พอฟังถึงตรงนี้ ถังเฉาก็หวนนึกถึงตอนที่ตัวเองแข่งขันต่อสู้ในแต่ละครั้งขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ ล้วนแต่มีตาเฒ่าน้อยที่จับตาคอยสังเกตอยู่ไม่ไกลทุกครั้ง
“เขาเหรอ?!”
ตอนแรกนึกว่าเขาแค่สนใจในตัวเองเท่านั้น แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเขาคิดที่จะฆ่าตัวเองมาโดยตลอด
“ขนาดผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาจะฆ่าคุณ แต่ดูเหมือนว่าคนคนนี้ถ้ายังไม่ได้บรรลุเป้าหมายก็จะไม่ยอมวางมือไปง่ายๆแน่ๆ ดังนั้นช่วงเวลานี้คุณระมัดระวังความปลอดภัยสักหน่อยจะดีกว่านะ อย่าถูกเขาจับไต๋ได้”
ยิ่งเฉินเหมิ่งเอาใจใส่ถังเฉามากขึ้นเท่าไร ถังเฉาก็ยิ่งสงสัยว่าทำไมนายพลเฉินถึงต้องปกป้องตัวเองมากเท่านั้น
จากนั้นก็ใช้มือถือส่งข้อความไปหาคนคนหนึ่ง
ไม่ถึงสิบนาที
บนมือถือก็มีข้อมูลสถานภาพของคนคนหนึ่งปรากฏขึ้นมา เป็นของนายเฉินเหมิ่งนั่นเอง
พอเห็นข้อมูลแล้ว ถังเฉาก็สีหน้าตกใจ“คิดไม่ถึงว่าเมื่อก่อนนายพลเฉินจะมีอดีตแบบนี้”
เนื้อหาได้แสดงไว้ว่า นายพลเฉินไม่ใช่คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในราชวงศ์ต้าเซี่ยตั้งแต่เด็ก แต่เป็นผู้ลี้ภัยที่หนีมาทางฝั่งนี้
เผลอเข้ามาในราชวงศ์ต้าเซี่ยอยางไม่ทันได้ระวังตัว
ในตอนนั้น ราชวงศ์ต้าเซี่ยมีคำสั่งห้ามคนนอกเข้ามาเรียบร้อยแล้ว
แต่พอเห็นผู้ลี้ภัยที่มากมายขนาดนี้พลั่งพลูกันเข้ามา ราชวงศ์ต้าเซี่ยก็จำเป็นต้องรับเอาไว้ชั่วคราว
นายพลในตอนนั้นรับผู้ลี้ภัยจำนวนหนึ่งเข้ามา หนึ่งในนั้นก็มีเฉินเหมิ่ง
แต่ไม่ว่ายังไงความจริงก็ปิดบังไม่ได้ เรื่องที่รับผู้ลี้ภัย ไม่นานก็ถูกประกาศต่อสาธารณะ
คืนวันเกิดเหตุ
นายพลในตอนนั้นได้มอบเงินค่าเดินทางให้กับผู้ลี้ภัยเหล่านั้น
“พวกนายรีบไปซะ ฉันให้เงินค่าเดินทางกับพวกนายไปจำนวนหนึ่ง ให้พวกนายหนีไป ไม่ต้องกลับมาอีก ที่นี่อันตรายเกินไป ไม่เหมาะที่จะให้พวกนายหลบเลี่ยงภัยพิบัติ”
ท่านนายพลคนก่อนรู้ว่าราชวงศ์ต้าเซี่ยมีความคารพเชิดชูต่อพลังการต่อสู้ ถ้าไม่มีพลังการต่อสู้ล่ะก็ ก็จะถูกเหยียบย่ำกดขี่ข่มเหงอย่างทารุณ
เห็นได้ชัดว่าคนในตระกูลของเฉินเหมิ่งก็เจอกับสถานการณ์แบบนี้ เห็นกับตาตัวเองว่าแม่กับพ่อของตัวเองถูกคนของราชวงศ์ต้าเซี่ยกลั่นแกล้งดูถูกจนถึงแก่ชีวิต
เฉินเหมิ่งตอนที่วัยรุ่นไม่ได้พูดอะไรมากมาย แค่จำทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ในหัวอย่างเงียบๆ
เขาไปหาท่านนายพลแล้วก็คุกเข่าลงตรงหน้าต่อท่านนายพล
“ขอให้ท่านนายพลสอนบูโดผมด้วยครับ!ผมต้องการแก้แค้น!”
