คอนที่ 38 ร้ายแรง อย่าผม
ยังคงไม่ยอมรับ
จันวิภายิ้มอย่างเยือกเย็น พยักหน้าไปทางผู้ชาย คนนั้น ชายคนนั้นรับรู้ จึงได้เอาฮาร์ดดิสก์ที่ถืออยู่ใน มือออกมา แล้วเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “ผมทำงานอย่างนี้มา หลายปีแล้ว ดังนั้นจึงมีนิสัยชอบอัดเสียงเอาไว้ คุณ หญิงกนกอรต้องการที่จะฟังคำพูดของตัวเองไหม
เปิดไฟล์เสียงออกมาฟัง” สุมิตรพูดขึ้นอย่าง เยือกเย็น เหลียวมองกนกอรแม้
ต่อมา ชายคนนั้นจึงนำฮาร์ดดิสก์อยู่คอมพิวเตอร์ ที่นั้นก็ได้เด้งขึ้นมา
– นายช่วยฉันกำจัดรอจนฉันได้เป็นภรรยาของคุณชายสุมิตร ฉันจะให้ค่า ตอบแทน
โอเค พวกเรายินดีที่จะร่วมมือ
เมื่อกนกเสียงของที่
เวลานี้ ในที่สุดสุมิตรก็หันหน้ามา จ้องมองไปทาง เธออย่างเยือกเย็น นัยน์ตาเย็นเฉียบ
น้ำตาไหลหยดลงมา กนกอรรีบร้องไห้วิงวอนสุ มิตร “คุณฟังฉันอธิบายก่อน จริงๆแล้วเรื่องนี้มันไม่ใช่ แบบนี้ ฉันไม่ได้ทำผิด พวกมันใส่ร้ายฉัน.สุมิตร คุณ จะต้องเชื่อนะว่าฉันรักคุณจริงๆ ฉันขอร้องให้คุณเชื่อใจ ฉันจะได้ไหม?
ดวงตาทั้งสองของกนกอรแฝงไว้ด้วยน้ำตา ราวกับดอกไม้ที่เปียกฝน ผู้หญิงคนนี้จนถึงตอนนี้ คาด ไม่ถึงเลยว่าจะยังเสแสร้งอยู่อีก!
สุมิตรเย็นชาจนถึงที่สุด เมื่อกนกอรเห็นเขาไม่มี ท่าทีตอบสนองอะไร จึงหันตัวกลับไปทันที แล้วตะคอก ใส่จันวิภา “จันวิภา ฉันกับสุมิตรรักกัน ความรักของ พวกเราได้ถูกทดสอบขึ้นแล้ว ดังนั้นโปรดอย่ามา
ทำร้ายพวกเราอีกเลยจะได้ไหม?”
” จันวิภาจุกจนพูดไม่ออก
หลังจากที่สุมิตรได้ยินคำพูดของกนกอร จึงแหงน หน้าขึ้นมาอย่างประหลาดใจ จ้องมองจันวิภา เขาอยาก ที่จะรู้จริงๆว่า ผู้หญิงคนนี้จะมีปฏิกิริยาตอบสนอง อย่างไร
จากนั้น ในเวลานี้ ได้มีคนสองคนเดินเข้ามาจากประตูทางด้านนอก
ทุกคนจ้องมองคนที่เดินผ่านมา กนกอรคิดไม่ถึง เลยว่าคนๆนั้นที่เดินเข้ามาจะเป็นพัชรีกับแม่เลี้ยงของ
เธอ
กนกอรตกตะลึง ไม่มีสติอยู่นาน
จันวิภาเดินไปข้างหน้า แล้วพูดกับแม่เลี้ยงของ
กนกอรอย่างละมุนละม่อม “คุณป้าคะ คำพูดของกนก อรเมื่อครู่นี้ท่านก็คงได้ยินชัดแล้ว ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่าน มาเธออาศัยอยู่กับพวกเราที่นี่อย่างอยู่ดีกินดีเลย! ”
ทันใดนั้นสีหน้าแม่เลี้ยงของกนกอรก็ได้เปลี่ยนไป ทันที เดินมาข้างหน้า แล้วตบเข้าไปที่หน้าของกนกอร อย่างรุนแรง จากนั้นจึงด่าขึ้นมาชุดใหญ่ “แกไอ้ลูก อกตัญญู แก่นี่ทำให้ฉันขายหน้าจริงๆไหน! แกพูดมาสิ จันวิภาดีกับแกขนาดไหน ให้แกอาศัยอยู่ที่นี่ แต่แก กลับทำเรื่องอย่างนี้หรอ? คิดไม่ถึงเลยว่าแกจะแย่งสามี ของคนอื่น แล้วยังจะมาพูดอย่างนั้นอีก แก่นี่อับอาย ขายขี้หน้าบ้างไหม?”
ไม่มีใครช่วยกนกอรเลย แม่เลี้ยงของกนกอรมี นิสัยที่ชอบใช้ความรุนแรง หลังจากที่ดึงเธอเข้ามาตบ หน้าแล้ว จึงพูดกับจันวิภาที่อยู่ข้างๆว่า “จันวิภา ครั้งนี้ ป้าต้องขอโทษหนูจริงๆนะ กลับไปป้าจะจัดการกับกนกอรเอง หนูไม่ต้องกังวลนะ!
เมื่อจันวิภาได้ยินดังนั้น จึงพยักหน้า แล้วเอ่ยปาก พูดแนะนำขึ้น “คุณป้าคะ ท่านไมต้องกังวล หนูไม่ เป็นไรแล้ว แต่อยากที่จะเตือนท่านหน่อย การพนันนั้น ไม่ได้ดีไปเสียทั้งหมด หลังจากนี้หวังว่าคุณป้าจะไม่เล่น พนันอีกนะคะ”
แม่เลี้ยงของกนกอรพยักหน้า ยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นจึงดึงกนกอรแล้วลากเธอออกมา
จากนั้น หลังจากจันวิภาก็เดินออกไปส่งพัชรีกับ ชายคนที่มาเป็นพยานให้เธอเรียบร้อย จึงถอนหายใจ ออกมายาวๆ แล้วเดินกลับไปที่ห้องรับแขก
ขณะนี้ สุมิตรนั่งอยู่ในห้องรับแขก โดยไม่พูดอะไร สักคา จ้องเขม็งมองจันวิภา การแสดงออกบนใบหน้า เหมือนกับกำลังหัวเราะอยู่
จันวิภาที่ถูกเขาจ้องมองจึงมีความอึดอัดอยู่เล็ก น้อย หลังจากมองไปที่สุมิตรอีกครั้ง จึงเอ่ยปากพูดขึ้น “นายอยากจะพูดอะไร?”
สุมิตรสายหัว “ปล่อยเธอไปง่ายๆอย่างนี้เลยหรอ? เธอนี่ใจอ่อนเสียจริง?”
จันวิภางุนงง ทันใดนั้นก็เข้าใจได้ทันทีว่าที่เขาพูด หมายถึงกนกอร ดังนั้นจึงพูดตอบไปว่า “ช่างมัน ตราบใดที่นายไม่ต้องการให้ฉันพิสูจน์อะไรอีก และไม่จับฉัน อีกก็พอแล้ว! ”
“ผมจับเธอไม่ได้?” เสียงของสุมิตรเย็นยะเยือก อารมณ์บนใบหน้าเปลี่ยนเป็นแปลกประหลาดใจเป็น อย่างมาก เขายิ้มขึ้นมาอย่างชั่วร้ายและมีเสน่ห์ พูด ออกมาว่า “แต่เธอเป็นภรรยาของผม แน่นอนว่าผม อยากจะจับตรงไหนก็จับได้! ”
สุมิตรพูดจบ จึงยื่นมือออกมาทันที ดึงจันวิภาเข้าสู่ อ้อมกอด แล้วยื่นมือออกไปหยิกแก้มของเธอเอาไว้
จันวิภาตกใจเป็นอย่างมาก ตัวสั่นเทาขึ้นมาทันที
“นาย.นายจะทำอะไร?”
เมื่อสาวใช้ที่อยู่โดยรอบเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ก็ได้ทยอยเดินออกจากห้องไปอย่างรู้ตัว
จึงพอใจมากกับท่าทีของจันวิภา สุมิตรยิ้มอย่าง ชั่วร้ายขึ้นมา โน้มตัวลง แล้วจูบไปที่ริมฝีปากของจัน
วิภา..
“อุบ..อื้อ..” หัวใจของจันวิภาระเบิดขึ้นมา ทันที เธอขมวดคิ้วขึ้นมา และเริ่มที่จะออกแรงดิ้นรน อย่างหนักหน่วง
“อย่าขัดขืนผม! ” เมื่อรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของเธอ สุมิตรจึงพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา น้ำเสียงแข็งกร้าว
หลังจากนั้น จันวิภากลับฉวยโอกาสจากช่องว่างนี้ แฉลบตัวหลบออกมาจากอ้อมแขนของเขา แล้วรีบบิ่ง ตรงขึ้นไปชั้นบน โดยที่ไม่หันหน้ากลับมามอง จากนั้นจึง ปิดประตูห้องอย่างดังสะท้าน
สีหน้าของสุมิตรอีมครีมขึ้นมาจนถึงขีดสุด ยัยผู้ หญิงคนนี้….คาดไม่ถึงเลยว่าเธอ…จะกล้าปฏิเสธ เขาขนาดนี้!
หลังจากกลับมาถึงห้อง จันวิภาก็ถอนหายใจออก มาเฮือกใหญ่ สุมิตรคนนี้ อารมณ์วิปริตแปรปรวนเสีย จริง! แต่ว่าก็ยังดี ที่เรื่องราวต่างๆได้ถูกแก้ไขแล้ว ต้อง ขอบคุณพัชรี
เมื่อคิดถึงตรงนี้ จันวิภาจึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ส่งข้อความออกไป “พัชรี สองวันมานี้ลำบากเธอมาก เลย ถ้าพรุ่งนี้ว่างละก็ ให้ฉันเลี้ยงข้าวเธอนะ”
เพียงไม่นานก็ได้รับข้อความตอบกลับของพัชรี เธอตอบรับปากอย่างรวดเร็ว ดังนั้นทั้งสองคนจึงได้นัด เวลาและสถานที่เพื่อที่จะกินข้าวกัน
หลังจากวางแผนทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว จันวิภาจึง ได้มองดเวลา นี่มันก็ดึกมาแล้ว ดังนั้นเลยเตรียมตัวที่จะขึ้นเตียงนอน
แต่ทำอย่างไรเธอก็นอนไม่หลับ นึกย้อนไปถึงเรื่อง ราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันมานี้ ในสมองได้ปรากฏ ภาพของกนกอรตอนนี้กับเมื่อก่อนที่แตกต่างกัน โดย สิ้นเชิง ในใจจึงรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย
แต่ทว่า เรื่องนี้ ทำให้จันวิภาเข้าใจขึ้นมาทันที ว่า ตนเองไม่ได้เข้าใจกับคนที่อยู่รอบข้างตัวเองมากนัก
เช่น กนกอร เธอไม่ได้เป็นผู้หญิงที่อ่อนโยน หรือ แม้กระทั่งเป็นผู้หญิงที่เชื่อฟังเหมือนกับที่จันวิภาคิด
อีกตัวอย่างหนึ่งคือ สุมิตร..
เธอมักจะรู้สึกว่าสุมิตรเป็นคนที่วิปริตอย่าง สมบูรณ์แบบ มักจะคิดอยู่เสมอว่าเขาปฏิบัติต่อทุกคน เหมือนดั่งปีศาจ
แต่ทว่า กลับไม่ใช่ เขาก็มีด้านที่อ่อนโยนและ สุภาพ แม้ว่าเขาจะเย็นชา แต่กลับสุภาพต่อคนอื่น และ ดูน่านับถือมาก ช่างแตกต่างกับที่เธอคิดอย่างสิ้นเชิง
คิดถึงตรงนี้ ก็พบว่าตนเองมองคนไม่ออกไปเสีย ทั้งหมด..คิดอย่างนี้วนไปวนมาตลอดทั้งคืน จึงเป็น เรื่องยากที่จะหลับ