ผู้อาวุโสแดนวิญญาณของสำนัก กระบี่เจินเซียนคนนี้ พูดข่าวนับไม่ถ้วน ในคราวเดียว
ทําให้นักฝึกส่วนใหญ่ ตกตะลึงใจ
มาก!
เป็นเวลานาน ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
แต่เห็นได้ชัดว่า การตัดสินใจ เหล่านี้ ไม่ใช่สํานักกระบี่เงินเซียนเป็น คนตัดสินใจเอง
ในระดับบนของโลกเซียน ได้ บรรลุฉันทามติแล้ว
หลังจากที่ผู้อาวุโสพูดจบ เขาก็ หายตัวไปในที่เดิม
หลังจากนั้น ชายหนุ่มในชุดสีขาว ก็ปรากฏตัวบนเวที
ใบหน้าเรียวคม คมชัดเหมือนถูก มีดตัดแต่ง
ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา
นี่ไม่ใช่เจตนาที่ไม่เป็นมิตร แต่ เป็นการดูถูกสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ความ หยิ่งโดยกำเนิดและมีความรู้สึก เฉยเมย
วันนี้ ผม เจี้ยนเฉิน มาที่นี่ ” ยอดแดนเสินทง! ” ทะลุ หลังจากเจี้ยนเฉินปรากฏตัว ก็ไม่ พูดเรื่องไร้สาระ
ตะโกนเบาๆ
จากนั้น ในมือของเจี้ยนเฉินก็มี ดาบเพิ่มมา
“ ตัวนหุน! ”
เมื่อเห็นดาบในมือของเจี้ยนเฉิน หลายคนก็ร้องอุทาน
นี่คือกระบี่ม้วนหุนของเจี้ยนเฉิน!
“ผมมีดาบที่สามารถทําลายจิต วิญญาณได้!”
หลังจากจับดาบแล้ว คนทั้งคน ของเจี้ยนเฉิน ดูเหมือนจะถูกรวมเข้า กับกระบีด้วนหนเป็นหนึ่งเดียวกัน หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็ยกดาบ
ขึ้น
ทันใดนั้น แสงนับไม่ถ้วนก็พ่น ออกมาจากร่างกายของดาบ พลังที่ไม่มีที่สิ้นสุด รวมอยู่ที่ ปลายดาบ
ร่างกายของเจี้ยนเฉิน ราวกับ เสียงดาบนับไม่ถ้วนดังขึ้น
เจี้ยนเฉินเพียงยกดาบขึ้น แต่ไม่ ได้ปล่อยมันออกไป
ภายในหนึ่งร้อยเมตร สนามกำลัง ของดาบก็ถูกสร้างขึ้น
กำลังของดาบบริสุทธิ์นับไม่ถ้วน โหมกระหน่ำราวกับจะตัดความว่าง เปล่าออกไป
และทุกกำลังของดาบ หาก สังเกตและเข้าใจอย่างรอบคอบ ก็จะ สามารถสังเกตเห็นร่องรอยของไอ สังหารของกระบี่ได้
กำลังของดาบ แต่ละเล่มต่างกัน!
ทุกคนตกตะลึง เจี้ยนเฉินคนนี้ ได้ เข้าใจไอสังหารของกระบี่ได้มากแค่ ไหนกัน
อย่างไรก็ตาม ตกใจก็ส่วนตกใจ นักฝึกทั้งหมด ถือโอกาสนี้สังเกต อย่างถี่ถ้วน
หวังว่าจะได้รับข้อมูลเชิงลึกจาก กำลังของดาบของเจี้ยนเฉิน! แม้แต่เฉินจิ้น แต่ก็มีความชื่นชม ในสายตาของเขา เมื่อเขาเห็นกําลัง ของดาบ100 เมตรของเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินคนนี้ เป็นอัจฉริยะของ กระบี่เต๋าจริงๆ !
แม้ว่าจะอยู่ในจักรวาล ก็ถือได้ว่า เป็นคนเก่งกาจที่ฟ้าประทาน
แต่ขอบเขตกําลังดาบของเจี้ยน เฉิน ไม่ได้รับการต่อยอดต่อไป
เพื่อทะลุเท่านั้น
โดยคือการให้นักฝึกอื่นได้มี โอกาสสังเกต
แต่เจี้ยนเฉินไม่ได้ต้องการรักษา ขอบเขตกำลังดาบของเขาโดยเฉพาะ เพื่อให้ทุกคนบรรลุและเข้าใจ
คุณจะเข้าใจได้มากแค่ไหน ขึ้น อยู่กับความสามารถและโอกาสของ คุณเอง
ในไม่ช้า ขอบเขตกำลังของดาบ ของเจี้ยนเฉินก็เริ่มหดตัวลงอย่างช้าๆ
กำลังของดาบในอาณาเขตของ กำลังของดาบ พุ่งเข้าหากระบี่ด้วนหุน ของเขา
ทันใดนั้น บนกระบี่ด้วนหุน เสียง ของดาบก็เริ่มดัง เหมือนเทพเทียนจุน กำลังแพร่กระจายกฎ
ฉากนี้ นักฝึกหลายคนที่เป็นแดน เสินไห่ แม้กระทั่งผู้แข็งแกร่งแดน วิญญาณ ต่างก็จ้องมอง หลับตาลงและฟังเสี่ยงดาบเต๋า
เหล่านี้
โดยเฉพาะสัตว์ประหลาดแก่ๆที่ ต้องการเข้าใจวิธีการของสำนักกระบี่ เจินเซียน ก็ยิ่งอยากรู้มากขึ้น
ในไม่ช้า กำลังของดาบนับไม่ ถ้วนปรากฏออกมาจากกระบี่ด้วนหุน ซึ่งแทรกซึมเข้าไปในร่างกายของ เจี้ยนเฉิน เริ่มบุกเข้าไปในอวัยวะ ภายใน กล้ามเนื้อกระดูก แม้แต่ความรู้ บนหัวของเขา
ใช้กำลังของดาบของตนเอง เพื่อ ปรับสภาพร่างกายของตนเอง ฉากนี้ มุมปากของคนนับไม่ถ้วน ที่ดูกระตุก สีหน้าของเจี้ยนเฉิน แม้ว่าจะไม่มี การเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
แต่ทุกคนสามารถจินตนาการถึง ความเจ็บปวดในนี้ได้
อดไม่ได้ที่จะชื่นชมเจี้ยนเฉินมาก ยิ่งขึ้น
ในท้ายที่สุด ขอบเขตกําลังของ ดาบก็รวมกันเป็นหนึ่งเดียวอย่าง สมบูรณ์
ในที่สุด ดาบในมือของเจี้ยนเฉิ นก็ขยับ
ไปบนฟ้า!
ยื่นดาบออกไป!
แตก!” ทันใดนั้น เรียนเฉินก็ตะโกน
ดาบเล่มนี้ โดยมีเจี้ยนเฉินเป็นจุด เริ่มต้น ทําให้เกิดแสงดาบที่มีความสูง หลายพันเมตร
ฉีกความว่างเปล่า
ในเวลาเดียวกัน ร่างกายของ
เจี้ยนเฉินก็ส่งเสียงคำราม ราวกับว่า ด่านใดด้านหนึ่งถูกตัด
ภายใต้ดาบเล่มนี้!
ออร่าบนร่างกายของเจี้ยนเฉิน ก็ แข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง
“ยอดแดนเสินทง! ”
ผู้คนนับไม่ถ้วนพูดออกเสียง
ในทำนองเดียวกัน 99% ของ ผู้คนถอนหายใจ
เวลาเร่งรีบเกินไป ไม่ได้บรรลุ หรือเข้าใจอะไรจากการทะลุของเจี้ยน เฉิน
แต่บางคน ก็เต็มไปด้วยความดี อกดีใจ
เห็นได้ชัดว่า ได้รับไม่น้อย
“ไม่กล้าคิดเลยว่า ถ้าเจี้ยนเฉินทะ ลุแดนเสินไห่ และข้ามผ่านภัยพิบัติ ฟ้าผ่า จะเป็นทิวทัศน์ที่ยิ่งใหญ่และ สวยงามแค่ไหน!”
มีคนพูดอย่างถอนหายใจ
ส่วนเจี้ยนเฉิน หลังจากทะลุขึ้นไป ถึงยอดแดนเสินทง เขาก็เก็บดาบของ เขาและยืนอยู่บนเวที
“รายชื่อเข้าสู่แดนทอดทิ้ง การ เลือกจะเริ่มขึ้น!”
“ใครก็ตามที่เหยียบเข้ามาบนเวที ถือว่ามีส่วนร่วมในการคัดเลือก! ”
“หนึ่งพันคนที่เหลืออยู่บนเวที จะ สามารถไปยังแดนทอดทิ้งได้หลังจาก สามวัน!”
