ตอนที่ 190 มิตรนายชอบเธอหรอ?
หลังจากที่ทั้งสองคนนั่งลงบนโซฟาอารมณ์ของสุมิตรไม่ ค่อยจะสู้ดีนักเขาเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยดี ธน ภาคนายชอบเลขาคนใหม่ของฉันหรอ?”
“อะไรนะ?! “ธนภาคอึ้งไปครู่หนึ่งจ้องมองสุมิตรอย่าง คาดไม่ถึงแล้วยิ้มออกมาอย่างชัดๆ “สุมิตรนายคิดอะไรอยู่? ทําไมฉันต้องชอบเธอด้วย! ฉันพึ่งจะเห็นเธอก็เลยเดินไป ทักทายก็แค่นั้นนายจะสนใจอะไรขนาดนั้น? หรือว่า…….อยู่ด้าน กันแค่ช่วงเวลาสั้นๆ นายก็ชอบเธอเข้าแล้วใช่มั้ย? ก็เลยสนใจ เธอขนาดนั้น?”
ยั่วยุไม่สำเร็จแต่กลับถูกยั่วยุแทนใบหน้าของสุมิตร หม่นหมองแล้วรีบพูดออกไปอย่างไม่พอใจ”ฉันเปล่า
“นั่นไม่มีแน่นอน! ”
แม้ว่าธนภาคจะมองใจสุมิตรออกแต่ก็ต้องแสดงตามน้ำ เขาต่อไปเขาฮุคไปที่ไหล่ของสุมิตรหัวเราะแล้วพูดขึ้นมา”ฉันก็ ไม่ได้ชอบเธอนายก็ไม่ได้ชอบเธอนั้นนายจะทำสีหน้า เคร่งเครียดไปทำไม? ปกติหน่อยสุมิตรอีกประเดี๋ยวฉันมีเรื่อง สำคัญมากที่จะต้องคุยกับนาย
.…….มิตรมองคนภาคเบาๆเม้มปากแล้วไม่พูดอะไรออกมาอีก
เมื่อเห็นเช่นนี้ธนภาคจึงอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมาในใจเจ้า หมอนี่ชอบคนอื่นอยู่แล้วยังจะปากแข็งอีก
หกปีที่แล้วก็ชอบมันเป็นความรู้สึกของความรักหลังจาก หกปีที่สูญเสียความทรงจำก็เช่นกัน
เฮ้อมาจนถึงสุดท้ายคนที่เจ็บปวดก็เป็นเขา
ดูเหมือนว่าช่วงนี้ธนภาคจะยุ่งมากจริงๆ เขาอธิบายเรื่อง บางอย่างที่สำคัญกับสุมิตรพูดคุยอยู่นานครึ่งชั่วโมงจึงจะออก ไปเดินที่จันวิภาอยากจะถามเขาว่าอยากจะมากินข้าวด้วยกัน ไหมแต่เมื่อเห็นเขารีบร้อนขนาดนี้มันจะไปรบกวนเขาเปล่าๆ
ตอนที่เตรียมรับประทานอาหารกลางวันสุมิตรแสดงท่าที เหมือนวันนี้จะไม่กินข้าวด้วยเขาต้องไปหาเจริญศรีที่โรง
พยาบาล
คนดีจริงๆกินข้าวก็ต้องมีเพื่อนกิน
จนวิภาแบะปากอย่างไม่พอใจเธออดไม่ได้ที่จะถามถึง
สถานการณ์ของเจริญศรี
“ร่างกายไม่มีปัญหาอะไรแล้ววันนี้เขาก็ออกจากโรง พยาบาลได้ฉันต้องไปรับเขาหน่อย สุมิตรสวมใส่เสื้อโค้ท พร้อมกับพูดออกมา
“จริง จองตั๋วเครื่องบินไปเมืองใหม่แล้วนะเวลาอีกไม่ วันเธอจัดการตารางให้หน่อยนะ
“ค่ะ”
จนวิภาพยักหน้าภายในใจผิดหวังอยู่เล็กน้อย
รอจนกระทั่งสุมิตรเดินออกไปจนวิภาจึงตบหน้าตัวเอง อย่างอดไม่ได้ตนเองเป็นอะไรไปทำไมถึงไม่มีความสุขเพราะ เจ้าสารเลวสุมิตรกันเขาอยากจะไปกับใครก็เรื่องของเขาตัวเอง จะคิดให้มันเยอะแยะไปทำไมกัน
ดูเหมือนว่าเรื่องน่าอับอายที่สนามบินวันนั้นยังไม่ได้เลื่อน หายไปดังนั้นจิตใจของเธอจึงยังย่ำแย่ขนาดนี้ถ้าครั้งนี้สุมิตร กล้าที่จะหลอกเธออีกล่ะก็เธอจะสั่งสอนบทเรียนให้เขาอย่าง โหดเหี้ยมแน่นอน!
จันวิภาคิดอย่างตรงไปตรงมาพร้อมกับความรู้สึกหิวที่อยู่
ในท้อง
ธนภาคยุ่งมากจนมากินข้าวด้วยกันไม่ได้สุมิตรก็รีบออก ไปกินข้าวกับคู่หมั้นจันวิภาเองก็ไม่อยากกินข้าวคนเดียวคิดไป คิดมาตอนบ่ายก็ไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องทำเธอจึงนึกถึงนรา วิชญ์ที่ช่วยเหลือเธอที่ข้อเท้าบาดเจ็บได้ขึ้นมามันจะดีกว่านะถ้า จะเลี้ยงข้าวเขาเพื่อเป็นการตอบแทนสักเล็กน้อย
ดังนั้นจันวิภาจึงโทรไปหาสุมิตรเพื่อลางานในตอนบ่าย
ทางด้านของสุมิตรนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งคิดว่าตนเองก็ไม่ได้
ไปเวลาว่างไปบริษัทตอนบ่ายจึงได้อนุญาตไป
ก่อนที่จะวางสายก็ได้สั่งกำชับอีกว่า “พรุ่งนี้จำไว้เลยนะว่ามาทํางานที่บริษัทด้วย
“จันวิภาวางสายลงด้วยความหดหูผู้ชายคนนี้
แปลกจริงๆ!
หลังจากที่ลางานสำเร็จจนวิภาจึงจะโทรหานราวิชญ์ใต้ อย่างสบายใจทางด้านนั้นรับสายอย่างรวดเร็วนราวิชญ์พูด ด้วยเสียงต่ำ “จันวิภา? นึกอะไรถึงโทรมาหาฉันได้?
เมื่อได้ยินเสียงของนราวิชญ์จันวิภาจึงหัวเราะแล้วพูดออก มา” พื้นราวิชญ์วันนี้ตอนบ่ายพี่ว่างมั้ยฉันอยากจะเลี้ยงข้าว หน่อยนะเพื่อแสดงความขอบคุณที่พี่ช่วยฉันนั้นตอนนั้น
“ฉันบอกแล้วว่าอย่าเห็นเป็นคนอื่นไกลและก็ไม่ต้อง ตอบแทนฉันหรอกแต่ถ้ากินข้าว……..นราวิชญ์พูดไปพลาง พร้อมกับพลิกดูอะไรบางอย่างเงียบไปครู่หนึ่งเขาจึงจะพูดออก มาอีกครั้ง “ดีที่วันนี้ฉันไม่มีธุระอะไรถ้าไปกินข้าวล่ะ อยู่ที่ไหนฉันจะไปรับ” ก็ได้เลยเธอ
“งั้นก็ดีเลย! “จันวิภาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่ง อก ถ้ามีเวลาก็มารับฉันนะฉันจะรอพี่ที่บ้าน
“โอเค” นราวิชญ์พูดจบก็รออย่างอดทนจนจันวิภาวางสาย
เขาจึงจะวางโทรศัพท์ลง
หลังจากวางสายไปแล้วเขาก็มองดูเอกสารที่ซ้อนทับกัน อยู่บนโต๊ะลุกขึ้นยืนสวมเสื้อโค้ทแล้วเดินออกไป
หลังจากจั่นวิภาวางหูโทรศัพท์เขา ก็กลับบ้านและเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขจัด ใบหน้าปลอมของตนเองออกอย่าง่ายๆ ในเมื่อ ต้องการที่จะขอบคุณนราวิชญ์ที่ช่วยเหลือเธอก็ไม่อาจแต่งตัว ให้น่าเกลียดเช่นนี้ได้
รอจนกระทั่งจันวิภากลับมาบ้านและจัดการทำความ สะอาดเสร็จสิ้นรถของนราวิชญ์ก็มาถึงข้างล่างคอนโดของเธอ อย่างพอดิบพอดีนราวิชญ์เอ่ยถามอย่างเอาใจใส่อยากกิน อะไร? ฉันจะพาไปกิน! ”
จันวิภารัดเข็มขัดนิรภัยหัวเราะแล้วพูดกับเขา “ฉันจองที่นั่ง ในร้านเอาหารไว้แล้วเราไปกินกันที่นั่นแหละ
