บทที่ 202 ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป
“คนที่ทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครอง สลิงถ่ายหนัง ในวันนั้นหาเจอที่หลิ่วโจว หลี่หยางที่ทำงานอยู่ฝ่ายขายได้นำคนไปส่งสถานีตำรวจเพื่อดำเนินการลงบันทึกประจำวัน เป็นดั่งที่ประธานลั่วคาดการณ์ไว้ไม่มีผิด ช่างซ่อมบำรุงรับเงินแล้วก็จากไป สถานการณ์ในวันนั้น สลิงถ่ายหนังทำอะไรลงไปโดยไม่ได้ตั้งใจบ้างเขาก็ไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่”
ในห้องพักผู้ป่วยของโรงพยาบาล หลี่สู้กำลัยรายงานเรื่องที่เฟิงเฉินกำชับ
“บันทึกการโอนเงินล่ะ?ใครให้เงินเขา?”ลั่วมั่นไล่ถาม
หลี่สู้ขมวดคิ้ว
“ใช้เงินสดทั้งหมด ช่างซ่อมบำรุงบอกว่าก่อนเกิดเรื่องหนึ่งวัน มีชายคนหนึ่งไปหาเขาที่บ้าน ให้เขาหาเวลาไปจากละแวกที่ใกล้กับสลิงถ่ายหนังส่วนสาเหตุเพราะอะไรนั้นไม่ได้พูดถึง”
“ให้ไปจากละแวกสลิงถ่ายหนัง” เล่อสวี้ที่อยู่ข้างๆเตียงคนป่วยหัวเราะอย่างเย็นชาครู่หนึ่ง “มีคนๆหนึ่งที่มาคอยทำหน้าที่คุ้มครองอาจารย์พ่อของสลิงถ่ายหนังโดยเฉพาะ เพื่อให้เขาไปจากละแวกใกล้เคียงของสลิงถ่ายหนัง คนที่ให้เงินเขาต้องการจะทำอะไร เขายังกล้าบอกว่าไม่แน่ชัดอีกเหรอ?”
แน่นอนว่าไม่แน่ชัด คนตายเพราะทรัพย์ ดังนั้นจึงเลือกที่จะปิดปาก
ลั่วมั่นเห็นด้วยพลางพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึมว่า
“เรื่องๆนี้ก็คงต้องโทษช่างซ่อมบำรุงแล้วล่ะ ที่ไม่ตรวจสอบให้ดี สุดท้ายถึงได้เกิดเรื่องที่ไม่จบไม่สิ้นนี้ได้”
“ไม่ว่าตำรวจเตรียมวางแผนจะจัดการอย่างไร ผมไม่สนใจ แต่สำหรับผม คนที่ยืมมือคนอื่นฆ่าคนจะต้องชดใช้อย่างสาสม”
สายตาของเฟิงเฉินมองไปยังบาดแผลที่แขนของลั่วมั่น สายตาขรึมดั่งน้ำลึก
วันต่อมา เรื่องที่ลั่วมั่นได้รับบาดเจ็บก็แพร่ไปทั่วอินเตอร์เน็ตราวกับ “น้ำลดตอผุด”
เนื่องจากลั่วมั่นฟ้องร้องสื่อทางอินเตอร์เน็ตที่หมิ่นประมาทเธอ ดังนั้นเรื่องๆนี้จึงได้รับความสนใจจากตำรวจไม่น้อย สอบถามผู้ที่รับผิดชอบสลิงถ่ายหนังในวันนั้น รวมไปถึงซักถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ของวันนั้นทั้งหมด จนสามารถสรุปคดีได้อย่างสมบูรณ์
สาเหตุไม่ได้มาจากทฤษฎีสมคบคิดที่ลือกันในเว็บไซต์ แต่เป็นเพราะช่างซ่อมบำรุงสลิงถ่ายหนังออกจากงานโดยพลักการต่างหาก สลิงถ่ายหนังไม่ทันได้ระวัง ทำให้ลั่วมั่นตกจากที่สูง จึงตัดสินใจลงโทษให้ช่างซ่อมบำรุงออกจากงาน ส่วนกองถ่ายละครก็จะชดใช้ค่ารักษาพยาบาลกับค่าชดเชยให้ลั่วมั่น
ตำรวจอธิบายอย่างชัดเจนว่า “หลังจากผ่านการตรวจสอบ เรื่องๆนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับลั่วมั่นเลยแม้แต่น้อย สำหรับคำพูดหมิ่นประมาทบางส่วนในอินเตอร์เน็ต ตำรวจได้จับกุมตัวคนที่ปล่อยข่าวลือรวมทั้งคุณจ้าว ที่ใช้ชื่อในเวยป๋อว่านกนางแอ่นตัวน้อยในเมฆ และคุณหวางที่ใช้ชื่อในเวยป๋อว่าแมนแมนเป็นต้น……”
เมื่อผลออกมาเช่นนี้ ความจริงก็ปรากฎ แต่ว่าชาวเน็ตชอบดูเรื่องที่ตื่นเต้นเป็นที่สุด ปกติแล้วก็ไม่ค่อยสนใจกับความจริงสักเท่าไหร่ ดังนั้นหลังจากที่คำชี้แจงตำรวจ ผู้คนที่สมน้ำหน้าที่เมียน้อยถูกทำร้ายก็ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก
ประกอบกับสองวันนี้ ข่าวไม่ดีแพร่ข่าวออกมาว่า สาวนั่งดริ้งถูกกองถ่ายเล่นลิ้น และเรื่องทุกอย่างก็ถูกเปิดเผยออกมา เมื่อข่าวแพร่ออกมาชาวเน็ตต่างพุ่งเป้าไปที่ลั่วมั่น
ทำให้แบรนด์ที่เพิ่งเซ็นสัญญาให้ลั่วมั่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ รวมไปถึงกองละครอีกหลายเรื่องต่างขอยกเลิกสัญญาจากเธอ แม้แต่กองถ่ายละครเรื่อง《Past events》ก็ยังแสดงเจตนารมณ์ที่จะเปลี่ยนตัวนางเอก
เฟิงเฉินกลับประเทศมาไม่ถึงหาวัน เรื่องทุกอย่างก็กระจ่าง ลั่วมั่นกลายเป็นชื่อที่ผู้คนพูดถึงอย่างไม่หยุดปาก
“คุณต้องการจากไป?”
ภายในคฤหาสน์ส่วนตัวบริเวณชานเมืองของแมนจี แมนจีนั่งรถเข็นออกมาจากห้องนอน มองไปที่ผู้ชายที่กำลังเก็บกระเป๋าในห้องโถงอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
ลู่หมิงลูบดวงตาที่อยู่บนดั้งจมูกครู่หนึ่ง ปิดกระเป๋าเดินทาง
“อืม มีงานที่อเมริการอให้ผมไปจัดการ”
“ฉันจะไปกับคุณ”
“ไม่ต้องเหรอก” สีหน้าของลู่หมิงเย็นชา ราวกับเป็นคนละคนกับเมื่อก่อนที่อ่อนโยน
แต่ว่าห้าวันมานี้ เขาได้เห็นวิธีการจัดการกับปัญหาของเฟิงเฉิน เขาแข็งแกร่งกว่าที่ตนคิดไว้มาก ไม่สามารถโค่นเขาได้ง่ายๆ เขาต้องการกลับไปที่อเมริกาเพื่อไปตั้งหลัก ตราบใดมียังชีวิต ย่อมต้องมีความหวัง
สำหรับผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว