สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 144

ตอนที่ 144

บทที่ 144 แต่ฉันชอบ

ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดฟันพูดต่อ “ตอนที่ฉันไปเยี่ยมพ่อ พ่อเคยบอกฉันว่า จดหมายฉบับนั้นส่งมาตอนไหนไม่ส่ง กลับมาส่งตอนฉันกำลังจะหมั้น เขาจึงรู้สึกว่าจดหมายฉบับนั้นกำลังพุ่งเป้ามาที่ฉัน”

เฉียวเจิ้นถามกลับ “หมายความว่า คนที่ส่งจดหมายไม่ได้ต้องการเปิดเผยเรื่องนี้ แต่มีจุดประสงค์อื่นใช่ไหม?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้ารับ “ดังนั้นฉันจึงอยากรู้ไม่ใช่เพื่อแก้แค้น แต่เพื่อป้องกันตัวเอง”

ครู่หนึ่งบรรยากาศก็เปลี่ยนไป พวกเขาไม่พูดอะไรเลย

ผ่านไปสักพักไป๋เสว่เอ๋อร์เงยหน้ามองเฉียวเจิ้น “ขอโทษนะเฉียวเจิ้น ฉันรู้ว่าที่ฉันขอร้องมันไม่เหมาะสม เธอช่วยฉันไม่ได้ ฉันก็ไม่โทษเธอหรอกนะ”

เธอส่งยิ้มให้เขา “ไม่ว่ายังไงวันนี้ฉันก็มีความสุขที่ได้เจอเธอ ถ้ามีโอกาสเราคงได้เจอกันอีก”

ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดขณะลุกขึ้นแล้วโค้งคำนับให้เฉียวเจิ้นพร้อมกับหยิบกระเป๋าที่อยู่ข้างๆ แล้วเดินออกไป

เฉียวเจิ้นขมวดคิ้วทันที ร้องเรียกเธอไว้ “รอเดี๋ยวไป๋เสว่เอ๋อร์!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์หันกลับมาสบสายตากับเฉียวเจิ้นพอดี

เฉียวเจิ้นพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ถ้าหากเป็นไปตามที่เธอพูดคือต้องการหาคนที่เขียนจดหมายเพื่อความปลอดภัยของเธอ ไม่ใช่เพื่อการแก้แค้น ฉันคิดว่า…สามารถให้เธอดูจดหมายได้”

“จริงรึเปล่า?” สีหน้าของไป๋เสว่เอ๋อร์ดูมีความสุขและตื่นเต้นเล็กน้อย

ช่วงนี้มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นกับตัวเธอ เรื่องน่าแปลกบนเขาหมิงเย่ ทำให้จิตใจเธอกระสับกระส่ายทั้งวัน ถ้าหากมีคนต้องการเล่นงานเธอจริง เธอก็ไม่แน่ใจในความปลอดภัยของตัวเอง

“ฉันไม่แน่ใจว่าจะนำจดหมายนั้นมาได้ อาจทำได้แค่ดูจดหมายนั้น แล้วก็นำเนื้อความในจดหมายมาบอกเธอ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้าอย่างมีความสุข “แค่นี้ก็พอแล้ว”

หลังจากแยกย้ายกับเฉียวเจิ้น ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกสบายใจ ตอนแรกเธอแค่อยากลองดูเท่านั้น คาดไม่ถึงว่าเฉียวเจ้นจะรับปากเธอจริงๆ

หลังจากกลับถึงคฤหาสน์ ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ได้สังเกตเห็นรถของเผยลี่เชิน รู้แต่เพียงว่าเขายังไม่กลับ

ป้าจางออกมาทักทาย ถามด้วยความกังวล “คุณไป๋ กินอะไรมาหรือยังคะ?”

ไป๋เสว่เอ่อร์ตอบคำถาม “ยังเลยคะ ป้าจางคะ เผยลี่เชินบอกหรือเปล่าว่าจะกลับมาเมื่อไหร่?”

“คุณผู้ชายไม่ได้บอกคะ ปกติถ้าเขาไม่กลับมากินข้าว ก็จะโทรมาบอกคะ แต่วันนี้ยังไม่เห็นโทรมาเลย แสดงว่าอีกไม่นานก็คงกลับมาถึง”

สีหน้าของไป๋เสว่เอ๋อร์ดุมีความสุขเมื่อได้ยินแบบนี้ จึงรีบพูดต่อ “ป้าจางคะ ป้าช่วยสอนฉันทำกับข้าวง่ายๆ ให้หน่อยได้ไหมคะ ฉันอยากเรียน”

ป้าจางทำตาปริบๆ มองไปที่ไป๋เสว่เอ๋อร์ “ทำให้คุณผู้ชายกิน?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้มอย่างเขินอาย ไม่มีคำอธิบายใดๆ แต่ป้าจางมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว “งั้นป้าจะสอนคุณทำมะเขือม่วงเต้าเจี้ยวปรุงรสดีไหมคะ? คุณผู้ชายชอบอาหารนี้”

“ดีคะ”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ขณะที่เผยลี่เชินเดินเข้ามาในบ้านก็ได้กลิ่นแป้ง เขาขมวดคิ้วเปลี่ยนรองเท้า ได้ยินเสียงดังมาจากห้องครัว

“คุณไป๋ ช้านิดนึ่ง เวลาผัดต้องระวัง ทำไมคุณถือตะหลิวหลบไปหลบมาแบบนั้นคะ?”

“ป้าจาง ครั้งหน้าฉันจะสวมถุงมือพร้อมแว่นตา….”

……………………

ได้ยินการสนทนาของพวกเขา เผยลี่เชินรู้สึกงงงวยมาก เขาก้าวเดินไปยังห้องครัวเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ในชุดกันเปื้อน มือถือตะหลิวผัดกับข้าวแต่ตัวกลับหลบไปอยู่อีกฟาก

ป้าจางหันกลับมาโดยไม่ตั้งใจ เห็นเผยลี่เชินขณะกำลังจะเอ่ยปากพูดก็เห็นท่าทางทำไม้ทำมือของเขา จึงเงียบลงพร้อมกับรอยยิ้มแล้วก้าวถอยหลังออกมา

“ไฟแรงไปแล้ว……”

“ฉันว่าใกล้สุกแล้วคะ ป้าจาง….”

ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดกับตัวเองโดยที่มือข้างหนึ่งถือตะหลิวผัดกับข้าว ส่วนหม้อที่อยู่ตรงหน้าก็เดือดกระเด็ดนเหมือนจะเกิดหายนะ ทำให้เธอตกใจจนต้องกระโดดหลบ………

“ซี…..ซี…..”

เสียงน้ำมันเดือดในหม้อ ไป๋เสว่เอ๋อร์ตกใจยื่นมือเพื่อกอด “ป้าจาง…ป้าจางรีบมาดูเร็ว!”

“ป้าจาง” ในอ้อมกอดดูเหมือนจะสูงใหญ่ล่ำบึกไม่น้อย ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกผิดปกติ จึงเงยหน้ามองและพบว่าคนที่เธอกอดอยู่คือเผยลี่เชินทำให้ตกใจมาก

“ทำไม….ทำไมถึงเป็นคุณได้?”

จากนั้นไป๋เสว่เอ๋อร์รีบปล่อยเขาอย่างรวดเร็วแล้วถอยหลังออกไป เห็นป้าจางกำลังยืนยิ้มอยู่ตรงประตู

ป้าจางยังคงยิ้มแล้วพูดว่า “คุณผู้ชายคะ คุณไป๋ได้ยินว่าคุณชอบกินมะเขือม่วงเต้าเจี้ยวปรุงรส เธอจึงมาขอให้ฉันสอนเป็นพิเศษ”

เผยลี่เชินได้ยินขมวดคิ้วมองไป๋เสว่เอ๋อร์พร้อมคำถาม “ใช่รึเปล่า?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์หน้าแดงรีบปฏิเสธ “ไม่ใช่คะ เป็นเพราะฉันอยากกินถึงให้ป้าจางสอนฉันทำ…..”

ป้าจางกลั้นหัวเราะแถมพูดต่อ “คุณไป๋เป็นคนขี้อาย”

เผยลี่เชินมองการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของไป๋เสว่เอ๋อร์อย่างใกล้ชิด แล้วมองไปที่หม้อ “ป้าจาง เกือบได้ที่แล้ว สุกแล้วก็เอาขึ้นได้”

ป้าจางรีบเดินเข้าไปคว้าตะหลิวในมือของไป๋เสว่เอ๋อร์ เพื่อตักอาหารขึ้นจากหม้อ

ไป๋เสว่เอ๋อร์เห็นเผยลี่เชินเดินออกไปจึงรีบเดินมาข้างๆ ป้าจาง มองดูสีสันในจานพบว่ามะเขือกลายเป็นสีดำ คิ้วขมวดเข้ม “ป้าจางคะ อาหารที่ฉันทำดูไม่น่ากินเลย ใช่ไหมคะ?”

“ไฟแรงไปคะ ฝึกอีกสองสามครั้งก็ดีเองคะ”

ป้าจางพูดแล้วก็ส่งจานให้เธอพร้อมรอยยิ้ม “ยกออกไปให้คุณผู้ชายลองชิม”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ลังเลสักพักแล้วจึงยกจานเดินออกจากห้องครัวช้าๆ

อาหารทำออกมาหน้าตาดูไม่น่ากิน กลัวว่าเผยลี่เชินคงไม่ยอมกินแน่

เธอเดินไปถึงโต๊ะอาหารแล้ววางจานลง ยังไม่ทันได้พูดอะไร ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบมะเขือม่วง

ไป๋เสว่เอ๋อร์ตกตะลึง มองดูเขากิน รอยคอยการตอบรับของเขาด้วยความตื่นเต้น

เห็นสีหน้าเขากลืนอาหารเป็นปกติ ไป๋เสว่เอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะถาม “รสชาติ….เป็นอย่างไรบ้างคะ?”

“กินได้” เผยลี่เชินเอ่ยมาแค่สองคำ จากนั้นก็ใช้ตะเกียบคีบชิ้นต่อไป

ไป๋เสว่เอ๋อร์ลองชิมดูบ้าง รสชาติก็ธรรมดาแม้ว่าจะไม่เค็มหรือไม่จืด แต่ก็ยังห่างไกลจากป้าจางมาก

“ช่างเถอะ ฉันให้ป้าจางทำให้ใหม่ดีกว่า”

เธอวางตะเกียบกำลังจะยกจานออกไป เผยลี่เชินยื่นมือมาขวางไว้แล้วพูดเบาๆ “แต่ฉันชอบ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ตะลึง ถามกลับด้วยความประหลาดใจ “คุณ….ชอบ..?”

“อืม” เผยลี่เชินมองเธอด้วยสายตาที่จริงจัง “อย่ามัวเสียเวลาเลย”

เขาพูดแล้วก็กินต่อ ไป๋เสว่เอ๋อร์มองเขาด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจ

จะหาคนที่เต็มใจกินอาหารที่เธอทำคงไม่มีอีกแล้ว

………………

ไม่กี่วันต่อมา ภาพยนตร์ที่เผยอี้กับเสิ่นหรูเฟิงร่วมทุนกันสร้างกำลังจะเปิดกล้อง พิธีเปิดอย่างเป็นทางการ พวกเขาได้เชิญสื่อมวลชนจากหลายสำนักเพื่อร่วมกันแถลงข่าวให้ทราบ

หลังจากเสร็จพิธีการ จินจิงจิงให้ผู้จัดการจอดรถข้างๆ รถของเผยอี้ ขณะที่เห็นเขาขึ้นรถ เธอรีบเปิดประตูรถ นั่งตรงข้างคนขับ

เผยอี้ได้ยินเสียงจึงมองหน้าเธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เธอจะทำอะไร?”

ดวงตาของจินจิงจิงมีสีแดง “คุณชายอี้ สองสามวันมานี้คุณไม่ค่อยสนใจฉันเลย ถ้าวันนี้ไม่ใช่วันเปิดกล้อง ฉันคงไม่ได้พบคุณ คุณชายอี้….เรื่องเมื่อครั้งที่แล้วเป็นความผิดฉันเองที่วู่วามไปหน่อย”

จินจิงจิงพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ แล้วเอามือเช็ดน้ำตา

เผยอี้ขมวดคิ้วมองเธอ “ลงจากรถ จากนี้ให้ไปคิดไตร่ตรองดูเอง…..”

“คุณชายอี้!” จินจิงจิงยื่นมือเขย่าที่มือของเผยอี้ “ฉันแคร์คุณมากนะ ถึงควบคุมตัวเองไม่ได้ สองสามวันมานี้คุณไม่สนใจใยดีฉัน ชีวิตฉันก็เหมือนหมดหวัง…..”

จินจิงจิงร้องเสียงเบาพร้อมจับมือเผยอี้ เผยอี้มองดูเธอด้วยความรู้สึกใจอ่อน

เขาเงียบไปสักครู่ พูดอย่างใจเย็น “เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ช่างมัน ต่อไปอย่าให้เกิดขึ้นอีก”

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท