ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 109

ตอนที่ 109

ตอนที่ 109 การติดต่อสื่อสารครอบครัว

แต่ความจริงก็ทำได้เพียงแค่คิดเท่านั้น หวาเหวินเกิดความหวาดกลัวมหาศาลอยู่อย่างหนึ่ง

นั้นก็คือเธอจะไม่ทำนายดวงชะตาของคนข้างกาย เพราะความสนิทชิดเชื้อกับคนเหล่านี้ ถ้าเกิดพูดว่ารู้เรื่องในอนาคตของเขาว่าจะเป็นอย่างไรออกไป ถ้าดีก็ดีไป แต่ถ้าเกิดหายนะขึ้นมาละ คิดว่าจะทำใจสนใจหรือไม่สนใจได้ละ?

แต่ถ้าสนใจขึ้นมาละก็ อาจจะไปทำลายกฎของธรรมชาติ นั้นคือทัณฑ์สวรรค์เลยนะ

แต่ถ้าไม่สนใจ จะอดทนมองดูคนข้างกายเป็นอะไรไปอย่างนั้นได้เหรอ?

ดังนั้นนี่จึงเป็นจุดขัดแย้งที่ใหญ่หลวงมากอย่างหนึ่ง เมื่อเป็นแบบนี้ ไม่สู้เท่าไม่ดูดีกว่า

แตกต่างจากคนแปลกหน้า ไม่ว่าคนแปลกหน้าเหล่านั้นจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น หวาเหวินล้วนปฏิเสธไม่ได้

ดังนั้นถึงจะมีความคิดนี้ขึ้นมา สุดท้ายหวาเหวินก็ได้แต่อดกลั้นไว้

วันที่สองเป็นวันเสาร์ ดังนั้นจึงไม่ต้องไปเรียน

ในตอนเช้าเจียงหยู่ก็ได้ออกไปตีกอล์ฟเป็นเพื่อนพ่อและลูกค้าสองสามคนของบริษัท

ก่อนจะออกไปได้พูดคุยกันเพียงเล็กน้อย ว่าถ้าหวาเหวินรู้สึกเบื่อ ก็ไปอยู่เป็นเพื่อนแม่ของเขาได้

อุปนิสัยของคุณนายเจียงดีมาก เพียงแต่หวาเหวินยังรู้สึกแปลกหน้าอยู่บ้าง

เดิมทีเธอตั้งใจว่าจะถือโอกาสช่วงสุดสัปดาห์ไปเดินดูสถานที่ดี ๆ สักแห่งว่ามีที่ไหนสามารถเปิดเป็นร้านเล็ก ๆ ได้บ้าง

เพราะเธอมีความคิดที่จะเปิดร้านเล็ก ๆ มาตั้งนานแล้ว

แต่…..คนขับรถของตระกูลหวาได้มากะทันหัน บอกว่ามารับเธอกลับไปยังตระกูลหวาอีกครั้ง

ต่อให้เป็นคำสั่งของพ่อกับแม่ ยังไงเธอก็ไม่เคยคิดที่จะกลับไป

หวาเหวินพาหยินซิ่งขึ้นรถ กลับไปตระกูลหวาด้วยกัน

สุดสัปดาห์ในอาทิตย์นี้เงียบสงัดมาก หลังจากที่หวาเหวินกลับไป ก็พบว่าทุกคนยังไม่กลับมา

มีเพียงแม่ที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกคนเดียว กับสาวใช้ข้างกายอีกสองสามคนที่กำลังทำความสะอาดเช็ดถูกสุขลักษณะอยู่

“แม่คะ” เธอพูดขึ้น

“เหวินเหวินกลับมาแล้วเหรอลูก มา มานั่งนี่มา”

คุณนายหวาดูกระตือรือร้นมากทีเดียว เธอจูงมือของหวาเหวิน แต่พฤติกรรมนี้กลับทำให้เธอรู้สึกไม่คุ้นชินมากทีเดียว

“พวกพี่ๆละคะ?” หวาเหวินกวาดตามองไปแล้วกลับไม่เห็นเหล่าพี่ ๆ

“บริษัทพี่ใหญ่ของลูกมีเรื่องนิดหน่อย พี่สองออกไปดูงานต่างประเทศ พี่สามก็ถ่ายละคร บอกว่ากลับมาไม่ได้ ส่วนพี่สี่….ไอหยา บอกว่าจะไปปีนเขากับเพื่อนที่ทำงาน อาทิตย์นี้ไม่มีใครกลับมาทานข้าวที่บ้าน โชคนี้ลูกมา ไม่อย่างนั้นแม่กับพ่อคงอึดอัดตายเลย”

หวาเหวินพยักหน้า โดยไม่พูดอะไร

“เมื่อเช้าแม่ไปตลาดผลไม้มา แล้วเห็นนี่ เลยนึกได้ว่าลูกชอบกิน แม่จึงซื้อมาให้ลูกลองกินดู”

คุณนายหวาชี้ไปทางน้ำผลไม้สีเหลืองที่อยู่ในถาด

นั้นเป็นผลไม้ที่วิเศษมากของทิศเหนือ มีชื่อเรียกว่าเคพกูสเบอร์รี่

มันมีขนาดเท่าหัวแม่โป้ง ลูกกลมๆ อวบๆ รสชาติหวาน

เมื่อก่อนบนภูเขาจงชุ่ยก็มีปลูกไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งคุณย่าของเธอปลูกเอาไว้ให้เธอ

เธอชอบกินมาก แม่ของเธอก็ช่างเอาใจ ตั้งใจทำให้เธอ

หวาเหวินหยิบขึ้นมาวางบนมือ จากนั้นก็กินอย่างช้า ๆ

ในตอนนั้น หวาเจิ้นเยว่ก็เดินลงมาจากข้างบนพอดี

“เหวินเหวิน ลูกกลับมาแล้ว”

“พ่อ” เธอกล่าวทักทาย

“ทำไมเจียงหยู่ถึงไม่มากับลูกด้วยละ?”

และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ สถานะของเจียงหยู่นั้นสูงมาก ดังนั้นคนของตระกูลหวาจึงดูสูงส่งไปด้วย

เหมือนกับสถานะและความสำคัญของหวาเหวินในตอนนี้ ล้วนแล้วแต่มาจากเจียงหยู่ทั้งสิ้น

ในความเป็นจริง ทุกอย่างก็เป็นเช่นนี้จริง ๆ

หลังจากที่คุณย่าจากไป เธอไม่เหลือแม้แต่คนที่คอยหนุนหลัง

แต่เมื่อเธอได้แต่งงานกับคนดี ๆ ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าดูถูกเธอแต่อย่างใด

“เขามีนัดไปตีกอล์ฟกับลูกค้าค่ะ”

“อื้อ อาทิตย์หน้าถ้ามีเวลาว่างก็ชวนมากินข้าวด้วยกันนะ” พ่อพูดขึ้น

หวาเหวินพยักหน้า โดยไม่พูดอะไรมาก

“หลังจากที่คุณย่าเสียไป แม่กับพ่อของลูกก็สุขภาพไม่ค่อยจะดี ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกไปข้างนอกเท่าไหร่…..รอไว้ทุกข์ให้คุณย่าครบก่อน เราตั้งใจจะไปต่างประเทศ” คุณนายหวาพูดขึ้นอย่างช้า ๆ

“ก็ดีนะคะ พ่อกับแม่จะได้ไม่เศร้ามากนัก”

ความจริงแล้วหวาเหวินเองก็รู้ว่าหลังจากที่คุณย่าจากไป ถึงพวกเขาจะไม่ได้เศร้าเสียใจมากมายขนาดนั้น แต่ความรู้สึกก็ไม่ได้ดีเท่าที่ควร

แต่ว่า มีบางครั้งที่ยังต้องบอกว่า หลอกลวงยังไงก็หลอกลวงอยู่วันยังค่ำ

“เหวินเหวิน ลูกกับเจียงหยู่ตั้งใจจะมีลูกสักคนไหม?” คุณนายหวาถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทำให้หวาเหวินหน้าแดงขึ้นมาในทันใด

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท