ตอนที่178หลังจากหกฉันยังคงอยู่
ก็ได้ที่จริงแล้วจันวิภาต้องการที่จะรักษาระยะห่างเล็กน้อย กับนราวิชญ์จึงพูดขอบคุณออกไป
เพื่อที่จะไม่ทำให้บรรยากาศน่าอึดอัดขนาดนั้นจึง เปลี่ยนหัวข้อในการพูดคุยเธอพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไว้ด้วยการ ตำหนิอยู่เล็กน้อย เมื่อเทียบกับอันนี้พี่แกล้งตายก็ยังไม่บอกฉัน เลยนี่มันน่ารังเกียจที่สุด
เมื่อได้ยินดังนั้นนราวิชญ์จึงเริ่มยิ้มออกมาแล้วพูดอย่าง รู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย ที่ฉันไม่ได้บอกให้เธอรู้ล่วงหน้าเกี่ยวกับ เรื่องนี้ฉันเองทำไม่ถูก ในตอนนั้นสถานการณ์มันเร่งด่วน มากขอโทษเธอที่นี่เลยก็แล้วกัน”
“ขอโทษแล้วพี่คิดว่าฉันจะยกโทษให้หรอ?”จันวิภาต้อง เขม็งเธอทุบไหล่ของนราวิชญ์อย่างโกรธเคืองแล้วพูดออกมา ด้วยความโมโห ถ้างั้นนั่นก็ไม่ใช่อุบัติเหตุทางรถยนต์ ทั้ง การตายและศพที่ตายอะไรนั่นอีกพี่ทำให้ฉันเป็นห่วง จริงๆ ทำให้ฉันตกอยู่ในความรู้สึกผิดนานถึงหกปีเต็ม!
นราวิชญ์ถูกจั่นวิภาจ้องมองเสียจนหัวเราะออกมาเขาอด ไม่ได้ที่จะหัวเราะแล้วพูดออกมาอย่างจริงจัง เอาล่ะๆๆไม่ดีเองฉันสมควรตายเป็นหมื่นๆครั้งพูดมาเถอะถ้าเธอจะระบายอารมณ์ใส่ฉันฉันก็ไม่เสียใจหรอก”
“หึ! เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้จนวิภาก็ไม่ได้ต่อว่าอีกต่อไป นราวิชญ์ที่ดีกับเธอมามากพอแล้วถ้าเธอยังจะเรียกร้องอะไร อีกเธอก็ไม่รู้จักพอแล้ว
ในตอนนี้ทำได้เพียงท่าทางที่แสร้งทำเหมือนกับกำลัง โกรธแล้วพูดอย่างไม่พอใจ เทียบกับอันนี้การที่พี่มีชีวิตอยู่ต่อ ให้ฉันนี้เป็นสิ่งที่ฉันชดเชยให้ได้ดีที่สุดแล้ว! ”
ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าชีวิตอีกแล้ว
รู้สึกได้ถึงความกังวลในคำพูดของฉันวิภานราวิชญ์เองก็ หัวเราะไม่ออกจู่ๆสีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมแล้วพูดออกมาอย่าง
จริงจัง
ยิ้มเธอพูดได้น้ำเน่าขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”รู้ว่านี่เป็น คำมั่นสัญญาของนราวิชญ์แต่ฉันวิภาก็ยังคงเขย่าร่างกายของ เขาอย่างทนไม่ได้
ภายในใจกลับครุ่นคิดตามเอ้ยบนโลกนี้มีผู้หญิงที่ดีกว่า ฉันอยู่เยอะแยะเต็มไปหมดจะเอาชีวิตมาแขวนอยู่กับฉันทำไม
ฉันไม่มีค่าพอหรอก
นราวิชญ์หัวเราะเขาไม่ต้องการที่จะพูดคุยในหัวข้อนี้อีก ต่อไปดังนั้นจึงได้เปลี่ยนหัวข้อ “จริงทำไมเธอถึงกลับประเทศ มาล่ะแล้วทําไมถึงอยู่ข้างๆ มิตรอีกฉันจำได้ว่าทุกปีที่แล้วเธอหนีออกมาไม่ใช่ว่าหนีออกมาจากข้างกายเขาแล้วหรอ?”
