ตอนที่ 41 สาวโง่ ไม่อนุญาตให้ร้อง
“ฉันเป็นใคร?” สุมิตรยิ้มขึ้นเล็กน้อย ไม่ได้โกรธ “ฉัน เป็นสามีของเธอไงจันวิภา ทำไม? เมื่อยังกอดฉันซะแน่นเลย ทำไมตอนนี้อยู่ทำเหมือนไม่รู้จักกันซะแล้ว?”
จันวิภาเพิ่งนึกได้ว่าเธอถูกสุมิตรแกล้งให้แล้ว ก็ก้มหน้าลง
ไปทันที
แต่..
จันวิภารู้ว่าสุมิตรมีอำนาจมาก แถมแข็งแกร่งด้วย เดิม เธอคิดว่าเขาเป็นแค่ประธานของบริษัทธรรมดาคนหนึ่ง แต่มี ฝีมือพิเศษก็เท่านั้นเอง ตอนนี้พอคิดมาแล้ว สุมิตรอาจมี ไม่ใช่น้อยในกลุ่มมาเฟีย
เขาคือคนของมาเฟีย
คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ คนใส่สูทสีดำที่ยืนเป็น แถวทำความเคารพนั้น ทำให้จันวิภามั่นใจได้ทันที
“ฉัน…สุมิตรฉันไม่คิดให้กับพวก มาเฟีย…ฉันไม่อยากจะมีความจันวิภาตัวสั่น กัดปากขณะพูด
สุมิตรขมวดคิ้วขึ้นทันที สายตาแสน
จ้องไปที่จันวิภาสักครู่ แล้วก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา: แต่ตอนแต่งแล้วนะ แล้วยังมีความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถเครียร์ได้กับ กับฉันไปแล้ว จันวิภาฉันจะบอกเธอให้นะ ไม่ว่าจะเป็นทางหรือพรรคยุติธรรม
ในเมื่อเธอแต่งงาน
แล้ว ก็ถือว่าคือผู้หญิงของสุมิตรแล้ว!”
จันวิภาไม่พูดอะไรก้มหน้าไป
สุมิตรเห็นเธอแบบนี้ ในใจก็รู้สึกไม่ค่อยจะดี
อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าในใจเธอคิดอะไรฉันนี้เธออย่าคิดจะหนีจากฉัน ในเมื่อฉันยังอยู่ ไม่มีทางได้หรอก!”
จันวิภาตัวสั่นราวกับถูกความเย็นอันหนาวเหน็บกระทบ
เสียงพูดของเขาหนาวเหน็บราวน้ำแข็งในทำให้คนอดตัวสั่นไม่ได้
“ฉันรู้แล้ว…ฉันจะไม่หน้าของสุมิตรเย็นชาดูน่า
กลัว จันวิภาไม่อยากจะก่อเรื่องอีก ยังไงวันนี้เขาก็มาช่วยเธอ
แล้ว
สุมิตรไปหนึ่งแล้วไม่พูดอะไรต่อ
จันวิภาคิดถึงเรื่องที่ช่วยเมื่อครู่นี้ เดินเธอคิดว่า ยังไงเขาไม่มีทางมาช่วยเด็ดขาดแต่คิดไม่ถึง
คิดไปสักพัก จันวิภาก็พูดขึ้น: เอ่อ สุมิตร วันนี้….คุณ ตั้งใจมาช่วยฉันหรอ? ฉันคิดว่าคุณจะไม่มาแล้ว…
ฉันมาช่วยเธอก็แค่ไม่อยากให้เธอตาย เพื่อที่จะ ทำลายเธอให้หนักขึ้นไปอีก แล้วเธอล่ะ พูดเรื่องนี้ขึ้น อกฉันเธอได้ นั้นหรือยังดีกว่า? เรื่องนี้ฉัน
“เหอะอกฉันเธอได้ ทำกับได้ด้วยนั้นหรือยังดีกว่า? เรื่องนี้ฉันรู้สึก แปลกใจมาก ฉันมาไวเกินไปหรือเปล่านะ?” สุมิตรมองไปที่ จันวิภา พูดด้วยความยิ้มที่เหมือนไม่ยิ้ม
จันวิภาตกใจ ถูกสุมิตรจ้องจนตัวเธอขนลุก แต่ก็กลัวว่า เขาจะเข้าใจผิดเลยรีบอธิบายต่อ: “ไม่ได้ ฉันไม่ได้..”
“จริงเหรอ?” สุมิตรถามกลับ น้ำเสียงเหมือนไม่ค่อยจะเชื่อ
จริงๆแล้ววันนี้จันวิภาซาบซึ้งใจที่สุมิตรมาช่วย แต่คิดไม่ ถึงว่าเขาจะพูดอะไรแบบนี้ แล้วก็ยังเหมือนจะไม่เชื่อเธออีก เลย กัดปากแล้วพูดขึ้น : “สุมิตร ฉันจะบอกคุณนะ ฉันไม่เคยทำอะไร หักหลังคุณเลย รบกวนเก็บความสงสัยของคุณเถอะ! แล้วก็นะ ถ้าคุณไม่ยืนอยู่หน้าประตูไม่ยอมเข้ามา ฉันจะโดนเรื่องที่ อับอายขายขี้หน้าแบบนี้ได้ไง คุณอย่ามากเกินไปเลยนะ!”
“อ่อเหรอ? อับอายจนโกรธนั้นเหรอ? หรือว่าโกรธที่ฉันมา ไวไป ทำให้เธอไม่ได้พอใจ?” เหมือนไม่ยิ้มอีก สุมิตรพูดด้วยความยิ้มที่
“คุณ..จันวิภาหมดอารมณ์ เธอรู้ได้เลยว่าคงคุยกับ ผู้ชายคนนี้ดีๆไม่ได้: “สุมิตร คุณนนี้มันมารร้าย!”
“ฉันเหรอมารร้าย?” สุมิตรอดหัวเราะไม่ได้: “ถ้าเทียบกับ ที่เธอพูดไม่เต็มปากว่าไม่เคยหักหลังฉัน แต่กลับไม่ใช่หญิง พรหมจารี ฉันมันมารร้ายตรงไหน? จันวิภา เรื่องพวกนี้เธอ มันสมควรได้รับแล้ว! นังสำส่อน!”
จันวิภาโกรธจนกัดฟันแน่น: “ใช่
ฉันไม่ใช่หญิงพรหมจารี ก่อนจะแต่งงานฉันเสียมันไปแล้ว แต่ฉันจะบอก คุณนะสุมิตร ครั้งนั้นไม่ใช่ฉันอยาก ฉันถูกบังคับ ฉันไม่ใช่คน แบบที่คุณคิด แล้วนอกจากนี้ฉันยังไม่เคยทำเรื่องน่าละอาย อะไรให้คุณสักเรื่อง!!!”
หลังพูดจบ จันวิภาก็นั่งอีกฝั่งหนึ่ง ใกลจากสุมิตรไปอีกเล็ก น้อย หันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง กัดฟันแน่น เงยหน้า พยายามไม่ให้น้ำตาของตัวเองไหลลงมา
สุมิตรไม่สนจันวิภาอีก เพียงแต่ยิ้มขึ้นเล็กน้อย
แต่เพียงแค่รอยแสยะยิ้มรอยนั้นกลับเหมือนบังคับให้จัน วิภาน้ำตาไหลออกได้สำเร็จ
ทำไมเขาถึงไม่เชื่อเธอ ถ้าไม่มีไม่มีครั้งนั้นที่โรงแรมนั้น
คงจะดี..
ทั้งสองก็ยังคงเงียบกันแบบนี้ต่อไป บรรยากาศในรถยิ่ง อึดอัดขึ้น อึดอัดขึ้น แต่จันวิภากลับสงบจิตสงบตัวใน สถานการณ์ที่เงียบสงบนี้ได้
ในเวลานั้น อยู่ๆสุมิตรก็ยื่นมืออกมากอดเข้าไปที่เอวของ จังวิภา และดึงเธอเข้าไปในอ้อมกอดของเขา
จันวิภาตกใจ หันตัวกลับไป ถูกสายตาของสุมิตรจับจ้อง พอดี ในขณะนี้ในนัยน์ตาลึกๆของเขา มีอารมณ์ที่จันวิภาไม่ เข้าใจอยู่
“ห้ามร้องไห้!” สุมิตรพูดขึ้น
ในที่สุดเขาก็เปิดปากทำลายความเงียบไปแล้ว
จันวิภาตีกตะลึง
สักพักก็เข้าใจ ที่เธอหันหน้าออกไป
ร้องไห้นั้นถูกสุมิตรเห็นเข้าแล้ว
พอคิดถึงจุดนี้ นัยน์ตาของเธอก็แดงขึ้นอีก
สุมิตรไม่พูดต่อ ก้มหน้าลงไปใกล้ชิดกับจันวิภา พร้อมยื่น มือขึ้นไปจับที่หน้าของจันวิภา
จันวิภาตกใจหนัก ถูกการกระทำของสุมิตรทำให้ตกใจจน หน้าแดงขึ้นมา ในใจเครียดไม่เป็นสุข
“สุ.สุมิตร…” จันวิภาพูดอย่างเครียดขึ้น แล้วน้ำเสียงก็
เปลี่ยนไปด้วย
ในเวลานี้กลับได้ยินเสียงเปิดประตู คนขับยืนอยู่นอกรถ แล้วพูดอย่างสุภาพขึ้น: “นายน้อยถึงบ้านแล้ว”
จันวิภาตกตะลึง จึงได้สติกลับมา คิดถึงเรื่องเมื่อครู่ เธอ
ก็เขินอายเป็นอย่างมาก รีบยื่นเท้าออกไปราวกับจะบินออก
จากรถ
แต่สุมิตรกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาลากจันวิภา ไว้ สวมชุดคลุมให้เธอแล้วก็อุ้มเธอลงจากรถไป
จันวิภาไม่รู้จะบรรยายว่าตอนนี้จิตใจของเธอเป็นยังไง เธอทำได้แค่จับชายแขนเสื้อของต้นเองแน่นๆ ย่อมให้สุมิตร กอดไว้
สาวใช้ที่เดินมาต้อนรับข้างๆเห็นภาพนี้ ก็ปรากฏทันทีว่านายน้อยไม่ใช่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับนายหญิงคนนี้