บทที่ 182 ไม่มีอะไรเทียบเธอได้
เพื่อพิสูจน์ว่าเขากับเหอหย่าหานไม่มีอะไรกัน เผยลี่เชินจึงจงใจเปิดแฮนด์ฟรีให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยิน
เหอหย่าหานพูดอย่างชัดเจน “ฮัลโหล? ลี่เชินตอนบ่ายว่างไหม? ฉันโทรไปที่บริษัท เขาบอกว่าวันนี้คุณลา ฉันเลยคิดว่าถ้าคุณว่างฉันอยากให้คุณช่วยวางแผนเกี่ยวกับงานเลี้ยงวันเกิด”
เผยลี่เชินเงยหน้ามองไป๋เสว่เอ๋อร์เหมือนขอความคิดเห็นจากเธอ ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบพยักหน้ารับ
เผยลี่เชินรับปากเหอหย่าหานในเรื่องนี้ ในเมื่อช้าเร็วก็ต้องไป แล้วทำไมถึงไม่ไปวันนี้ที่ว่างเสียเลย?
เผยลี่เชินลังเลสักครู่ก่อนตอบเบาๆ “งั้นคุณส่งที่อยู่มาให้ฉันละกัน”
เมื่อเหอหย่าหานได้ยินเผยลี่เชินรับปากเช่นนี้จึงดีใจมากๆ “งั้นฉันจะรอคุณนะ”
เผยลี่เชินวางสายโทรศัพท์ ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดต่อ “ในเมื่อรับปากเธอแล้ว งั้นวันนี้ว่างก็ไปวันนี้เลยละกัน”
“อืม งั้นไปกัน” เผยลี่เชินเก็บมือถือแล้วจับไหล่ของเธอดึงตัวเธอขึ้นมา
ไป๋เสว่เอ๋อร์ตะลึง ก้มลงมองมือที่ยังถือพลั่วอยู่ “ฉันต้องไปด้วยรึ?”
ไม่งั้น..?” เผยลี่เชินหยุดนิ่งเลิกคิ้วไปทางไป๋เสว่เอ๋อร์ถามด้วยรอยยิ้มนิดๆ “เธอมั่นใจตอนที่ฉันอยู่กับผู้หญิงอื่นสองต่อสองหรือไม่?”
ด้วยประโยคคำถามนี้ ทำให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ตกตะลึง “ฉัน…..”
เผยลี่เชินจับไป๋เสว่เอ๋อร์เดินไปข่างหน้าตอบแทนเธอ “เธอไม่มั่นใจฉันรู้ ดังนั้นเธอจึงต้องไปกับฉันไง”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ : “…………….”
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้า ทั้งสองคนออกจากคฤหาสน์เดินทางไปโรงแรมตี้เหาตามที่เหอหย่าหานส่งที่อยู่มาให้
ขณะที่รถกำลังถึงประตูโรงแรม ไป๋เสว่เอ๋อร์มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นเหอหย่าหานยืนรออยู่ที่ประตูโรงแรม เธอผอมมากยิ่งมีแสงไฟจากหลอด LED ส่องด้วยยิ่งทำให้ร่างของเธอผอมเพรียวเหมือนจั๊กจั่น
ดวงตาของเหอหย่าหานเป็นประกาย เมื่อเธอเห็นรถของเผยลี่เชินมาถึง รีบลงมาต้อนรับเขาด้วยตัวเอง
เผยลี่เชินเปิดประตูลงจากรถ เหอหย่าหานส่งยิ้มให้ “ลี่เชิน….”
ขณะที่เธอกำลังพูดสายตาเหลือบไปเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์กำลังลงจากรถ เธอก็หุบยิ้มทันที
ไป๋เสว่เอ๋อร์คำนับให้เธอ ทักทายด้วยรอยยิ้ม “คุณเหอ”
เหอหย่าหานฉีกยิ้มแสดงการตอบรับการทักทาย แล้วหันกลับไปมองเผยลี่เชินซึ่งทั้งคำพูดและท่าทางต่างจากเมื่อตอนแรกอย่างสิ้นเชิง “ลี่เชิน งานเลี้ยงวันเกิดครั้งนี้ฉันตั้งใจจะใช้ชั้นสองและสามของโรงแรม แต่ฉันยังไม่ตัดสินใจเรื่องรูปแบบ….”
เผยลี่เชินพยักหน้าเล็กน้อย “เข้าไปดูสถานที่ แล้วค่อยคุยกัน”
เผยลี่เชินพูดแต่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปมองไป๋เสว่เอ๋อร์ ยื่นมือไปคว้ามือเธอไว้
ไป๋เสว่เอ๋อร์ตะลึงแต่สายตาแสดงออกถึงความสุข มีรอยยิ้มน้อยๆ รีบก้าวไปข้างหน้าพร้อมยื่นมือให้เขา
เหอหย่าหานมองการกระทำของพวกเขาด้วยสายตาที่รู้สึกสูญเสีย แต่ก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
พวกเขาสามคนเดินเข้าไปในโรงแรม เดินดุสถานที่จากนั้นพูดคุยรายละเอียดของงานเลี้ยงวันเกิด
พวกเขาเดินไปเดินมาระหว่างชั้นสองและสาม กำหนดการ ขั้นตอน รูปแบบเรียบร้อย เหลือเพียงรายละเอียดเล็กน้อย ไป๋เสว่เอ๋อร์ตามพวกเขาขึ้นๆ ลงๆ รู้สึกเหนื่อย อีกทั้งบาดแผลที่ลำคอยังไม่หายดี ขยับตัวไปมาส่งผลต่อบาดแผล เผยลี่เชินจึงหาห้องพิเศษชั้นสองให้เธอพักผ่อนก่อน
ไป๋เสว่เอ๋อร์นั่งบนโซฟาในห้องพิเศษ ดื่มน้ำผลไม้ ดูมือถือจนรู้สึกง่วงแล้วก็ผล็อยหลับไป ผ่านมายี่สิบนาทีแล้ว ไม่เห็นเผยลี่เชินกลับมา ความง่วงของเธอหายไปหมดแล้ว จึงอยากไปดูพวกเขา จากนั้นเธอก็กวาดตามองไปรอบชั้นสอง ไม่เห็นเงาทั้งสองคน ดังนั้นเธอจึงเดินไปชั้นสาม
ตอนเดินไปถึงมุมบันได เธอได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ ยิ่งเดินขึ้นมาก็ได้ยินชัดมากขึ้น
ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้หยิงถามด้วยน้ำเสียงผสมร้องไห้ “ฉันอยากถามคุณ ฉันมีอะไรที่สู้เธอไม่ได้?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ก้าวถอยหลังด้วยใจที่อัดแน่น
เธอฟังแล้วก็รู้ว่าเป็นเสียงของเหอหย่าหาน
“หย่าหาน ฉันเคยบอกเธอแล้วว่าฉันเห็นเธอเป็นแค่น้องสาว” เผยลี่เชินพูดด้วยเสียงเย็นๆ
ไป๋เสว่เอ๋อร์ค่อยๆ เดินไปบนบันไดชั้นบน ใช้กำแพงกำบังกายยื่นศีรษะมาเล็กน้อย เป็นเผยลี่เชินกับเหอหย่าหานยืนอยู่ไม่ห่าง กำลังเผชิญหน้ากัน
“ลี่เชิน คุณก็รู้ว่าฉันไม่ได้คิดกับคุณแค่พี่ชาย!” เหอหย่าหานไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ มือก็เช็ดน้ำตาไป แล้วก็ถามต่อไป” เมื่อหลายปีก่อนคุณยังไม่มีผู้หญิงอื่น งานยุ่ง ฉันก็ไม่ว่าอะไร ฉันรอได้ แต่กับไป๋เสว่เอ๋อร์ที่รู้จักกันได้ไม่นาน แต่คุณกลับมาประกาศความสัมพันธ์ คุณรู้ไหมว่าฉันเจ็บปวดใจแค่ไหน!”
