“เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ?”
หลังจากที่ชายหนุ่มพูดด้วยความเคารพต่อถังเฉา หลินอิ่นกับถงเจินสงสัยว่าหูของพวกเขาฟังผิด สีหน้าต่างก็รู้สึกนึกไม่ถึง
ในขณะที่มึนงง พวกเขาได้ยินชายคนนั้นตะโกนเรียกถังเฉาว่า “รองหัวหน้า” ?
หลินชิงเสว่ก็ตกตะลึงเล็กน้อย มองไปที่ถังเฉากับชายหนุ่มคนนั้นด้วยความประหลาดใจ
ถังเฉายิ้มเล็กน้อยๆ เงียบไม่ได้พูดอะไร แต่สายตามองวังคริสตัลตรงมุมที่อยู่ข้างนอก
ชายหนุ่มรู้ทันที พยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรอีก เดินตรงออกไปจากที่นี่
มีเรื่องที่น่าสังเกตกว่านั้นคือ สถานที่ที่เขาจากไปก็คือจุดที่สายตาของถังเฉากำลังมองไป
ตัวประกอบนี้ไม่มีผลกระทบต่อหลินอิ่นกับถงเจินสักเท่าไหร่ พวกเขายังคงมองไปที่ถังเฉากับหลินชิงเสว่ และการเยาะเย้ยก็ยังคงไม่ได้ปกปิดแม้แต่น้อย
“ในเมื่อพูดถึงขนาดนี้ พวกเราก็เมตตากรุณาต่อคุณถึงที่สุดแล้ว ในเมื่อคุณยืนกรานที่จะหาความตาย อย่าโทษพวกเราที่ไม่เตือนคุณล่วงหน้าแล้วกัน!”
หลินอิ่นและถงเจินพูดด้วยรอยยิ้มที่เยาะเย้ย
หลินชิงเสว่ขมวดคิ้ว สีหน้าเย็นชากำลังจะโต้กลับ แต่ถังเฉาคว้าเธอไว้ ขณะเดียวกันก็ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แววตาทั้งคู่สงบนิ่งมาก
“เรื่องของเรา พวกคุณไม่ต้องกังวลแทน ถ้าวันหนึ่งมีเวลา จะต้องไปเยี่ยมเยียนคุณชายของพวกคุณถึงบ้านด้วยตัวเอง”
ซ่า!
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา สีหน้าของหลินอิ่นและถงเจินก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
“คุณจะไปหาลูกชายของเราทำอะไร?”
ใบหน้าของถงเจินเต็มไปด้วยความระมัดระวัง จ้องมองไปที่ถังเฉาอย่างเย็นชา
“แน่นอนก็ต้องถามเรื่องบางอย่างที่ควรจะถาม”
ถังเฉาพูดด้วยรอยยิ้มเบาๆ “ลูกชายของท่านหายไปนานขนาดนี้ เรื่องประสบการณ์ของลูกชายท่านผมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก!”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ใบหน้าของหลินอิ่นกับถงเจินกระตุกอย่างรุนแรง และตะโกนด่าว่า
“ไอ้เด็กนี่ ถ้าหากคุณกล้าลงมือกับลูกชายของเรา ตระกูลหลินจะไม่ปล่อยคุณไปอย่างแน่นอน!”
ถึงแม้จะพูดแบบนั้น แต่พวกเขาก็พูดอย่างขาดความกล้าหาญมาก
ทันทีที่สบตากับถังเฉา พวกเขาถึงกับรู้สึกได้ถึงความหนาวเหน็บ
เป้าหมายไม่ใช่พวกเขา แต่เป้าหมายเป็น—- หลินโป๋หลาย
แต่ก็ไม่ใช่การแก้แค้น แต่ถังเฉาสนใจเรื่องนี้จริงๆ
แต่ว่า เมื่อเผชิญกับภัยคุกคามของหลินอิ่นกับถงเจิน ถังเฉาแทบจะไม่สนใจเลยสักนิด
แม้กระทั่งมองก็ไม่มองพวกเขา ก้าวเดินออกไปจากที่นี่
“นาย……”
ด้วยท่าทีที่อยู่เหนือกว่าเช่นนี้ ทำให้หลินอิ่นกับถงเจินไม่พอใจอย่างมาก
“หลินชิงเสว่!”
“เธอดูสามีไอ้เศษสวะของเธอสิ ในสายตายังมีผู้ใหญ่อย่างพวกเราอยู่หรือเปล่า?”
“อย่าพูดแต่เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าประตูตระกูลหลินของพวกเราเลย ถึงมี ช้าเร็วเขาก็ต้องถูกไล่ออกจากบ้าน!”
หลินอิ่นกับถงเจินจ้องมองหลินชิงเสว่แล้วด่าว่าด้วยความโมโห
โดยเฉพาะถงเจิน โกรธจนแทบบ้า
หลินชิงเสว่ถูกไล่ออกจากตระกูลหลิน เดิมทีตัวเธอควรจะขอร้องพวกเขายอมให้เธอกลับถึงจะถูก แต่ทำไมพวกเขาแทบจะไม่สนใจเลยเกี่ยวกับการกลับสู่ตระกูลหลิน?
หลินชิงเสว่เหลือบมองพวกเขาโดยไม่มีความรู้สึกใดๆ น้ำเสียงของเธอเย็นชา“
“คุณอาลุง น้ารอง ฉันเห็นแก่ก่อนหน้านี้ที่เคยเป็นญาติกัน เรียกคุณว่าคุณอาลุงน้ารองเป็นครั้งสุดท้าย”
“ในเมื่อพวกคุณขับไล่พวกเราออกจากตระกูลหลิน งั้นฉันก็ไม่ใช่คนของตระกูลหลินแล้ว ถังเฉาฝากฉันบอกพวกคุณประโยคหนึ่ง ในเมื่อทำไปแล้ว ก็อย่าเสียใจ!”
พูดจบ ก็เหยียบส้นสูงเดินตามถังเฉาไป
ไม่รู้เพราะอะไร พอเห็นถังเฉาพูดกับพวกเขาแบบนี้รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
หลินอิ่นกับถงเจินเกือบจะถูกคำพูดนี้ทำให้หายโกรธ
“พวกเราจะเสียใจเหรอ? ตลก !”
พวกเขาจะเสียใจได้อย่างไร?
ดีใจซะมากกว่า !
“รอผลจับฉลากซอยตงเฉินออกมาก่อน ฉันจะดูว่าพวกคุณจะหัวเราะออกมาได้อีกมั้ย!”
จ้องมองตามหลังถังเฉากับหลินชิงเสว่แล้วหัวเราะอย่างเย็นชา
ขณะนี้ ถังเฉาพาหลินชิงเสว่กับถังเสี่ยวลี้ ไปยังอีกมุมหนึ่งของวังคริสตัล
เมื่อเทียบกับท่ามกลางผู้คน ที่นี่ถือว่าคนน้อยกว่ามาก
แต่ก็ยังคงมีคนมองพวกเขาด้วยสายตาที่แปลกประหลาดและน่าสมเพช
ในสายตาของพวกเขา ถังเฉากับหลินชิงเสว่เป็นแค่นักพนันที่ทุนหมด ตั้งความหวังสุดท้ายกับการจับฉลากเพื่อพลิกสถานการณ์โดยรวม
แต่ว่า นี่มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
หลินชิงเสว่จับใบฉลากของสามคนไว้ในมือสีหน้ายังคงตื่นเต้นเล็กน้อย
“ที่รักคะ พวกเรามีหวังจับฉลากได้จริง ๆ ไหม”
ถังเฉายิ้ม “ตอนนี้ยังไม่ได้ประกาศผล ผมจะรู้ได้ไง แต่ว่า ผมบอกได้เพียงว่าทุกคนที่เข้าร่วมก็มีโอกาสทั้งนั้น”
ถังเฉาไม่ได้บอกความจริงกับหลินชิงเสว่ เพื่อไม่ให้เธอคิดว่ามันเป็นการทุจริต
หลินชิงเสว่ได้ยินคำพูดนี้ ก็ถอนหายใจไม่พูดอะไรอีก
ขณะนี้ ถังเฉาได้มอบถังเสี่ยวลี้ให้หลินชิงเสว่ดูแล
“ที่รัก ผมขอไปเข้าห้องน้ำหน่อยนะ”
พูดจบ ก็ออกไปจากที่นี่
“เฮ้ ห้องน้ำไม่ได้อยู่ทางโน้น…”
หลินชิงเสว่กำลังจะเรียกเขาไว้ แต่ถังเฉาเดินไปไกลแล้ว
เธอได้แต่จ้องมอง แล้วก็อุ้มถังเสี่ยวลี้และรอถังเฉากลับมา
เดินออกจากวังคริสตัล ความวุ่นวายและเสียงรบกวนน้อยลง
ด้านนอกเป็นระเบียงที่เงียบสงบ ซึ่งเป็นทางตรงขึ้นไปดาดฟ้าของวังคริสตัล
ที่นั่น มีชายหนุ่มในชุดสูทยืนอยู่ ก็คือก่อนหน้านี้ที่เจอเขาคนนั้น
พูดตามหลักเหตุผลแล้ว ดาดฟ้าของวังคริสตัลห้ามคนเข้าออกหากไม่ได้รับอนุญาต และบนทางเดินจะมีบอดี้การ์ดคอยเฝ้าไว้
แต่ตอนนี้ กลับว่างเปล่าไม่มีใคร
เห็นได้ชัดว่า เป็นฝีมือของชายหนุ่มคนนี้ ที่ขับไล่ยามรักษาความปลอดภัยออกไปทั้งหมด
“ผมคิดไม่ถคงว่าคุณจะเล่นแบบนี้”
ถังเฉาเดินไปข้างๆด้วยรอยยิ้ม และพูดด้วยเสียงหัวเราะเหอเหอ
ชายคนนั้นยิ้มเล็กน้อยและตอบว่า “รองหัวหน้าชอบแบบเงียบเรียบง่าย บ้าการค้าก็ชอบแบบเงียบเรียบง่าย ความสูงแบบไหน เป็นตัวกำหนดว่าคนรอบข้างเราจะมองเราอย่างไร”
ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว สิ่งที่ผมเห็นมีแต่ความชื่นชม ความเกรงใจ และเอาใจ ถ้าอยู่กลุ่มพวกเขา พวกเขาก็จะไม่เห็นคุณอยู่ในสายตา”
ชายผู้นั้นเอนกายพิงราวบันไดบนดาดฟ้า รับลมหนาวเย็น แหงนมองดวงดาวบนท้องฟ้า และพูดอย่างแผ่วเบา
ถังเฉาเห็นด้วยอย่างยิ่ง และพูดว่า “ชื่อเสียงทำร้ายคน”
คนในโลกดิ้นรน ก็เพื่อเงินไม่กี่เหรียญ
แต่ก็เพื่อเงินไม่กี่เหรียญนี่แหละ สามารถแก้ไขความเศร้าโศกทั้งหมดได้
ถ้าหากเวลานี้มีคนอื่นอยู่ที่นี่ พวกเขาจะต้องตกใจเมื่อได้ยินการสนทนาของพวกเขา
เพราะชายหนุ่มคนนี้ ก็คือบ้าการค้าของหนึ่งในชีชือ
คนที่ตำแหน่งสูงสุดในคืนนี้
ต้าเซี่ยชีชือที่ดึงดูดสะดุดตา คนที่ต้องการดิ้นร้นที่จะเอาใจคน มันมากมายนับไม่ถ้วนเลย
แต่บ้าการค้ากลับไม่ชอบชื่อเสียงลาภยศ มองราวกับมูลสัตว์
“ขอเพียงเราไม่ใช้ชื่อเสียงจอมปลอมเหล่านี้เป็นเรื่องจริงจัง ก็พอแล้ว”
บ้าการค้าหัวเราะ“สรุปแล้วคนเราเรื่องที่เก่งที่สุดคือการลืม”
ถังเฉายิ้ม “พูดนั้นง่าย แต่ทำยากกว่า”
บ้าการค้าพูด “เรื่องที่ยิ่งยาก ทำขึ้นมากลับยิ่งเป็นเรื่องง่ายๆ”
“รองหัวหน้าสามารถใช้ชีวิตติดดินได้ แต่ผมทำไม่ได้”
ถังเฉาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ทำไมต้องติดดิน?ผมเคยแต่งตัวนอกกเครื่องแบบไปเยี่ยมเป็นการส่วนตัวแล้ว แต่พวกเขาก็ยังกลัวผม แหงนมองผม เพราะเดิมทีเราก็เป็นพวกเดียวกัน”
“ก็เหมือนกับรองหัวหน้า แต่งงานกับผู้หญิงจากตระกูลหลวงเล็กๆ พวกเขารังแกคุณ เหยียดหยามคุณ และดูถูกคุณ แต่คุณก็ยังอยู่ที่สูงมองลงมาคอยปกป้องพวกเขาอยู่เสมอ ในเวลาที่พวกเขาต้องการ พวกเขาก็จะมองหาคุณหวาดกลัวคุณ มันคือรากเหง้าของมนุษย์ ไม่ใช่เหรอครับ?”
บ้าการค้าอ้าปากหัวเราะขึ้นมา หัวเราะอย่างมีความสุข แต่มีความหยิ่งทะนงในตัวเอง
ความอ่อนน้อมถ่อมตนของบ้าการค้า ข้อจำกัดเพียงแค่คนเดียว
นั่นก็คือถังเฉา
……
ถังเฉากับบ้าการค้าเดินเข้าไปในวังคริสตัลพร้อมกัน ขณะนี้ ห่างจากเวลาประกาศผลจับฉลากเหลือเพียงแค่ห้านาที
แต่ว่า หลังจากเข้าไปในสถานที่แล้ว ถังเฉาไม่ได้เดินเข้าไปพร้อมกับบ้าการค้า แต่แยกจากกันทันทีที่เข้าประตู
“คุณไปไหนมา จะประกาศผลเร็ว ๆ นี้แล้ว”
เมื่อเห็นถังเฉากลับมา หลินชิงเสว่ถามอย่างตำหนิเล็กน้อย
ถังเฉายิ้ม “ได้พบกับคนรู้จักที่คุ้นเคย เสียเวลาไปครู่หนึ่ง”
หลินชิงเสว่ตะลึง “อยู่ที่นี่คุณยังมีคนรู้จักที่คุ้นเคยด้วยเหรอ”
เมื่อก่อนเธอเคยเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลิน ยังไม่มีคุณสมบัติที่จะรู้จักคนที่อยู่ในนี้
ถังเฉาถึงกลับมีคนที่รู้จัก?
“คือใคร?”
หลินชิงเสว่ถามอย่างคาดหวัง
ถ้าหากถังเฉารู้จักคนที่อยู่ในนี้ ไม่แน่อาจมีความหวังก็ได้
อย่างที่หลินอิ่นพูด กิจกรรมแบบจับฉลากทุกอย่างก็มีเล่ห์กล
เบื้องหลังก็เป็นการกำหนดเอง
แม้ว่าสมาคมการค้าเก้าราชาจะไม่ทำเช่นนั้น แต่แน่นอนว่าก็ต้องมีเอียงไปทางตระกูลหลวงในเยี่ยนตูบ้างเล็กน้อย
เป้าหมายตระกูลหลินจะต้องได้ซอยตงเฉิน แต่ตระกูลเย่ ตระกูลถังก็ต้องการเช่นกัน
สำหรับถังเฉาและหลินชิงเสว่อยากฝ่าฟันอุปสรรคนี้ คงเป็นเรื่องยากยิ่งกว่ายาก
ถังเฉาชี้ไปที่ชายหนุ่มก่อนหน้านี้ที่เรียกเขาว่า “รองหัวหน้า” พูดว่า “ก็คือเขา”
หลินชิงเสว่มองไป แล้วตามด้วยแววตาที่ผิดหวัง
คนนี้ก็คือก่อนหน้านี้ที่ถูกหลินอิ่นกับถงเจินตำหนิด่าว่าไม่ใช่เหรอ?
ขณะนี้ หม่าเหวินซวนของสมาคมการค้าราชารีบขึ้นเวทีมองผู้คนไปรอบๆและพูดว่า “ตอนนี้พวกเรากำลังเริ่มจับฉลาก คนที่จับหมายเลขได้ จะมีสิทธิ์ประมูลซอยตงเฉิน”
ช่า!
ทันทีที่พูดเช่นนี้ ในเหตุการณ์ก็เงียบสงบทันที
สายตาของทุกคนจับจ้องมาที่ตัวหม่าเหวินซวน และทุกคนรู้สึกตื่นเต้นจนหัวใจเต้นแรง
หลินอิ่นกับถงเจินยิ่งจ้องมองแบบไม่กล้าแม้แต่จะกระพริบตา
เย่เซ่าเตี๋ย ถังฮันเจี๋ย ฉินกวนฉีก็เป็นเช่นนี้
ซอยตงเฉินก็คือภาพลักษณ์ ใครๆก็ต้องการภาพลักษณ์
หม่าเหวินซวนจับได้หนึ่งเบอร์
“หมายเลขสิบเอ็ด”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ……
มีชายคนหนึ่งหัวเราะอย่างตื่นเต้นที่สุดแว่วมาจากฝูงชน
เขากำหมายเลขที่จับได้ในมือ ซึ่งเป็นหมายเลขที่สิบเอ็ด
คนรอบข้างมองด้วยสายตาที่อิจฉา “ยี่สิบสาม”
หม่าเหวิวนยังคงจับหมายเลขต่อ
“ฉันถูกแล้ว ฉันถูกแล้ว…”
ผู้หญิงอีกคนร้องไห้ด้วยความดีใจ
“เก้าสิบสาม เจ็ดสิบแปด…”
หม่าเหวินซวนเร่งเวลาการจับตัวเลขให้เร็วขึ้น หลายคนกรีดร้องด้วยความตื่นเต้น
ในบรรดาคนที่ถูกเหล่านี้ เย่เซ่าเตี๋ย ฉินกวนฉี ถังฮันเจี๋ยต่างก็จับได้
ทุกคนที่อยู่ในตระกูลหลวงในเยี่ยนตูก็ได้หมด ซึ่งทำให้หลินอิ่นกับถงเจินมั่นใจมากขึ้นว่า ขอเพียงเป็นคนในตระกูลหลวงในเยี่ยนตูทุกคนก็จะได้
ยิ่งเป็นผลให้พวกเขาตั้งตารอมากขึ้น
ยิ่งใกล้ถึงสุดท้าย คนที่ยังจับไม่ได้ ก็ยิ่งกังวลมากขึ้น
หลินชิงเสว่ยิ่งตื่นเต้นจนเหงื่อออกเต็มฝ่ามือของเธอ
ถงเจินกลับสงบมาก เดินไปตรงหน้าหลินชิงเสว่ และพูดอย่างประชดประชันว่า “อย่าหวังอีกเลย พวกคุณเป็นไปไม่ได้ที่จะจับได้หรอก”
“สมาคมการค้าเก้าราชาจับฉลาก ล้วนได้รับการคัดกรองอย่างเข้มงวด จะไม่มีทางให้โอกาสแก่ผู้ที่ไม่สามารถจ่ายเงินได้”
“รายชื่อคนสุดท้าย!”
หม่าเหวินซวนประกาศในขณะนี้ว่า เขาจับมาถึงรายชื่อสุดท้ายแล้ว
ถงเจินยิ่งไม่ร้อนใจ “รายชื่อสุดท้าย ต้องเป็นของตระกูลหลินของเราแน่นอน…”
“ห้าสิบห้า!”
หม่าเหวินซวนประกาศ
ทันใดนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าของถงเจินหุบลง ยืนแข็งทื่อในทันที
หลินชิงเสว่มองไปที่หมายเลขของตัวเองและหมายเลขของถังเฉา สีหน้ารู้สึกหดหู่
เพราะหมายเลขของพวกเขาก็ไม่ใช่ห้าสิบห้า
ถังเสี่ยวลี้ในอ้อมแขนของเขา พลิกดูหมายเลขของตัวเอง ทันใดนั้นเสียงหวานๆของเด็กก็ร้องขึ้นมา
“คุณพ่อ คุณแม่ หนูถูกแล้ว !