ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 166

ตอนที่ 166

ตอนที่ 166 เจ็บปวดทรมานซึ่งกันและกัน

“มาแล้ว เห้าจื่อ”

เมื่อตำรวจที่กำลังทำบันทึกประจำวันคนนั้นเห็นป๋ายห้าวมาถึงแล้ว ก็รีบยืนขึ้นโดยจิตใต้สำนึกในทันที

ป๋ายห้าวพยักหน้า

ตำรวจคนนั้นก็รีบผลักประตูออกไป เพื่อให้เวลาเขาทั้งสองคนได้พูดคุยกัน

หวาฟ้านมองไปทางป๋ายห้าวโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา

“เจ็บตรงไหนรึเปล่า? ไปโรงพยาบาลไหม?” เขาถามขึ้นด้วยความห่วงใย

“ไม่เป็นไร แผลเล็กนิดเดียว ถ้าคุณตำรวจป๋ายมาเพื่อทำการบันทึกประจำให้กับฉันละก็ ก็รีบทำเถอะคะ ฉันเหนื่อยมากแล้ว อยากกลับไปพักผ่อนเร็ว ๆ ”

ป๋ายห้าวรู้ หวาฟ้านกำลังโกรธอยู่

เพราะเรื่องก่อนหน้านั้น ทำให้แค้นเคืองต่อเขามาก

เขาเองก็ไม่พูดอะไรมาก นอกจากหยิบปากกาบันทึกขึ้นมา แล้วจัดการธุระ

เขาถามเหตุการณ์ก่อนหลังอย่างละเอียด จากนั้นก็ทำการบันทึกลงไปทีละส่วน ๆ

“ยังพอจำรูปพรรณสัณฐานของโจรคนนั้นได้ไหม?”

“มันมืดมาก ฉันเลยมองไม่เห็นหรอก รู้แค่ว่าเขาใส่หมวกและใส่แมสปิดหน้าไว้ รูปร่างสูง ผอม ” หวาฟ้านพยายามนึก

“มีอะไรในกระเป๋าของเธอบ้าง?”

“กระเป๋าตังค์ ในนั้นมีเงินสดประมาณ 2,000 หยวน โทรศัพท์ 1 เครื่อง ที่ชาร์ต 1 อัน แล้วก็บัตรประจำตัวประชาชน บัตรธนาคาร 3 ใบ บัตรเครดิต 2 ใบ บัตรประกันสุขภาพของรัฐบาล 1 ใบ และบัตรประกันสังคม 1 ใบ ในกระเป๋าก็ยังมีกุญแจหอและก็กุญแจในบ้านของฉัน จริงสิ แล้วก็ยังมีแว่นกันแดดอีก 1 อัน และลิปสติก 1 แท่งด้วยคะ”

“ไม่มีแล้ว?”

หวาฟ้านลังเลจึงไม่ได้พูดออกไป ซึ่งก็ทำให้ดูออกว่ากำลังสับสนว่าจะพูดหรือไม่พูดดีไหม

“เสี่ยวหลิน นี่เป็นการเป็นงานนะ เธอต้องบอกทุกอย่างให้ชัดเจน พวกเราถึงจะช่วยเธอตามเอาของที่สูญหายไปกลับมาให้ตามที่เธอบอกได้”

เมื่อได้ยินป๋ายห้าวพูดแบบนี้ หวาฟ้านก็ก้มหน้าลง ก่อนจะพูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “แล้วก็ยังมีภาพคู่ของเราอีก 1 ใบ”

ป๋ายห้าวอึ้งไปเล็กน้อย และเกิดความรู้สึกบางอย่างที่พูดไม่ออกภายในใจ

เขาคิดว่า หลังจากที่เลิกกันไปแล้ว ด้วยนิสัยที่ค่อนข้างเอาแต่ใจเธอจะต้องฉีกภาพเหล่านี้ทิ้งไปอย่างแน่นอน

แต่เธอกลับเก็บไว้อย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งยังพกติดกระเป๋าอยู่ตลอดเวลาด้วย เมื่อเห็นความจริงใจที่เธอมีต่อเขา………….

หลากหลายความรู้สึกก็ได้ประดังประเดเข้ามาหาป๋ายห้าวในชั่วพริบตาเดียว

เมื่อเห็นว่าป๋ายห้าวไม่พูดอะไร หวาฟ้านก็รู้สึกตะขิดตะขวงใจไม่น้อย

“จะหาเจอไหม? ได้โปรดช่วยฉันเอามันกลับมาโดยเร็วที่สุดนะ เงินทองมันไม่สำคัญหรอก แต่เอกสารเหล่านั้น และก็สิ่งที่อยู่ในโทรศัพท์มันมีความสำคัญกับฉันมาก”

“อื้อ วางใจเถอะ เพื่อนของฉันได้ออกไปเฝ้าติดตามแล้ว เส้นทางที่เขาวิ่งไปนั้น น่าจะมีพยานเห็นเขา จับได้ไม่ยาก เธอวางใจเถอะ ถ้าจับคนร้ายได้แล้ว เอาของกลับมาได้แล้ว ฉันจะติดต่อหาเธอนะ”

“คะ”

“งั้นเธอกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”

“คะ”

หวาฟ้านยืนขึ้น แล้วเดินออกไปด้วยสีหน้าอ่อนล้าเต็มที

ผู้หญิงตัวคนเดียวต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ คงจะตกใจไม่น้อย และคงจะหวาดผวาไม่หาย

ดังนั้นในตอนที่เดินออกจากสถานีตำรวจนั้น เธอจึงยังมีความกังวลอยู่ไม่น้อย

เดิมทีป๋ายห้าวตั้งใจจะไปตรวจสอบพร้อมกับเพื่อนร่วมงานของเขา จะได้แก้ไขคดีให้ได้โดยเร็ว และนำกระเป๋ามาคืนเธอ

แต่เมื่อเห็นเงาที่ดูโดดเดี่ยวของหวาฟ้านแล้ว ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป

เลยตัดสินใจเดินตามมา

“เสี่ยวหลิน” เขาตะโกนเรียก

หวาฟ้านหยุดก้าวเท้าในทันที จากนั้นก็แทรกมือทั้งสองข้างเข้าไปในกระเป๋าเสื้อขนแกะแคชเมียร์สีน้ำตาลเข้มโดยไม่ได้หันกลับไปแต่อย่างใด

“เสี่ยวหลิน ฉันจะไปส่งเธอ”

เมื่อพูดจบ ไม่ทันรอให้เธอได้เอ๋ยปาก เขาก็เดินมาถึงตัว

จากนั้นก็ถอดเสื้อตำรวจของตัวเองออก แล้วคลุมไหล่ให้เธอทันที

หวาฟ้านเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

“เมื่อสักครู่เธอบอกว่าในกระเป๋าของเธอมีกุญแจอพาร์ทเม้นท์ของเธออยู่นี่ งั้นตอนนี้เธอก็เข้าห้องไม่ได้อยู่แล้ว ฉันไปส่งเธอที่บ้านเอาไหม?” ป๋ายห้าวนึกถึงรายละเอียดเมื่อสักครู่ได้

กุญแจก็หายแล้ว เธอกลับไปอพาร์ทเม้นท์ตัวคนเดียวไม่ได้อย่างแน่นอน

“ไม่ต้องหรอก ฉันไปหาโรงแรมนอนแก้ขัดสักคืนได้คะ” หวาฟ้านไม่อยากกลับไปบ้านเก่าจริง ๆ โดยเฉพาะในตอนนี้อับจนหนทางแบบนี้

“เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เด็กผู้หญิงทุกคนต่างก็กลัวกันทั้งนั้น เธอตัวคนเดียว กล้าไปนอนโรงแรมอีกเหรอ?”

ป๋ายห้าวถามจบ หวาฟ้านก็โกรธเคืองขึ้นมาในทันที เธอจ้องเขม็งไปทางเขา “ไม่กล้าแล้วมันจะทำไม? นายสามารถปกป้องฉันได้ตลอด 24 ชั่วโมงไหมละ? หรือว่าไปอยู่กับฉันที่โรงแรม? คุณตำรวจป๋าย ฉันไม่ต้องการให้นายมาสงสาร ฉันถูกปล้น นั้นถือว่าเป็นความซวยของฉันเอง แต่เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ฉันเองก็ไม่ได้อยากให้นายคิดว่าฉันอ่อนแอมากขนาดนั้น ได้โปรดละ คุณตำรวจก็พยายามกันหน่อยนะคะ ปิดคดีได้โดยเร็วถึงจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง”

หวาฟ้านมีนิสัยที่รุนแรงมาก คำพูดเหล่านี้ก็เป็นคำพูดที่โพล่งออกมาด้วยความโกรธ เขาเลิกกับเธอไปแล้ว ยังจะมาห่วงใยเธอแบบนี้ ความเจ็บปวดที่แสนบอบบางเช่นนี้มันช่างทรมานมากจริง ๆ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท