ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 119

ตอนที่ 119

ตอนที่ 119 รางวัลของสามี

เมื่อหยวนซ่าวอ่านจบก็หันไปถามเพื่อนที่ชื่อว่าหลี่เผิงข้างกายของเขาคนหนึ่งว่า “สภาพจิตใจของเดือนประจำมหาวิทยาลัยค่อนข้างแย่ นายไปปลอบใจเธอหน่อยสิ?”

“เอ่อ……ฉันเนี่ยนะ?”

“ตอนนี้เธออยู่ที่ศาลา นายลองไปดูสิ”

“โอ….เค…..งั้นฉันจะลองไปดู”

หลังจากที่เพื่อนคนนั้นได้รับคำชี้แนะจากหยวนซ่าว เขาก็ออกจากงานไปอย่างเงียบๆทันที

ลู่เสวี่ยนอี้ถือโอกาสที่กำลังรู้สึกแย่กระชับความสัมพันธ์กับหยวนซ่าวเพิ่มขึ้นอีกขั้น แต่น่าเสียดาย…… ผู้หญิงมีใจแต่ชายกลับไร้เยื่อใย

หยวนซ่าวรอให้งานเลี้ยงจบลง ในตอนที่หวาเหวินกำลังเดินออกมานั้น

เขาก็ถือโอกาสรุดขึ้นหน้า “เธอล่วงเกินลู่เสวี่ยนอี้ หลังจากนี้คงใช้ชีวิตอยู่ในมหาวิทยาลัยลำบากแน่”

หวาเหวินหันกลับมาแล้วพบว่าเป็นเขา จึงได้แต่ยิ้มน้อย ๆ

“เหรอ ? ฉันก็ไม่ได้แคร์เรื่องเหล่านี้อยู่แล้วนิ”

“พ่อของลู่เสวี่ยนอี้เป็นรองผู้อำนวยการ”

“อ่า ไม่เห็นสำคัญ”

ความจริงแล้วในใจของหวาเหวิน อย่าว่าแต่รองผู้อำนวยการเลย ถึงจะเป็นผู้อำนวยการ เธอก็ไม่ได้แคร์

เดิมทีตัวเองก็ไม่เคยทำร้ายจิตใจใครมาก่อนนะ ลู่เสวี่ยนอี้มายั่วเธอเอง

เธอก็แค่โต้กลับไปก็เท่านั้น….ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองทำผิดพลาดอะไรแต่อย่างใด

ถึงอย่างไรหวาเหวินก็เป็นคนประเภทผู้ใดไม่รุกรานฉัน ฉันก็ไม่รุกรานมันผู้ใดอยู่แล้ว คุณมายั่วโมโหฉัน งั้นฉันก็ต้องโต้กลับไปอย่างโหดเหี้ยมอยู่แล้ว

เมื่อเห็นหวาเหวินมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างเรียบเฉย หยวนซ่าวก็ยิ่งสนใจเธอมากขึ้น

“ความจริงแล้วฉันอยากรู้ว่า ทำไมเธอถึงเลือกเรียนสาขาวิชาประวัติศาสตร์อ่า?”

“ชอบ”

“งั้นเธอก็ต้องสิ้นเปลืองแรงไปไม่น้อยที่จะได้ย้ายมากลางคันแบบนี้ เพราะมหาวิทยาลัยหมินจูเข้ายากมาก”

“ก็ใช้ได้”

หยวนซ่าวมองไปทางเธอแวบหนึ่ง ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร ผู้หญิงคนนี้ก็จะตอบกลับมาแค่เพียงคำสองคำเท่านั้น

เมื่อเห็นท่าทางที่ดูเย็นชาแบบนี้ พูดตามจริง เขาถูกผู้หญิงคนนี้ดึงเข้ามาพัวพันแล้ว

เดิมทีไม่มีผู้หญิงคนไหนที่กล้าเมินเฉยกับเขาแบบนี้มาก่อน………

ดังนั้นในใจของเขาที่ยังมีความรู้สึกหดหู่ใจอยู่เล็กน้อย ก็สัมผัสได้ว่าตัวเองมีความรู้สึกเบาบางแบบนี้ครั้งแรก

“ฉันพอมีเส้นสายอยู่ในมหาวิทยาลัยบ้าง ถ้าหลังจากนี้……..ลู่เสวี่ยนอี้มาวุ่นวายกับเธอ เธอมาหาฉันได้นะ”

“ไม่จำเป็น”

เมื่อหวาเหวินพูดประโยคนี้จบ ก็เดินมาถึงหน้าประตูพอดี

เธอหมุนตัวแล้วกวาดมองไปทางเขา “ขอบคุณที่บอกเรื่องนี้ ลาก่อน”

“อื้อ”

หลังจากนั้นหยวนซ่าวก็มองหวาเหวินจากไป นี่เป็นครั้งแรกที่ทำให้เขารู้สึกพ่ายแพ้

ผู้หญิงคนนี้ ไม่ว่าจะพูดอะไร เธอก็ไม่สนใจทั้งนั้น

ใบหน้าก็ยังคงแสดงออกถึงความเรียบเฉยไร้ซึ่งความยินดีปรีดาโกรธเสียใจแต่อย่างใด

เมื่อนึกถึงเหตุการณ์บนเวทีเมื่อสักครู่ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ถูกลู่เสวี่ยนอี้ยั่วยุ หรือว่าจะเป็นช่วงเวลาที่โต้กลับลู่เสวี่ยนอี้ด้วยการเล่นบทเพลง Ghost Fire ของ Liszt ก็ตาม

ใบหน้าของเธอก็ล้วนไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกชนะ หรือความรู้สึกที่แสดงออกถึงความดีใจบนความทุกข์ของคนอื่นแต่อย่างใด

ผู้หญิงแบบนี้ เพิ่งจะอายุแค่ 22 ปีจริง ๆ เหรอ? หยวนซ่าวคิด………

เมื่อกลับมาถึงบ้าน หลังจากที่เปิดประตูเข้ามาก็เห็นต้นยิปโซช่อใหญ่อยู่ภายในห้องรับแขก ตรงกลางถูกแซมด้วยดอกเดซี่สีเหลือง สีม่วงและสีขาว

ห่อช่อรวมกันไว้อย่างงดงามมากทีเดียว เมื่อเห็นก็รู้ในทันทีว่าไม่ใช่สไตล์ของชุนเถาและหยินซิ่งอย่างแน่นอน

“กลับมาแล้วเหรอ?”

ในตอนนั้นเองเจียงหยู่ที่เปลี่ยนเป็นชุดลำลองสีน้ำเงินเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมา

เขาที่สลัดออกจากเสื้อสูทอย่างเป็นทางการ สวมใส่แค่ชุดลำลอง ให้ความรู้สึกที่ดูสบายมากทีเดียว

ประดุจอาบน้ำในช่วงฤดูใบไม้ผลิ………

อย่างน้อยหวาเหวินก็เห็นว่าเจียงหยู่เป็นคนที่น่าคบค้าสมาคมได้ดี อย่างน้อยก็ดีต่อตัวเธอ

“อื้อ” หวาเหวินพยักหน้า

“ให้เธอ ชอบไหม?”

เขาชี้ไปทางดอกไม้สดช่อใหญ่ช่อนั้น

หวาเหวินพยักหน้า

ดอกเดซี่เป็นดอกไม้ที่เธอชอบมากที่สุด ภาษาดอกไม้แปลว่าไร้เดียงสา สงบ ปรารถนา บริสุทธิ์ รวมทั้งเก็บซ่อนความรักไว้ภายในก้นบึ้งของหัวใจ

หวาเหวินไม่รู้ว่าเจียงหยู่เลือกทำสิ่งนี้ให้เพราะอยากให้หรือไม่ได้มีความหมายก็ตาม

หรือได้ยินมาจากชุนเถาและหยินซิ่งว่าเธอชอบอะไรมากที่สุดก็ตาม

“ภรรยาเจียง การแสดงของเธอในวันนี้สมบูรณ์แบบมาก ฉันภูมิใจในตัวเธอมากจริง ๆ”

เจียงหยู่ก้าวเท้ามาข้างหน้าของหวาเหวิน พร้อมกับมองไปทางเธอด้วยสายตาที่แสนอบอุ่นใจ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท