“ทำไมถึงคิดว่าไม่ใช่คุณ”
“ความรู้สึกมั้ง ฉันเหมือนจะไม่ได้อ่อนโยนขนาดนั้น” ลั่วมั่นยกมุมปากของเธอขึ้น “ฉันก็ยังสงสัยว่าทำไมหลายปีที่ผ่านมาพี่ถึงยังไม่มีผู้หญิงอยู่ข้างกายสักที ยังคิดถึงเธอตลอดเหรอ”
ซือโม่ได้ปล่อยวางความรู้สึกที่ปิดกั้นลง ใบหน้าเศร้าเล็กน้อย
“เธอเสียชีวิตไปนานแล้ว เธอหน้าตาคล้ายกับคุณมาก แต่พวกคุณไม่เหมือนกัน คุณคือคุณ เธอคือเธอ ผมไม่เคยมองคุณเป็นเธอเลยสักครั้ง ทุกอย่างเป็นแค่ความบังเอิญ”
มีความบังเอิญเช่นนี้บนโลกใบนี้ด้วยหรือ
ลั่วมั่นนั้นไม่เชื่อ ที่เธอไม่ไปกับเฟิงเฉิน เพราะมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ
หลังจากนอนพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ลั่วมั่นดึงดันต้องการออกจากโรงพยาบาลไปพักฟื้นที่บ้าน ซือโม่ก็ไม่ได้คัดค้าน จัดคนมารับเธอออกจากโรงพยาบาล แล้วส่งกลับไปที่วิลล่าจิ่นซิ่ว
“ก่อนหน้านี้บ้านหลังนั้นอับชื้นมาก ดังนั้นคุณท่านจึงได้จัดบ้านหลังใหม่ที่อยู่ในบริเวณวิลล่าให้พักอาศัย และได้ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว แม่ของท่านได้ย้ายเข้าไปอยู่แล้วและก็พอใจมากครับ”
เมื่อกลับไปถึงวิลลว่า ลั่วมั่นก็ได้ยินพ่อบ้านพูดถึงเรื่องบ้านที่ซือโม่ได้จัดหาบ้านหลังใหม่ในบริเวณวิลล่าให้พักอาศัย
“ความจริงฉันคิดว่าบ้านหลังนั้นก็ดีอยู่แล้ว
“ที่นั่นมันเก่ามากแล้วครับ” พ่อบ้านอธิบาย “มีหลายจุดที่ยังไม่ได้รับการซ่อมแซมให้แล้วเสร็จ สองสามวันนี้คุณท่านได้ให้คนเข้าไปซ่อมแซม ดังนั้นคุณลั่วกับคุณนายหญิงลั่วพักที่นี่ไปชั่วคราวก่อนนะครับ”
กลัวพูดมากแล้วคนจะเกิดความสงสัย ลั่วมั่นจึงไม่ดื้อดึงต่อไปอีก
เหตุผลที่ซือโม่ไม่ให้เธอเข้าไปอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนั้นอีก เกรงว่าไม่น่าจะใช่เพราะความอับชื้น แต่เป็นเพราะว่ามีบางอย่างในบ้านนั้นที่ไม่สามารถให้เธอเห็นได้มั้ง
ในช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้น ซือโม่กลับไปทำธุระที่สหรัฐอเมริกา ก่อนเดินทางได้กำชับลั่วมั่นว่าพักผ่อนให้เยอะๆ
ลั่วมั่นเดินเล่นอยู่ในบริเวณวิลล่า อาศัยเหตุผลลมพัดแรง จึงบอกให้คนรับใช้ที่เดินตามติดตัวเองตลอดเวลาไปเอาเสื้อคลุมให้เธอ เมื่อรอจนคนรับใช้เดินไปไกลแล้ว เธอถึงเดินไปบ้านหลังที่เธอพักอาศัยอยู่ก่อนหน้านี้ด้วยความระมัดระวัง
รหัสต่างๆยังไม่ได้เปลี่ยน แต่ว่ารหัสห้องหนังสือนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว
ลองใส่รหัสสองครั้งแล้วก็ไม่ถูกต้อง ถ้าใส่ครั้งที่สามอีกสัญญาณเตือนจะต้องดังขึ้น ลั่วมั่นจึงไม่กล้าแตะต้องอีก ทำได้เพียงออกจากตัววิลล่าไปก่อน
เห็นคนรับใช้ที่กำลังตามหาเธออยู่ไกลๆ เธอจึงเดินอ้อมไปหลังวิลล่าแล้วมาหยุดอยู่ตรงด้านหลังของคนรับใช้ ต่อว่าเธอขึ้นก่อนได้เปรียบ “ทำไมเธอไปนานขนาดนี้”
คนรับใช้ตกอกตกใจ แล้วเอามือทาบหน้าอก
“คุณลั่วทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ ดิฉันหาคุณตั้งนาน โอ๊ยคุณนี่จริงๆเลย รีบใส่เสื้อเถอะค่ะ”
“ไม่ต้องแล้ว ฉันเหนื่อยแล้ว กลับเข้าบ้านกันเถอะ”
“อ้าว ค่ะ”
คนรับใช้เดินนำทางอยู่ด้านหน้า
ตกดึก ลั่วมั่นยืนอยู่ที่หน้าต่าง แล้วมองไปบ้านหลังเก่าที่อยู่ไกลๆหลังนั้น จากนั้นก็โทรหาเล่อสวี้
“เธอสามารถถอดรหัสประตูได้ไหม”
“ไม่ยาก”
“ถ้าหากว่าเวลาไม่พอล่ะ”ลั่วมั่นมีความรู้สึกว่าซือโม่น่าจะรู้ว่าเธอเข้าไปที่บ้านหลังนั้นแล้ว ดังนั้นหลังจากที่เขาจากไปเมื่อตอนบ่าย ไม่นานพ่อบ้านพาคนมาติดตั้งกล้องวงจรปิดที่บ้านหลังเก่านั้น แต่บอกว่าเป็นการป้องกันคนที่มาซ่อมแซมบ้านจะขโมยของ
“ห้านาทีก็เพียงพอ” เสียงที่มั่นใจของเล่อสวี้ดังขึ้นจากฝั่งนั้น
“ได้ เรื่องกล้องวงจรปิดฉันจะหาวิธีเอง”
เมื่อวางสายโทรศัพท์ลง ลั่วมั่นก็ยืนเหม่อลอยอยู่ที่หน้าต่าง แม้แต่แม่เดินมาอยู่ด้านหลังแล้ว ก็ยังไม่รู้สึก
“ลั่วมั่น ดึกขนาดนี้แล้วยังไม่นอนอีกเหรอ”
“แม่ ทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้” ลั่วมั่นหันหลังมา
“นอนไม่หลับ” สีหน้าแม่ลั่วดูดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ อาจด้วยอายุที่มากแล้ว หลายๆอย่างได้ผ่านเข้ามาในชีวิตไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เมื่อเจอเข้าจังๆอีก จึงสุขุมเยือกเย็นมากกว่าผู้ที่อ่อนเยาว์กว่า
“แม่เห็นคุณซือดีกับหนูมาก ถ้าหากหนูดึงดันที่จะหย่ากับเฟิงเฉิง ต่อไปหนูวางแผนที่จะอยู่กับคุณซือ….