“ไม่เป็นไร ผมแค่หวังว่าน้องสาวของคุณจะไม่เรียนอะไรที่ไม่ดีมา”
นายพลเฉินหัวเราะ
“คุณก็รู้ว่าช่วงนี้ราชวงศ์ต้าเซี่ย ถึงแม้ว่าภายนอกจะดูโอเค แต่จริงๆแล้วมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่รู้ว่าได้เกิดขึ้น และตอนนี้ผมกำลังสืบสวนเรื่องนั้นอยู่”
ไม่ใช่ว่านายพลเฉินอยากรู้เกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวของเย่โฮ่เอ๋อ แต่ในความคิดของเขา
นอกเหนือจากราชวงศ์ต้าเซี่ยแล้ว ยังมีสถานที่หนึ่งที่สามารถฝึกฝนนักยอดฝีมือจำนวนมากได้ นั่นคือหว่างเหลี่ยง
หลังจากได้ยินคำพูดของนายพล เย่ไป๋ก็ดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นไม่นาน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว และขาของเขาก็แข็งทื่อ
“น้องเย่ ผมว่าการแสดงของคุณค่อนข้างผิดปกติ หรือคุณอาจจะรู้อะไรบางอย่าง?”
เฉินเหมิ่งถาม “ถ้าเกิดเรื่องไม่ดีกับน้องสาวคุณ คุณต้องรายงานให้ผมทราบทันทีนะ”
นายพลพูดแบบนี้ กลับทำให้เย่ไป๋ยิ่งตื่นตระหนกมากยิ่งขึ้น ใบไม้รอบๆปะทะกัน แต่พวกมันไม่สามารถปกปิดความตื่นตระหนกของเย่ไป๋ได้
หากมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา เย่ไป๋ไม่รู้สึกว่าเป็นอะไรเลย
แต่คนที่เจอปัญหาในตอนนี้คือน้องสาวของเขา ถ้ามันเป็นเหมือนที่นายพลพูด ถึงตอนนั้นราชวงศ์มาหาถึงบ้าน แล้วได้ติดคุกแปดปีสิบปีเหมือนตนเองก็แย่แล้ว
“ผมจะไปตรวจสอบทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวของผมในช่วงเวลานี้ หากเกิดอะไรขึ้น ผมจะแจ้งให้คุณทราบอย่างแน่นอน!”
เย่ไป๋พูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ “ผมแค่หวังว่าน้องสาวของผมจะไม่ถูกลงโทษ เพราะเธอยังเด็ก ผมไม่ต้องการให้เธอใช้ชีวิตครึ่งแรกของเธออยู่ในห้องขังเหมือนผม ”
หลังจากฟังจบ นายพลก็พยักหน้าเบาๆและพูดกับเย่ไป๋
“อย่ากังวล ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ผมจะไม่ทำอะไรตระกูลเย่ของคุณแน่นอน เพราะยังไงคุณก็เป็นเพื่อนที่ดีของถังเฉาด้วย เป็นคนกันเอง ผมจะไม่ทำให้คุณลำบากใจ”
เย่ไป๋ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่สิ่งที่เขาไม่รู้คือ เฉินเหมิ่งกำลังคิดจะทำอะไรในขณะนี้
เพราะในฐานะนายพล ไม่สามารถดีกับคนหนึ่งคนเสมอไป
เกี่ยวกับเรื่องนั้นของถังเฉา ได้ทำให้นายพลเฉินรู้สึกพ่ายแพ้แล้ว ถ้าเขายังคงต่อสู้แบบนี้และเผชิญหน้ากับชายชราตัวน้อยพวกเขา เขาคงจะไม่ได้ผลดี
แต่ถ้าต้องการที่จะตรวจสอบบางสิ่งบางอย่าง ต้องให้ประโยชน์เล็กน้อยแก่เย่ไป๋
ในเวลาเดียวกัน เย่โฮ่เอ๋อกำลังฝึกวิชาบูโด และบูโดที่เธอกำลังฝึกอยู่ไม่ใช่ของตระกูลเย่
เย่ไป๋กลับไปที่บ้านของตระกูลเย่และรีบหยุดเย่โฮ่เอ๋อ
“น้องสาว อย่าซ้อมอีกเลย”
“เร็วเข้า บอกผมทีว่าบูโดของคุณเรียนมาจากไหน? มีคนกำลังสืบสวนเรื่องนี้อยู่ หากคุณตกเป็นเป้าของคนอื่น พี่ก็ไม่สามารถช่วยคุณได้แล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่โฮ่เอ๋อก็ดูประหลาดใจเล็กน้อย
“พี่ชาย คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร?ฉันเพียงแค่ฝึกวิชาการต่อสู้แบบสบายๆไม่ใช่เหรอ?ทำไมสิ่งนี้ถึงเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ต้าเซี่ยด้วย? หรือเราฝึกฝนการต่อสู้ในราชวงศ์ต้าเซี่ยไม่ได้งั้นเหรอ?”
เย่โฮ่เอ๋อไม่ได้ตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหา แต่เย่ไป๋ตื่นตระหนกอย่างมาก
“น้องสาว คุณต้องรู้ว่าวิชาการต่อสู้บางประเภทไม่สามารถฝึกฝนได้ในราชวงศ์ต้าเซี่ย หากคุณฝึกฝนวิชาการต่อสู้แบบลัทธิบูชา ราชวงศ์ต้าเซี่ยจะตรวจสอบเรื่องนี้
ทันใดนั้น เย่โฮ่เอ๋อดูเหมือนจะคิดได้อะไรบางอย่าง
“ต้องทำอย่างไร เขาบอกว่าห้ามบอกใคร ฉันฝึกวิชาการต่อสู้กับเขา ถ้าฉันบอกพี่ชายของฉัน มันจะไม่เป็นการผิดสัญญาเหรอ?”
เธอคิดในใจว่า “ตอนนี้ฉันสามารถมีวิชาการต่อสู้แบบนี้ได้ มันเป็นเพราะเขา ฉันจะหักหลังเขาจริงๆเหรอ?”
โฮ่เอ๋อพึมพำในใจ คิดถึงสิ่งที่ได้สัญญากับคนๆนั้นไว้ และเธอลังเลอย่างมาก
ในฐานะพี่ชาย จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าน้องสาวของตนเองคิดอะไรอยู่
ทันใดนั้น การแสดงออกของเย่ไป๋ก็ยิ่งกังวลมากขึ้น
“น้องสาว นี่ไม่ใช่เรื่องตลก ผมบอกคุณนะ นายพลเพิ่งพบเบาะแสบางอย่าง หากคุณไม่ยอมรับ เขาอาจจะมาตามเรื่อง”
“ไม่ใช่ว่าไม่ให้คุณฝึกวิชาการต่อสู้ แต่ถ้าวิชาการต่อสู้ที่คุณฝึกฝนนั้นเป็นของลัทธิบูชา มันเกี่ยวข้องกับการอยู่รอดของราชวงศ์ต้าเซี่ย!”
“คุณลืมสิ่งหนึ่งที่พ่อแม่ของเราบอกเราก่อนหน้านี้แล้วหรือ?”
หลังจากที่เย่ไป๋กล่าวเช่นนี้ ความกลัวก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเย่โฮ่เอ๋อ
“คุณกำลังพูดถึงลัทธิบูชาที่บุกรุกราชวงศ์ต้าเซี่ยของเราหรือไม่?”
เกือบ 20 ปีที่แล้ว เมื่อก่อนราชวงศ์ต้าเซี่ยยังไม่มีวิชาการต่อสู้ที่มีความหลากหลายเช่นนี้ ทั้งราชวงศ์ต้าเซี่ยได้ฝึกฝนบูโดที่คล้ายคลึงกัน
เขาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ที่คล้ายคลึงกันตลอดราชวงศ์ต้าเซีย
น่าเสียดายที่วันหนึ่ง การเข้ามาของผู้หญิงคนหนึ่งได้ทำพังทั้งหมด
แม้ว่าวิชาการต่อสู้ที่หลากหลายจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามีสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่ในนั้น ทุกอย่างก็จะไม่เหมือนเดิม
เมื่อผู้หญิงคนนี้มาถึงราชวงศ์ต้าเซี่ย เกือบจะเหมือนกับสถานการณ์ปัจจุบันของเย่โฮ่เอ๋อ ถือว่าเธอเป็นนักรบหญิงที่โดดเด่น
หลังจากถูกค้นพบโดยนายพล เขาเสนอให้ผู้หญิงคนนี้เผยแพร่วิชาการต่อสู้ของเธอไปทุกมุมของราชวงศ์ต้าเซี่ย เพื่อให้วิชาการต่อสู้ของราชวงศ์ต้าเซี่ยสามารถได้รับการพัฒนา
อย่างไรก็ตาม การรักษาความสมดุลของราชวงศ์ต้าเซี่ยที่ มีการเปลี่ยนแปลงที่สั่นสะเทือนโลกเนื่องจากวิชาการต่อสู้แบบใหม่นี้
หลังจากที่ผู้หญิงคนนี้ยอมมอบวิชาการต่อสู้ทั้งหมดของเธอออกมา วิชาการต่อสู้ในราชวงศ์ต้าเซี่ยก็พัฒนาขึ้นอย่างมาก แต่เธอก็ได้รับผลกระทบจากวิชาจิตอย่างมาก
วิธีการทางจิตนี้ส่วนใหญ่เป็นภาษาต่อต้านสังคม แม้ว่าจะสามารถใช้สำหรับการฝึกฝนบูโดได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป สติสัมปชัญญะแบบนี้จะเข้าสู่หัวใจของทุกคนอย่างละเอียด
หลังจากได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของ เย่โฮ่เอ๋อก็ค่อยๆสั่นคลอน