ผู้อาวุโสแดนวิญญาณของสำนัก กระบี่เจินเซียน เอ่ยปากกล่าวอีกครั้ง
เสียงนั้นลดลง
ในไม่ช้า ผู้คนนับไม่ถ้วนก็ก้าวเข้า
สู่เวที
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เหนือความ คาดหมายของทุกคนก็คือ ผู้เก่งกาจ ยุคนี้ กลับน้อยมาก
ยิ่งไปกว่านั้น กลับเป็นสัตว์ประ หลาดแก่ๆที่ติดอยู่ในแดนเสินทงเป็น เวลานาน
แน่นอนว่า หลังจากนั้น นักฝึก แดนเสินทงก็เริ่มเข้าสู่เวทีมากขึ้น เรื่อยๆ
ไม่นาน บนเวทีก็มีผู้คนมากกว่า หนึ่งพันคน
ยิ่งกว่านั้น จำนวนยังคงเพิ่มขึ้น อย่างรวดเร็ว
ในที่สุดก็มีมากถึงเกือบ 10,000
คน! อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ตัวเลข
สุดท้าย
ยังมีหลายคนที่ไม่ได้ก้าวเข้าสู่ เวทีในวินาทีแรก
แต่เตรียมพร้อมที่จะรอจนกว่า กลุ่มคนหนึ่งถูกคัดทิ้งก่อน ค่อยขึ้นไป บนเวที
เวลานี้ บนเวทีผู้คนมากจนแทบจะ ล้นเวที!
อย่างไรก็ตาม มีไม่กี่คนเท่านั้นที่ รอบๆตัวพวกเขา ภายในหลายเมตรจน หลายสิบเมตร นั้นว่างเปล่า!
ที่ชัดเจนที่สุดคือเจี้ยนเฉิน!
เจี้ยนเฉินยืนอยู่ที่ศูนย์กลางของ เวที
และภายในหนึ่งร้อยเมตรจากเขา ไม่มีคนเลย!
นอกจากนี้ “เซวียถู”จากสำนัก เซียนว่านฝ่าที่มีตำราระดับสวรรค์ “อี้ เจียง” จากสถานศึกษาชิงเยว่”ไป๋เจี่ยน สิง” จากสำนักเซียนเป่ยเต่า “อลิซ” จากแคว้นเทพซีหลันเป็นต้น ในรัศมี หลายสิบเมตร ไม่มีใคร ไม่มีใครกล้า เข้าใกล้
ร้านเดี่ยวหวี่”หนานกงเขียนเอ๋อ”วิ มานพิวเสว”เสบู่หลัน”สำนักว่านสื่อ”สือ เยาเอ๋อร์”โลกชางอวี่”ข่ายช่างเหอ”สำ นักลิ่วเจิ่น”จี้เฉียน” และผู้เก่งกาจที่ มีชื่อเสียงอื่นๆในโลกเซียน ก็ไม่มีใคร เข้าใกล้
ในที่สุด ฉากแปลกๆก็เกิดขึ้นบน
เวที
เซวียญและคนอื่นๆ ไม่ว่าพวกเขา จะไปที่ไหน แม้ว่าฝูงชนที่แออัดมาก แค่ไหน ก็จะแยกจากกันในทันทีและ เปิดทางให้พวกเขา
ไม่นาน
“เซวียญจากสํานักเซียนว่านฝ่า” เดินตรงไปยังที่ที่เจี้ยนเฉินอยู่
จากนั้น เขาก็หยิบโต๊ะหยกกลม ยักษ์ออกมาจากแหวนเก็บของ
จากนั้น สุราวิญญาณและผลไม้ วิญญาณจํานวนนับไม่ถ้วน ถูกวางไว้ บนโต๊ะหยกกลมทีละชิ้น
“ นั่งดื่มดีกว่าฆ่ากันเนาะ คุณ เจี้ยนเฉินว่ายังไง?”
เซวียถูมองไปที่เจี้ยนเฉินและพูด ด้วยรอยยิ้ม
“ ในเมื่อไม่มีใครกล้าสู้ ดื่มสุรา หน่อยก็ไม่เลวนะ!”
เจี้ยนเฉินกล่าวจางๆ
ในเวลาต่อมา เขาปรากฏตัวตรง หน้าเซวียถูและนั่งขัดสมาธิ
“ทุกคน โดยทั่วไปแล้ว การรวม ตัวกันแบบนี้หายากมาก ทำไมเราไม่ มาดื่มกินกันให้สนุกล่ะ?”
เซวียถูกล่าวอีกครั้ง เสียงเหมือนฟ้าร้อง กลิ้งและ เคลื่อนไหวกระจายไปทั่วทั้งเวที เซวียถูไม่ได้พูดกับใครโดย เฉพาะ
แต่เห็นได้ชัดว่า คนที่คุณสมบัติ ไม่ถึง ก็ไม่สามารถเข้ามาในโต๊ะได้
ไปอย่างหน้าด้าน ก็ได้เพียง ทําให้ตนเองอับอายขายหน้าเท่านั้น
“ช่างๆเถอะ ช่างเถอะ ผมคิดว่าจะ ได้สู้กันอย่างสะใจ แต่เมื่อเห็นว่าพวก คุณไม่มีความตั้งใจที่จะต่อสู้เลย มัน น่าผิดหวังจริงๆ งั้นก็มาดื่มสุรากัน เถอะ! ”
อีเจียงจากสถานศึกษาชิงเยว่ก็ พูดออกมาในเวลานี้ ปรากฏตัวที่โต๊ะหยกและนั่งขัด
สมาธิ
“ ถ้าจะต่อสู้ ฉันคงไม่สามารถ เอาชนะศิษย์พี่ทั้งหลายได้ งั้นเซียนเอ๋ อจะพยายามดูว่า ความสามารถในการ ดื่มสุรา จะเอาชนะพวกศิษย์พี่ได้หรือ ” ไม่!
หนานกงเซียนเอ๋อก็ยิ้มเช่นกัน เสียงนั้นเหมือนเสียงสวรรค์ สักพัก ก็ ปรากฏตัวที่โต๊ะหยกและหาที่สำหรับ นั่งลง
“ ในเวลานี้ จะไม่มีฉันได้อย่างไร เรื่องดื่ม ฉันไม่เคยกลัวใคร!
สือเยาเอ๋อร์ยื่นลิ้นเซ็กซี่ของเธอ เลียผ่านบนริมฝีปากสีแดงของเธอเล็ก น้อย ปรากฏตัวถัดจากหนานกงเซียน
เอ๋อ
หลังจากนั้น ไป๋เจี่ยนสิง อลิซ ช่ายช่างเหอ จี้เฉียน รวมถึงเสว่หลันที่ ไม่ค่อยชอบความคึกคักมากนักก็ ปรากฏตัวในสนาม
หลังจากนั้น มีอีกหลายๆคนก็เข้า
ร่วมทีละคน
ฉากนี้ ผู้อาวุโสของสำนักใหญ่ และคนอื่นๆที่อยู่รอบๆ มุมปากของ พวกเขากระตุก
พวกเขาคิดว่า ผู้เก่งกาจเหล่านี้จะ
มีการต่อสู้
สุดท้าย พวกเขากลับไปดื่มสุรา ด้วยกัน ส่วนคนอื่นๆ แม้จะอิจฉา แต่ก็ไม่มี คุณสมบัติที่จะเข้าร่วม
ทันใดนั้น บนเวที ที่เป็นศูนย์กลาง ที่สุด ก็ยิ่งดูเป็นมิตร และยิ่งอยู่ด้าน นอก การสังหารที่โหดเหี้ยมก็ยิ่งมาก ขน
ผู้คนมากมายถูกบังคับให้ลงจาก เวทีอย่างต่อเนื่อง และมีคนขึ้นมาสู่บน เวทีอย่างต่อเนื่อง
และในใจกลางของเวที ในสุด ถัดจากโต๊ะหยก ยังมีสถานที่หนึ่งที่ เหลืออยู่
‘ ยังมีอีกหนึ่งคนที่ขาดไป ดูยังไง มันก็ไม่สมบูรณ์แบบ”
สือเยาเอ๋อร์ดื่มสุราวิญญาณ มอง ไปที่ตำแหน่งที่ว่างและกล่าว
เซวียถูได้ยินคำนั้นและพูดด้วย รอยยิ้ม “ไม่ใช่ทุกคนที่อยากมาดื่มร่วม กับเรา!
จะบอกว่าในโลกเซียน ไม่มีใคร ถึงระดับพวกเขา ที่จะสามารถร่วมดื่ม สุราที่โต๊ะได้หรือ?
มันไม่ใช่แบบนี้
คนที่มีคุณสมบัติ อย่างน้อยก็ยังมี หลายสิบคน
อย่างไรก็ตาม หากคนอื่นไม่ เต็มใจที่จะมา พวกเขาก็ไม่สามารถ บังคับได้อยู่แล้ว
ในขณะนี้ สือเยาเอ๋อร์กล่าวอย่าง ยั่วยวนอีกครั้ง “ฉันว่านะ มีใครบางคน ที่เหมาะสมทีเดียว ดูเหมือนว่ายังไม่ ได้ขึ้นบนเวทีด้วยซ้ำ”
“ใคร?”
ทุกคนต่างสงสัยเล็กน้อย
แม้แต่เจี้ยนเฉินก็ยังมองไปด้าน
ข้าง
“ตัวเอกที่ทำเรื่องใหญ่ของเมื่อ คืน นักปรุงยาเฉิน!”
สือเยาเอ๋อร์กล่าวด้วยรอยยิ้มอีก ครั้ง มีแสงแปลกๆกะพริบในดวงตาที่ สวยงามของเธอ