เรื่องที่เย่หรูอี้มอบครั้งแรกของตัวเองให้ถังเฉาในห้องทำงาน เป็นความเจ็บปวดในใจถังหลินมาตลอด
ความเจ็บปวดนี้ไม่ได้หายไป กลับยิ่งทวีความแค้นมากขึ้นตามกาลเวลา
ความรู้สึกที่เขามีต่อเย่หรูอี้ได้เปลี่ยนจากความรักเป็นความแค้นไปแล้ว
ความแค้นเป็นฝ่ายมากกว่า
คืนนี้ เขาจะเอาคืนนังแพศยาเย่หรูอี้ให้สาสม
ชำระแค้นที่เธอทรยศ!
“ฮือฮือฮือ—-”
“ถังหลิน ถ้านายบังอาจแตะต้องตัวฉัน ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่!”
เย่หรูอี้หัวแตกเลือดอาบ แต่ยังดิ้นไม่หยุด
เพียะ!
ถังหลินตบหน้าเธอฉาดใหญ่ รอยยิ้มบิดเบี้ยว “ไม่ปล่อยฉันไปเหรอ? เธอจะไม่ปล่อยฉันไปยังไงไม่ทราบ?”
“ถ้าเธอแต่งงานกับฉัน เธอก็คือคนตระกูลถัง เกี่ยวอะไรกับตระกูลเย่? สุดท้ายแล้ว ทุกสิ่งที่เธอพยายามทุ่มแรงกายแรงใจสั่งสมมา ก็จะถูกเย่จงซือและเย่เซ่าเตี๋ยเอาไปหมด—-ยังไม่เข้าใจอีกหรอ ผู้หญิงแพศยาอย่างเธอ นอกจากจะปรนนิบัติฉันและติดตามฉันเหมือนหมาตัวหนึ่งแล้ว เธอไม่มีทางอื่นอีก!”
เสียงหัวเราะโอหังของถังหลินดังก้องไปทั่วทั้งทางเดิน
เย่หรูอี้ใจสั่น ไม่ได้แตกตื่นมาก กลับใจเย็นลง เธอมองถังหลินและเอ่ยขึ้น “แล้วถังเฉาล่ะ นายไม่กลัวเขารึ?”
“…..”
เมื่อพูดถึงชื่อถังเฉา ถังหลินหวาดกลัวขึ้นมาแวบหนึ่ง
ตกใจจนเกือบลื่นตกบันได
แต่พอนึกได้ว่าถังเฉาตายไปแล้ว ถังหลินก็สงบลง สีหน้าเต็มไปด้วยความฉุนเฉียว
“ยังคิดจะเอาถังเฉามาขู่ฉันอีกหรอ? เขาตายไปแล้ว เกือบลืมไป เธอเป็นเมียเก่าเขานี่ คงมีความรู้สึกพิเศษให้เธออยู่สินะ—-รู้ว่าเธอกำลังจะกลายเป็นผู้หญิงของฉัน ตอนนี้เขาคงโมโหอยู่บนสวรรค์ล่ะมั้ง?”
ถังหลินหน้าตาบิดเบี้ยว จู่ๆก็ชะงักฝีเท้า
“คุณชาย”
บอดี้การ์ดสองคนด้านหลังก็หยุดฝีเท้าตาม รอคำสั่งเพิ่ม
“เดี๋ยวก่อน ฉันเปลี่ยนใจแล้ว”
ถังหลินคลี่ยิ้มกว้าง
เย่หรูอี้สังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา “นาย นายจะทำอะไร?”
“ทำอะไร?”
ถังหลินหัวเราะเย็นๆ มองเรือนร่างอรชรของเย่หรูอี้อย่างพิจารณา รวมถึงใบหน้างดงามเย็นชานั่นพลางเอ่ยขึ้น “ชู้รักเธอตายไปแล้วไม่ใช่หรอ ตอนนี้คงจะดูเธออยู่บนฟ้า พวกเราไม่ไปโรงแรมแล้ว ไปบนดาดฟ้านี่แหละ ใช้ฟ้าเป็นผ้าห่ม ใช้พื้นดินเป็นเตียง เป็นยังไง?”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า……”
ถังหลินหัวเราะลั่น
บอดี้การ์ดสองคนด้านหลังก็หัวเราะเสียงเย็นออกมาเช่นกัน
“คุณชาย เข้าใจเล่นนะครับ”
“ผู้หญิงคนนี้ทำหน้าทำตาไร้อารมณ์อยู่ตลอด ไม่มองหน้าใครเลย ให้เธอได้รู้จักความเก่งกาจของคุณบ้างนะครับ”
ฉับพลันเย่หรูอี้หน้าซีดลงยิ่งกว่าเดิม กัดฟันแน่น “ถังหลิน นายกล้าหรอ—-”
“เธอก็รอดูว่าฉันกล้ามั้ย?”
ถังหลินย้อนกลับทางเดิม ไม่นานนักก็มาถึงดาดฟ้า
“ปล่อยฉันไปนะ—-ถังหลิน นายได้ลงนรกแน่!”
เย่หรูอี้กรีดร้องเสียงหลง สีหน้าตื่นกลัวมาก
“ถังเฉายังไม่ตาย เขายังไม่ตาย! ถ้านายกล้าแตะต้องตัวฉัน เขาไม่ยอมปล่อยนายไว้แน่!”
ภายใต้สถานการณ์อันคับขัน เย่หรูอี้บอกความจริงที่ว่าถังเฉายังไม่ตาย
แม้ว่าเธอจะไม่ได้มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เธอรู้ว่าด้วยความสามารถของถังเฉาไม่ตายอยู่ที่นั่นแน่ๆ
ใบหน้าของถังหลินเปลี่ยนไปเล็กน้อย หลังจากผงะไปครู่หนึ่ง อยู่ๆเขาก็มีสีหน้าโกรธเกรี้ยว
“ถังเฉาถังเฉาถังเฉา—-ในหัวของเธอมีเพียงถังเฉาหรือไง? แล้วฉันล่ะเป็นใคร? ฉันชอบเธอขนาดนี้ เธอเคยมองฉันตรงๆสักครั้งมั้ย?”
ถังหลินสีหน้าบิดเบี้ยว ยื่นมือไปจับคางของเย่หรูอี้อย่างแรง ส่งเสียงคำรามอย่างโมโห
เสียงทะเลาะกันที่นี่ดังไปถึงหูของซ่งหมิงเวยที่ยังคงสูบบุหรี่อยู่ตรงทางเดิน
เขายังไม่ไป บัดนี้ได้ยินเสียงเอะอะ เขารีบดับบุหรี่และวิ่งไปที่หน้าประตูของชั้นดาดฟ้า มองลอดช่วงว่างเข้าไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นภายในนั้น
มองแค่แวบเดียวเท่านั้น เขาก็กัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก ดวงตาแดงก่ำ
เลือดของเขาเดือดพล่าน เปี่ยมล้นอยู่ในหัวของเขา
ในใจของเขา ลูกพี่ลูกน้องผู้สมบูรณ์แบบกลับโดนถังหลินเหยียบอยู่ใต้เท้า
ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง เลือดเปื้อนเต็มหน้า ชุดกี่เพ้าสีม่วงขาดรุ่งริ่ง เผยให้เห็นเนื้อสีขาววงกว้าง
พี่สาวของตัวเองกำลังจะถูกกระทำชำเรา แต่เขาที่เป็นน้องชายทำได้แค่แอบดูอยู่หลังประตูเหมือนหมาตัวหนึ่ง!
“อ๊าก—-มือของฉัน!”
