เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้หวังหรูเมิ่งทำได้เพียงจากไปด้วยความโกรธเคือง
“แกจำฉันไว้นะถังซานฉ่าย บัญชีนี้ฉันจะต้องมาเอาคืนแน่”
รอจนหลังจากที่หวังหรูเมิ่งจากไปแล้ว ถังซานฉ่ายเพียงแค่มองถังเฉาอย่างอึดอัดขัดเขิน
ถึงยามพลบค่ำแล้ว ในที่สุดตระกูลถังก็เก็บกวาดเวทีประลองฝีมือแล้วเรียบร้อย
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ถังซานฉ่ายเรียกถังเฉาเอาไว้แล้วพูดว่า “ถังเฉา คุณมากับผม ผมมีเรื่องจะปรึกษาคุณหน่อย”
จากนั้นถังเฉาก็ตามถังซานฉ่ายไปด้วยใบหน้าที่ไม่สามารถอธิบายได้ แต่ว่าในระหว่างทางที่ไปนั้น ถังเฉาก็คิดไปอยู่ครั้งหนึ่งว่าถังซานฉ่ายจะต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ตนเองตายตกไปแน่ ๆ จึงระมัดระวังตัวอยู่ตลอด
“นั่งเถอะ ถังเฉา ที่นี่มีพวกเราแค่สองคนเท่านั้นไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องหลบซ่อนเอาไว้แล้ว”
ถังเฉาตรวจสอบรอบ ๆ ศาลานี้อยู่พักหนึ่งว่ามีอาวุธลับอะไรอยู่ไหม หลังจากที่พบว่าไม่มีอะไรที่สำคัญแล้วจึงนั่งลง
“สำหรับเรื่องของคุณ ที่จริงแล้วผมเข้าใจดี ผมเพียงแค่ไม่ยินดีที่จะพูดอะไรมาก คุณเองก็รู้ว่าหลายปีมานี้ผมตามฆ่าคุณมาโดยตลอด”
ถังซานฉ่ายเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่หวาดหวั่นต่อสิ่งใด “จากเรื่องเมื่อครู่ ผมเองก็คิดดีแล้ว สำหรับเรื่องของพี่สาว ผมจะไม่เข้าไปสอดมืออย่างแน่นอน แต่ว่าเรื่องของพี่สาวเชื่อมโยงไปถึงการชี้ขาดของทั้งราชวงศ์ต้าเซี่ย นี่ไม่เกี่ยวกับการตัดสินใจของผมคนเดียว”
“พูดจากมุมมองที่แน่นอน ผมยังปกป้องพี่สาวทางอ้อม ไม่อย่างนั้นระหว่างที่ให้เธออยู่ที่ราชวงศ์ต้าเซี่ย คงไม่ใช่แค่เพียงแค่ถูกขังอยู่ในเขาเชลยง่าย ๆ แค่นั้นแน่”
หลังจากที่ถังเฉาฟังคำพูดที่ถังซานฉ่ายเล่ามาพักหนึ่งจนจบ ใบหน้าก็ตกตะลึง
ถึงแม้จะไม่ได้พูดจนชัดเจนแจ่มแจ้ง ทั้งคู่ก็รู้ถึงเป้าหมายของอีกฝ่าย แต่ถังเฉากลับไม่เคยคิดเลยว่าถังซานฉ่ายจะพูดคำพูดเช่นนี้ออกมาได้
“ผมจะไม่ส่งจำนวนคนของตระกูลถังที่ประลองฝีมือให้กับถังยวนก็ได้ แต่เป็นให้คุณ…ถังเฉา เพียงแต่ว่าโอกาสนี้คุณจะต้องฉวยเอาไว้เอง ก็ไม่แน่นะว่าจะสามารถเอาชนะการแข่งขันได้ไหม”
“เมื่อกี้หวางหวู่วิปริตขนาดไหนคุณเองก็ได้เห็นแล้ว และในตระกูลแปดของราชวงศ์ต้าเซี่ย เขาเป็นเพียงแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น”
ถังซานฉ่ายไม่ได้พูดโม้ แต่เขายังจำได้ว่าศักยภาพของผู้ถูกคัดเลือกของราชวงศ์ต้าเซี่ยที่เข้าร่วมการแข่งขันในการแข่งขันสมาคมบูโดเมื่อคราวที่แล้วนั้นน่าหวาดผวามากเพียงใด?