ในฐานะที่เป็นท่านนายพลที่ฆ่าคนมามากมาย เขาเห็นความเคียดแค้นที่มากมายมหาศาลจากตัวของเฉินเหมิ่ง แล้วก็มองเห็นพรสวรรค์ที่ไม่มีใครเทียบได้
ในที่สุด เขาก็ยอมรับและช่วยเหลือเฉินเหมิ่ง
ตั้งแต่ตอนนี้ เฉินเหมิ่งก็อยู่กับท่านนายพลมาโดยตลอด
จนกระทั่งวันหนึ่ง นายท่านพลคนก่อนบอกว่าตัวเองจะจากไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง จำเป็นต้องให้เฉินเหมิ่งมารับตำแหน่งท่านนายพลต่อ
เฉินเหมิ่งก็รับมาด้วยความยินดี แต่กลับคิดไม่ถึงว่าการมารับช่วงต่อให้ครั้งนี้จะนานมากขนาดนี้ จนถึงตอนนี้ท่านนายพลก็ยังไม่มีข่าวคราวใดๆ
ต่อให้เฉินเหมิ่งจะตามหาเขาเรื่อยมาตลอดช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่กลับไม่มีวี่แววเลยแม้แต่นิดเดียว
พอเขาเจอถังเฉา เขาเหมือนเห็นตัวเองในตอนนั้น ก็เลยอยากจะปกป้อง
ถังเฉาที่ได้รับรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ก็เข้าใจเหตุผลแล้วว่าทำไมนายพลเฉินถึงต้องช่วยเหลือตัวเอง ในใจก็รู้สึกซาบซึ้งสุดๆ
เฉินเหมิ่งหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากอ้อมแขนของเขา ยื่นให้กับถังเฉา“เงินพวกนี้ คุณรับไปสิ”
“หนีไป หนีไปยิ่งไกลยิ่งดี ออกไปจากราชวงศ์ต้าเซี่ยซะ แบบนี้พวกมันก็ฆ่าคุณไม่ได้แล้ว”
ถังเฉามองเงินพวกนี้อย่างนิ่งเงียบ แต่กลับไม่ได้รับไว้
เขาส่ายหัว“นายพลเฉิน ผมไม่ได้กะที่จะหนีออกจากราชวงศ์ต้าเซี่ย แต่เตรียมที่จะอยู่ที่นี่ ผมอยากดูว่าเขาจะลงมือทำร้ายได้ถึงระดับไหน”
หลังจากที่ถังเฉาพูดจบแล้ว แววตาของเขาก็อึ้งตะลึงไป“คุณบ้าไปแล้วเหรอ?”
ในตอนนี้เอง เขาเริ่มเข้าใจคนระดับสูงของราชวงศ์แล้วว่าทำไมถึงพยายามทุกวิถีทางที่จะฆ่าถังเฉา
เพราะว่าที่ตัวของเขา เฉินเหมิ่งไม่ได้รู้สึกถึงแค่พลังอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีนิสัยใจคออีกด้วย!
“มิน่าล่ะตระกูลถึงได้กลัวเขาขนาดนี้ ที่แท้ก็เพราะเหตุนี้นี่เอง!แต่ผมเชื่อว่าราชวงศ์ไม่มีทางลงมือกับถังเฉาแค่เพราะเรื่องนี้เรื่องเดียวแน่นอน เพราะว่ามีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่า”
“เด็กคนนี้ จะกลายเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถอย่างมากในภายภาคหน้า”
พอคิดถึงตรงนี้ เฉินเหมิ่งก็ไม่รั้งไว้อีกแล้ว“ในเมื่อคุณอยากที่จะอยู่ต่อ ถ้าอย่างนั้นก็ได้”
“ผมก็อยู่ที่ตระกูลถังของพวกคุณสักระยะหนึ่งแล้วกัน เพื่อรับประกันความปลอดภัยของคุณ ถึงตอนนั้นพอคุณพ้นจากวิกฤตแล้ว ผมค่อยจากไป”
บุคคลระดับสูงของราชวงศ์ ปกติแล้วจะว่าง มีเวลามากๆ ในเมื่อถังเฉาคิดที่จะอยู่ที่นี่ต่อ ถ้าอย่างนั้นตัวเองก็อยู่กับถังเฉาที่นี่สักระยะเวลาหนึ่งด้วยเหมือนกัน ถึงยังไงสุดท้ายแล้วก็ต้องหยิบยืมพลังจากถังเฉา มาทำให้เรื่องที่ตัวเองต้องการสำเร็จ
แต่หลังจากที่ถังเฉาได้ยินคำพูดนี้ของนายพลเฉินแล้ว ก็ไม่ได้รั้งไว้ แต่พูดขึ้นด้วยท่าทางที่ดีใจมากๆ
“เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ในเมื่อนายพลเฉินอยากที่จะอยู่ที่นี่สักระยะหนึ่ง ถ้าอย่างนั้นผมก็ต้อนรับนายพลเฉินครับ”
คนตระกูลถังที่อยู่ข้างๆมองถังเฉาด้วยสีหน้าอึ้งตะลึง ไม่รู้ว่าถังเฉากำลังคิดอะไรอยู่
นี่มันชักศึกเข้าบ้านชัดๆ แม้ว่าสถานภาพของถังเฉาจะถูกเปิดโปงแล้ว แต่ทุกคนก็ยังไม่ได้มาพูดกันตรงๆซึ่งๆหน้า
ถ้าเกิดถังเฉาเผลอไปยุแหย่คนระดับสูงเข้าโดยไม่ทันได้ระวัง ถึงตอนนั้นถ้านายพลเฉินคิดที่จะจับถังเฉาล่ะก็ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆแล้ว
แต่แม้ว่าจะเป็นแบบนี้ ถังเฉาก็ยังให้นายพลเฉินอยู่ที่นี่
“ว่าไงนะ เด็กนั่นคิดที่จะอยู่ที่นี่อย่างนั้นเหรอ? ไม่มีทางหรอกมั้ง? ฉันไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม”
หลังจากที่ถังเหยียนได้ยินแล้วก็รู้สึกว่าเหลือเชื่อมากๆ
ถึงยังไงฐานะที่เป็นถึงท่านนายพลของราชวงศ์แห่งราชวงศ์ต้าเซี่ย จะมาอยู่ในตระกูลนักโทษอาชญากรได้ยังไง?
“นายตรวจสอบดีแล้วยัง? ว่าท่านนายพลคนนี้คิดที่จะทำอะไร คิดที่จะอยากได้อะไรกันแน่?”
หลังจากที่ลูกน้องได้ฟังคำพูดของถังเหยียนแล้ว ก็สีหน้าหมดหนทาง
“เอ่ออันนี้…..อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ผู้อาวุโสถัง”
“ถึงยังไงเรื่องที่ท่านนายพลควรจะรู้ ตัวเองก็รู้ก่อนแล้ว เขามีอำนาจอิทธิพลที่สามารถจัดการกับคดีได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐาน แถมมีพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ด้วย ทำไมต้องมาแอบซุ่มซ่อนอยู่ที่ตระกูลถังของพวกเราด้วย มาหาหลักฐานอย่างนั้นเหรอ?”
หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของคนตระกูลถังคนนี้แล้ว ถังเหยียนก็มึนงงสุดๆ
หลี่เล่ออยู่บนยอดไม้บริเวณข้างๆ หลังจากที่เห็นภาพตรงหน้านี้แล้ว ก็รู้สึกปวดหัวสุดๆ
“ถ้าคนที่น่ารำคาญคนนี้อาศัยอยู่ที่นี่ด้วย ต่อไปก็คงจะยุ่งยากลำบากไม่น้อยแน่ๆ……”