บทที่ 541 แก้แค้นถึงหน้าประตู
ตระกูลเฉิน เฉินเกอกำลังเตรียมตัวที่จะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์
“เวินโป๋?”
ในขณะที่กำลังคิดจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ กลับมองเห็นว่า เวินโป๋กำลังประคองร่างของตนเองและเดินเข้ามาอย่างช้าๆ
ในเวลานี้ ท่าทางของเขาเวินโป๋ดูแปลก ๆ
นัยน์ตาของเขาว่างเปล่า ท่าทางเฉื่อยชา ทั้งร่างที่กำลังเดินอยู่ ดูเหมือนกับศพเดินได้
นี่มันแปลกเกินไปแล้ว!
เฉินเกอขมวดคิ้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ
“เจ้าเวิน เสี่ยวเกอกำลังจะเดินทางไกลแล้ว พอดีเลย ให้เสี่ยวเกอได้ทักทายกับคุณ….”
เมื่อพูดถึงแล้ว เวินจื้อจ้ายและ เฉินจิ้นตงมีอายุเท่ากัน ในขณะนี้เฉินจิ้นตงเอ่ยขึ้น
“เจ้าเวิน?”
อย่างไรก็ตาม เวินจื้อจ้ายกลับดูเหมือนว่าจะไม่ได้ยิน และยังคงเดินช้าๆ เช่นเดิม
“จิ้นตง ถอย! ”
ในขณะนั้นเองเฉินเตี๋ยนชางกลับมีท่าทางตื่นตัวขึ้นมาทันที
เขาจ้องไปที่เจ้าเวิน “คุณโอเคไหม? มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า? ”
ทุกคนในตระกูลเฉินเองก็รวมตัวกันเข้ามาเพื่อดูสถานการณ์
“พรูด! ”
ทันใดนั้นเจ้าเวินก็กระอักเลือดออกมา ดวงตาทั้งสองข้าง ปากและจมูก มีเลือดไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ด
ใบหน้านั้นแปรเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำ
และล้มลงไปที่พื้นทันที
“เจ้าเวิน!!!”
เฉินเตี๋ยนชางตะโกน
“เจ้าเวิน!”
เฉินเกอเองก็รีบวิ่งเข้าไป
“เจ้าเวิน!”
เฉินเกอเอ่ยตะโกนเรียก
แต่เวินจื้อจ้ายกลับไร้ลมหายใจไปแล้ว
“ความแข็งแกร่งของเจ้าเวิน บนโลกนี้มีเพียงหยิบมือที่จะต่อกรกับเข้าได้ มีใครบางคน มาบนเกาะแล้ว!”
สายตาของเฉินเตี๋ยนชางจ้องมองและเอ่ยพูดอย่างเยือกเย็น
“หา? เป็นใครกัน?”
เฉินจิ้นตงเองก็แตกตื่นขึ้นมาแล้วเช่นกัน
“สมกับที่เป็นพี่เตี๋ยนชาง ความตื่นตัวยังคงสูงไม่เปลี่ยนแปลง จากกันในวันนั้น ก็เป็นเวลานานกว่าสามสิบปีแล้ว! ไม่เจอกันตั้งนาน!”
ในเวลานี้ มีชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามา
ฝีเท้าของเขาเบาอย่างยิ่ง แต่น้ำเสียงกลับดังกังวานจนน่าตกใจ
“คุณเป็นใคร? คุณเป็นคนฆ่าเวินโป๋หรือ?”
ดวงตาของฌแนเกอมีประกายความเกลียดชังพาดผ่านไป
พูดอย่างจริงจัง ถึงแม้ว่าเฉินเกอและเวินโป๋จะรู้จักกันเพียงครึ่งปี
แต่สำหรับเขาแล้ว เฉินเกอถือว่าเวินโป๋เป็นปู่ของเขามานานแล้ว
ตามที่ปู่เคยบอก เวินโป๋นั้นเป็นคนรับใช้ของตระกูลเฉินมาตั้งแต่บรรพบุรุษ
เขาภักดีต่อตระกูลเฉินมาตั้งแต่หลายชั่วอายุคน
เขาถูกคนฆ่าตาย เฉินเกอจะไม่โกรธได้อย่างไร
“เสี่ยวเกอถอยออกมา! ผุ้นี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นโม่ชางหลงแห่งตระกูลโม่! ”
ความแข็งแกร่งของเฉินเตี๋ยนชางนั้นไม่ธรรมดา ในขณะนี้เขาลุกขึ้นเอ่ย
“หลานชายเฉินเกอมีพรสวรรค์อย่างที่คิดจริงๆ ฉันได้ยินฉางคงบอกว่านายกลายเป็นปรมาจารย์ไปแล้ว ฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ใครในโลกนี้จะมีใครที่สามารถใช้ประโยชน์จากเทียนตี้จ้าวฮั่วและฝึกฝนจนเป็นปรมาจารย์รุ่นเยาว์ได้? ฉันไม่เชื่อ ดังนั้นจึงมาดู ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเรื่องจริง! ”
โม่ชางหลงพยักหน้าซ้ำ ๆ
“แต่ว่าเมื่อดูจากลมหายใจของนาย ดูเหมือนว่าจะยังคงห่างไกลจากปรมาจารย์ตัวจริงอีกครึ่งก้าว จุ๊จุ๊ น่าเสียดายน่าเสียดาย หากไม่มีอะไรผิดพลาก นายสมควรจะเป็นปรมาจารย์รุ่นเยาว์คนที่สองในประวัติศาสตร์! ช่างน่าเสียดาย!”
โม่ชางหลงกล่าวคำว่าน่าเสียดายออกมาติดๆ กันถึงสามครั้ง
“ช่างน่าเสียดายอะไร?ท่านพี่ชางหลงคุณมาที่นี่ คงไม่ใช่เพื่อแสดงความยินดีกับหลานชายของฉันเท่านั้นหรอกมั้ง? อีกทั้งฉันเห็นว่าแขนขวาของท่านพี่ก็พิการไปแล้ว ไม่ทราบว่ามีสาเหตุอะไร?”
เฉินเตี๋ยนชางถาม
“เรื่องแขนที่พอการไป อย่าได้พูดถึง ที่ฉันมาที่นี่ ง่ายดายอย่างยิ่ง ฉันต้องการพาเฉินเกอไป! ก่อนหน้านี้ ฉันยังคิดว่า หลังจากมาแล้วและฆ่าเฉินเกอทิ้ง แบบนี้หลังจากที่พวกเราเข้าร่วมงานนัดหมายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์เสร็จ ตระกูลโม่ของฉันก็จะยังเป็นตระกูลโม่ดังเดิม ควบคุมใต้หล้าชีพมังกรฮ่าฮ่า แต่เมื่อฉันเห็นเฉินเกอ ฉันก็เปลี่ยนใจแล้ว ฉันอยากจะพาเขาไป และดูว่าเขากลายเป็นปรมาจารย์ได้อย่างไร! ”
โม่ชางหลงเอ่ย
“ท่านพี่ชางหลงเอ่ยหนักเกินไปแล้ว? สามสิบปีก่อน พวกเราเคยต่อสู้กัน ตอนนั้นคุณยังมีแขนครบทั้งสองข้าง ยังยากที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของฉันได้ มาตอนนี้ พวกเราสองคนล้วนก้าวสู่ระดับปรมาจารย์ตั้งแต่สิบปีก่อน แต่คุณกลับเหลือแขนเพียงข้างเดียว คิดจะหาหลายชายของฉันไป เกรงว่าคงไม่ง่ายอย่างที่คิด! ”
เฉินเตี๋ยนชางเตรียมปล่อยกำลังภายในในมืออย่างลับๆ
“สามสิบปีอยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำ สามสิบปีอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำ ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอน ฉันเองก็อยากจะรู้ ฉันยังคงจะพ่ายแพ้ในมือนายหรือไม่!”
โม่ชางหลงยิ้มน้อยๆ
ทันใดนั้น บนตัวเขาก็มีสายลมรุนแรงพัดผ่าน
เสื้อผ้าโบกสะบัดราวกับบินได้
“ดี ฉันรู้อยู่แล้วว่านายจะต้องออกมา ฉันเองก็รอศึกนี้มานานแล้ว! ”
เฉินเตี๋ยนชางหัวเราะเสียงดัง
ทันใดนั้นก็เห็นได้ว่าพวกเขาเหยียบลงบนพื้นเบาๆ จากนั้นจึงลอยขึ้นไปบนอากาศ
สงครามของปรมาจารย์!
การต่อสู้ของผู้ที่แข็งแกร่งระดับสุดยอด
เฉินเกอหยุดดูอยู่ด้านหนึ่ง
แข็งแกร่ง แข็งแกร่งจริงๆ
สิ่งที่เฉินเกอไม่คาดคิดก็คือแม้ว่า โม่ชางหลงจะมีแขนเพียงข้างเดียว แต่ว่า เขากลับไม่ได้เสียเปรียบเลยสักนิด
ในพริบตา ทั้งคู่ก็ต่อสู้กันไปหลายร้อยรอบ
ทั้งสองคน ต่างไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้กัน
“ท่านพี่ชางหลง เห็นทีสามสิบปีที่ผ่านคุณต้องทนกับความอัปยศอดสูไม่น้อย คิดไม่ถึงว่า แขนขาดไปข้างหนึ่ง แต่กลับยังมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ได้!”
เฉินเตี๋ยนชางตระหนกอยู่บ้าง
“เกรงใจแล้ว! ”
โม่ชางหลงยิ้มอย่างขมขื่น
“แต่ให้ต่อเป็นแบบนี้ หากคิดจะจับเฉินเกอ ก็หาใช่เรื่องง่าย!”
เฉินเตี๋ยนชางกล่าว
“แน่นอน ท่านพี่เตี๋ยนชาง จากนี้ไปฉันจะใช้ไม้เด็ดของฉัน ไม่รู้ว่าคุณจะยังคงมีความสามารถในการจัดการกับมันหรือไม่? ”
โม่ชางหลงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ไม้เด็ด?”
เฉินเตี๋ยนชางขมวดคิ้ว
จากนั้น เขาก็เห็นว่าร่างกายของโม่ชางหลงจู่ๆ ก็เปลี่ยนไปคล้ายภาพลวงตา
จากนั้นจึงพุ่งเข้ามาที่เฉินเตี๋ยนชางอย่างรวดเร็ว
เฉินเตี๋ยนชางรีบป้องกันตัวทันที
แต่ในเวลานี้เอง มือซ้ายของโม่ชางหลงจู่ๆ ก็มีกระจกสีขาวเพิ่มขึ้นมา
เมื่อกระจกสีขาวออกมา ไฟก็สว่างวาบ
แสงจ้าเกิดขึ้นในทันใด และกระทบลงบนที่หน้าอกของเฉินเตี๋ยนชาง
เฉินเตี๋ยนชางเสียสมาธิในทันที
โม่ชางหลงฟาดด้วยมือเดียว เฉินเตี๋ยนชางบินถอยหลังและล้มลงกับพื้น
“ท่านปู่!”
เฉินเกอเมื่อเห็นว่าปู่ของตนพ่ายแพ้
เขาก็รีบพุ่งเข้าไปทันที
โม่ชางหลงสะบัดมือ จากนั้นพลังอันแข็งแกร่งก็พุ่งออกมา
เฉินเกอพยายามด้วยแรงทั้งหมดที่มี
แต่ก็ยังคงรู้สึกยากเกินกว่าจะต้านทานได้
เขาเป็นปรมาจารย์ครึ่งระดับ แต่ในตอนนี้เฉินเกอก็ตระหนักได้แล้วว่า ระยะห่างระหว่างปรมาจารย์ครึ่งระดับกับปรมาจารย์ตัวจริงนั้นห่างไกลกันมากขนาดไหน!
พ่ายแพ้ในครั้งเดียว!
เลือดในตัวของเฉินเกอไหลวนอย่างบ้าคลั่ง และไหลพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนต้องกระอักเลือดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“เสี่ยวเกอถอยไป!”
เฉินเตี๋ยนชางลุกขึ้นยืน
“กระจกวิเศษ! คิดไม่ถึงว่านายจะโหดร้ายได้ขนาดนี้ เพื่อที่จะควบคุมพลังของกระจกวิเศษ ถึงกับยอมตัดแขนขวาของตนเองลง!”
เฉินเตี๋ยนชางรู้สึกหวั่นเกรงอยู่บ้าง
“ในที่สุดมันก็เป็นเจ้าสำนักจิต สายตาเหี้ยมโหด ใช่ บรรพบุรุษตระกูลโม่ มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถควบคุมพลังของกระจกวิเศษได้ แต่หนึ่งในนั้น ก็คือฉันคนนี้แล้ว สามสิบปีที่แล้ว ฉันถูกลูกนกอ่อนหัดอย่างแกทำให้พ่ายแพ้ อยู่อย่างน่าอัปยศ ทุกวันล้วนพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อเพิ่มพลังความแข็งแกร่งของตน ดังนั้นฉันเลยนึกถึงกระจกวิเศษ และเรียนรู้ความลึกลับของมัน จากนั้นฉันถึงได้รู้ว่า ฉันไม่อาจควบคุมพลังของกระจกวิเศษได้อย่างสมบูรณ์แบบ นี่เป็นวิธีเดียวที่ฉันต้องทำจึงค้นพบหนทาง ตัดแขนขวา ฉันทำได้! ”
โม่ชางหลงกล่าว
กระจกวิเศษ ก็เหมือนภาพสุริยันของตระกูลเฉิน เป็นอาวุธวิเศษของตระกูลโม่
“พี่เตี๋ยนชาง ฉันในตอนนี้ ไม่ได้สนใจที่จะเอาชนะคุณแล้ว แต่เป็นหลานชายของคุณต่างหาก ที่ทำให้ฉันหลงใหล ไม่แน่ว่า หากฉันศึกษาความลับบนตัวหลานของนายได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ฉันอาจจะสามารถก้าวข้ามขึ้นไปยังอีกขั้นในชีวิต!”
โม่ชางหลงส่ายหัว
ในขณะที่กำลังเตรียมจะจับเฉินเกอ
“ฝันไปเถอะพลังมังกรคชสารของตระกูลเฉินเรา ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด! ”
เฉินเตี๋ยนชางโกรธจัด ทั้งร่างกายของเขาก็เต็มไปพลังอันแข็งแกร่งสะท้อนออกมา
ทันใดนั้น ทั้งร่างก็ดูเหมือนจะปกคลุมไปด้วยแสงเรืองรองหลากสี
จากนั้นจึงพุ่งตรงไปที่ โม่ชางหลง