ตอนที่234ก้มตัวลงไปจูบเธอ
ถึงแม้ว่าจะพูดปลอบใจตัวเองแบบนี้แต่ ความรู้สึกเกลียดของจันวิภาก็ไม่ได้มีม ากเท่าเมื่อก่อนแล้ว เธอมีความสุขที่จะทำอาหารให้สุมิตร ในขณะที่รอจันวิภาทำอาหารสุมิตรก็ใส่ เสื้อผ้าของตัวเองและนั่งอ่านนิตยาสาร อยู่ที่โซฟา
จันวิภามองดูสุมิตรจากมุมข้าง เธอพบว่ามองมุมนี้สุมิตรก็หล่อดีเหมือ
นกัน
เมื่อควบคุมความรู้สึกที่เลวร้ายของตัวเ องได้แล้ว จันวิภาก็พูดขึ้นว่า
“ทานข้าวได้แล้วค่ะ ท่านประทาน สุมตรวางนิตยาสารลง มองดูจันวิภาเดินมาทางนี้ สุมิตรก็เดินไปอย่างสบายใจ ราวกับว่าพวกเขาได้ใช้ชีวิตคู่ฉันสามีภร รยามานานหลายปีแล้ว
ไม่สิ นี่ต้องเป็นภาพลวงตาแน่ๆ หลังจากที่สุมิตรสารภาพออกไป จันวิภาก็อดคิดไปเรื่อยปื่อยไม่ได้ ไม่ได้การแล้วอีกหน่อยจะต้องสะกดจิต ให้ตัวเอง เพราะสุมิตรเป็นศัตรูของเรา ต้องควบคุมความคิดของเราให้ได้
“คิดอะไรอยู่หรอ”ในขณะที่จันวิภากำลั งจัดระเบียบกับตัวเองก็ได้ยินเสียงถาม ของสุมิตรดังขึ้น
ทันใดนั้นจันวิภาก็ดึงสติกลับมาก็พบว่า ตัวเองกำลังถือจานข้าวอยู่แต่ไม่ได้คืบ อาหารมา แล้วก็ไม่ได้กินข้าวที่ถืออยู่ ในสายตาของสุมตรมนคงแปลกมากจร
งๆ
เพื่อที่จะกลบกลื่นความอายของตัวเอง จันวิภาก็คีบอาหารมาใส่ปากตัวเอง แล้วพูดพึมพำว่า “กำลังกินข้าว”
สุมิตรมองเธอ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
ลักษณะของสุมิตรกลับไปเป็นปกติเหมื อนแต่ก่อนแล้ว
ถ้าหากว่าตอนกินข้าวเขาตักอาหารให้เ ธอละก็ จันวิภาต้องกินข้าวไม่ลงแน่ๆ
หลังจากที่สองคนกินข้าวด้วยกันเสร็จแ ล้วอย่างเงียบๆ ก็เป็นตอนบ่ายแล้ว ที่บริษัทของสุมิตรยังมีเรื่องที่จะต้องทำ ต้องกลับไปทำงานแล้ว
จันวิภาพยักหน้า
ยิ้มพร้อมโบกมือแล้วพูดว่า คำพูดของจันวิภาทำให้คนที่กำลังใส่เสื้ ออยู่ต้องหยุดชะงัก เขาหยุดใส่เสื้อผ้าแล้วหันมามองจันวิภ
า พร้อมถามว่า “คุณไม่ไปกับผมหรอ”
จันวิภาไม่เข้าใจจึงถามกลับว่า “ฉันต้องไปกับคุณด้วยหรอ”
สุมิตรทำหน้าดุ
เขาเดินเข้ามาดึงจันวิภา
แล้วกัดฟันพูดว่า
“ที่ผมต้องทำงานเพิ่มทั้งหมดมันเป็นเพ
ราะคุณ
เจ้านายยังไม่เลิกงานแล้วเลขาอย่างคุ ณจะเลิกงานก่อนได้ยังไง”
แต่ว่า”จันวิภาที่กำลังอยากจะพูดถึงข่า วลือที่บริษัทก็โดนสุมิตรตัดบทไปก่อน บบ
าลงของหัวหน้า