เธอร้องไห้ฟูมฟายจนเนื้อตัวสั่นเทา เผยลี่เชินซึ่งอยู่ข้างๆ ก็ได้แต่ขมวดคิ้วเป็นนานก่อนจะพูดเบาๆ “คนที่ใช่ มันไม่เกี่ยวข้องกับเวลาเลยสักนิด”
เผยลี่เชินพูดจบก็เดินจากไป ใครจะไปรู้ว่าเหอหย่าหานกลับเดินไปกอดด้านหลังของเขา
ไป๋เสว่เอ๋อร์ตื่นตระหนก ใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
แต่ไหนแต่ไรเธอไม่เคยสงสัยเผยลี่เชินกับผู้หญิงอื่น เธอเชื่อมั่นในตัวเขา แต่สถานการณ์ตอนนี้ เธอเองก็อยากรู้ว่าเขาจะตอบโต้อย่างไร
“หย่าหาน ปล่อยมือ!”
เผยลี่เชินขมวดคิ้ว น้ำเสียงปะปนไปด้วยความโกรธเล็กน้อย
ถ้าหากไม่ใช่เพราะเขารู้จักเหอหย่าหานมานาน สองครอบครัวไปมาหาสู่กัน เขาคงผลักเธอออกไปแล้ว
เหอหย่าหานโอบกอดเอวเผยลี่เชินจนแน่น ใบหน้าแนบชิดแผ่นหลังของเขา ไม่ยอมปล่อย “ลี่เชิน ฉันรู้ว่าคุณอยากได้ที่ดินในเขตเฉิงตง ผู้ประกวดราคาคือเพื่อนเก่าของพ่อฉันเอง ถ้าคุณเลิกกับไป๋เสว่เอ๋อร์….”
“หย่าหาน!”
ดวงตาทั้งสองข้างของเผยลี่เชินปรากฏความโกรธให้เห็น เขายื่นมือเพื่อแกะมือของเหอหย่าหานที่โอบเอวเขาไว้ “ความรักไม่ใช่จะให้กันง่ายๆ ถ้าฉันต้องการใช้ประโยชน์ความสัมพันธ์ของครอบครัว ป่านนี้ฉันก็คงคบกับเธอไปนานแล้ว เธอยังไม่เข้าใจอีกหรือ!”
เหอหย่าหานถูกปฏิเสธเช่นนี้จนใบหน้าเป็นสีแดง ทั้งทุกข์ใจและอับอาย “คุณเลือกผู้หญิงที่ไม่สามารถให้ประโยชน์ใดๆ กับคุณ คุณจึงไม่ยอมพิจารณาฉันสักหน่อยถูกไหม ลี่เชิน?”
เผยลี่เชินขมวดคิ้วมองเหอหย่าหานที่พูดคำพูดไม่น่าฟังออก จนทำให้เขาโกรธ น้ำเสียงที่พูดจึงเย็นชามากขึ้น “ฉันมีธุระ ขอตัวก่อน”
พูดจบเขาก็เดินจากไปโดยไม่ลังเล
ไป๋เสว่เอ๋อร์ยืนอยู่ตรงบันได ได้ยินเผยลี่เชินพูดว่าต้องไปแล้ว ถึงได้รู้สึกตัว เธอรีบลงบันไดเพราะเกรงว่าจะเจอพวกเขาทั้งสอง ซึ่งจะทำให้วุ่นกว่าเดิม แต่ใครจะไปรู้ว่าพอเธอลงไปได้ครึ่ง ก็ปรากฏเงาของเผยลี่เชินที่บริเวณบันได
ไป๋เสว่เอ๋อร์เงยหน้ามองเห็นสายตาของเผยลี่เชินพอดี เธอหยุดชะงัก รู้สึกผิดจึงพูดปกปิดความรู้สึกผิดไว้ “จัดการเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”
พอเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์สีหน้าของเผยลี่เชินที่แต่เดิมเย็นชาก็เปลี่ยนไป เขาก้าวลงมาถึงตัวของไป๋เสว่เอ๋อร์ จากนั้นจูงมือพาเธอลงบันได
ทั้งสองเดินออกจากโรงแรมแบบเงียบ ไม่พูดอะไรเลย เผยลี่เชินหันไปมองไป๋เสว่เอ๋อร์ แล้วถามเธอ “ได้ยินมาแค่ไหน?”