ตอนที่ 177 ฉันคิดถึงเธอจริงๆ
ผลักนราวิชญ์ออกไปเบาๆจันวิภาพูดด้วยเสียงที่แผ่ว เบา”ประธานนราวิชญ์วันนี้รบกวนคุณมากจริงๆคุณไม่ต้องไป ส่งที่ชั้นบนก็ได้ฉันไปเองได้ค่ะ…….
อย่างไรก็ตามจันวิภาอยากที่จะปฏิเสธแต่ทว่านราวิชญ์ กลับทำเป็นเหมือนคำพูดทะลุหูไปอุ้มจันวิภาขึ้นไปบนคอนโด โดยที่ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
รับรู้ได้ถึงอ้อมกอดที่ได้รับหลายครั้งในคืนนี้จนวิภารู้สึก ตื้นตันใจและทำอะไรไม่ถูกถอนหายใจลึกๆ ออกมาในใจ อารมณ์ของเธอจู่ๆก็ซึมลงมาอยู่เล็กน้อย
นราวิชญ์แสนดีกับเธอขนาดนี้แต่เธอกลับปิดบังฐานะของ ตนเองเอาไว้และไม่บอกเขาไม่ว่าจะเป็นอารมณ์หรือเหตุผลต่าง ก็พูดออกมาไม่ได้ยิ่งไปกว่านั้นมันนานมากแล้วไม่ว่าคนทั้งสอง จะมีเรื่องข้องใจอะไรกันในอดีตมันก็ได้ผ่านไปแล้ว
ข่าวดีก็คือเขายังไม่ตายเขายังมีชีวิตอยู่ในวิภาเองก็ยังคง มีเพื่อนที่หายากและล้ำค่าเช่นนี้อยู่อีกคนหนึ่งแม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แล้วยังจะมีข้อห้ามอะไรอีกล่ะ? |
แต่ทว่า…….. ในใจกลับตะขิดตะขวงใจอยู่เล็กน้อย……..
หลังจากที่ขึ้นมาชั้นบนแล้วนราวิชญ์ก็ได้ปล่อยจนวิภาไว้ ตรงหน้าประตูพูดด้วยน้ำเสียงที่เอาใจใส่และนุ่มนวล ผมมาส่ง คุณถึงที่นี่แล้วคุณก็ต้องดูแลขาให้ดีๆอย่าไปโดนน้ำแล้วก็อย่า ไปกินอาหารที่ไปกระตุ้นมันเข้าล่ะคุณ……..ผมไปก่อนนะคุณ ดูแลตัวเองดีๆ……
พูดไปพลางนราวิชญ์ก็พยักหน้าหันตัวแล้วเตรียมที่จะเดิน
จากไป
เห็นเงาของนราวิชย์เดินไปทางลิฟท์คอของจันวิภาราวกับ มีอะไรติดอยู่อ้าปากขึ้นมาแล้วปิดปากแล้วอ้าปากออกมาอีก ครั้งในท้ายสุดตอนที่นราวิชญ์เดินเข้าไปในลิฟท์จันวิภาจึงอด ไม่ได้ที่จะพูดออกมาเบาๆ
“พี่นราวิชญ์..
น้ำเสียงเบามากทั้งยังเล็กอีก ในทางเดินที่เงียบสงบนรา วิชญ์ที่อยู่ไม่ไกลฟังเสียงกระซิบของจันวิภาได้อย่างชัดเจน
นราวิชญ์หยุดก้าวลงค่อยๆหันหน้ามามองจนวิภาในตอน นี้เขาเข้าลิฟท์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วและลิฟท์ก็กำลังจะปิดนรา วิชญ์หันมาได้เพียงแค่ครึ่งตัวประตูลิฟท์ก็ค่อยๆปิดลงทีละ น้อยๆ
จนวิภาจับประตูอย่างไร้เรี่ยวแรงจ้องมองอย่างว่างเปล่า ในทางเดินเหลือไว้เพียงเธอเพียงลำพัง
มันทั้งเงียบสงบและไร้เสียง
ความโดดเดี่ยวของจันวิภากินเวลาเพียงแค่สามสิบวินาที หลังจากสามสิบวินาทีลิฟท์ก็ได้เปิดขึ้นมาอีกครั้งเงาของพรา วิชญ์ปรากฏตัวออกมาอยู่กลางลิฟท์เขาเดินเข้ามาหาจนวิภา อย่างรวดเร็วแล้วกอดเธอเอาไว้จนแน่น
กระซิบพูดเบาๆ จนวิภา…….
จันวิภาถูกนราวิชญ์โอบกอดกอดอย่างเต็มคราบโดยที่ไม่ ได้ระวังอะไรเลยร่างกายยังคงคุ้นเคยกับกลิ่นของมิ้นต์การกอด กันครั้งนี้มันแน่นกว่าครั้งไหนๆที่ผ่านมาราวกับกลัวว่าวินาทีต่อ ไปจนวิภาจะหายสลายหายไป
นราวิชญ์กอดจันวิภาเสียจนแน่นในอ้อมกอดนี้มีความ อาลัยอาวรณ์ที่มากเกินไปและความรักที่ลึกซึ้ง
มันเป็นเวลานานในวิภาจึงจะมีสติกลับมาจากอาการช็อค ที่นราวิชญ์กลับมาเธอรู้สึกได้ถึงอ้อมกอดของนราวิชญ์อย่าง เงียบงันมือทั้งสองห้อยลงอยู่ข้างกายไม่มีการตอบสนองเลย แม้แต่น้อย
พื้นราวิชญ์…….ยังคงมีความรู้สึกลึกๆ ให้กับเธอ
“จันวิภาจันวิภาในที่สุดเธอก็จำฉันได้แล้ว……..ราวิชญ์ อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
จันวิภาตกตะลึงที่แท้พื้นราวิชญ์ก็ไม่ได้ทำดีกับผู้หญิงที่เจอ กันเพียงแค่ครั้งสองครั้งแต่เขารู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่าเธอคือฉันวิภา
นราวิชญ์โอบกอดจนวิภาอย่างเงียบๆอยู่นานจึงจะถอน หายใจแล้วเปิดปากพูดออกมา ที่จริงแล้วหลังจากวันนั้นที่อยู่ ในห้องน้ำชาตอนที่ฉันเห็นเธออยู่ข้างๆ สุมิตรฉันก็จำเธอได้ ทันที่ฉันรอให้เธอมาหาฉันอยู่ตลอดแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะไม่ มาหาฉันและก็ไม่มีจดหมายมาอีกและที่คิดไม่ถึงยิ่งกว่านั้นก็คือ คืนนี้กลับได้พบเธอเช่นนี้……….ถึงเธอจริงๆ….
พูดไปพลางนราวิชย์ก็ได้ออกแรงกอดจนวิภาอีกครั้งแล้ว พูดออกมาอย่างลึกซึ้ง “จันวิภา………ปีมาแล้วฉันคิดถึงเธอ จริงๆ!
“หลายปีขนาดนี้แล้วเพื่อเธอแล้วฉันก็เลยยังไม่ได้แต่งงาน เลยจนถึงตอนนี้แม้จะรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่ในประเทศแต่ฉันก็ยังรอ เธอกลับมาอยู่ตลอดเพราฉันรู้ว่าเธอจะต้องกลับมาอย่าง แน่นอน! เธอคงไม่ทิ้งบ้านเกิดของเธอไปแน่และเธอก็จะไม่ลืม ความทรงจำที่มีความสุขของพวกเราที่อยู่ที่นี่จันวิภาเธอเป็นคน ที่หวนคิดถึงเรื่องในอดีตเธอจะตัดใจทิ้งไปได้อย่างไร? และฉัน เชื่อว่าตราบใดที่ฉันยินดีที่จะรอเธอจะต้องกลับมาแน่จากนั้นเข้า
จะมาอยู่ด้วยกันกับฉัน
“ฉันวิภา……เธอกลับมาแล้วดีจริงๆ!
“พี่นราวิชญ์………วิภาพูดชื่อของนราวิชญ์เบาๆครับ ไม่ตอบสนองต่อความรู้สึกของเขา
หลายปีมาแล้วหัวใจของพื้นราวิชญ์ที่มีต่อเธอยังให้การไปเธอจะทำอย่างไรดีล่ะ?
ภายในใจของฉันวิภาเหนื่อยล้าเข้าเสียแล้วไม่อาจรับ ความเจ็บปวดได้มากขึ้นอีกเธอไม่อาจที่จะอยู่ด้วยกันได้กับนรา วิชญ์และก็ไม่อาจผูกพันกับนราวิชญ์ได้เธอเหนื่อยจริงๆ ไม่ สามารถรักใครได้อีกจริงๆ
ทั้งสองคนทําท่าทางเช่นนี้อยู่นานนราวิชญ์จึงจะปล่อยฉัน วิภาอย่างจำใจเขายิ้มออกมาอย่างไม่เต็มใจแล้วพูดขึ้นวัน วิภาเธอกลับมาได้ก็ดีแล้ว”
เขาพูดมาเยอะขนาดนี้จนวิภายังไม่พูดว่าฉันก็คิดถึง เหมือนกันออกมาสักคำนี้มันก็เพียงพอที่จะพิสูจน์จุดยืนของเธอ คิดไม่ถึงเลยหลายปีมาขนาดนี้แล้วคนที่จันวิภาเลือกก็ยังไม่ใช่ เขา
แต่ก็ยังดีที่อย่างน้อยก็ไม่ใช่สุมิตรเพราะตอนนี้สุมิตรได้ สูญเสียความทรงจำไปแล้วเขาจึงไม่สนใจว่าที่จันวิภาปรากฏ ตัวอยู่ข้างสุมิตรมีจุดประสงค์อะไรเขาเชื่อการเลือกของจันวิภา
จันวิภาเองก็ยิ้มออกมาเช่นกันทั้งสองคนไม่ได้พบกันมา นานและแยกออกจากกันในช่วงเหตุการณ์ที่คิดว่าเขาตายไป แล้วมีคำพูดอีกมากมายที่จะต้องย้อนระลึกรำพึงรำพัน
จันวิภาครุ่นคิดยิ้มแล้วพูดออกมายืนอยู่นอกประตูบาน ไปมันจะไม่ดีเราเข้าไปข้างในกันก่อนเถอะ
พูดไปพลางก็หยิบกุญแจออกมาเปิดประตู
หลังจากเข้าห้องนวิภาก็ได้พูดออกมาอีกครั้ง พี่ไปนั่งรอ โซฟาก่อนฉันจะไปในน้ำมาให้
ไม่อย่า”นราวิชญ์ขวางวิภาเอาไว้เขาพูดออกมา อย่างร้อนรน เธอไปนั่งรอที่โซฟาเถอะเรื่องยกน้ำฉันจะเป็นคน เองตอนนี้ขาบาดเจ็บเดินเยอะไม่ได้
นี่…….มันช่างรบกวนจริงๆวิภาก้มศีรษะลงที่ บวมเป่งของเธอแม้แต่รองเท้าแตะก็ไม่สามารถสวมใส่ได้ สุดท้ายแล้วคงต้องประนีประนอม ก็ได้งั้นก็รบกวนพี่แล้ว
“ด้วยความสัมพันธ์ของพวกเราจะมาพูดรบกวนอะไรกัน ไม่รบกวนเลย” นราวิชญ์ส่ายหัวแล้วยิ้มออกมาเขาอุ้มวิภา ขึ้นมาแล้วเดินไปทางโซฟา โดยไม่มีคำอธิบายใดๆปล่อยเธอ ลงจากนั้นจึงหันตัวแล้วเดินเข้าไปในห้องครัว
ภายในใจของฉันวิภาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมานรา วิชญ์กับเธอขนาดนี้เขาทั้งซื่อตรงและทุ่มเท
เพียงครู่เดียวใบหน้าของวิภาก็หงิกงอขึ้นมา
นราวิชญ์ใกล้จะออกมาจากห้องครัวแล้วเขาให้กับ ตนเองและจันวิภาเดินมานั่งที่โซฟาข้างๆเธอส่งแก้วน้ำที่ถืออยู่ ในมือไปให้กับจันวิภาที่อยู่ตรงหน้าแล้วพูดขึ้น ดื่มมั้ย?
ทรมานมาตลอดทั้งคืนเองก็คอแห้งแล้วจ้องมองน้ำ อยู่ในมือของนราวิชญ์เธอรับมันมาแล้วพูดขอบคุณ
เมื่อได้ยินคำพูดของฉันวิภานราวิชญ์จึงจิตตกอยู่เล็กน้อย เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่นัก เธอสุภาพ กับฉันขนาดนี้ยังเรียกฉันว่าพี่ชายอีกหรือที่ฉันดูแลเธอพี่ชาย ดูแลน้องสาวมันไม่สมควรหรือไง?