พูดจบจันวิภาก็บอกชื่อร้านไปนราวิชญ์ก็ขับรถออกไป
ทันที
เนื่องจากในวิภาต้องการที่จะเลี้ยงข้าวนราวิชญ์ดังนั้นเธอ จึงอยากจะให้เขาสั่งอาหารก่อนในฐานะสุภาพบุรุษตนเองจะสั่ง อาหารก่อนได้อย่างไรแน่นอนว่านราวิชญ์ผลักมันคือให้กับฉัน วิภาผลักไปผลักมาจนวิภาจึงทำได้เพียงแค่มองเมนูอาหาร อย่างไม่รู้จะทำอย่างไร
ก้มศีรษะลงจึงไม่ได้เห็นสุมิตรและเจริญศรีที่เดินเข้ามาใน
ร้านอาหาร
ดูเหมือนคนสองคนนี้เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาสีหน้า ของเจริญศรีดีมากไม่เหมือนกับคนที่พึ่งจะประสบอุบัติเหตุทาง รถยนต์เลยเธอเกาะติดกับแขนของสุมิตรเอาไว้อยู่ดูท่าทางรัก กันมาก
จนวิภาและนราวิชญ์มองไม่เห็นพวกเขาแต่สุมิตรมองมา ครั้งแรกก็เห็นจันวิภาเข้าเสียแล้วเขาตกตะลึงเมื่อเขาเห็นนรา วิชญ์อยู่ตรงข้ามกับจันวิภาสีหน้าเหมือนจะไม่ค่อยสู้ดีนัก
เกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนี้เธอไม่ได้เข้าขากับธนภาค
หรอกหรือทำไมตอนนี้ถึงได้มากินข้าวด้วยกันกับนราวิชญ์ ผู้
หญิงที่รักอิสระงั้นหรือ?
ภายในใจของสุมิตรไม่พอใจอยู่เล็กน้อยเขาเดินเข้าไป ทักทายแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยันอยู่เล็กน้อย คุณจนวิภา คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะบังเอิญมาเจอกับคุณเข้าทำไมล่ะวันนี้ไม่ ได้ออกมากับธนภาคนั้นหรอ? เปลี่ยนผู้ชายแล้ว?
ความหมายก็คือเสียดสีว่ากันวิภาราคางามจริงๆไม่กี่วัน ก่อนยังเป็นธนาคตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นนราวิชญ์
เมื่อได้ยินเสียงของสุมิตรจันวิภาจึงเงยหน้าขึ้นมามอง เขาเห็นเขากับเจริญศรีที่เดินมาด้วยกันอย่างสนิทชิดเชื้อสีหน้า เธอเองก็ไม่ค่อยดีเหมือนกันยิ่งไปกว่านั้นคำพูดเขาแม้ว่าจะฟัง ดูไม่มีอะไรผิดแต่คนที่คุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดีเช่นกันวิภาก็ฟัง คำเยาะเย้ยที่อยู่ในน้ำเสียงของเขาออกตั้งนานแล้ว
ผู้ชายคนนี้จะต้องเข้าใจเธอผิดว่าเป็นผู้หญิงอิสระแน่ๆ
ตอนนี้สีหน้าของฉันวิภาย่ำแย่อยู่เล็กน้อยแล้วพูดออกมา ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะเต็มใจนัก “ธนภาคคือเพื่อนรักของฉัน คุณนราวิชญ์เองก็เป็นเพื่อนของฉันมากินข้าวเดียวกันกับเพื่อน คงไม่เกินไปหรอกมั้ง? ทำไมคะ? หรือว่าคุณสุมิตรเคยทำนั้นหรอ?”