ตอนที่ 104 จำเป็นต้องถามเขาให้ชัดเจน
“ไม่มีนะ” นวาระตกใจเสียจนเนื้อเต้น เขายืนอยู่ตรง นั้นไม่ขยับไปไหน สุมิตรที่รูปร่างสูงใหญ่เหมือนกับจะเดินมา อย่างไรอย่างนั้น
สุมิตรไม่พูดอะไร จ้องมองเธออย่างเยือกเย็น
นวาระกลืนน้ำลายลงอีกหนึ่ง ค่อยๆเดินมาอยู่ตรงหน้าเขา ใช้แขนทั้งสองเกี่ยวไปที่คอของเขา แล้วพูดด้วยเสียงออดอ้อน “ฉันจะมีเรื่องบิดบังสุมิตรได้อย่างไงกัน ฉันได้มอบทุกสิ่งทุก อย่างของตัวเองไปให้คุณหมดแล้ว ฉันไม่ได้โกหกนะ”
สุมิตรดึงนวาระลงมาอย่างไร้อารมณ์ เขามองตรงไปที่ ตาของนวาระ แล้วถามอย่างบีบบังคับ “ทางที่ดีเธออย่ามา หลอกฉันดีกว่า ไม่งั้นล่ะก็ ถ้าฉันเจอเข้า
ครั้งนี้นวาระกลัวจนหน้าถอดสีจริงๆ เธอทิ้งตัวลงกลับสู่ อ้อมอกของสุมิตรอีกครั้ง กระซิกๆแล้วพูดขึ้น “นวาระไม่ ได้โกหกคุณ คุณธนภาคเขาไม่เชื่อฉัน แล้วทำไมสุมิตรถึงไม่ เชื่อฉันไปอีกคนล่ะ ฮือๆ…ฉันเปล่าจริงๆนะ..
เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของนวาระ สุมิตรก็รู้สึกรำคาญ ต้องรู้ให้ได้ ทุกครั้งที่นางแพศยานั่นถูกเธอดูถูกและรังแกก็ยังไม่เคยต่อหน้าเขามาก่อน
ประเดี๋ยวก่อน ทำไมถึงคิดถึงนางแพศยาอีกแล้ว? !
สุมิตรออกมาด้วยความหงุดหงิดอยู่เล็กน้อย น้ำ เสียงเปี่ยมไปด้วยความใจร้อน “พอแล้ว ร้องไห้กระซิกๆตลอด ทั้งวันให้มันได้อะไร มีอะไรก็พูดมาดีๆ”
เป็นอีกครั้งที่ถูกสุมิตรลากออกไป นวาระดูเหมือนจะ อึดอัดอย่างเห็นได้ชัด เธอยืนอึ้งอยู่ที่เดิม นำความอึดอัดนี้ เปลี่ยนเป็นความไม่ยุติธรรมแล้วร้องไห้ฟูมฟายออกมาอย่าง สลดใจ “ที่แท้สุมิตรก็ลืมไปแล้ว ครั้งแรกของเรา วันนั้นที่ โรงแรมนั่น คุณเดินเข้ามาที่ห้องของฉันโดยบังเอิญ และยังมี ความสัมพันธ์กับฉันอีก เอาครั้งแรกของฉันไป คุณหยาบคาย จริง”
“ต่อมา ฉันก็เลยกระโดดลงหน้าต่างไปฮือๆ..เดิมฉันคิดว่าครั้งแรกของฉันเสียไปแล้วก็เสียไป แต่ใครจะคิดว่า ต่อมาคุณก็มาหา ฉัน ฉันมอบความไว้ใจให้คุณจดหมด ไม่ ไม่ คิดเลยว่าคุณจะสงสัยฉันอย่างนี้ ! ”
นวาระกล่าว “ฉันติดตามคุณโดยที่ไม่มีฐานะอะไร! คุณ ยังทำกับฉันอย่างนี้อีก! ”
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของสุมิตรก็เริ่มที่จะอ่อนลง เขาตบ ไปที่หลังของนวาระ น้ำเสียงที่เยือกเย็นยังคงนุ่มนวล “เอาล่ะ อย่าร้องอีกเลย ฉันเชื่อว่าเธอไม่กล้ามีเรื่องบิดบังกับฉันหรอก
แต่นวาระยังไม่พึงพอใจ แม้ว่าเธอจะหยุดร้องไห้แล้ว แต่น้ำเสียงกลับแฝงไว้ด้วยความไม่ชอบธรรม “พูดไปพูดมา มิตรก็ยังไม่เชื่อฉันอยู่ดี”
สุ
“ฉันเชื่อเธอ” สุมิตรพูดออกมาอย่างอดกลั้น แต่ในใจกลับ ไม่พอใจอยู่เล็กน้อยต่อการกระทำอะไรหลายๆอย่างของธน ภาค เห็นได้ชัดว่านวาระรู้รายละเอียดของวันนั้นได้ถี่ยิบขนาดนี้ จะไม่ใช่แมวป่าตัวน้อยไปได้อย่างไร
เขาก้มลงมอง ธนภาคจะเอาหลักฐานอะไรมาให้เขาดู
เมื่อได้ฟังคำยืนยันจากสุมิตรแล้ว นวาระจึงจะหยุดร้องให้ และยิ้มออกมาได้ เธอกอดคอของสุมิตร แล้วมอบริมฝีปากอม ชมพูของตนเองให้ไปอย่างอาจหาญ
ระหว่างที่คลอเคลียอยู่นั้น ของที่มีสีเขียวมรกตก็ได้ล่วง หล่นลงมาจากเรือนร่างของเธอ แต่นวาระกลับตกอยู่ในความ นุ่มนวลของตนเองจนไม่อาจคลี่คลายออกมาได้ ดวงตาที่ แหลมคมของสุมิตรจ้องมองสิ่งของนั้นอย่างคุ้นเคย เขาได้หยุด การกระทำลงเสียแล้ว
ความสนใจถูกทำลายจนแตก ทำให้นวาระไม่พอใจ แล้ว เอ่ยถามสุมิตรด้วยใบหน้าที่สงสัย “สุมิตร คุณเป็นอะไรไป หรอ?”
สายตาของสุมิตรมองไปยังหยกที่อยู่บนพื้น จู่ๆก็มีความ คิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ เขาพูดกับนวาระด้วยใบหน้าที่สงบ นึ่ง “หยกเธอตกนะ”
นวาระมองตามสายตาของสุมิตรไปเห็นหยกสีเขียวมรกตตกอยู่บนพื้น ภายในใจจึงเหยียดหยามออกมาอยู่เล็กน้อย แต่ ใบหน้ายังคงแสร้งอุทานออกมาอย่างตกอกตกใจ “ตายจริง ไม่นึกเลยว่ามันจะตกลงมา! ”
พูด พร้อมกับก้มตัวลงไปเก็บมันขึ้นมา แล้วแสร้งทำเป็น เก็บเอากลับไปในอ้อมแขนอย่างระมัดระวัง
“เธอไม่ดูสักหน่อยหรอว่ามันแตกหรือเปล่า มันไม่สำคัญ กับเธอเลยหรือไง?” การแสดงออกบนใบหน้าของสุมิตรนั้นไม่ แน่นอน มันทำให้มองความคิดของเขาในขณะนี้ไม่ออก เขาดู เหมือนลึกลับซับซ้อน และคาดเดาได้ยากยิ่ง
นวาระอึดอัดใจ ไม่แน่ใจว่ามีคำพูดอะไรแฝงอยู่ในคำพูด ของสุมิตร จึงพูดออกไปอย่างสบายๆ “ตอนที่ฉันเก็บมันขึ้นมา ฉันก็มองดูแล้วแหละ มันไม่ได้เป็นอะไร”
“พูดก็พูดเถอะ หยกนี้มันสำคัญกับฉันมาก มันเป็นของ เพียงชิ้นเดียวที่แม่ทิ้งไว้ให้ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณเก็บมันได้ใน โรงแรมคืนนั้น ฉันเดาว่าก็คงจะไม่ได้เห็นมันอีก สุมิตร คุณดีกับ ฉันขนาดนี้ ฉันนี้รักคุณจริงๆเลย! ” นวาระโน้มตัวลงหลบ เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของสุมิตร ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความ พอใจ
สุมิตรมองไปที่สีหน้าของนวาระอยู่ครู่หนึ่ง จึงปล่อยวางใจ ที่คาดเดาลงไป ดูเหมือนว่าตนเองจะสงสัยมากไปหน่อย นวาระ ก็คือแมวป่าตัวน้อย แมวป่าตัวน้อยก็คือเธอ ไม่มีคนที่สอง อย่างแน่นอน เขาไม่ควรที่จะสงสัยเธอเลย
นวาระไม่รู้การเคลื่อนไหวภายในใจของสุมิตร รู้สึกแต่ เพียงตนเองหลบเลี่ยงได้แล้ว ยังดีที่ตนเองมีไหวพริบ มิเช่นนั้น ล่ะก็เรื่องคงจะถูกเปิดโปงออกมาแล้ว
จันวิภาที่อยู่ด้านนอกประตูพึ่งเดินผ่านไป แล้วก็หยุดลง เธอได้ยินสิ่งที่นวาระพูดกับสุมิตรจนหมด ใบหน้ามีความ เคร่งขรึม แล้วตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิด
เนื่องจากธนภาคได้สัญญากับสุมิตรเอาไว้ว่าจะคืนความ บริสุทธิ์ให้กับนราวิชญ์ และจะพยายามติดต่อกับเธอให้น้อย ที่สุด ดังนั้นจันวิภาเลยถูกสุมิตรพาออกมาจากห้องเก็บของนั่น และกลับเข้าสู่ห้องของตนเองอีกครั้ง
คิดไม่ถึงว่าตอนที่ตนเองเดินผ่านห้องของสุมิตรในวันนี้ จะ ได้ยินเรื่องราวที่ยอดเยี่ยวเช่นนี้เข้า!
สิ่งที่นวาระพูดออกมา มันช่างละม้ายคล้ายคลึงกับตอนที่ ตนเองเจอกับคนแปลกหน้าในโรงแรมเสียจริง และยังหยก ก้อนนั้นอีก หยกของนวาระก็หายไปที่โรงแรมแห่งนั้นเหมือน
กัน!
นี่มันหมายถึงอะไร…บนโลกใบนี้ มันมีเรื่องราวที่ บังเอิญเหมือนกันขนาดนี้เชียวหรือ? !
นี่…นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไร? !
จันวิภาลำลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ครั้งที่แล้วที่ธนภาคพูดกับเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ในโรงพยาบาล เนื่องจากใจเธอพะว้าพะวงติดกับลูกอยู่ มิหนำซ้ำยังร่างกาย อ่อนแอ จึงไม่ได้คิดให้มากมายนัก
วันนี้เมื่อได้ยินนวาระพูดเช่นนี้ออกมา เธอจึงรู้สึกว่าเรื่องนี้ มีจุดน่าสงสัยเยอะเกินไปแล้ว!
มันจะไปมีสองเรื่องราวที่คล้ายคลึงกันขนาดนี้ได้เช่น
ไร? ! และยัง…
ครั้งที่หนึ่ง ทำไมตอนที่นวาระเห็นเธอครั้งแรก แต่ต่อมา ท่าทีตอนที่เจอกันก็ไม่เหมือนเดิม อาจจะกล่าวได้ว่าเมื่อศัตรูมา พบกันดวงตาจะมีสีแดงเป็นพิเศษ นวาระจะต้องมีความลับซ่อน อยู่แน่ๆ และยังเรื่องที่จงใจเข้าใกล้เธออีก!
ครั้งที่สอง ทำไมตอนที่นวาระอยู่กับเธอที่โรงแรมครั้งแรก จึงถูกคนลักพาตัวไป และหยกก็สูญหายไปในวันนั้นเช่นกัน ตอนที่เธอเอ่ยถามเรื่องหยกกับนวาระ เธอกลับพูดว่าได้สวมใส่ อยู่บนเรือนร่างมาหลายปีแล้วล่ะ?
ครั้งที่สาม เมื่อครู่นี้ที่สุมิตรพูดว่ามีเรื่องอะไรก็อย่ามา ปิดบังเขา.ที่แท้ก็พูดถึงความลับอะไรบางอย่างของนวาระที่ ซ่อนเร้นอยู่?
มันต้องมีบางอย่างผิดปกติ..มันต้อง.
จันวิภาที่ซึ่งกำลังครุ่นคิดอยู่นั้นรู้สึกว่ามีความลับอะไรบาง อย่างที่เธอค้นพบเข้าเสียแล้ว เธอจึงตัดสินใจที่จะไปหาคนที่รู้ เรื่องราวนี้มากที่สุด-ธนภาค!
เธอจำเป็นต้องไปหาเขา! ถามเกี่ยวกับทั้งหมดของเรื่องนี้
ให้ชัดเจน!