“นี่มัน……..วิภาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเล่าเรื่องจริงออกไป อีกครั้งในช่วงเวลาไม่กี่วันมานี้เธอได้พูดเรื่องนี้กับหลายๆคน แล้ว
ขณะนี้จนวิภาได้ตามถามนิเวศน์เกี่ยวกับเรื่องของพ่อเธอ แล้วเขาก็บินกลับมาประเทศมาเพื่อเรื่องของพ่อ โดยไม่มีการ บอกล่วงหน้าเธอได้บอกเรื่องราวกับนราวิชญ์ทั้งหมดว่าทำไม เธอถึงได้กลับประเทศมา
เมื่อนราวิชญ์ฟังจบก็ครุ่นคิดอยู่นานจึงจะย่อยคำพูดของ จนวิภาได้จนหมด เธอหมายความว่าเหตุผลที่เธออยู่ข้างสุมิตร ในตอนนี้เพราะเธอสงสัยว่าเขาซ่อนลูกชายของเธอเอาไว้เธอก็ เลยต้องการที่จะหาเบาะแสจากเขา?”
มักจะมีคนหนึ่งที่หลังจากฟังจบไม่ได้ยกย่องความฉลาด และความกล้าหาญของลูกชายของเธอเลย
จันวิภาพยักหน้าพูดตอบกลับไปว่า “ใช่แล้วไม่งั้นพี่คิดว่า ฉันอยากอยู่ที่นี่กับไอ้สารเลวนั่นหรอฉันรำคาญเขาจะตายอยู่ แล้ว”
ตอนที่จันวิภาไม่รู้ว่าตนเองกำลังพูดน้ำเสียงช่างดูรังเกียจ แต่กลับแฝงรสชาติของคำพูดที่ไม่ตรงกับใจที่ง่ายต่อการตรวจ จับอยู่เล็กน้อย
หลังจากที่นราวิชญ์ได้ยินจึงได้ถอนหายใจออกมาด้วย ความโล่งอกเขาพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง “เธอวางใจเถอะเรื่องลูกชายของเธอฉันจะช่วยเธอสอบถามเองเธออย่าไปกังวลมาก ถ้าเธอไม่อยากอยู่ข้างสุมิตรก็รีบออกมาให้ไวตราบใดที่เธอยัง ไม่ได้รับความคับข้องใจใดๆฉันก็ยินดีที่จะทำอะไรก็ได้ เรื่อง ของลูกชายเธอฉันกับธนภาคจะช่วยเอง
เมื่อได้ยินความเป็นห่วงในคำพูดของนราวิชญ์เธอก็ได้ มองนราวิชญ์อย่างตื้นตันใจจากนั้นก็อยากจะพูดขึ้นมาอีกเรื่อง หนึ่ง “พูดไปแล้วครั้งที่แล้วตอนที่ฉันถามธนภาคเขาเองก็พูด เรื่องให้ฉันฟังพวกพี่ดีกันตั้งแต่ตอนไหนทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่อง เลย”
เมื่อได้ยินคำพูดของวิภานราวิชญ์จึงตระหนักได้ว่า ตนเองได้พูดอะไรออกไปโดยที่ไม่ทันได้ระวังเข้าเสียแล้วจึงได้ ออกมาเบาๆ ทันทีแล้วพูดด้วยสีหน้าที่ไม่สบายใจอยู่เล็ก น้อยเรื่องนี้พูดไปแล้ว ก็ยาวฉันรู้จักกับธนภาคโดยบังเอิญว่า กันสั้นๆเขาช่วยเรื่องยุ่งของฉันเอาไว้เยอะเรื่องอุบัติเหตุทาง รถยนต์เมื่อหกปีหากไม่ใช่ว่าเขาช่วยเตรียมการฉันก็คงจะ หลอกสุมิตรไม่สำเร็จ
แต่น่าเสียดายที่สุมิตรสูญเสียความทรงจำไปแล้ว
ภายในใจของฉันวิภารู้สึกเสียใจอยู่เล็กน้อยแต่ปากไม่ได้ที่จะพูดล้อเล่นออกมา พูดไปแล้วนิสัยพวกพี่นี่คล้ายกัน มากต่างก็ชอบที่จะรักและดูแลคนอื่น………จะพูดว่า มันอบอุ่นมากเลยล่ะ
เมื่อได้ยินคำพูดของราวิชญ์ราวกับได้รับการเชยชมเสียจนดีใจเป็นอย่างมากเขาพูดออกมาอย่างปลื้ม ปีติ ใช้แล้วฉันสนิทกับเขามาก
ต่อมาคนทั้งสองจึงได้พูดคุยกันอย่างสนุกสนานตราบใดที่ ยังไม่ได้เอ่ยถึงความรักจนวิภาก็ไม่รู้สึกอึดอัด
ย้อนรำลึกกันไปมาท้องฟ้าก็ค่อยๆมืดลงนราวิชญ์มองที่ เท้าของวันวิภาก่อนที่จะออกเดินทางเขาอดไม่ได้ที่จะพูดออก มาดูเหมือนว่าอีกนานเลยกว่าเท้าของเธอจะอาการดีขึ้นให้ฉัน มาเยี่ยมเธอสองสามวันนี้แล้วซื้อของกินมาฝากเธอดีมั้ย?”
จันวิภาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งรีบพูดปฏิเสธไปทันที ไม่ต้อง ลำบากขนาดนั้นหรอกฉันโทรสั่งของกินเอาได้…….ที่สำคัญเลย พี่น่ะยุ่งมากและยังต้องมาเหนื่อยกับฉันอีกฉันไม่สบายใจนะ
นราวิชญ์ครุ่นคิดตารางล่าสุดของตนเองค่อนข้างแออัดดัง นั้นจึงพูดออกมาอย่างไม่เต็มใจในเวลานี้ก็ได้งั้นถ้ามีเวลาว่าง ฉันจะมาหาเธอ”
พูดไปเขาก้มลงและยกเท้าที่บาดเจ็บของจันวิภามาไว้บน ตักของเขาขมวดคิ้วขึ้นแล้วพูดอย่าขยับฉันนวดให้ทำอย่างนี้ มันจะฟื้นฟูได้เร็วขึ้นไปอีกหน่อยและในไม่ช้าก็จะลงเดินได้ แล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดของนราวิชญ์จันวิภาจึงเลิกดิ้นนอกจากนี้ หากเท่านี้ได้รับบาดเจ็บมากมันจะถ่วงเวลาในการหาลูกชาย ของเธอนั่นมันจะไม่ดีเอามากๆ
ดังนั้นนวิภาจึงปล่อยให้นราวิชญ์ใช้มือนวดตามอำเภอใจหายใจออกมาอย่างเจ็บปวดเป็นบางครั้งทุกครั้งที่เธอร้อง นราวิชญ์ก็จะหยุดมือลงถามเธอว่ายังไหวไหมจากนั้นจึงนวดที่ ตรงนั้นอีกครั้งและใช้แรงที่อ่อนลงอย่างไม่รู้ตัว
จ้องมองนราวิชญ์จันวิภาอดไม่ได้ที่จะเก็บมาคิดในใจ บางทีแฟนที่จิตใจตอบอุ่นและเอาใจใส่ก็ไม่เลวเหมือนกันแต่ น่าเสียดายเธอไม่ได้รักนราวิชญ์ไม่ได้มีความรู้สึกที่รักใครต่อ เขาเลยและก็ไม่อยากที่จะถ่วงเวลาซิตที่ดีๆของคนอื่น
นราวิชญ์ช่วยจันวิภานวดอาการบาดเจ็บของข้อเท้าหลัง จากนวดเสร็จก็ได้พูดขึ้น “ดึกมากแล้วเธอรีบพักผ่อนเถอะฉัน เองก็จะกลับแล้ว”
อื้อวันนี้ของคุณพี่มากจริงๆนะถ้าไม่มีพี่แล้วฉันก็ไม่อยาก จะคิดเลย”จันวิภาแสดงความขอบคุณออกมาจากใจอีกครั้ง แล้วยิ้มออกมาด้วยใบหน้าที่จริงใจ
นราวิชญ์ถอนหายใจออกมาเบาๆรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะไม่ให้เธอพูดว่าขอบคุณจึงยื่นมือออกมาลูบไปที่ศีรษะของ จนวิภาแล้วพูดออกมาด้วยใบหน้าที่รักใคร่ แค่เธอต้องการฉัน ก็จะมาอยู่ข้างกายเธอ