ที่ที่ยึดครองได้ยากที่สุดในโลกอยู่ที่ไหน?
ทำเนียบขาวของสหรัฐอเมริกา? อัศวินเทมพลาร์แห่งวาติกัน?
ล้วนไม่ใช่
ที่ที่ยึดครองได้ยากที่สุดอยู่ที่เยี่ยนจิง ต้าเซี่ย
กองทัพปราณมังกรตั้งอยู่ที่ทางด้านเหนือของเยี่ยนจิง รอบด้านมีภูเขาล้อมรอบ หลังชนกับคลองชลประทานขนาดใหญ่ของเยี่ยนจิง ครอบครองพื้นที่ฝึกซ้อมฐานทัพกว้างใหญ่ไพศาล
กองทัพปราณมังกรล้วนแต่มีการก่อตั้งฐานปฏิบัติการในเมืองใกล้ ๆ อย่างเช่นเมืองเจียงเฉิงก็เป็นที่ที่กองทัพปราณมังกรยึดครองมาสำรอง
ตั้งแต่ได้คัดเลือกผู้มีความสามารถเข้ามาในฝ่ายในของกองทัพปราณมังกร ผ่านการคัดเลือกซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงจะสามารถกลายเป็นสมาชิกของกองทัพปราณมังกรได้
เพียงแต่ว่าเนื่องจากความพิเศษที่แข็งแกร่งอย่างถึงที่สุด มีคนน้อยมากที่จะรู้จักองค์กรที่ลึกลับนี้
เจียงไป๋เสว่ไม่ได้กลับตระกูลเจียงตามกองทัพใหญ่ แต่กลับกลับกองทัพปราณมังกรไป
คนที่ร่วมเดินทางไปด้วยยังมีหลงไป่ชวน ท่านเจ้ามังกร
“ครูผู้ฝึกเจียง!”
“ท่านเจ้ามังกร!”
ระหว่างทางล้วนแต่มีคนทักทายด้วยความเคารพนับถือ
คนเหล่านี้ไม่มีใครสักคนที่ไม่ได้จิตใจสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ไม่ว่าจะเป็นครูผู้ฝึกเจียงหรือว่าจะเป็นท่านเจ้ามังกร ก็ล้วนแต่เป็นบุคคลยิ่งใหญ่ที่พบเจอได้ยาก
โดยเฉพาะท่านเจ้ามังกรก็ยิ่งทำให้ผู้คนสั่นสะท้าน นั่นเป็นบุคคลในตำนานเชียวนะ!
“เก้าราชานักรบมาถึงแล้ว!”
ไม่รู้ว่าใครร้องป่าวขึ้นมา ทุกคนล้วนแต่ยืนตั้งขบวนกันเป็นแถวเรียบร้อย เรียงกันเป็นหลายกอง
หลังจากช่วงก่อนและหลังที่เจ้ามังกรและครูผู้ฝึกเจียงจะจากไป ทั้งกองทัพปราณมังกรก็ถูกประคับประคองโดยรวมโดยเก้าราชานักรบ
เก้าคนนี้เป็นผู้แข็งแกร่งโดยสมบูรณ์ที่ได้ผ่านการคัดเลือกซ้ำแล้วซ้ำเล่า มีบารมีและความน่าเชื่อถือสูงสุดในกองทหาร
“สวัสดีครับครูผู้ฝึกเจียง!”
“สวัสดีครับท่านเจ้ามังกร!”
เก้าราชานักรบคุกเข่าลงไปเป็นเสียงเดียวกัน
“ลุกขึ้นมาเถอะ”
เจียงไป๋เสว่มีสีหน้าสงบ มองพวกเขาพลางเอ่ยว่า “เรื่องที่ฉันกับท่านเจ้ามังกรกลับกองทัพปราณมังกรในคืนนี้ ให้ปิดเป็นความลับกับทางสำนักเมี่ยวถังกับกองทัพนั้นชั่วคราว ต่อให้มีคนมาถามก็ห้ามแพร่งพรายแม้แต่คำเดียวอย่างเด็ดขาด เข้าใจไหม?”
เก้าราชานักรบขานรับอย่างพร้อมเพรียงกัน “เข้าใจครับ!”
ตอบรับเสร็จ พวกเขาก็ใจลอยมองเจียงไป๋เสว่คุ้มกันยานพาหนะขนาดมโหฬารคันหนึ่งไปส่งด้วยใบหน้าไม่อยากจะเชื่อ
รถคันนี้ถูกผ้าสีเขียวแก่ผืนใหญ่คลุมเอาไว้ แค่มองดูก็รู้ว่าเป็นของลับสุดยอด
ฐานฝึกกองทัพปราณมังกร
เจียงไป๋เสว่เอ่ยกับลูกน้องว่า “เปิดผ้าออกเถอะ”
เสียงดังฟึ่บ ผ้าผืนใหญ่ถูกเลิกขึ้น สิ่งที่ทำให้ผู้คนตะลึงงันก็คือ สิ่งที่บรรจุอยู่ในรถจะเป็นผู้ชายที่แข็งจนเป็นก้อนน้ำแข็งคนหนึ่งอย่างคาดไม่ถึง
สีหน้าของผู้ชายเคร่งขรึม ยังรักษาท่าทางของก่อนหน้าเอาไว้… เดาได้ไม่ยากว่านี่คือคนที่ถูกทำให้แข็งจนตายทั้งเป็น
“ออกไปกันให้หมดเถอะ”
เจียงไป๋เสว่ตวาดให้ทุกคนถอยกลับไป ในขณะเดียวกันก็ปิดประตูใหญ่ของฐานฝึก
ทันใดนั้นฐานฝึกที่ใหญ่มหาศาลก็เหลือเพียงเจียงไป๋เสว่ ท่านเจ้ามังกร และผู้ชายที่โดนแช่แข็งคนนั้นสามคนแล้ว
เจียงไป๋เสว่มองถังเฉาที่อยู่ในก้อนน้ำแข็งนั้นครั้งหนึ่ง แขนทั้งคู่กอดอกพลางเอ่ยว่า “ที่นี่ไม่มีคนอื่น ยังไม่ออกมาอีกหรือ?”
กริ๊ก…
เพิ่งจะสิ้นเสียง ถังเฉาที่เดิมทีถูกแช่แข็งอยู่ด้านในก็ขยับขึ้นมาทันที
จากนั้นพื้นผิวของน้ำแข็งก็ปรากฏรอยร้าวรอยหนึ่ง
เพล้ง…
รอยร้าวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายก็ยึดครองไปทั้งพื้นผิวของก้อนน้ำแข็ง
ถังเฉาทำลายน้ำแข็งออกมา!
มองเห็นฉากนี้แล้ว เจียงไป๋เสว่กับท่านเจ้ามังกรที่เดิมยังอกสั่นขวัญแขวนกันอยู่บ้างก็ล้วนแต่ผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่งทันที
ทว่าถังเฉาที่ทำลายน้ำแข็งออกมาไม่ได้แสดงท่าทางหล่อเท่อย่างยอดวีรบุรุษที่ฟื้นขึ้นมาจากความตายเหมือนอย่างในละครโทรทัศน์ แต่เป็นยืนอยู่สักครู่ ฉับพลันทั้งร่างก็สั่นสะท้านไปพักหนึ่ง แล้วจามออกมาอย่างรุนแรงทันที
“ที่ไหนมีฮีตเตอร์ รีบเอามาเปิดให้ผมเร็ว”
ถังเฉาเอ่ยเร่งกับเจียงไป๋เสว่อย่างกระสับกระส่าย
“…”
เจียงไป๋เสว่กลอกตามองบนแล้วเปิดฮีตเตอร์ ร่างกายที่สั่นเทาของถังเฉาจึงจะดีขึ้นมามาก
ถ้าหากจะต้องพูดจริง ๆ ละก็ นั่นก็คือเสื้อผ้าทั้งร่างของเขาเปียกชื้นไปหมด
เจียงไป๋เสว่หยิบชุดใหม่ขึ้นมาชุดหนึ่ง เปลี่ยนเสร็จ ถังเฉาถึงได้มีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง
“หมดภาพลักษณ์ของเจ้ามังกรแล้ว”
เจียงไป๋เสว่เอ่ยแขวะอย่างไม่มีท่าทีที่ดี
ถังเฉาหัวเราะแหะ ๆ “ชีวิตก็ไม่มีแล้ว มีภาพลักษณ์ไปมีประโยชน์อะไร?”
ท่านเจ้ามังกรหัวเราะหึหึอยู่ข้าง ๆ เอ่ยว่า “ระดับนี้ยังฆ่านายไม่ตายอีกนะ”
ถังเฉาแสยะยิ้มออกมา เอ่ยว่า “ฆ่าไม่ตายก็จริง แต่อุณหภูมิในห้องคุมขังต่ำเกินไปจริง ๆ ต่อให้แรงภายในรักษาร่างกายได้ ก็คงสภาพไว้นานมากไม่ได้”
เจียงไป๋เสว่กลับมีสีหน้าเข้มครึ้ม โชคดีที่เป็นถังเฉา ถ้าหากเปลี่ยนเป็นคนอื่นละก็ ไม่แน่ว่าไม่ถึงหนึ่งนาทีก็ต้องถูกแช่แข็งตายทั้งเป็นแล้ว
“ตอนนี้บอกพวกเราได้หรือยังว่าทำไมต้องแกล้งตายด้วย?”
ท่านเจ้ามังกรถามด้วยรอยยิ้ม
ตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อน ตอนที่ค้นพบเขาในแม่น้ำหมิงจูที่คลื่นลมแรง เขาก็ถูกจิตใจที่ร้องขอชีวิตได้เหนือกว่าคนทั่วไปทำให้สั่นสะเทือน เพียงแรกเห็นเขาก็วินิจฉัยได้ทันทีว่านี่แหละคือคนที่มีศักยภาพ
ถังเฉาก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง ไม่เพียงแต่พัฒนาได้อย่างชัดเจน ทั้งยังมีความคิดละเอียดรอบคอบ มีกลิ่นอายของแม่ทัพ
ในเมื่อเลือกที่จะแกล้งตาย นั่นก็จะต้องมีเหตุผลของเขาเป็นแน่
ถังเฉาแย้มยิ้ม “ที่จริงแล้วผมกำลังพนัน พนันว่าพวกคุณจะมาช่วยชีวิตผมในตอนที่ผมใกล้จะยันไว้ไม่อยู่ไหม โชคดีที่ผมพนันถูก”
นิ่งไปพักหนึ่ง ถังเฉาก็เอ่ยต่อไปว่า “ที่จริงแล้วผมก็ไม่ได้คิดว่าจะแกล้งตาย เพียงแต่ผมคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะขังผมเอาไว้ในห้องแช่แข็งตรง ๆ ผมไม่ได้มีแผนนี้ในใจ”
“ศัตรูคือเย่จงซือแห่งตระกูลเย่”
เจียงไป๋เสว่เอ่ยเตือน
ถังเฉากลับเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ผมแกล้งตาย แต่ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่เขาหรอก แต่เป็นเหล่าศัตรูที่ลึกเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง”
“อย่างเช่นค้างคาว”
บึ้ม!
พอคำนี้ลั่นออกมา สีหน้าของเจียงไป๋เสว่กับท่านเจ้ามังกรก็ล้วนแต่เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก
“ค้างคาว?”
“ลูกไม้แกล้งตายของคุณนี่เตรียมมาเพื่อค้างคาว?”
เจียงไป๋เสว่เบิกตาโต เอ่ยอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เซี่ยงจวงรำดาบ เจตจำนงอยู่ที่เพ่ยกง! (*เป็นสำนวน หมายถึงการกระทำที่มีวาระซ่อนเร้น)
ถังเฉาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ไม่ผิด สำหรับผมแล้ว คนที่สามารถเป็นศัตรูกับผมได้อย่างเหมาะสมจำเป็นจะต้องคุกคามถึงคนของพวกเรา เย่จงซือ? ฉินกวนฉี? พวกเขายังมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ แต่ค้างคาวนั่นจำเป็นจะต้องนับไว้หนึ่งคน”
นั่นเป็นศัตรูเก่าแล้ว
ผมอยู่ในที่สว่าง พวกเขาอยู่ในที่มืด พวกเราเสียเปรียบ เป้าหมายที่ผมทำอย่างนี้ก็เพื่อหวังว่าจะระเบิดให้พวกเขาออกมาได้”
ถังเฉาเอ่ยขึ้น “และเป้าหมายต่อไปของค้างคาวก็ไม่ใช่ตระกูลหลวงในเยี่ยนตู แต่เป็น… กองทัพปราณมังกร”
“กองทัพปราณมังกร?”
พอคำนี้ลั่นออกมา เจียงไป๋เสว่กับท่านเจ้ามังกรก็ล้วนแต่ตกตะลึงเป็นอย่างมาก
นี่เป็นข่าวจริงจังข่าวหนึ่งเลยนะ!
แม้แต่พวกเขาก็ยังค้นไม่เจอข่าวที่ละเอียดเช่นนี้
“หมายความว่าอย่างไร?”
ท่านเจ้ามังกรเอ่ยด้วยสายตาเข้มขรึม
“ง่ายมากครับ ค้างคาวก็เป็นคนเหมือนกัน เขาเองก็มีอารมณ์มีความหลงใหล ความหลงใหลของเขาก็คือกองทัพปราณมังกร”
ถังเฉาเอ่ยขึ้น
“เยี่ยนซื่อเฉิง…”
สายตาของท่านเจ้ามังกรเข้มครึ้ม พูดชื่อของค้างคาวออกมาอย่างช้า ๆ
เมื่อสามปีก่อนเนื่องด้วยเหตุผลที่หลี่เห้าหายสาบสูญไป เยี่ยนซื่อเฉิงถูกตำหนิจากทุกคน ตั้งแต่นั้นก็ปกปิดชื่อเสียที่เรียกว่า ‘หนีทหาร’ ปลดประจำการไปอย่างเศร้าสลด
ความหลงใหลประเภทนี้ไม่เคยลดลงไป กลับเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ร้ายแรงขึ้นทุกที
คนที่ถูกขับไล่ออกจากกองทัพปราณมังกรคนหนึ่ง อยากจะกลับเข้ากองทัพปราณมังกรอีกครั้ง… ฟังดูแล้วก็เป็นเหตุเป็นผล แต่ในความเป็นจริงกลับสวนทางกัน
ถังเฉาไม่มีทางยอมรับ เจียงไป๋เสว่ไม่มีทางยอมรับ หรือแม้แต่ท่านเจ้ามังกรเอง… ก็ไม่มีทางยอมรับ
“เขาคิดจะทำอะไร?”
ถังเฉาเงียบอยู่นาน ออกเสียงพูดขึ้นว่า “อาจจะสมัครเข้ากองทัพปราณมังกรใหม่ และก็อาจจะ… ก่อตั้งกองทัพปราณมังกรอีกแห่งขึ้นมาใหม่”
“…”