มือ
เสียงแกร็กดังขึ้น!
ข้อมือของหลงชื่อเทาก็หักไปทันที
“อ้า……”
หลงชื่อเทาร้องโอดครวญ สีหน้าบูดเบี้ยว
“อ้า! นี่แกกล้าหักมือของคุณชายหลงเลยเหรอ!”
ซ่งเต๋อโหย่วที่อยู่ข้างๆ ก็ตกใจไม่แพ้กัน ไม่นึกเลยว่าถังเฉาจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้
แต่หลังจากนั้น สีหน้าของเขาก็ดูโกรธเกรี้ยวขึ้นมา
ในเยี่ยนจิง ไม่เคยมีใครที่ทำร้ายคุณชายหลงแล้วยังมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุขได้
ตอนนี้ สีหน้าของถังเฉาก็เคร่งขรึมอย่างถึงที่สุด
ชั่วพริบตาที่สบตาเข้ากับถังเฉา ไม่ว่าจะเป็นซ่งเต๋อโหย่วหรือหลงชื่อเทา ในใจต่างก็รู้สึกเหมือนกำลังถูกสัตว์จ้องมองอยู่
“พวกคุณรีบไปเถอะค่ะ เมื่อก่อนสามีของฉันเคยเป็นทหารมาก่อน”
ยังไงหลินชิงเสว่ก็ไม่อยากให้เรื่องมันเลยเถิด ถ้าเลี่ยงที่จะใช้กำลังได้ก็เลือกที่จะเลี่ยงดีกว่า
ฐานะของกองทัพปราณมังกรนั้นค่อนข้างพิเศษ ต่อให้หลินชิงเสว่จะรู้ว่าถังเฉาเป็นกองทัพปราณมังกร แต่ก็พูดออกไปไม่ได้ จึงพูดได้แค่นี้
แต่ว่า พอคำพูดนี้เข้าถึงหูของหลงชื่อเทากับซ่งเต๋อโหย่วแล้ว มันก็กลายเป็นมุกตลกอย่างไม่ต้องสงสัย
“เป็นทหารอย่างนั้นเหรอ? ถึงว่าทำไมถึงได้แกร่งขนาดนี้ แต่ว่า นี่สินะต้นทุนที่พวกแกมี?”
มือข้างหนึ่งของหลงชื่อเทากำลังสั่นเทา
การกระทำของถังเฉาเมื่อกี้ ไม่ได้หักข้อมือของหลงชื่อเทาไปซะทีเดียว เขาแค่บิดข้อมือของเขาเป็นเก้าสิบองศาเท่านั้น
แต่มันก็ทำให้เขาเจ็บจนตอนนี้ยังไม่หายเจ็บเลย
ด้วยความที่เจ็บมาก ทำให้สีหน้าของหลงชื่อเทานั้นบูดเบี้ยวเป็นอย่างมาก
สีหน้าของหลินชิงเสว่ก็เปลี่ยนไป และก้าวถอยหลังอย่างอัตโนมัติ
ถังเฉาทำหน้าเย็นชา “เห็นแล้วรึยัง? ที่รัก คุณไม่อยากทำให้เรื่องมันใหญ่โต แต่พวกเขากลับไม่สนใจคุณเลย!”
หลินชิงเสว่ไม่ได้พูดอะไรต่อ
“แค่เป็นทหารก็เอามาเป็นต้นทุนได้แล้วเหรอ? งั้นฉันจะบอกอะไรพวกแกให้นะ ว่าอะไรที่เรียกว่าต้นทุน!”
หลงชื่อเทามองหน้าถังเฉาอย่างไม่ชอบใจ จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ว่า “คุณปู่ของฉัน ก็คือท่านเจ้ามังกรของต้าเซี่ย เป็นอาจารย์ของเจ้ามังกรคนปัจจุบัน แล้วแกคิดจะมาเทียบเส้นสายกับฉันอย่างนั้นเหรอ?”
พอคำนี้ถูกพูดออกมา มันก็ทำให้สีหน้าของหลินชิงเสว่เปลี่ยนไป
ทำไมตระกูลหลงถึงยังคงยืนหยัดอยู่ได้ นั่นก็เพราะท่านเจ้ามังกรนี่ไง!
“เขาคือหลานชายของท่านเจ้ามังกรเหรอเนี่ย?”
หลินชิงเสว่รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ แต่ถังเฉากับเจียงไป๋เสว่ยังคงทำหน้าเรียบเฉย เจียงไป๋เสว่ถึงขั้นยิ้มออกมาด้วยซ้ำ
“กล้าทำร้ายฉัน ฉันว่าพวกแกคงอยู่มานานเกินไปแล้ว เด็กๆ จับตัวพวกมันเอาไว้!”
หลงชื่อเทาไม่พูดอะไรให้มากความ และเรียกบอดี้การ์ดที่เขาพามา
พวกบอดี้การ์ดของตระกูลหลงนั้นต่างก็มีร่างกายที่กำยำ แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเป็นคนที่เคยผ่านสนามรบมาก่อน
แต่แววตาของถังเฉานั้นกลับเคร่งขรึมลงไป ชี้ไปที่บอดี้การ์ดพวกนั้นแล้วพูดไปว่า “พวกนี้เป็นพวกที่มาจากสนามรบอย่างนั้นเหรอ?”
หลงชื่อเทาพยักหน้า “ถูกต้อง พวกเขาต่างก็เคยผ่านสนามรบมาก่อน ถือว่าแกยังตาถึงอยู่บ้าง!”
สีหน้าของถังเฉาเคร่งขรึมยิ่งกว่าเดิม “พวกเขาต่างก็เป็นวีรบุรุษ ควรที่จะได้รับการตอบแทนเยี่ยงวีรบุรุษ แต่กลับต้องมาเป็นบอดี้การ์ดให้คนอย่างคุณเนี่ยนะ?”
“พวกคุณ ยินดีอย่างนั้นเหรอ?”
น้ำเสียงของถังเฉานั้นเฉยชา พอบอดี้การ์ดพวกนั้นได้ยิน สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
พวกบอดี้การ์ดต่างหันมาสบตากัน
การที่พวกเขาต้องมาคุ้มครองหลงชื่อเทา พวกเขาก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองนั้นยินดีมั้ย เหมาะสมรึเปล่า มันก็เป็นเรื่องที่ปกติดีนี่
เจียงไป๋เสว่เองก็ก้าวมาข้างหน้าเหมือนกัน แล้วพูดไปด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยว่า “การทำสงครามกันครั้งหนึ่ง วีรบุรุษนั้นไม่ใช่ผบ. หากแต่เป็นผู้คนที่เข้าเผชิญหน้ากับศัตรูต่างหาก”
“สิ่งที่พวกคุณควรได้รับคือการสรรเสริญ คือการเชิดชู แต่ไม่ใช่การที่ต้องมาเป็นบอดี้การ์ดให้ใครแบบนี้”
คำพูดของถังเฉากับเจียงไป๋เสว่นั้นกินใจของพวกบอดี้การ์ดเข้า พวกเขาต่างพากันชะงักไปทันที
มันไม่ใช่การยุให้โกรธ แต่มันคือการพูดอย่างมีเหตุผล สิ่งที่ถังเฉากับเจียงไป๋เสว่รู้สึกรับไม่ได้ที่สุดก็คือ การเห็นคนที่มีผลงานจากการรบไม่ได้รับการตอบแทนที่พวกเขาควรได้รับ
“พวกแกหุบปากเดี๋ยวนี้!”
พอเห็นคนของตัวเองกำลังหวั่นไหว หลงชื่อเทาก็ตะคอกออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว
“พวกเขาต่างก็เป็นคนของฉัน ฉันอยากทำยังไงกับพวกเขาก็สามารถทำได้ตามใจชอบ พวกเขามีสิทธิ์ที่จะต่อต้านด้วยเหรอ? ว่าแต่พวกแกเถอะ กล้ามาพูดจาหว่านล้อมคนอื่นซะได้นะ!”
ความจริงเขานั้นกลัวที่จะมีใครมาพูดแบบนี้มาก
ถังเฉาหันมองหลงชื่อเทาเบาๆ
บริษัทรักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านหลัง บวกกับพวกบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ เขาก็พอรู้คร่าวๆ แล้วว่าเรื่องมันเป็นมายังไง
ใช้อำนาจส่วนตัว โยกย้ายผู้คน เพิ่มคนให้กับตนเอง
“ในเมื่อผมมาเห็นเข้าแล้ว ผมก็ไม่มีทางยืนดูอยู่เฉยๆ แน่นอน คุณต้องได้รับโทษแน่นอน”
ถังเฉาพูดออกมาอย่างช้าๆ
หลงชื่อเทาหัวเราะออกมาเสียงดัง “แกเป็นห่วงตัวแกเองน่าจะดีกว่านะ!”
ต่อให้ถังเฉาพูดแบบนั้นไปแล้ว แต่พวกบอดี้การ์ดก็ยังเดินเข้าไปล้อมพวกของถังเฉาไว้อยู่ดี
โครมคราม……
และในตอนนั้นเอง พื้นดินก็เกิดสั่นไหวขึ้นมา
“เกิดอะไรขึ้น……”
หลงชื่อเทากับซ่งเต๋อโหย่วต่างก็มองออกไปนอกสนามบินตามสัณชาตญาณ
พวกเขารับรู้ได้ ว่าการสั่นสะเทือนนั้นมันมาจากข้างนอก
ถังเฉา เจียงไป๋เสว่ รวมถึงหลินชิงเสว่ต่างก็ได้ยิ้มออกมา
พอออกไปดู หลงชื่อเทากับซ่งเต๋อโหย่วต่างก็อึ้งกับภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า
โรลส์รอยซ์นับร้อยคันมาจอดอยู่ตรงหน้าประตู ดูจากป้ายทะเบียนแล้วก็ดูออกไม่ยากว่ามาจากสามตระกูลที่ไม่เหมือนกัน
พรึบพรึบพรึบ!
ประตูรถเปิดออก ก็มีคนสามคนก้าวออกมาจากแถวทั้งสามแถว
“นั่นมัน……ผู้นำตระกูลหลิน หลินรั่วหวี……”
“นั่นก็สาวงามอันดับหนึ่งของตระกูลลั่ว ลั่วเย่นหัว!”
ยังมีชายหนุ่มอีกคนที่ถังเฉาเพิ่งเคยเห็นหน้าครั้งแรก แต่ดูจากราศีของเขาแล้ว ก็สามารถดูออกว่าเขานั้นมาจากตระกูลหลง