เสียงโหยหวนดังขึ้น ถังหลินสะบัดเย่หรูอี้ออกไปอย่างรวดเร็ว กุมมือตัวเองไว้ด้วยสีหน้าเจ็บปวด
เย่หรูอี้เลือดเต็มปาก ไม่ใช่ของตัวเอง แต่เป็นของถังหลิน
แม้ว่าเธอกำลังเหนื่อยหอบ แต่สายตาที่เธอมองถังหลินยังคงเย็นชาอย่างผู้สูงส่ง
“ถังหลิน นายไม่มีวันคู่ควรกับฉัน นายต้องตกนรกแน่”
“ถุย”
ถังหลินถุยเสมหะเปื้อนเลือดลงพื้นอย่างแรง สายตาฉายความบ้าคลั่งดุดัน
“นังร่าน—-”
ถังหลินด่าไปพลาง เริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเอง
จากนั้นเป็นเข็มขัดที่เอว
จากนั้นก็ไม่ได้ถอดต่อ แต่หยิบเข็มขัดและเดินไปหาเย่หรูอี้ด้วยสีหน้าดุร้าย
ฟู่วฟู่ว—-
ฟู่วฟู่ว—-
เขาเหวี่ยงเข็มขัดจนเกิดเสียงปะทะกับลมแรง
ก่อนที่เขาจะได้ลิ้มรสอย่างเป็นทางการ เขาจะฟาดเย่หรูอี้ด้วยเข็มขัดสักหลายๆที
ฝากร่องรอยเล็กๆน้อยๆของตัวเองบนเรือนร่างของเธอ
แต่เดิมเขาคิดว่าเย่หรูอี้ต้องรู้สึกกลัวแน่ๆ
ทว่า เธอยังคงนอนหมอบอยู่บนพื้น สายตาที่มองเขาช่างไร้ความกลัว ช่างเย็นชาเหลือเกิน
สายตาแบบนี้ทำร้ายจิตใจของถังหลินอย่างลึกซึ้ง
เขาคิดไม่ออก เวลานี้แล้ว ถังเฉาก็ตายไปแล้ว เธอไปเอาความเชื่อมั่นมาจากไหน ถึงยังกล้ามองตัวเองด้วยสายตาแบบนี้?
“อยากตายใช่มั้ย!”
เขาคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว โบกเข็มขัดในมือฟาดไปที่ใบหน้าทรงเสน่ห์ของเย่หรูอี้
ฟู่วฟู่วฟู่ว—-
แรงลมพัดผ่าน เข็มขาดฟาดแหวกอากาศเกิดเป็นเสียงฟู่วฟู่วสุดสยองขวัญ
เย่หรูอี้หลับตา รอให้เข็มขัดฟาดมาที่ใบหน้าของตัวเองอย่างเงียบๆ
บูม!
ทว่า ผ่านไปแล้วเนิ่นนาน ความเจ็บปวดที่รุนแรงพอจะทำให้เนื้อหนังแหลกลาญกลับไม่ได้ฟาดลงมา
กลับมีเสียงกระแทกทุ้มต่ำที่ไม่เหมือนเสียงฟาดของเข็มขัด
เช่นนั้นแล้ว เย่หรูอี้ลืมตาด้วยความประหลาดใจ อยากดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ทว่า ลืมตาขึ้นมาปุ๊บเธอก็เห็นภาพที่ทำให้นัยน์ตาเธอต้องหดลง—-ซ่งหมิงเวยที่ควรจะไปแล้วย้อนกลับมา มีท่อนเหล็กแข็งโป๊กในมือ พุ่งมาอยู่ตรงหน้าถังหลินด้วยสีหน้าดุดัน ฟาดท่อนเหล็กใส่หัวเขาอย่างแรง
เสียงทุ้มต่ำที่ได้ยินเมื่อกี้ก็คือเสียงที่ซ่งหมิงเวยฟาดท่อนเหล็กใส่หัวของถังหลิน
“ปล่อยพี่สาวฉันนะ!”
ซ่งหมิงเวยเสียงแหบแห้งด้วยความโมโห สองตาแดงก่ำจนแทบจะมีเลือดไหลออกมา
เขาฟาดท่อนเหล็กใส่หัวถังหลินด้วยความโกรธแค้นเต็มทรวงอก
ราวกับเวลาหยุดลงในนาทีนั้น ทุกอย่างช้าลงมาก
ดวงตาคู่สวยของเย่หรูอี้เบิกกว้าง มองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ
และเหมือนสังเกตเห็นสายตาของเย่หรูอี้ ซ่งหมิงเวยมองมาทางนี้เช่นกัน
ตาสองคู่สบกัน เย่หรูอี้เห็นความดุร้าย เห็นความบ้าคลั่ง และเห็นความอ่อนโยนจากสายตาของเขา
ฟึ่บ!
ทันใดนั้น เลือดสาดกระจาย ถังหลินรู้สึกโลกกลับตาลปัตร สายตามืดมัวและล้มลงไป
“คุณชาย!”
บอดี้การ์ดของถังหลินเห็นดังนั้นแล้วสีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบเข้ามาพยุง
แต่พอยื่นมือไปจับ กลับเจอเลือด เลือดเต็มมือ!
อาศัยจังหวะนี้ ซ่งหมิงเวยโยนท่อนเหล็กทิ้งดังเคร้ง วิ่งมาอยู่ตรงหน้าเย่หรูอี้อย่างรวดเร็ว
“พี่ เป็นยังไงบ้างครับ?”
เห็นเสื้อผ้ารุ่งริ่งของเย่หรูอี้และหน้าตาสะบักสะบอม ซ่งหมิงเวยโกรธถึงขีดสุด
หน้าของเย่หรูอี้ซีดเผือด “นายมาได้ยังไง ฉันบอกให้นายไปแล้วไม่ใช่หรอ? กลับมาอีกทำไม?”
เมื่อเห็นความเป็นห่วงในสายตาเย่หรูอี้ ซ่งหมิงเวยหัวเราะ “ผมยังไม่ไป ยังไม่ได้ไปไหนเลยครับ”
เย่หรูอี้น้ำตาไหล
ยังไงก็อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ซ่งหมิงเว่ยรู้จักเย่หรูอี้ดี
และอาจเพราะเขาไม่อยากให้เย่หรูอี้แต่งงานกับถังหลินจากใจจริง เขาจึงรออยู่ที่ทางเดินตลอด และก็เกิดเรื่องจริงๆ
“คุณชาย ท่านเป็นยังไงบ้างครับ?”
บรรดาบอดี้การ์ดรีบเข้ามาพยุงถังหลิน
ถังหลินกุมหัว เจ็บจนหน้าตาบิดเบี้ยว
เขาก็รู้ว่าหัวของตัวเองโดนตีจนเลือดอาบ หลังจากยืนได้อย่างมั่นคงแล้วเขาก็ตวัดสายตามองซ่งหมิงเวย เส้นเลือดขยายอยู่ในเบ้าตา
“เวรเอ๊ย ฉันยอมรับหรอกนะแกถึงเป็นน้องเมียฉัน ถ้าฉันไม่ยอมรับ แกคิดว่าตัวเองเป็นใครวะ?”
ถังหลินสีหน้าดุดัน น้ำเสียงมุ่งร้ายสุดๆ “ยังจะกล้ากลับมาขัดขวางฉันอีก งั้นแกอย่าไปเลย!”
“ตีมันให้ตาย! ให้ตายไปเลย!”
ถังหลินคำรามลั่นด้วยความโกรธจัด
บอดี้การ์ดสองคนก็มีสีหน้าเคร่งขรึม เดินเข้ามาหาซ่งหมิงเวยอย่างไม่หวังดี
เย่หรูอี้ผลักซ่งหมิงเวยออกอย่างแรง และตะโกนลั่น “รีบไปเร็ว!”
ทว่า ซ่งหมิงเวยไม่ได้ไปไหน ราวกับรู้จุดจบของตัวเองอยู่แล้ว เขาเผยรอยยิ้มเด็ดเดี่ยวอย่างหมดห่วง สารภาพความในใจเสียงแผ่ว
“พี่ครับ ผมชอบพี่”
พูดจบก็หันไปคำรามลั่นด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว ซัดกันนัวกับบอดี้การ์ดสองคน
“เล่นมันให้ตายเลย!”
ถังหลินใช้ผ้าขนหนูสีข้าวซับหัวตัวเองไม่ให้เลือดไหลออกมา พลางตะโกนลั่นเสียงดุดัน
“อย่า—-”
เย่หรูอี้กรีดร้องสุดเสียงอย่างเจ็บปวด ยื่นมือออกไปด้วยสัญชาตญาณ
ตู้มตู้มตู้ม…
แม้ว่าซ่งหมิงเวยเคยเป็นลูกหลานคนรวย แต่ก็ไม่อาจเทียบกับบอดี้การ์ดชั้นดีได้ ไม่เกินสองสามกระบวนท่าก็โดนล้มจนได้
การต่อสู้แบบนี้ล้มไม่ได้ หากล้มก็จะไม่สามารถลุกขึ้นได้อีก ไม่นานนักก็ถูกบอดี้การ์ดสองคนนั้นทั้งเตะทั้งต่อย ตัวเขาได้แต่กุมศีรษะขดตัวเพื่อป้องกันอวัยวะสำคัญของร่างกาย
ถังหลินเดินเข้ามาด้วยหน้าตามุ่งร้าย ด่าทอเสียงดัง “ฉันบอกให้พวกแกออกแรงไง ไม่ได้กินข้าวเย็นมารึไง? เล่นมันให้ตายเลย ตายไปฉันรับผิดชอบเอง!”
“ถังหลิน นายบังอาจ!!”
เย่หรูอี้ยันตัวขึ้นพร้อมกรีดร้องเสียงแหลม ใบหน้าของเธอก็บิดเบี้ยวขึ้นมา เธอมองถังหลินอย่างโกรธแค้น “ฉันสาบาน ถ้านายทำร้ายน้องชายของฉัน ฉันจะยกเลิกการแต่งงาน รอรับสงครามเต็มรูปแบบตระกูลเย่ได้เลย!”
เสียงกราดเกรี้ยวถึงขีดสุดของเย่หรูอี้ดังสะท้อนไปทั่วดาดฟ้า
พายุโหมกระหน่ำ ผมยาวสยายของเย่หรูอี้ร่ายรำ ตาแดงก่ำ
ถังหลินชักกลัวขึ้นมาจริงๆ บอดี้การ์ดของเขายังหยุดการกระทำโดยไม่รู้ตัว
สีหน้าฉายแววกังวล “คุณชาย เราพอแค่นี้ดีมั้ยครับ?”
ยังไงซะตอนนี้ก็ยังไม่แต่งงาน หากเย่หรูอี้ยกเลิกการแต่งงานกะทันหัน ตระกูลถังจะกลายเป็นตัวตลก
ถังหลินสีหน้าเขียวปี๋ จ้องเย่หรูอี้เขม็ง “ตอนนี้เธอไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจอะไรในตระกูลเย่ แต่ตระกูลถังเปลี่ยนผู้นำไปแล้ว ชีวิตของไอ้เด็กนี่ฉันจะละเว้นให้เพราะเห็นแก่หน้าเธอ แต่เขาเอาท่อนเหล็กฟาดฉันไปทีหนึ่ง เรื่องนี้จะจบแค่นี้ไม่ได้”
พูดจบ เขาก็ยกท่อนเหล็กขึ้นและเดินมาอยู่ตรงซ่งหมิงเวย ฟาดลงไปอย่างแรง
แคร่ก!
กระดูกขาหัก ซ่งหมิงเวยไม่ทันแม้แต่จะร้องโหยหวนออกมาก็เจ็บจนสลบไป
“พวกเราไป”
โดนซ่งหมิงเวยฟาดไปครั้งหนึ่ง ถังหลินย่อมไม่อยู่ที่นี่ต่อ เขาพาคนของเขาออกไปอย่างรวดเร็ว
เย่หรูอี้คลานไปอยู่ข้างตัวซ่งหมิงเวยอย่างทุลักทุเล เธอมองกระดูกขาของเขาที่แตกหักและผิดรูป น้ำตาเอ่อล้นออกมาบดบังสายตาในทันที เธอนอนร้องไห้โฮอยู่บนตัวเขา