ห้ามขัดคำสั่ง”สุมิตรพูดอย่างโหดเหี้ยม “ได้ค่ะหัวหน้า”สีหน้าของจันวิภาไม่ค่อ ยดีเมื่อถูกสุมิตรลากออกจากบ้านแถมยั งโดนลากขึ้นรถอีก
ตอนที่รถขับเข้าไปถึงลานจอดรถของบ
ริษัท
จันวิภากลับไม่ยอมเดินตามสุมิตรไป เธอหยุดเดิน ทำหน้าจริงจังแล้วพูดว่า
“ท่านประธานคะ
ขึ้นไปก่อนเถอะค่ะ”ถ้าเราสองคนเดินขึ้ นไปพร้อมกันแล้วมีคนเห็นมันจะดูไม่ดี
นะคะ
สุมิตรขมวดคิ้ว
พูดด้วยความไม่พอใจว่า “ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ผม
เทพูดแล ว
“ไม่ได้ค่ะ”จันวิภายังยืนยันคำเดิม เธอพูดว่า
“ถึงแม้ว่าปากของพวกเขาจะไม่พูด แต่ในใจของพวกเขาจะเป็นอย่างไร ฉันไม่อยากถูกพูดถึงว่าฉันเป็นเมียน้อย
ในที่ที่ฉันไม่ได้ยิน คุณต้องเอาไว้ว่าถือเรื่องแบบนี้มากๆ” เมื่อเห็นความรู้สึกที่ไม่ยอมต่อรองด้วย ของจันวิภาสุมิตรก็ทำได้แค่ปล่อยวางค วามคิดที่จะเดินขึ้นไปพร้อมกันสองคน พูดด้วยความเบื่อหน่ายว่า “ก็ได้ ผมฟังคุณ”
จันวิภามองดูสุมิตรที่กำลังเดินเข้าไปใน ลิฟท์ รอเขาเดินเข้าไปได้ซักพัก จันวิภาก็เดินตามขึ้นไปโดยใช้ลิฟท์ของ ในขณะนั้น
ก็มีพนักงานเดินเข้ามาในลิฟต์เหมือนกั
น
ตอนพวกเขาเห็นจันวิภาก็ช็อกไปสักพั กแล้วจึงพยักหน้าให้เธอและเดินเข้ามา
ในลิฟท์โดยไม่พูดอะไร
แล้วก็ไม่ได้นินทาอะไรเธอ
จันวิภามีความประหลาดใจว่าทำไมท่า ทีของพวกเขาเปลี่ยนไปมาก เธอก็ได้คิดถึงเรื่องที่สุมิตรพูดว่าเขาได้
จัดการเรียบร้อยแล้ว
ถึงแม้ไม่รู้ว่าเขาจัดการได้ยังไง แต่ตอนนี้ไม่มีใครมองเธอว่าเป็นมือที่ส
ามแล้ว ในใจของเธอก็รู้สึกดีใจขึ้นมา
ในที่สุดลิฟท์ก็ขึ้นมาถึงชั้นบนสุด
จันวิภาก็เดินเข้าไปประจำที่โต๊ะของเขา มองไปที่โต๊ะที่ยังคงมีความเป็นระเบียบ จันวิภาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
เรียบร้อยเหมือนเดิม
ไม่มีใครพุ่งเป้ามาที่เธอก็ดีแล้ว
จันวิภานั่งลงและยุ่งกับงานได้ซักพัก ประตูออฟฟิศของสุมิตรอยู่ดีๆก็เปิดออ
ก
จันวิภานึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ชงกาแฟให้ สุมิตรเธอก็ลุกขึ้นกำลังจะไปชงกาแฟ ในขณะนั้นเธอก็เห็ยคนที่เธอคาดไม่ถึง คนคนนั้นเมื่อเห็นเธอก็อึ้งไปซักพัก แล้วสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปและดูเห มือยจะโมโหมาก
เธอเดินพุ่งเข้ามาหาจันวิภา พูดกับเธออย่างคุกคามว่า าตามศาสงของเพื่อนเธอว่าจะ นนเดช ตามศาส ไม่ปล่อยข่าวลือของเธอในบริษัทอีก และฉันขอให้เธอไปบอกเพื่อนของเธอ ด้วยว่าเรื่องที่จะไม่เอารูปของฉันไปให้ คนอื่นดูขอให้พูดแล้วทำให้ได้ด้วยละ
พูดเสร็จ
เธอก็มองจันวิภาด้วยสายตาเหยียดหย
าม และพูดเหยียดว่า
“คิดไม่ถึงเลยว่าคนหนุนหลังเธอจะเป็น แต่ฉันขอเตือนเธอไว้เลยนะจันวิภา
คนใหญ่คนโต
ครั้งนี้ถือว่าเธอโชคดี
ครั้งต่อไปถ้าเธอมาตกอยู่ในกำมือฉันอี กละก็ เธอไม่รอดแน่”
พอพูดดูถูกถากถางเสร็จแล้ว เจริญศรีก็หันหลังแล้วเดินจากไป
เหลือไว้แค่จันวิภาที่ยังคงยืนงงอยู่ที่เดิ ามนเกิดอะไรขน เจริญศรีพูดเรื่องอะไร เพื่อนของเธอทำไม แล้วรูปอะไร
ไม่สนว่าจะยังไง
แค่เจริญศรีไม่มาหาเรื่องเธอแค่นี้จันวิภ าก็สบายใจขึ้นมากแล้ว
ไม่กี่วันมานี้ที่มีเรื่องโชคไม่ดีเข้ามาก็ค่ อยๆหายไปแล้ว
จันวิภาก็เริ่มสบายใจขึ้น
เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำชาเพื่อที่จะชง พอสุมิตรเห็นแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะถาม
กาแฟให้สุมิตร
ว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น
ทำไมดูอารมณ์ดี”
“ไม่บอกหรอก”จันวิภายิ้มให้กับเขาและ เดินออกมาจากออฟฟิศอย่างมีชีวิตชีวา สุมตวยกรอยย ล้ว เขาอึ้งไปซักพัก จนวภาสะกดเขาแ
พอเขาได้สติกลับมาก็พบว่าจันวิภาออก ไปจากห้องทำงานของเขาแล้ว สุมิตรส่ายหัวให้กับตัวเอง ดูเหมือนว่าเขาจะชอบผู้หญิงคนนี้เข้าจ
ริงๆแล้ว แต่ทว่าความรู้สึกดีนี้ก็อยู่ได้ไม่นานเท่า
ไหร่
ความรู้สึกนี้ถูกงานที่มีเยอะทำให้ค่อยๆ
สูญหายไป
จันวิภาทำงานของเธอเสร็จแล้ว แต่ทว่าสุมิตรยังไม่กลับเธอก็ไม่กลับ
ด้วยเหตุนี้จันวิภาจึงทำได้แค่นั่งเหงาอ ยู่ในที่ๆของตัวเอง
รอสุมิตรทำงานจนเสร็จ
รอจนถึงห้าทุ่มสุมิตรถึงจะทำงานเสร็จ แล้วเดินออกม
ากห้องทางาน
สายตาของเขามองไปที่ที่นั่งทำงานขอ งเลขา แต่เขาก็มองไม่เห็นใคร เขาขมวดคิ้ว
ผู้หญิงคนนี้ตกลงกันแล้วไม่ใช่หรอว่าจ ะรอเขาเลิกงานพร้อมกัน
สุมมิตรเดินเข้าไปดูด้วยความรู้สึกไม่พ
อใจ
เขาพบว่าจันวิภากำลังนอนหลับอยู่ที่โต๊
ะของเธอ
ตอนที่เห็นนั้นสุมิตรอดไม่ได้ที่จะหัวเรา
ะออกมา
เขาเดินเข้าไปที่โต๊ะทำงานของเลขาเข ามองดูเธอนอนอยู่อย่างเงียบๆ
มองไปมองมา
เขาก็อดไม่ได้ที่จะก้มตัวลงแล้วจูบเธอ
ลิ้มรสความหอมหวานของเธอ