ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 1

ตอนที่ 1

ตอนที่ 1 หาเจ้าบ่าวมาแทน

ต้นฤดูร้อนเมืองเจียง

ณ ห้องโบตั๋นโรงแรมแมนดาริน

แขกราวๆพันกว่าคนกำลังอยู่ในความวุ่นวายในงานแต่งงานของตระกูลหวาและตระกูลแซ่ซึ่งเป็นงานมงคลที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ แต่เจ้าบ่าว แซ่จื๋อจ้วนกลับหนีหายตัวไป

หายตัวไปก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่นี่กลับปล่อยคลิปที่แซ่จื๋อจ้วนกำลังนัวเนียกับดาราสาวที่บ้านของเธอ ในขณะที่เจ้าสาวเดินเข้ามาในงาน

ทุกคนต่างตะลึงกันไปหมด ตระกูลแซ่อับอายขายหน้าไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน และไม่รู้ว่าจะจัดการกับสถานการณ์ในตอนนี้อย่างไรดี

ส่วนคนที่สวมใส่ชุดแต่งงานสีขาวบนเวทีนั้นก็ได้กลายมาเป็นเรื่องเล่าตลกของเมืองไปแล้วในทันที

หซู่หลี่หวาเองก็นั่งไม่ติดเก้าอี้แล้วเช่นกัน พูดด้วยสีหน้าโกรธว่า “คุณคะนี่จะทำอย่างไรดีคะ”

หวาเจิ้นเยว่สีหน้าเคร่งเครียดไม่พูดอะไรออกมา พูดตามจริงเรื่องแบบนี้เขาเองก็ไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน การแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

ตระกูลหวา ตระกูลหวาง ตระกูลแซ่และตระกูลเจียงสี่ตระกูลนี้เป็นตระกูลใหญ่และมีชื่อเสียงของเมืองเจียงเรื่องน่ารังเกียจแบบนี้ใช่ว่าผลที่ตามมาจะรับได้เสียที่ไหนกัน เขาเองก็ไม่รู้ว่าอยู่ๆทำไมแซ่จื๋อจ้วนถึงหนีไป

ยิ่งไปกว่านั้นเพราะงานแต่งครั้งนี้ตระกูลหวาตั้งใจไปรับหวาเหวินที่อยู่บนภูเขาจงชุ่ยไม่กลับบ้านมาห้าปี แต่ใครจะไปคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

เวลานี้ ผู้นำของตระกูลแซ่เดินออกมาตบไหล่ของหวาเจิ้นเยว่

“หวาเจิ้นเยว่เรื่องนี้เป็นความผิดของตระกูลแซ่เอง ท่านว่าเราควรจะเลื่อนงานแต่งออกไปอีกหน่อยดีไหม รอให้ข้าไปลากคอแซ่จื๋อจ้วนกลับมา แล้วข้าจะมาให้คำตอบที่ท่านพอใจกับพวกท่านแน่นอน”

หวาเจิ้นเยว่กำลังจะเอ่ยปากพูด ก็เห็นเจ้าสาวที่อยู่บนเวทีพูดออกมาแล้ว

ทันใดนั้นแขกพันกว่าคนก็เงียบลงทันที

ทุกคนกำลังรอว่าเจ้าสาวที่เจ้าบ่าวหนีไปนั้นจะจัดการกับสถานการณ์ตรงนี้อย่างไร

หวาเหวินมองออกไปรอบๆผ่านผ้าคลุมสีขาว

จากนั้นก็หยุดจ้องมองไปที่แขกคนหนึ่งผู้ชายคนนั้นกำลังนั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่

เขานี่แหละ ไม่ผิดแน่ เขานี่แหละ

เธอค่อยพูดออกมาด้วยเสียงที่เบาว่า “โต๊ะที่หนึ่งของแถวที่สี่คุณผู้ชายที่สวมชุดสูทสีดำนั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ขอรบกวนหน่อย”

เจียงหยู่ตากระตุก แล้วก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ต่อ หรือว่าที่พูดมาจะหมายถึงเขา

ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองไปทางหญิงสาวในชุดแต่งงานบนเวที แล้วประหลาดใจนิดหน่อย

เธอคลุมหน้าเอาไว้ทำให้ไม่มีใครเห็นใบหน้าของเธอ ตระกูลหวามีลูกสาวห้าคน สีคนโตเขาเคยเห็นมาก่อน มีเพียงหวาเหวินที่เขายังไม่เคยเห็นหน้า ได้ยินว่าเธอตามคุณย่าของเธอไปกินเจสวมมนต์อยู่บนเขาจงชุ่ย และพึ่งไปรับกลับมาเมื่อสามวันก่อนหน้านี้

แต่ได้ยินมาว่าหวาเหวินนั้นหน้าตาขี้เหร่ แต่เมื่อกี้ที่ได้ยินเสียงเธอพูดเหมือนจะไม่เป็นแบบนั้น

เห็นเขาเงยหน้าขึ้น หวาเหวินก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ใสว่า “วันนี้เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น แต่ทุกคนก็มีใจที่อยากจะมาร่วมงานนี้ฉันเองก็ไม่อยากทำร้ายน้ำใจของทุกคน ดังนั้นฉันจึงมีเรื่องอยากจะขอร้องหน่อย ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายท่านนี้จะสามารถขึ้นมาเป็นเจ้าบ่าวของฉันและจัดการงานแต่งนี้ให้เสร็จลุล่วงไปด้วยดีได้ไหม”

เธอพูดออกมาทุกคนในนั้นต่างก็มีเสียงพูดขึ้นมาต่างๆนานา

หรือว่านี่จะหาเจ้าบ่าวมาแทนหรือ เคยได้ยินแต่ตัวแทนนักแสดง ตัวแทนนักกีฬา นี่คือครั้งแรกที่ได้ยินว่าตัวแทนเจ้าบ่าว

คนตระกูลแซ่และตระกูลหวาต่างตกใจพูดอะไรไม่ออกกันทั้งสองฝ่าย ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะเล่นอะไรพิเรนทร์ได้ขนาดนี้

เจียงหยู่เพียงแค่ตกใจเล็กน้อย เขาหรือ ยังจะมาถามว่าเขากล้าหรือไม่กล้า

เดิมเขาคิดแค่ว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ขาคู่นี้กลับไม่เชื่อฟังเขาเดินมุ่งไปทางเวทีแล้ว

จริงๆแล้วเจียงหยู่ก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร ในยุคนี้คนที่กล้าทำเรื่องแบบนี้ก็มีไม่มากโดยเฉพาะลูกคนมีเงิน

ใจที่นิ่งมานาน สุดท้ายก็ถูกเกิดความสนใจขึ้น

การกระทำของลูกชายทำให้คุณนายเจียงที่อยู่ข้างๆร้อนรนรีบเรียก “เจียงหยู่เจ้ากลับมาเดี๋ยวนี้นะ”

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท