ตอนที่ 365เจรจาเงื่อนไข
นี่เป็นการกระตุ้นอย่างชัดเจน แต่สําหรับบางคนที่ถูกกระตุ้นด้วย จุดอ่อนกลับเป็นการโน้มน้าวที่ได้ผลดีที่สุดอย่างหนึ่ง
ชายคนนั้นเหงื่อแตกพลั่กเต็มหน้าผากไปหมดหันไปชักสีหน้า ใส่ไม่กี่คนที่อยู่ข้างๆคนพวกนั้นก็รีบหันหลังกลับทันที
เขาเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าหลินขึ้นเขียนก้าวไปข้างหน้าและ ใช้มือข้างหนึ่งบีบเข้าที่คอของหลินซีนเยียน”ข้าจะฟังความลับ ของเจ้าก็ได้แต่หวังว่าความลับของเจ้าจะทําให้ข้าพอใจนะ ถึง แม้ว่าเจ้าจะเป็นคนที่พวกข้าจะเอากลับไปรายงานแต่ว่าพวกข้า นั้นก็เป็นคนทําตามอำเภอใจซะด้วยสีหากว่าใจร้อนขึ้นมาอาจจะ เผลอฆ่าคนผิดไปสักสองสามคนก็ได้”
สีหน้าของหลินซีนเขียนยังคงเหมือนเดิมไม่ได้กลัวแต่อย่างใด แต่กลับพูดนุ่มนวลข้างๆหูของเขาว่า “ที่พวกเจ้าตามหาช่างฝีมือ เพราะว่าจะเปิดหีบสมบัตินั้นจําเป็นต้องถอดรหัสบางอย่างให้ได้ ความลับนี้คนของตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกนั้นรู้ทุกคน แต่ว่า…ยังมีตระกูลหลีที่รู้ตอนที่เปิดครั้งสุดท้ายก็ได้เบาะแสบาง อย่างมาจะต้องเป็นช่างฝีมือที่มีสายเลือดพิเศษถึงจะได้และข้า คือช่างฝีมือเพียงหนึ่งเดียวที่รู้ว่าตนมีสายเลือดพิเศษ เจ้าคิดว่า ทำไมเจ้าบ้านตระกูลหรี่ถึงอยากได้แต่ขาคนเดียวไปเป็นลูก สะใภ้ล่ะ?”
คําถามย้อนกลับของเธอก็คือสิ่งที่ลุงคนนี้สงสัยอยู่ในใจแต่ฟังจากที่หลินซีนเยียนพูดแล้วเขาก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผลดีเขาไม่ได้ พูดอะไรเพียงแค่จ้องหลินขึ้นเขียนตาค้างราวกับความลับที่เธอ บอกนั้นทําให้เขารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากนานกว่าจะ ได้สติกลับมา
หลินซีนเยียนหัวเราะในลำคอยกมือขึ้นจับข้อมือของเขาแล้ว ค่อยๆดันมือเขาออกไปจากคอของนาง”หากว่าเจ้าส่งตัวข้าให้ บ้านของเจ้าความเหน็ดเหนื่อยในครั้งนี้ก็เพียงพอให้เจ้าเลื่อน ตำแหน่งได้หลายขั้นแล้วแต่ว่า….ก่อนที่จะเสนอเงื่อนไขข้าจะต้อง ให้ความร่วมมือถึงจะได้ถ้าหากข้าไม่ยินยอมงั้นก็โทษที่อย่าง มากก็คงจะไม่เจ้าตายก็ขาตายเจ้าก็ดันรู้ความลับนี้เข้าแล้ว หากว่าขาตายด้วยน้ำมือของพวกเจ้าบ้านตระกูลหลีก็คงไม่นิ่งอยู่ เฉยแน่หากว่าทำให้บ้านของเจ้ารู้ว่าพวกเจ้าฆ่าข้าละก็ข้าคิดว่า พวกเจ้าสิบกว่าคนคงต้องตายตามข้าไปเป็นเพื่อนแล้วล่ะ”
การค่านวณของหลินซีนเขียนทําให้ชายวัยกลางคนถึงกับ สะดุ้งตกใจอีกครั้งเขาไม่ได้นึกถึงเลยสักนิดว่าการคำนวณของ หลินขึ้นเขียนจะใกล้ความเป็นจริงขนาดนี้เขาอาศัยอยู่ในตระกูล มาตั้งแต่เด็กรู้ว่าที่บ้านจะลงโทษกับผู้ที่ทำความผิดอย่างไร หากว่าเขาไม่รู้ความลับของหลินซีนเยียนเข้าก็รอดไปแต่หลินซีน เขียนดันให้เขารู้แล้วก็เป็นอย่างที่หลินซีนเยียนพูดหากว่าสักวัน บ้านของเขารู้ว่าเบาะแสสำคัญขาดหายไปจากที่นี่ถึงตอนนั้น พวกเขาทั้งกลุ่มคงหนีไม่พ้นบทลงโทษที่ไม่ต่างจากตายทั้งเป็น
จากนาทีไปพวกเขาไม่เพียงแต่ห้ามทำให้หลินซินเยียนตาย ยังต้องคอยปรนนิบัตินาง ๆ อีกด้วย
“ช่างเป็นผู้หญิงที่เจ้าเล่ห์นัก! ชายวัยกลางคนกัดฟันแน่นสบถ ออกมาแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า มิน่าล่ะขนาดตนอย่างเซวียน องยังถูกเจ้าทำให้สับสน!”
หลินซีนเยียนไม่ได้พูดอะไรแค่คิดถึงท่าทางที่ไม่จื่อเพิ่งวิ่ง อย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อช่วยนาง ใจของนางก็ค่อยๆเจ็บปวด ขึ้นมา
“เอาล่ะเลิกพูดมากไร้สาระได้แล้วเงื่อนไขของข้านั้นง่ายมาก จะให้ข้ายอมร่วมมือกับพวกเจ้าก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรข้าก็แค่ อยากได้หัวของเจ้านั่น!ใช้มันหนึ่งคนแลกกับความก้าวหน้าของ พวกเจ้าทุกคนคุ้มค่า ใช่หรือไม่?”หลินขึ้นเขียนผายมือออกไป ที่โซวโหวเอ่อที่อยู่ตรงหน้าประตูคนต่ำทรามที่เตรียมตัวรังแก เซียวฝานไว้แต่แรกแล้ว
พอโชวโหวเอ๋อได้ยินเข้าก็หันตัวกลับมาอย่างดุร้ายมองลูกพี่ ของตนอย่างตื่นกลัว”ลูกพี่ท่านอย่าไปฟังที่ผู้หญิงคนนี้พูด พล่อยๆนะพวกเราเป็นพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายกันจะมาให้ผู้หญิง คนนี้ทําให้แตกคอกันได้อย่างไร?”
ชายวัยกลางคนไม่ได้พูดอะไรแค่มองโชวโหวเอ๋อครู่หนึ่งไม่รู้ ว่าคิดอะไรอยู่
หลินซินเยียนเห็นเขาไม่ได้ลงมือก็หัวเราะเยือกเย็นและพูด ว่า “ช่างเถอะยังไงข้าก็บอกเงื่อนไขไปแล้วจะรับปากหรือไม่ก็เป็น เรื่องของพวกเจ้าเพียงแต่ถ้าพวกเจ้าไม่ฆ่าเขาแม้จะไปถึงบ้าน ของพวกเจ้าข้าก็จะไม่ประนีประนอมให้แม้แต่น้อยอย่างมาก แต่ตายร่วมกับศิษย์พี่ของข้าไปก็เท่านั้น
พอพูดจบนางก็ไม่สนใจสีหน้าของชายวัยกลางคนอีกตรงไป พยุงเขียวฝานที่สติหลุดลอยขึ้นมา
ในบ้านเงียบสงัดความเงียบราวกับจะแผ่ไปถึงข้างนอกบ้าน หินไม่นานพวกขายชุดคนอื่นๆ ก็มารวมตัวกันอยู่ที่หน้าประตู บ้านพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเห็นแต่ว่าลูกพี่ของตนนั้น สีหน้าเคร่งขรึมไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่แต่ชายชุดด่าที่ถูกเรียกว่าโชว โหวเอ๋อกลับสีหน้าหวาดกลัวค่อยๆถอยไปข้างหลังทีละก้าวทีละ ก้าว
ลูกพี่ท่านอย่า… “โชวโหวเอ๋อยังไม่ทันพูดจบชายชุดดำที่อยู่ ข้างหลังเขาก็เอามีดแทงเข้าที่อกของเขาไปเรียบร้อยแล้วเลือด สดๆไหลออกมาจากอกที่ถูกแทงของเขา เขาสะดุ้งตกใจตาโตจน กระทั่งสิ้นใจตายเขาก็ไม่รู้ว่าใครกันที่เป็นคนลงมือ
หัวหน้าที่เหงื่อแตกพลั่กถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า”เอาเขา ไปฝังเถอะ”
ชายชุดดำไม่กี่คนที่ยืนอยู่ข้างๆ โชวโหวเอ๋อได้ยินคำสั่งของ เขาก็แบกศพโชวโหวเอ๋อออกไปข้างนอกชายวัยกลางคนคนนั้น ก็เดินกลับมาตรงหน้าของหลินซินเยียนอีกครั้งพูดเสียงเข้ม ว่า”ตอนนี้เจ้าพอใจรึยัง?”
วางใจเถอะข้าพูดคำไหนคำนั้น! “หลินซีนเขียนจ้องมองศพ ของโซ่ว โหวเอ๋อตาเขม็งไม่มีความเห็นใจใดๆทั้งสิ้นในใจยิ่งไม่รู้ สึกสักนิดว่าไม่คุ้มค่าโซวไหวเอ่อที่ต่ำทรามคนนั้นกล้าคิดที่จะทำเรื่องแบบนั้นกับเซียวฝานหากไม่ใช่เพราะนางรู้ตัวทันเวลาพอดี บางทีเขียวผ่านอาจจะเจ็บปวดจนตายก็ได้ เพราะงั้นต่อให้นาง ต้องแลกกับอะไรมากกว่านี้นางก็จะไม่ยอมให้โซวไหวเอื้อมีชีวิต รอดออกไปจากที่นี่เด็ดขาด
ชายวัยกลางคนพยักหน้าสั่งให้คนน่าอาหารและเครื่องดื่มมา ให้หลินซีนเยียนกับเซียวฝานแล้วถึงจะน่าคนออกไป
รอจนพวกเขาออกไปแล้วหลินซีนเขียนถึงจะรีบตรวจดูสภาพ ของเซียวผ่านเขียวผ่านพอจะได้สติขึ้นมาบ้างแล้วแต่เขาราวกับ จมดิ่งอยู่ในความหวาดกลัวเนื้อตัวสั่นเทาและไม่กล้าสบตากับ หลินชินเยียนแม้แต่นิดเดียว
“ศิษย์พี่ก่อนหน้านี้ใครเป็นคนทำเรื่องแบบนั้นกับท่าน!”หลิน นเขียนไม่ได้อยากจะทำให้เชียวฝานตกใจอีกแต่ว่านางก็อดไม่ ได้ที่จะถามออกไปถ้าอยากจะเอาชนะความกลัวก็ต้องเผชิญหน้า กับความกลัวเหตุผลนี้นางรู้ดีแม้ว่าจะต้องฉีกปากแผลที่เลือด ออกซิบๆ นางก็ต้องกัดฟันเพื่อไม่ให้ตนเองลังเล
เขียวฝานสะดุ้งขึ้นราวกับถูกทำให้ตกใจหดตัวเล็กลงเข้ากับ ริมผนังเรื่อยๆ
“ศิษย์ !” เสียงของหลินเยียนปนไปด้วยเสียง ร้องไห้”ศิษย์พี่มองหน้าขาบอกมาว่าใครทำเรื่องแบบนั้นกับท่าน พวกข้าจะไปฆ่ามันให้มันชดใช้ทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวมัน พวกข้า ไปฆ่ามันแล้วท่านจะได้ไม่ต้องหวาดกลัวอีกขอแค่มันตายแล้วก็ จะไม่มีใครทําร้ายท่านได้อีก!
หลินขึ้นเขียนราวกับกรีดร้องตะโกนออกมาในลำคอของนาง ถึงกับมีกลิ่นคาวเลือดน้ำตาไหลพรากนางกอดเขียวฝานที่ขดตัว อยู่ไว้ในอ้อมกอดแรงๆ
เขียวฝานถึงจะยังคงกลัวอยู่แต่ก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดของ นางแผ่ซ่านเข้ามาตั้งนั้นก็เลยหันไปมองนางแวบหนึ่งอย่างไม่รู้ ตัวเพียงแค่แวบเดียวความสิ้นหวังของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็น ความละอายสักพักแววตาของเขาก็ราวกับได้สติกลับมาชัดเจน