และเป็นผู้นำของตระกูลถัง เรื่องที่รู้มาเป็นเรื่องที่ทุก ๆ คนก็ไม่อาจคาดคิดได้
ต่อให้ถังซานฉ่ายมีความกล้ามากกว่านี้เป็นร้อยเท่า แต่ถ้าหากให้ถังซานฉ่ายไปเข้าร่วมการประลองฝีมือในปีนั้นครั้งหนึ่ง ถังซานฉ่ายไม่มีทางไปแน่ ตอนนี้ที่ถังซานฉ่ายสามารถรับช่วงต่อตำแหน่งผู้นำของตระกูลถังได้ ก็เพราะว่าโชคดีได้อำนาจมาทำแทนคนอื่นก็เท่านั้น
พอคำนี้ลั่นออกมา สายตาของถังเฉาก็เปลี่ยนไปมั่นคงขึ้นมา เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อถังซานฉ่ายที่อยู่ตรงหน้าเล็กน้อย
“ขอบคุณมากนะ ผู้นำถัง มีการสนับสนุนของคุณในตระกูลถัง ผมเองก็เดินทางอ้อมได้น้อยลง เพียงแต่ฐานะของผมก็ยังคงไม่สามารถจะเปิดเผยได้ ถ้าหากว่ามีข่าวคราวรั่วไหลออกไป แม่ของผมก็จะเป็นอันตรายแล้ว”
ถังซานฉ่ายพยักหน้า เอ่ยเสียงเบาว่า
“คุณวางใจเถอะ เรื่องนี้ผมจะปิดเป็นความลับแน่”
จากนั้นถังเฉาก็ลุกขึ้นยืน ค่อย ๆ จากไปอย่างช้า ๆ และก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ตอนที่ถังซานฉ่ายกำลังมองไปที่ถังเฉาก็รู้สึกถึงได้ถึงความยิ่งใหญ่อย่างราชาอย่างคาดไม่ถึง
“อนาคตของหมอนี่ไม่จำกัด ดูเหมือนว่าอนาคตของครอบครัวของเขาจะอยู่ในการควบคุมของเขาแล้ว เจ้าคนจับจดถังยวนนั่น… ถึงฉันสอนไปอย่างไรก็ไม่เป็นเสียที”
ที่จริงแล้วถ้าหากถังยวนเรียนรู้ได้อย่างคล่องแคล่วอย่างถังซานเว่ยก็คงไม่ถึงขั้นที่ถูกหวางหวู่บีบจนกลายเป็นอย่างนั้น
และทำไมถังซานฉ่ายจะไม่รู้ ถังยวนไม่ได้สำนึกรู้โดยสิ้นเชิง ให้เขามาเป็นทายาทของตระกูลถังก็เพียงเพราะเหตุผลอื่น ๆ บางประการเท่านั้น
ครั้งนี้ของถังเฉาในที่สุดก็สามารถที่จะเดินอย่างสง่าผ่าเผยอยู่ในครอบครัวของตระกูลถังได้
เพราะว่าเรื่องที่งานประลองฝีมือในวันนี้ ทุกคนในครอบครัวตระกูลถังล้วนรู้ว่าเป็นความพยายามในการกอบกู้สถานการณ์ที่เลวร้ายให้คืนสู่สภาพปกติของถังเฉาคนเดียว แต่ศิษย์พี่ศิษย์น้องคนอื่น ๆ กลับรีบหนีเอาชีวิตรอดกันท่ามกลางความสับสนวุ่นวายเท่านั้นเอง
“อรุณสวัสดิ์ทายาทถัง”
คนที่หัวเราะเยาะถังเฉาอยู่เมื่อวานคนหนึ่ง ในวันนี้กลับมีท่าทีพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ยอมรับถังเฉาทายาทคนนี้
แต่ถังเฉายังไม่รู้ตำแหน่งนี้ของตัวเอง มองศิษย์น้องที่หัวเราะเหอะ ๆ คนนี้ด้วยใบหน้าหาคำตอบไม่ได้
“ทายาทถัง? ผมเปลี่ยนเป็นทายาทตั้งแต่เมื่อไหร่? ไม่ใช่ถังยวนพี่ชายของผมหรอกหรือที่เป็นทายาทน่ะ?”
ว่าแล้วเจ้าหนุ่มคนนั้นก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มอึดอัดขัดเขิน
“ทายาทถัง คุณอย่ามาล้อเล่นกับผมอีกเลย เมื่อก่อนต้องโทษที่ผมมีดวงตาแต่หามีแววไม่ มองศักยภาพของคุณไม่ออก ต้องขอให้คุณอภัยให้ด้วย”
“ผู้นำถัง ตอนที่ประชุมเมื่อเช้าก็ได้ประกาศแล้วว่าคุณก็คือทายาทของตระกูลถัง ตอนนี้ทั้งภายนอกและภายในตระกูลถังมีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าคุณเป็นผู้นำคนต่อไปน่ะ”
ถังเฉามีสีหน้ายากจะอธิบาย เพราะว่าแต่ไหนแต่ไรตนเองก็ไม่ได้ไปงานนั้น และก็ไม่รู้ว่าถังซานฉ่ายตัดสินใจอย่างไร จึงเอ่ยถามด้วยใบหน้าไม่สามารถจะอธิบายได้
“ถังซานฉ่ายตัดสินใจแล้วจริง ๆ? คุณไม่ได้กำลังโกหกผมอยู่หรอกนะ?”
ในที่สุดตอนนี้เจ้าหนุ่มคนนั้นจึงได้เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เดิมที ‘ทายาทถัง’ ที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ไม่ได้ไปเข้าประชุม
“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง ทายาทถัง แย่จริง ๆ เลย ศิษย์น้องไม่รู้ว่าคุณไม่ได้เข้าประชุม แต่ในเมื่อคุณไม่ได้ไปเข้าร่วมงานประชุม ผมก็จะบอกคุณก็ได้ว่าที่จริงแล้วตอนเช้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“เพราะว่าในตอนที่ฝ่ายในของตระกูลถังเกิดความวุ่นวายศิษย์พี่ใหญ่ถังยวนและถังโจ่ทั้งสองไม่ได้เผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ แต่เป็นคุณที่พยายามกอบกู้สถานการณ์ที่เลวร้ายให้กลับมาปกติ ดังนั้นผู้นำถังจึงยกเลิกตำแหน่งทายาทของศิษย์พี่ใหญ่ถังยวนไปเมื่อตอนเช้า เปลี่ยนให้คุณมาทำแทน”
“ตอนนี้มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าคุณถังเชียวที่เป็นทายาทของตระกูลถังที่แท้จริง”
หลังจากที่ถังเฉาได้ยินข่าวนี้ ยังตอบสนองไม่ได้อยู่บ้าง และในตอนนี้เอง ถังยวนกลับเดินมาจากด้านหน้าของถังเฉาอย่างบังเอิญ มองดูถังเฉา
“มึงมันได้สันดานชั่วช้าหน้าไม่อาย นึกไม่ถึงว่าจะอาศัยกลอุบายหน้าด้าน ๆ มาแย่งชิงตำแหน่งทายาทของตระกูลถังของกูไป”
เดิมทีคนทั้งหลายมองถังเฉาอยู่โดยตลอด แต่ในตอนนี้ถังยวนเดินเข้ามา ทุกคนก็นึกถึงเรื่องเมื่อวานขึ้นมาได้ พากันตั้งข้อสังเกตขึ้นมา
และถังยวนระงับความโกรธไม่ได้ จึงใส่ร้ายป้ายสีว่าถังเฉาใช้วิธีการต่ำช้า
เพียงแค่ประโยคนี้กลับทำให้ถังเฉาหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ไหว
“พี่ชายของผม เมื่อวานคุณคงโดนทำร้ายจนอะไหล่หลุด วันนี้คุณถึงได้พูดจากำเริบเสิบสานเช่นนี้ได้ คุณไม่คิดว่ามันน่าตลกหรือ?”
“แม้ว่าคุณทุจริต คุณชนะก็ยังโอเค ถูกทำร้ายจนอะไหล่หลุดออกมา ยังดีที่คนที่ไม่ใช่ตระกูลถังไม่ได้เห็นฉากนั้นด้วย ไม่อย่างนั้นคุณจะทำให้พวกเราตระกูลถังอับอายตอนอยู่ข้างนอกมากแค่ไหนกัน”
ประโยคเดียวของถังเฉาทำให้ทั้งใบหน้าของถังยวนแดงขึ้นมาในทันที
ทันใดนั้นถังยวนก็คิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้
“มึงอย่าอวดดีเกินไปนักเลย มึงอย่าลืมนะว่ากูรู้เรื่องของมึงดี”
ถังยวนคิดเอาเองอย่างมั่นใจมาก ๆ ว่าถังเฉาจะต้องถูกตนเองคุกคามเพราะเรื่องมารดาของตนเอง