สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 67

ตอนที่ 67

ตอนที่ 67 คือผู้ชายแบบไหน

เผยลี่เชินจ้องมองอยู่ไม่นานจากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ไม่มีอะไร แค่ไปทำเรื่องตามขั้นตอนที่ฝ่ายบริหารอสังหาริมทรัพย์”

“คะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์แกล้งทำเหมือนไม่ได้ยินอะไร และยืนขึ้นเดินไปที่ห้องน้ำ

เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ สูดหายใจเข้าลึกๆ ปิดประตูโดยไม่รอคำตอบใดๆ จากฝ่ายชาย

เดิมทีเธอคิดว่าเขาจะบอกเรื่องลู่อี้หลิงให้เธอฟัง แต่คิดไม่ถึง…

ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้แต่กำมืออยู่เงียบๆ ในใจสับสน เธอเปิดฝักบัวอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ใช้ผ้าขนหนูห่อผม เผยลี่เชินนั่งดื่มกาแฟบนโซฟาคนเดียว พอเห็นเธอออกมา ก็วางแก้วกาแฟลงกวาดตามองไปรอบโต๊ะ แล้วพูดว่า “ฉันให้พนักงานเอาคีย์การ์ดมาให้เธอ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์มองไปตามสายตาของเขา เห็นคีย์การ์ดบนโต๊ะก็รีบเดินไปหยิบ “ขอบคุณคะ”

เธอขอบคุณเขาด้วยความเกรงใจโดยไม่ได้เงยหน้ามอง เธอไม่เห็นความลังเลของชายหนุ่มด้วยซ้ำที่กระพริบตาเมื่อเขาได้ยินเธอของคุณ

“งั้นฉันขอตัวกลับห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนคะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดเสียงเรียบ กวาดสายตามองร่างของเผยลี่เชิน จากนั้นก็ก้าวเดินไปที่ประตู

เมื่อเห็นหญิงสาวเดินออกไปจากห้อง สายตาของเผยลี่เชินก็ดูเศร้าหมอง นี่คือภาพมายาหรือเรื่องจริงกันแน่ เขารู้สึกว่าไป๋เสว่เอ๋อร์เช้านี้กับเมื่อวานเป็นคนละคน เรื่องขุ่นข้องหมองใจของพวกเขาก็เคลียร์กันแล้วเมื่อวานนี้ ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นอีก

ไป๋เสว่เอ๋อร์กลับถึงห้อง จิตใจยุ่งเหยิง รู้สึกพ่ายแพ้ แต่เธอยังคงชาร์ตแบตโทรศัพท์ จากนั้นก็หาเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้า ทันใดนั้นในสมองของเธอก็คิดถึงบทสนทนาระหว่างเผยลี่เชินกับลู่อี้หลิง

“ออกเดทกับฉันสักครั้ง”

“ได้ ผมรับปากคุณ”

“……”

แต่ไหนแต่ไรเธอไม่เคยได้ยินข่าวซุบซิบนินทาของเผยลี่เชิน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่มีเรื่องให้ซุบซิบนินทา ขอเพียงมีวิธี มีอำนาจในการจัดการ ถึงมีข่าวก็สามารถปิดได้ คนข้างกายของเผยลี่เชินต่างมีความสามารถ เธอจึงไม่สงสัยเลย

ยิ่งไปกว่านั้นในแง่ชีวิตส่วนตัว ตอนที่เธอกับเขาอยู่ด้วยกันเป็นส่วนตัว เขาเข้าใจในความชอบของผู้หญิง เข้าใจในขนาดของผู้หญิง รวมถึงทักษะบนเตียงก็สามารถอธิบายได้ว่าเป็นดั่งไฟบริสุทธิ์

ดังนั้นพูดได้ว่าสำหรับเผยลี่เชิน เธอเป็นเพียงเครื่องมือดับไฟเท่านั้น ดังนั้นเขาถึงไม่ปฏิเสธข้อเสนอของลู่อี้หลิง

ไป๋เสว่เอ๋อร์คิดดังนี้ ใจก็รู้สึกหดหู่เศร้าหมอง

ความรู้สึกแบบนี้แปลกมากสำหรับเธอซึ่งไม่เคยมีมาก่อน แม้แต่เมื่อก่อนตอนที่เธออยู่กับเผยลี่เชิน ก็เห็นเขาคุยเล่นเฮฮากับผู้หญิง เธอเองก็ไม่คิดอะไร แต่ตอนนี้เธอเป็นอะไรไป?

ไป๋เสว่เอ๋อร์วางเสื้อผ้าที่เลือกไว้บนเตียง ยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกสติกลับคืนมา

เธอไม่ควรคิดมากเช่นนี้ เผยลี่เชินมีผู้หญิงตั้งมากมาย ซึ่งนั่นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ เธอควรสนใจเรื่องของตัวเองมากกว่า เป็นเลขาที่ดีของเขา แอบรักเขาข้างเดียวก็พอแล้ว

ไป๋เสว่เอ๋อร์ตัดสินใจแล้วจากนั้นก็ถอดเสื้อผ้า แล้วเปลี่ยนเป็นชุดที่จะสวมวันนี้แทน

หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไปเธอเก็บข้าวของเรียบร้อย ยังมีเวลาเหลืออีกสิบกว่านาทีจากที่เผยลี่เชินบอกไว้ เธอไม่ได้รอที่ประตูแต่ลงไปชั้นล่างแทน

กระเป๋าถือของเธอยังอยู่ในรถเขา เธออยากลงไปหยิบกระเป๋าถือแล้วถึงค่อยคืนคีย์การ์ด

หลังจากที่ไป๋เสว่เอ๋อร์ส่งข้อความถึงเผยลี่เชินแล้วก็ลงลิฟต์เดินไปที่ประตูโรงแรม เจิงหงขับรถมารอดอยู่ที่ประตูแล้ว เธอกำลังเปิดประตูเพื่อหยิบกระเป๋าถือที่อยู่ตรงที่นั่งด้านหลัง ทันใดนั้นประตูรถด้านข้างก็เปิดออก

ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินเสียง จึงมองไปที่นั้นแบบไม่ตั้งใจ เห็นลู่อี้หลิงสวมกระโปรงชุดดำแบบฝรั่งเศลงมาจากรถ

ไม่เหมือนวันที่พวกเขาเจอหน้ากันเธอแต่งซะหล่อ แต่วันนี้ผมเธอหยิกเป็นรอนยาว กระโปรงเข้ารูป แม้ว่าผิวของเธอจะดูเข้มสักหน่อยแต่ก็เพิ่มความงามตามธรรมชาติ

ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดหายใจเข้าลึก และยิ้มพร้อมคำทักทาย “สวัสดีคะ คุณหนูลู่”

ลู่อี้หลิงเดินเข้ามาหาเธอ แม้รองเท้าส้นสูงของเธอจะสูงเจ็ดถึงแปดนิ้ว แต่เธอก็ก้าวเดินอย่างมั่นคง หน้าเชิดหลังตรง เต็มไปด้วยความมั่นใจ

เธออยู่ห่างจากไป๋เสว่เอ๋อร์ประมาณครึ่งเมตร พร้อมกับคำถาม “เผยลี่เชินยังไม่ลงมาใช่ไหม?ไ

ไป๋เสว่เอ๋อร์ตอบเสียงเบาๆ “ยังไม่ลงมาคะ แต่คงอีกไม่นาน คุณหนูลู่รอสักครู่คะ”

เธอคิดว่าฝ่ายหญิงถามเสร็จแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าลู่อี้หลิงยังไม่คิดจะเดินจากไป เธอกลับมองดูร่างของไป๋เสว่เอ๋อร์ตั้งแต่หัวจรดเท้ามองกลับไปกลับมา จากนั้นก็หัวเราะเยาะ “เลขาไป๋ คุณคิดว่าประธานเผยของพวกคุณเป็นผู้ชายอย่างไร?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์เงียบไปชั่วครู่ “มีความรับผิดชอบ ทำงานจริงจัง มีความเป็นผู้นำ และเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง”

ลู่อี้หลิงได้ยินเธอพูดเช่นนี้จึงหัวเราะออกมาภายใต้ดวงตาอันแข็งกร้าว “ฉันถามไม่ใช่เรื่องนี้ ฉันหมายถึงในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง”

เธอใช้เวลานานและตั้งใจฟังเพื่อดูท่าทางของไป๋เสว่เอ๋อร์

ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดหายใจก่อนตอบ แน่นอนว่าเธอเข้าใจเจตนาที่ลู่อี้หลิงถามอย่างชัดเจน “ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอก ความสามารถ ทรัพย์สมบัติ จัดว่าเป็นผู้ชายที่หายากคนหนึ่ง”

ลู่อี้หลิงหัวเราะเสียงเบา จากนั้นสีหน้าก็ดูเคร่งขรึม จ้องมองไปที่ใบหน้าของไป๋เสว่เอ๋อร์น้ำเสียงก็ดูจริงจังมากขึ้น “ดูท่าเลขาไป๋จะรู้จักประธานเผยดีจัง ไม่ทราบว่าพวกคุณมีความสัมพันธ์อย่างไรกันแน่?”

แน่นอนว่าที่ลู่อี้หลิงพูดมาถามไปทั้งหมด วกไปวนมาก็มีจุดประสงค์อยู่ตรงนี้

ไป๋เสว่เอ๋อร์หัวเราะพร้อมกับสบตาลู่อี้หลิง “คุณหนูลู่กำลังล้อเล่นใช่ไหมคะ คุณไม่รู้จริงๆ หรือคะว่า ฉันกับประธานเผยมีความสัมพันธ์กันอย่างไร ก็แค่เจ้านานกับลูกน้อง”

ลู่อี้หลิงได้ยินจึงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าแล้วพูดต่อว่า “ก็ถูก ผู้ชายอย่างเผยลี่เชินย่อมรู้ดีว่าผู้หญิงแบบไหนถึงจะคู่ควร”

“อย่างน้อยเขาต้องหาสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของเขาจริงไหม? จะว่าไปฉันก็สใจในตัวประธานเผยคนนี้เสียแล้ว ทั้งดื้อรั้น หยิงยะโส ทะนงตัว ซึ่งก็คล้ายกับฉัน เลขาไป๋รู้สึกอย่างนั้นไหม?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์คิดถึงว่าลู่อี้หลิงจะแสดงออกอย่างชัดเจนว่าสนใจเผยลี่เชินต่อหน้าเธอ แต่แล้วเธอก็ตอบโตสิ่งที่ลู่อี้หลิงกำลังแสดงให้เธอเห็นเช่นนี้

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้ม “คุณหนูลู่รู้สึกว่าเหมือน ก็คือเหมือน”

ลู่อี้หลิงได้ยินก็หรี่ตาลง เสียงของเธอแรงขึ้น “ทั้งบุคลิกและฐานะเหมาะสมกัน จริงไหม?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้า เงยหน้าโดยไม่ตั้งใจ จังหวะพอดีกับที่เห็นผยลี่เชินเดินออกมาจากโรงแรม

ชุดสูทที่เขาสวมใส่ดูโดดเด่นจากเสื้อจรดกางเกงทุกส่วนรีดเนียบไม่มีรอยยับสักนิด แถมรูปร่างของเขาสูงถึงร้อยแปดสิบกว่า หน้าตาคมเข้ม ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็สะดุดตาทุกผู้ทุกคน

ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดลมหายใจ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น พอเห็นลู่อี้หลิงเดินไปทางเผยลี่เชินยิ้มหัวร่อต่อกระซิบเบาๆ เหมือนผู้หญิงอ่อยผู้ชาย “เผยลี่เชินคะ ฉันรอคุณเกือบชั่วโมงแล้วนะคะเนี่ย”

เผยลี่เชินสีหน้ายังคงปกติ พูดด้วยน้ำเสียงธรรมดา ผมบอกแล้วให้คุณไปก่อนไม่ใช่หรือครับ?”

อยู่ต่อหน้าเขาลู่อี้หลิงเหมือนผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง เธอยิ้มอย่างสดใส “ฉันอยากไปกับคุณมากกว่า”

ดวงตาของไป๋เสว่เอ๋อร์สั่นไหว เขาทั้งสองดูเข้าขากันดี

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท