ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 41

ตอนที่ 41

ตอนที่ 41 ร่วมงานบ้านตระกูลหวา

ไม่พูดถึงยังจะดีกว่า แต่พอพูดถึงเจียงหยู่ แซ่จื๋อจ้วนก็อารมณ์ขึ้นทันที

ตอนเป็นเด็ก รู้สึกรำคาญแม่จะแย่ แค่มองก็ไม่ชอบหน้าแล้ว จึงรีบพูดขึ้น “เธอคิดยังไงกับเจียงหยู่ล่ะ?”

ตอนเป็นเด็ก ทุกคนก็คงจะต้องเคยมีความรู้สึกนี้สินะ?

ความทุกข์ที่เกิดขึ้นของพ่อแม่ทุกคน มักจะนำลูกตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นเหรอ?

มีครั้งนึงคุณหญิงแซ่รำคาญรอยหมึก แซ่จื๋อจ้วนตอกกลับ “แม่ ทุกคนเค้าก็มีลักษณะนิสัยเป็นจุดเด่นของใครของมัน แม้ว่าผมจะไม่เพอร์เฟค แต่ผมก็มีเอกลักษณ์เป็นของผมเอง ถึงเจียงหยู่จะดีแค่ไหน เค้าก็ไม่ใช่ลูกของแม่ อีกอย่างเราก็ไม่ได้ถูกผลิตออกมาในล็อตเดียวกันนะครับ”

แซ่จื๋อจ้วนพูดหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง

ถึงแม้กลับมาจากต่างประเทศแล้วจะฟุ่มเฟือยไปมาก แต่สมองก็ยังใช้งานดีอยู่

พ่อเขาดูเหยียดหยามเขา และไม่ให้เงินเขาใช้เลย

มีเพียงแค่แซ่เฟยโม่ที่คอยดูแลน้องเขา ให้บัตรเครดิตวงเงินหนึ่งล้านให้เขาใช้

แต่สำหรับแซ่จื๋อจ้วนนั้น เงินหนึ่งล้านไม่พอใช้หรอก

ดังนั้นเขาถึงได้ลงทุนต่างๆ อันไหนดีลงหมด

เพียงแค่ดูธุรกิจที่สามารถทำกำไรได้ เขาก็ลองมันมั้งหมด。

ดังนั้นในหลายปีนี้ ก็มีเงินในมืออยู่หลายสิบล้านเหมือนกัน

ไม่ได้หรูหราฟุ่มเฟือยเหลือล้นเหมือนที่คนข้างนอกเค้าแทะโลมกัน

“เจียงหยู่ หึหึ เป็นเพราะผู้หญิงของมัน ฉันจะแย่งให้ถึงที่สุด จะเป็นศัตรูกับนายไปทั้งชีวิตนี้ ไม่เชื่อก็คอยดูความชั่วร้ายนี้ละกัน”

ได้ยินแซ่จื๋อจ้วนพูดแบบนี้ คนอื่นจึงไม่กล้าพูดอะไรต่อ

ถึงแม้บ้านตระกูลแซ่จะไม่มีทรัพย์และอำนาจมากมายก่ายกองเท่าบ้านตระกูลเจียง

แต่ถ้าตอนนี้จะสามารถเทียบเทียมกับเจียงหยู่ได้ ก็คงจะเป็นคุณชายผู้นี้แหล่ะ

ข้างนอกมักจะพูดว่าตะวันออกหวา ตะวันตกหวาง ใต้แซ่ เหนือเจียง

แต่ถ้าเรียบเรียงจริง คงต้องตามด้วย เจียง แซ่ หวาง หวา ถึงจะถูก

ตระกูลหวาไม่มีบุตรชาย จึงได้แต่อาศัยผู้หญิงค้ำชูฟ้า รากฐานจึงไม่ได้มั่นคงขนาดนั้น

ตระกูลแซทำธุรกิจเพชรพลายมาหลายปี จนถึงวันนี้แบรนด์หรูนี้ได้ขึ้นเป็นอันดับห้าของโลก

ได้รับการตอบรับอย่างดีในประเทศ ปีที่แล้ว เป็นตลาดประมูลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

ตระกูลแซ่จัดทำเซตมรกตaขึ้นมา ประมูลได้ถึง190ล้าน

วันนั้นตลาดหุ้นพุ่งสูงถึง20% ก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นคนรวยอันดับสองรองจากตระกูลเจียง

ดังนั้นหลายปีมานี้แซ่จื๋อจ้วนวางอำนาจบาตรใหญ่ในเมืองเจียงจนเคยชิน ทำอะไรก็ไม่นึกถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอาผิดเขา

คนเดียวที่เขาดูถูกคือเจียงหยู่ และน้อยมากที่จะพบเจอกัน

หากบังเอิญเจอกันแล้ว เขาพูดจาเสียดสีใส่ เจียงหยู่เองก็จะไม่ลดตัวลงมาโต้เถียงกับเขา

ดังนั้นระหว่างเขาสองคนก็ไม่ได้มีการขัดแย้งอะไรรุนแรง

แต่งานแต่งครั้งนี้ เจียงหยู่รับเจ้าสาวต่อจากแซ่จื๋อจ้วน ทำให้พวกเขาถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก

ตอนนี้มีผู้สื่อข่าวหลายสำนักที่เขียนข่าวเกินความจริงและปั้นน้ำเป็นตัวอยู่ไม่น้อย

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปรวดเร็ว

จนถึงวันคล้ายวันเกิดของสวี่ลี่หวาคุณหญิงของบ้านตระกูลหวา ได้จัดงานเลี้ยงฉลองมื้อค่ำอย่างเงียบๆที่บ้านเกิด

ภายในงานเชิญคนในครอบครัวและญาติไม่กี่คน โดยไม่ได้เชิญแขกนอกแต่อย่างใด

เจียงหยู่และหวาเหวินทานอาหารเช้าที่เฟิงหวาหลี่เสร็จก็ออกมางาน

ส่วนพ่อกับแม่ของเจียงหยู่ติดงานที่ยุโรป กลับมาไม่ทันวัน

แต่ก็ได้ส่งของขวัญมาให้ ทำให้คนในบ้านรู้สึกยินดี

ภายในรถโรลล์-รอยซ์ เจียงหยู่ถามหวาเหวิน “ให้เธอทายว่าฉันเตรียมอะไรเป็นของขวัญ?”

“ไม่สนใจ” หวาเหวินหันหนีไปทางนอกหน้าต่าง

ที่จริงเธอไม่สนใจเลยสักนิด เรื่องวันเกิดแม่เธอ เพราะใจเธอมีเพียงคุณย่าคนเดียวเท่านั้น

คนที่เหลือพวกนี้ คือคนแปลกหน้าที่มีสายเลือดเดียวกันเท่านั้น

“ได้ยินว่าคุณแม่นับถือพุทธ ฉันก็เลยให้คนหาจื่อถานใบเล็กสวยๆมา” เห็นหวาเหวินไม่ได้พูดอะไร เจียงหยู่ใช้ข้อศอกสะกิดเบาแล้วพูดยิ้มๆ “ได้ยินว่าเธอชอบศึกษาวัตถุโบราณ ช่วยดูหน่อยว่าฉันโดนหลอกหรือเปล่า?”

พูดแล้วก็ส่งกล่องสีแดงม่วงที่อยู่ในมือให้

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท