สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 60

ตอนที่ 60

ตอนที่ 60 เธอเป็นห่วงฉันเหรอ

ไป๋เสว่เอ๋อร์เงียบลงทันควัน จากนั้นเงยหน้ามองเผยลี่เชิน พยักหน้าหนักแน่นเป็นสัญญาณว่าเห็นด้วย “ค่ะ ฉันรู้สึกว่าถ้าหากพวกเราไม่แย่งชิงสิทธิ์ของพวกเรามา ก็จะถูกพวกเขาจูงจมูก”

เผยลี่เชินฟังแล้วช้อนตามองไป๋เสว่เอ๋อร์แวบหนึ่ง จากนั้นจึงออกคำสั่งเชื่องช้าทว่าหนักแน่น “เธอติดต่อไปหาผู้ช่วยของลู่ผิงชวนหน่อย นัดเวลากับเขา”

“ค่ะ ฉันจะทำเดี๋ยวนี้” ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้า หันร่างจากไป

ทันทีที่ถึงหน้าประตู เธอพลันได้ยินเสียงไอแหบต่ำจากเผยลี่เชินสองครั้ง เธอหยุดเท้า พลันนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนตอนตื่นขึ้นมากลางดึก

ในอ้อมอกของเธอกอดแขนข้างหนึ่งของเผยลี่เชินไว้ หรือว่าเธอเข้าใจผิดว่าเขาเป็นพ่อจึงได้กอดเขาไว้ไม่ยอมปล่อย?

ดูเหมือนเขาจะเจออากาศเย็นเกินไป จึงได้ไอออกมาเบา ๆ หรือว่าเป็นเพราะเมื่อคืนนี้?

ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกสะเทือนใจ เธอสูดหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง หันร่างไปมองทางเผยลี่เชิน “ประธานเผยคะ คุณยัง…ต้องการอะไรอีกไหม?”

เผยลี่เชินสีหน้านิ่งไปขณะหนึ่ง สายตาฉายแววประหลาดใจ แต่ไม่นานก็กลับมาเยือกเย็นอีกครั้ง “ไม่มี”

ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดริมฝีปาก ไม่พูดอะไรอื่น ก้าวเดินออกจากห้องไป

ออกจากห้องด้านข้างแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ติดต่อไปยังผู้ช่วยของลู่ผิงชวนทันที หลังจากที่ทางนั้นยืนยันว่าลู่ผิงชวนมีเวลาว่างแล้ว ก็จัดการนัดพบในเวลากลางคืน

ไป๋เสว่เอ๋อร์จัดการงานเสร็จเรียบร้อย ขณะที่กำลังจะไปรายงานสถานการณ์ให้เผยลี่เชินรู้ ยังไม่ทันได้ออกจากห้อง ก็นึกถึงเสียงไอของเขาตอนที่อยู่ในห้องเขาเมื่อครู่…

เผยลี่เชินฟาดฟันอยู่ในวงการธุรกิจ ในชีวิตประจำวันเองก็มักห่างเหินเย็นชากับผู้คน แต่เธออยู่ใกล้ชิดเขา รู้ว่าเบื้องหลังความเย็นชาของเขายังคงมีความอบอุ่นแฝงอยู่ อย่างเช่นเมื่อคืนนี้ที่เขาเลือกจะคงท่วงท่าเดิมไว้ ไม่ฝืนใจดึงมือออกมาจากอ้อมแขนเธอ…

ไป๋เสว่เอ๋อร์คิดพลาง ลังเลเล็กน้อย สุดท้ายเธอก็กดโทรศัพท์หารูมเซอร์วิส: “ฮัลโหล สวัสดีค่ะ ช่วยหายาแก้ไอให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?”

สิบนาทีหลังจากนั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์ออกมาจากห้อง ไปรายงานที่ห้องของเผยลี่เชิน

“ประธานเผย ฉันนัดเวลากับผู้ช่วยของลู่ผิงชวนแล้วค่ะ เวลาหนึ่งทุ่ม สถานที่คือโรงแรมที่เราพบกันครั้งก่อน”

เผยลี่เชินกำลังจัดการเอกสารที่ทางบริษัทส่งมา เขาได้ยินแล้วก็เอ่ยปากรับคำ “โอเค”

ไป๋เสว่เอ๋อร์เห็นเผยลี่เชินก้มหน้าดูหน้าจอ แล้วไม่พูดอะไรอื่นอีก จึงลังเลว่าจะเอายาออกมาดีไหม ทันใดชายหนุ่มก็เงยหน้าขึ้น มองเธอเดินมา “มานี่สิ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์สาวเท้าเข้าไป เผยลี่เชินใช้มือหันหน้าจอโน้ตบุคไปยังเธอ แล้วถามต่อ “คราวก่อนที่บริษัทหลู่เฟิงต้องการร่วมมือกับเผยซื่อของพวกเรา ส่งแผนงานมาเธอได้เห็นหรือยัง? นี่คือแผนงานการร่วมมือกันฉบับล่าสุดของพวกเขา เธอลองดู แล้วบอกสิว่าเห็นปัญหาตรงไหนบ้าง”

ไป๋เสว่เอ๋อร์รับโน้ตบุคมา เปิดแผนงานดูตั้งแต่หน้าแรกจนหน้าสุดท้าย จากนั้นมองไปยังเผยลี่เชิน เอ่ยอย่างจริงใจ “แผนงานฉบับนี้เหมือนฉบับเก่าราวกับแกะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมเลยค่ะ”

ก่อนจะมาที่เมืองหนานไห่ เธอได้ตรวจดูแผนงานการร่วมมือกันกับบริษัทหลู่เฟิงดูแล้วรอบหนึ่ง จากนั้นมอง ทว่าแผนงานฉบับใหม่นี้นอกจากเพิ่มรายละเอียดบางประการที่ไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว ก็ไม่มีอะไรผิดแผกแปลกใหม่

“นอกจากเรื่องพวกนี้ล่ะ?” เผยลี่เชินถามต่อ

“ว่าโดยรวมแล้ว เอกสารที่เขาส่งมาให้ดูธรรมดามากค่ะ ถ้าหากต้องการร่วมงานกับบริษัทประเภทนี้ ฉันรู้สึกว่าบริษัทเก๋อนั่วเหมาะสมกว่า แม้เก๋อนั่วจะมีขนาดเล็กกว่าหลู่เฟิง แต่ว่ามีชื่อเสียงดีมากในโลกธุรกิจ ทั้งความน่าเชื่อถือของหลูเฟิงเองก็มีไม่มากนัก ความประทับใจต่อผู้ซื้อไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถ้าหากร่วมงานกับพวกเขา อาจจะมีผลกระทบต่อโปรเจกต์ของเราได้”

ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดอย่างจริงจัง ตรงประเด็นทุกประโยค เผยลี่เชินวางโน้ตบุคไว้บนโต๊ะเล็กด้านข้าง เอนพิงโซฟา ช้อนตามองไป๋เสว่เอ๋อร์ “พูดได้ไม่เลว”

ทำไมปัญหาที่แม้แต่ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังมองออกแต่คนดื้อดึงอย่างเผยอี้จึงนึกไม่ถึงได้นะ?

สายตาของเขาจับจ้องที่ใบหน้าของไป๋เสว่เอ๋อร์ เอ่ยเสียงเยียบเย็น “ทางบริษัทส่งข่าวมา ว่าเผยอี้ตัดสินใจเซ็นเอกสารร่วมมือกับหลู่เฟิง”

“อะไรนะคะ?” ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินเข้าก็พลันขมวดคิ้ว ครั้งก่อนเธอได้ยินเผยลี่เชินประชุมทางวิดีโอโดยไม่ได้ตั้งใจว่าเผยอี้เซ็นเอกสารยอมรับที่ดินที่มีปัญหา มาตอนนี้ยังเซ็นเอกสารร่วมกับบริษัทที่ไม่เหมาะสมอีก นี่มันจงใจก่อเรื่องกันชัด ๆ ไม่ใช่เหรอ?

เผยลี่เชินมองปฏิกิริยาของหญิงสาว มุมปากเผยรอยยิ้มน่าค้นหา “ทำไมเหรอ?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์กังวลเล็กน้อย “ถ้าหากเผยอี้เซ็นร่วมมือกับหลู่เฟิงจริง คนที่สูญเสียมากที่สุดคือเผยซื่อ ประธานเผยคะ ทั้งๆ ที่รู้ว่านี่เป็นการซื้อขายที่เสียเปล่า แล้วทำไมถึงไม่ห้ามปรามล่ะ?”

เผยลี่เชินมองเห็นแววตากังวลของไป๋เสว่เอ๋อร์ เขายิ้มออกมา เอ่ยตอบด้วยจังหวะไม่ช้าไม่เร็ว “ก่อนจะมา ฉันจงใจยกสิทธิ์ทุกอย่างให้แก่เผยอี้กับฟางหรงเทียน ก็เพราะอยากจะดูว่าพวกเขาจะทำอะไร”

จบคำของเผยลี่เชิน ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็เข้าใจได้ในทันที ที่แท้เผยลี่เชินก็ตั้งใจ!

ตั้งใจมอบอภิสิทธิ์ทุกอย่างให้แก่เผยอี้และฟางหรงเทียน ทำแบบนี้อย่างแรกจะได้ทดสอบทั้งสองคนว่าจริงใจหรือไม่ อย่างที่สองหากเกิดปัญหาอะไร เขาจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยทั้งนั้น

เผยอี้ตัดสินใจกระทำการที่ทำให้บริษัทสูญเสียผลประโยชน์ได้ขนาดนี้ ในอีกทางหนึ่งก็พิสูจน์ชัดเจนแล้วว่าเขาไม่มีความสามารถใด ๆ

เผยลี่เชินมองเปลวเพลิงที่กำลังลุกโชนจากที่ไกล สามารถแสดงออกถึงความแตกต่างของสองคนนี้ให้พ่อเขาเห็นได้อย่างชัดเจน นี่จึงนับว่าเป็นความเฉลียวฉลาดอย่างแท้จริง

ทันใดทั้นไป๋เสว่เอ๋อร์จึงได้เข้าใจ บนโลกธุรกิจมีเรื่องราวมากมายจริง ๆ ไม่สามารถใช้วิจารณญาณของเธอพิจารณาได้เพียงฝ่ายเดียว

เธอเงยหน้า เห็นเผยลี่เชินมองหน้าจอจัดการเอกสารต่อไป จึงเอ่ยเสียงเบา “เข้าใจแล้วค่ะประธานเผย ถ้าไม่มีเรื่องอะไร ฉันขอตัวก่อนนะคะ”

เผยลี่เชินตอบ “อืม” เสียงหนึ่งโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้น

ไป๋เสว่เอ๋อร์หันร่างช้า ๆ สาวเท้าก้าวมาทางด้านนอก เธอเอื้อมมือคว้ากล่องในกระเป๋า ลังเลเล็กน้อย แล้วจึงหันกลับไปมองเผยลี่เชินอย่างรวดเร็ว เห็นเขายังคงก้มหน้าอยู่ เธอจึงหยิบกล่องนั้นออกมาจากกระเป๋า วางไว้บนโต๊ะด้านข้าง

เมื่อทำทุกอย่างนี้เสร็จแล้ว เธอก็เดินออกไปข้างนอกราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังก้าวไปไม่เท่าไหร่ ก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มลอยมาจากด้านหลัง “ไป๋เสว่เอ๋อร์”

ไป๋เสว่เอ๋อร์หยุดเท้า ย่นคิ้ว ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากทางข้างหลัง ไม่รู้ว่าควรจะหันหรือว่าก้าวเดินต่อไปดี…

เผยลี่เชินเดินมายังโต๊ะ หยิบเอากล่องกระดาษนั้นขึ้นมา เหลือบตามองเลิกคิ้วขึ้น

ยาแคปซูลแก้ไอ ช่วยให้ชุ่มคอ?

เขาเงยหน้า เป็นจังหวะเดียวกับที่ไป๋เสว่เอ๋อร์หันมา ประสานตากับแววตาสงสัยของชายหนุ่ม เธอยิ้มให้เขา “ฉันเห็นคุณไอนิดหน่อย ก็เลยบอกพนักงานโรงแรมว่าต้องการยาแก้ไอกล่องหนึ่งค่ะ”

ดวงตาของชายหนุ่มเปล่งประกาย จ้องมองมายังเธอครู่หนึ่งแล้วจึงเดินตรงมายังเธอ

ไป๋เสว่เอ๋อร์หลุบตา จ้องมองแผ่นอกกว้างของเขาที่เข้ามาใกล้เธอทีละก้าว ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น

เผยลี่เชินประจันหน้าเธอ มือข้างหนึ่งยันกำแพงไว้ ปิดกั้นเธอจากทางเดินไปยังประตู เขาก้มหน้า น้ำเสียงแหบเล็กน้อย “เธอเป็นห่วงฉันเหรอ?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์หายใจติดขัด ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น เค้นเสียงพูดออกมาจากลำคอ “ถ้าหากประธานเผยล้มป่วย จะทำให้การงานล่าช้า”

เผยลี่เชินได้ยินเข้า สีหน้าตึงเครียดขึ้นมาก เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “แสดงว่าที่เธอเอายามาให้ฉัน เพราะกลัวว่าถ้าฉันป่วยแล้วการงานจะล่าช้างั้นสิ?”

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท