ถังเฉากัดฟันแน่น พยายามใช้แรงทั้งหมดขัดขวางเลื่อยไฟฟ้าที่กำลังจะหั่นลงไปเอาไว้
บรื้น ๆ ๆ…
เสียงเลื่อยไฟฟ้าหมุนด้วยความเร็วห่างจากหน้าของถังเฉาอยู่ไม่กี่เซนติเมตร… ถึงขั้นที่เขาสามารถมองเห็นฟันเลื่อยหมุนอย่างรวดเร็วไปอย่างชัดเจน
“…”
เห็นได้ชัดว่ามนุษย์โคลนคิดไม่ถึงว่าถังเฉาจะมาขวางเขาได้รวดเร็วถึงเพียงนี้
ตอนนี้เขาออกแรงอย่างต่อเนื่อง ดันลงไปข้างล่าง คิดจะกดจนเลื่อยไฟฟ้าไปให้ถึงร่างของถังเฉา
เส้นเลือดดำบนหน้าผากของถังเฉาปูดโปนขึ้นมา ดวงตาทั้งคู่เข้มครึ้มจนสามารถคั้นน้ำออกมา น้ำเสียงหนาวยะเยือกราวกับมาจากนรกอเวจี
“คนที่คุณต้องการฆ่าคือใคร ทำไมถึง…ต้องลงมือกับพวกเธอด้วย?”
ฝ่ามือของถังเฉาออกแรงทีละส่วน ๆ
เลื่อยไฟฟ้าค่อย ๆ ถูกถังเฉาแยกห่างออกมา
จากนั้นก็โยนขึ้นไปข้างบนอย่างโหดเหี้ยม
เลื่อยไฟฟ้าถูกโยนขึ้นไปในอากาศในทันที ถูกถังเฉาแย่งเอาไป
ถังเฉาที่ได้เลื่อยไฟฟ้ามาแล้วก็มีสีหน้าที่ปรากฏความดุร้ายอย่างคลุมเครือ ความคิดที่จะฆ่าได้เกิดขึ้นแล้ว
“ฆ่า!”
ถังเฉาตะโกนเสียงดังขึ้นมาครั้งหนึ่ง เลื่อยไฟฟ้าที่อยู่ในมือฟันลงบนมนุษย์โคลนอย่างโหดเหี้ยมในทันที
กร๊อบ…
เลื่อยไฟฟ้าที่แหลมคมฟันลงบนศีรษะของมนุษย์โคลนในทันที
ฉัวะ ๆ!
แทบจะในชั่วพริบตา ทั้งศีรษะก็ถูกเลื่อยไฟฟ้าหั่นจนเศษเล็กเศษน้อย
เหลือเพียงศพไร้หัวของมนุษย์โคลนที่ยังยืนทื่อ ๆ อยู่ที่เดิม
ถังเฉาผลักเบา ๆ ก็ร่วงลงไปดังตุ้บ
สังหารมนุษย์โคลนเสร็จถังเฉาก็หันกลับมาทันที มองไปยังหลินชิงเสว่กับหลินจ้าวหยูนที่ตกใจกลัวจนเอ๋อไปแล้ว ความไร้ความรู้สึกบนใบหน้าค่อย ๆ หายไป เอ่ยถามขึ้นว่า “พวกคุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”
“ไม่… ไม่เป็นไรค่ะ…”
หลินชิงเสว่พยักหน้าอย่างอกสั่นขวัญแขวน ยังนับว่าสามารถพูดได้ แต่ว่าหลินจ้าวหยูนไม่ไหวแล้ว สายตาไร้จิตวิญญาณ สายตาไม่โฟกัส
เป็นครั้งแรกที่เธอมองเห็นเลื่อยไฟฟ้าชูขึ้นมาทางพวกเธอ แล้วก็เป็นครั้งแรกที่มองเห็นศีรษะของคนถูกหั่นจนเป็นชิ้นละเอียด นี่ทำให้เธอยากที่จะยอมรับได้ในเวลาสั้น ๆ
“แหวะ!”
หลินจ้าวหยูนหันกลับไปอย่างรวดเร็ว อาเจียนออกมาอย่างหนัก
อาเจียนเสร็จถึงจะดีขึ้นมาบ้าง
ถังเฉามองหลินจ้าวหยูนที่อาเจียนอย่างเงียบ ๆ แล้วเอ่ยขึ้นอย่างสงบว่า “หลังจากที่ผมฆ่าคนครั้งแรกในสงครามก็อาเจียนไปสามชั่วโมงเต็ม ๆ ฝันร้ายติดต่อกันไปสามคืน”
หลินชิงเสว่มองดูอย่างเงียบ ๆ ใจลอยอยู่ในตอนนี้ ถ้าหากไม่ใช่ถังเฉา เธอกับหลินจ้าวหยูนในตอนนี้ก็ได้เป็นศพไปแล้ว
เป็นเขาที่ปกป้องตนเองมาโดยตลอด
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว หลินชิงเสว่ก็ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้อีกต่อไป ไม่พูดไม่จาอะไร เพียงแค่กอดถังเฉาเอาไว้
ถังเฉาเองก็กอดหลินชิงเสว่เบา ๆ ไม่ว่าใครได้เจอเรื่องแบบนี้ก็ต้องตกใจกลัว
“เอ่อ…”
ในตอนนี้ ด้านหลังก็มีเสียงเบา ๆ ดังขึ้นมา
ถังเฉาหันกลับไปมองวัยรุ่นสาวชาวญี่ปุ่นที่กระสับกระส่ายอยู่บ้าง
ชุดกิโมโนบนร่างกายของเธอเปลี่ยนเป็นสกปรกมอมแมม แต่ใบหน้ายังดูสวยสดงดงาม เพียบพร้อมไปด้วยความน่ารักและเชื่อฟังของผู้หญิงญี่ปุ่น
พอถูกถังเฉาจ้องมองอยู่พักหนึ่ง ใบหน้าเล็ก ๆ ของโอดะไอก็แดงก่ำขึ้นอย่างฉับพลัน โค้งเก้าสิบองศาให้กับถังเฉาก่อน “ขอบพระคุณที่คุณผู้ชายท่านนี้สละชีวิตช่วยชีวิต โอดะไอซาบซึ้งอย่างถึงที่สุด”
ถังเฉาโบกไม้โบกมือ ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ “เล็กน้อยแค่ยกมือเท่านั้น”
เล็กน้อยแค่ยกมือเท่านั้นจริง ๆ เดิมทีเขาอยากจะช่วยชีวิตเจียงไป๋เสว่ เพียงแต่ถือโอกาสได้ช่วยชีวิตสาวญี่ปุ่นคนนี้มาด้วยเท่านั้น
โอดะไอสบตากับถังเฉาครั้งหนึ่ง ทันใดนั้นแก้มก็แดงปลั่ง
“ศพนี้จะทำอย่างไร?”
หลินชิงเสว่เอ่ยถามขึ้น ตอนเช้าตรู่สวนสาธารณะนี้จะมีคนมากมายมาวิ่งออกกำลังกายในตอนเช้า จะต้องค้นพบศพของมนุษย์โคลนคนนี้แน่ พอถึงตอนนั้นจะต้องเกิดเรื่องดังอย่างไม่จำเป็นอย่างแน่นอน
ถังเฉาเงียบอยู่พักหนึ่ง พูดขึ้นมาสี่คำ “ทำลายหลักฐาน”
“ทำลายหลักฐาน?”
หลินชิงเสว่กับหลินจ้าวหยูนล้วนแต่เบิกตากว้าง
ดูจากระดับความเรียบง่ายของสี่คำที่ถังเฉาพูดออกมาแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำชั่วเช่นนี้
ให้หลินชิงเสว่กับหลินจ้าวหยูนพาเจียงไป๋เสว่ที่นอนหลับใหลจากไป ถังเฉาไปจากที่นี่เพียงคนเดียว ไปหาถุงขยะมาก่อน
ศพของมนุษย์โคลนนอนอยู่ที่นี่อย่างเงียบ ๆ ไม่มีข่าวคราวแม้แต่น้อย
ตอนที่ถังเฉาไปหาถุงขยะนั้นเอง ในป่าก็มีเสียงดังแซ่ด ๆ ที่นี่ก็มีบุคคลลึกลับที่สวมเสื้อคลุมสีดำเพิ่มขึ้นมาสามคน มองมนุษย์โคลนด้วยสายตาเย็นชา
ดูจากรูปร่างแล้ว รูปร่างคนที่อยู่ทั้งสองข้างค่อนข้างใหญ่…เป็นผู้ชาย และคนที่รูปร่างเล็กบางที่อยู่ตรงกลางเป็นผู้หญิง แม้ว่าจะสวมเสื้อคลุมตัวใหญ่ ก็ปิดบังส่วนเว้าส่วนโค้งเอาไว้ไม่ได้
“สุดท้ายก็ตาย…”
ผู้ชายที่อยู่ฝั่งซ้ายอุทานเบา ๆ ในคำพูดมีความจนปัญญา
“มนุษย์โคลนหมายเลข 10032 เป็นร่างทดลองร่างแรกที่ดำเนินการทดลองให้ออกไปข้างนอก อยู่มาได้นานขนาดนี้แล้วก็ถือว่าเก่งมากแล้ว”
เห็นได้ชัดว่าผู้ชายที่อยู่ขวามือมองโลกในแง่ดีเป็นอย่างมาก
นิ่งไปพักหนึ่ง เขาก็มองไปยังผู้หญิงที่หุ่นดีมาก ๆ ที่อยู่ตรงกลางพลางเอ่ยว่า “จำเป็นจะต้องปรับปรุงยีน คุณนาย ท่านคิดว่าอย่างไรครับ?”
คุณนายไม่ได้ตอบคำถามนี้ หัวเราะหึ ๆ พลางเอ่ยว่า “เทียบกับร่างโคลนแล้ว ฉันสนใจ ‘ตัวต้นแบบ’ นั่นมากกว่าเยอะเลย”
“ ‘ตัวต้นแบบ’ ?”
สองคนซ้ายขวาทยอยกันตกตะลึง เอ่ยว่า “ท่านหมายถึงคนที่ถูกหลี่เห้ามาแทนที่?”
“เขาหนีไม่พ้นเงื้อมมือของฉันหรอก”
ผู้หญิงหัวเราะคิก ๆ พลางเอ่ยขึ้น ชี้ไปที่ศพของมนุษย์โคลน “เก็บกลับไปเถอะ ยังมีวัตถุดิบที่ใช้ได้บ้าง”
“ครับ”
ผู้ชายสองคนแบกศพของมนุษย์โคลนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ประเดี๋ยวเดียวทั้งสามคนก็หายไปจากที่นี่ ทั้งหมดราวกับไม่เคยมาอย่างไรอย่างนั้น
รอจนถังเฉากลับมาที่นี่อีกครั้ง กลับพบกว่าศพได้หาไปแล้ว
ฟิ้ว…
ลมพัดแล้ว ความหนาวเป็นพิเศษ ยิ่งนำพาความรู้สึกแปลกประหลาดที่ทำให้ผู้คนรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงขึ้นมา
นึกไม่ถึงว่าศพจะหายไปด้วยตัวเอง?
ศพเดินเองไม่ได้ เช่นนั้นเหตุผลที่เหลือก็คือศพถูกเอาไปแล้ว
“เป็นพวกมัน…”
สายตาของถังเฉาเปลี่ยนเป็นลึกซึ้ง พูดพึมพำกับตัวเอง
ในเมื่อหว่างเหลี่ยงนำพาศพของมนุษย์โคลนไปแล้ว ถังเฉาก็ประหยัดแรงที่จะทำลายหลักฐาน กลับบ้านอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทางกลับไป สีหน้าของเขาเคร่งขรึมมาก กังวลเรื่องอนาคตมากกว่าเดิม
นั่นเป็นเพียงแค่ร่างโคลนของหลี่เห้า มองออกได้ว่ายังมีร่างทดลองที่เหมือน ๆ กันกับรหัส 10032 อีกมากมาย คนมากมายขนาดนี้ ถ้าหากในอนาคตเกิดสงครามขึ้นจริง ๆ จะต้องต้านได้อย่างไรกันนะ?
โดยไม่มีข้อสงสัยแม้แต่น้อย ในเมื่อเขานำทัพ เผชิญหน้ากับกองพลทหารที่ไร้คู่ต่อสู้เช่นนี้ ก็ไม่มีความมั่นใจที่จะรบชนะโดยสิ้นเชิง
ยังมีอีกจุดหนึ่ง หลี่เห้ายังอยู่ในมือของหว่างเหลี่ยง…
เรื่องราวยังไม่จบไปอีกนาน ในอนาคตทำได้เพียงมืดมนยิ่งกว่าเดิม
ถังเฉากลับมาอยู่ในบ้าน หลับไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความตายได้เฉียดผ่านไปอย่างใกล้ชิด หลินชิงเสว่จึงกอดถังเสี่ยวลี้แน่นมาก ๆ
เธอกลัวมากว่าจะเสียถังเฉาไป
เจียงไป๋เสว่ถูกจัดห้องพักไว้ในห้องพักแขกชั้นสอง เธอถูกฉีดยากล่อมประสาทเข้าไปมาก ถ้าหากไม่หลับไปหนึ่งวันหนึ่งคืนก็ไม่มีทางตื่นขึ้นมาแน่
เช้าตรู่วันต่อมา ถังเฉายังอยู่ท่ามกลางความฝัน ในระหว่างที่สะลึมสะลืออยู่นั้น ดวงตาโต ๆ ที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองตนเองอยู่
เขาลืมตาน้อย ๆ กลับพบกว่าตรงหน้าเตียงของตัวเองมีผู้หญิงสวยงามหยาดเยิ้มสวมกิโมโนคนหนึ่งยืนอยู่
ผู้หญิงคนนั้นกำลังมองตนเองอยู่ด้วยใบหน้าอ่อนโยน
ถังเฉาตกใจจนรีบร้อนได้สติมาไม่น้อย กลิ้งลุกขึ้นนั่งทันที จ้องมองโอดะไอที่ไม่รู้ว่าจ้องตัวเองมานานขนาดไหนแล้วอย่างระมัดระวัง “คุณ… คิดจะทำอะไร?”
“พี่ชาย คุณตื่นแล้ว?”
โอดะไอหรี่ตามองพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ร้องขึ้นมาอย่างน่ารัก