สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 220

ตอนที่ 220

ตอนที่ 220 เป็นเธอที่แพร่งพรายหนังสือการแข่งขันประมูล

ท่าทีของไป๋เสว่เอ๋อร์หนักแน่น “ทำไมจะไม่ต้อง? เพื่อเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของหวั่นหวั่น การพิสูจน์นี้จำเป็นต้องทำ!”

เฝิงเช่นรู้สึกเคว้งขึ้นมาบ้างแล้ว แต่กลับหาข้ออ้างต่างๆ “ฉันได้กำไลมาก็ใช้กระดาษทิชชู่เช็ด รอยนิ้วมือของเขาที่หลงเหลืออยู่ก็คงจะหายไปตั้งนานแล้ว ทำก็เป็นการทำโดยเปล่าประโยชน์!”

เจียงหวั่นหวั่นได้ยินเฝิงเช่นหาข้ออ้างเช่นนี้ ก็โมโหจนตัวสั่น “เธอ!ฉันไม่เคยแตะต้องกำไลบ้าๆนั่นของเธอมาก่อน!เธอต่างหากที่สันหลังหวะไม่กล้าไปทำการพิสูจน์!ไม่แน่ก็เป็นเธอเองนั่นแหละที่จงใจทิ้งกำไลเอาไว้ในแฟ้มเอกสารฉัน!”

สีหน้าของเฝิงเช่นเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวแดง ชี้ไปที่เจียงหวั่นหวั่นพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า “เธอว่าใครกำไลบ้าๆ!เธอซื้อไหวหรอ?”

เจียงหวั่นหวั่นกำลังจะต่อปาก อยู่ก็ถูกไป๋เสว่เอ๋อร์ดึงเอาไว้ เธอจ้องไปที่เฝิงเช่น เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า “ซื้อไหวซื้อไม่ไหวในใจของเธอไม่ใช่ว่าควรจะรู้ดีหรอ? ราคาของกำไลนี่คาดว่าคงยังไม่พอจ่ายค่าพิสูจน์หลักฐานล่ะมั้ง?”

ประโยคนึงที่มีความหมายล้ำลึกของไป๋เสว่เอ๋อร์ ชั่วพริบตาก็ทำให้คนที่อยู่รอบข้างตกตะลึง เธอพูดเช่นนี้ คนที่อยู่ด้านข้างต่างก็ฟังออกว่าเธอกำลังบอกเป็นนัยว่ากำไลบนข้อมือของเฝิงเช่นคือของปลอม

เฝิงเช่นก็ฟังออกเป็นธรรมดาอยู่แล้ว สีหน้าของเธอมืดมน “เธอ!เธอหมายความว่ายังไง!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์โน้มสายตาจ้องลงไปที่กำไลที่อยู่บนข้อมือของเธอ “หากเธออยากจะถามทั้งหมดนี้จริงๆ งั้นฉันก็จะไม่เกรงใจลิสต์เหตุผลทีละข้อ ทีละข้อออกมาต่อหน้าทุกคน ทำพอเหมาะสมค่อยหยุดก็ดีเหมือนกัน ไม่ใช่หรอ?”

คราวนี้ เฝิงเช่นถูกบังคับให้ต้องยอมแพ้ พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว

ในใจของเฝิงเช่นรู้ดีจริงๆว่า กำไลบนข้อมือของเธออันนี้คือของลอกเลียนแบบ ใส่ร้ายเจียงหวั่นหวั่นคือความจริง อีกอย่าง เธอจะกล้านำกำไลของจริงไปใส่ร้ายเจียงหวั่นหวั่นได้ยังไงกันล่ะ หากจากไปไม่หวนคืนมาความสูญเสียของเธอก็ยิ่งใหญ่แล้ว

“เรื่องในคราวนี้ในใจของทุกคนก็คงจะมีคำตอบอยู่แล้วล่ะมั้งคะ หากยังมีคนอยากจะสืบหาให้ชัดเจนว่าใครเป็นคนเอากำไลไปกันแน่ ฉันกับหวั่นหวั่นจะให้ความร่วมมือกับทุกคนค้นหาให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอนค่ะ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ทิ้งประโยคนี้เอาไว้ ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากพูดอะไรออกมาอีกจริงๆ เฝิงเช่นสีหน้าโกรธจัด ยืนอยู่ตรงนั้นจ้องมองพวกเธออย่างดุดัน แต่กลับไม่พูดไม่จา

วันนี้ ไป๋เสว่เอ๋อร์ทำให้เธอขายหน้าอย่างถึงที่สุดต่อหน้าเพื่อนร่วมงานทั้งแผนก!บัญชีนี้เธอจะจำเอาไว้!

ไป๋เสว่เอ๋อร์ดึงเจียงหวั่นหวั่นเดินออกจากประตูแผนก พาเธอตรงกลับไปยังห้องทำงานของตนเอง พูดบอกกับเธอตลอทางว่า “หวั่นหวั่น คราวหน้าเรื่องแบบนี้จะต้องระมัดระวังให้มากหน่อย อีกอย่างทำไมเมื่อครู่นี้ถึงได้ผลีผลามลงมือกันล่ะ?”

“พอฉันได้ยินว่าเขาว่าเธอฉันก็โมโหขึ้นมา!เขาเกลียดฉันพุ่งเป้ามาที่ฉันก็พอแล้ว เธอก็ไม่ได้ทำอะไรเขาสักหน่อย เขาจะพูดอย่างนั้นทำไม!”

ได้ยินเจียงหวั่นหวั่นปกป้องตนเองขนาดนี้ ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อย “เอาล่ะ ต่อไปอยู่ในแผนกคบค้าสมาคมกับเขาให้น้อยหน่อย รู้หรือเปล่า?”

เจียงหวั่นหวั่นพยักหน้า “เขาก็แค่อาศัยคุณลุงของเขาเป็นหุ้นส่วนของบริษัท ดังนั้นชอบทำเรื่องไม่ดีอยู่ในแผนกบ่อยๆ ผู้จัดการก็ปิดตาข้างนึง ปกติต่างก็ไม่มีใครกล้าโต้แย้งเขาอย่างนั้น เสว่เอ๋อร์ เมื่อครู่นี้เธอดูหล่อมากจริงๆ!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเล็กน้อย “พอได้แล้ว ตามฉันกลับห้องทำงาน ฉันจะทายาบนแผลที่คอให้”

มาถึงห้องทำงาน ไป๋เสว่เอ๋อร์หยิบยาทาออกมาทาไปบนบาดแผลของเจียงหวั่นหวั่นชั้นหนึ่ง เจียงหวั่นหวั่นคาดเดาสีหน้าของเฝิงเช่นในตอนนี้อยู่ตลอดเวลาอย่างตื่นเต้น

“เอาล่ะ ทาเสร็จแล้ว บาดแผลอย่าไปโดนน้ำ”

เจียงหวั่นหวั่นยื่นมือออกไป กอดแขนของไป๋เสว่เอ๋อร์เอาไว้ พลางเอ่ยขึ้นอย่างดีใจว่า “ขอบคุณเสว่เอ๋อร์ !มีเธอนั้นดีจริงๆเลย!เย็นนี้ฉันจะต้องเลี้ยงข้าวเธอให้ได้!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง คิดถึงว่าเย็นวันนี้เผยลี่เชินก็คงจะต้องไปเข้างานเลี้ยงสังสรรค์อีก เวลาทานข้าวคงจะกลับมาไม่ทัน เธอจึงตอบตกลงไป

เป็นไปอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ รอจนกระทั่งเลิกงาน ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ยังไม่ได้รับข้อความจากเผยลี่เชิน เธอเก็บข้าวของ ออกไปกินเนื้อย่างกับเจียงหวั่นหวั่นในทันที

ขณะเดียวกัน ในห้องรับรองพิเศษที่หรูหราของโรงแรมตี้เหา เผยลี่เชินกำลังดื่มเหล้ากับประธานบริษัทคนอื่นๆอีกสองสามคน

ฉีเฟิงออกไปรับสายโทรศัพท์ ไม่ช้าก็กลับมายังห้องรับรองพิเศษอีกครั้ง ประชิดเข้าไปที่ข้างหูของเผยลี่เชินแล้วเอ่ยขึ้นเบาๆว่า “ท่านประธานเผย เรื่องหนังสือการแข่งขันประมูล ลูกน้องของผมค้นเจออะไรบางอย่าง มีรูปภาพบางส่วน ท่านจะลองดูหน่อยไหมครับ?”

“อืม” สีหน้าของเผยลี่เชินสงบเยือกเย็น จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

ฉีเฟิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นำรูปภาพสองสามรูปที่ได้รับเมื่อสักครู่นี้เปิดออก แล้วส่งให้กับเผยลี่เชิน

เผยลี่เชินโน้มสายตาลงมากวาดตามอง พอมองเห็นคนบนรูปภาพชัด สายตาก็ดุเดือดขึ้นมาในทันที

ด้านหลังของผู้หญิงที่อยู่บนรูปภาพผอมบาง สวมชุดพนักงานทั้งตัว เขาคุ้นเคยจนไม่รู้จะคุ้นเคยยังไงได้อีก เธอก็คือไป๋เสว่เอ๋อร์ และบนม้านั่งยาวที่อยู่ข้างๆ มีผู้ชายคนนึงนั่งอยู่ ใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม กำลังเงยหน้ามองไป๋เสว่เอ๋อร์

คือเสิ่นหรูเฟิง!

คิ้วของเผยลี่เชินขมวดเข้าหากันแน่น หยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมาปัดหน้าจอไปทางด้านข้างอย่างรวดเร็ว รูปภาพติดต่อกันหลายภาพ เลื่อนไปข้างหลังอีก ฉากหลังก็ได้เปลี่ยนเป็นประตูใหญ่ของบริษัทเผยซื่อ ไป๋เสว่เอ๋อร์กับเสิ่นหรูเฟิงยื่นอยู่ตรงข้ามกัน ในมือของเสิ่นหรูเฟิงยังอุ้มกล่องๆนึงเอาไว้ บนใบหน้ายังคงเปื้อนรอยยิ้ม ไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไรกันอยู่

เขาคิดขึ้นมาได้ในทันที ช่วงเช้าวันนี้ในขณะที่กำลังเข้าร่วมงานแข่งขันประมูล ก็เห็นไป๋เสว่เอ๋อร์กับเสิ่นหรูเฟิงสองคนพูดคุยอยู่ด้วยกัน

มือของเผยลี่เชินกำแน่นขึ้นมาเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมองฉีเฟิง “รูปไม่กี่รูป จะสามารถพิสูจน์อะไรได้?”

เขารู้ว่าต้นฉบับล่าสุดของหนังสือการแข่งขันประมูลในครั้งนี้มีเพียงเขา ไป๋เสว่เอ๋อร์ และผู้จัดการหลี่ที่เคยเห็น หากจะแพร่งพรายก็จำเป็นต้องแพร่งพรายออกไปจากพวกเขาสามคนนี้อย่างแน่นอน ทว่าตั้งแต่แรกเริ่มเขาไม่เคยสงสัยในตัวไป๋เสว่เอ๋อร์มาก่อน!

ฉีเฟิงก้มหน้าลง เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “ไม่เพียงแต่แค่รูปภาพ ยังมีบันทึกอีเมล์ คนที่เราส่งไปยังบริษัทตระกูลเสิ่นสืบพบว่าเสิ่นหรูเฟิงได้รับอีเมล์ฉบับนึง ด้านในเป็นรูปถ่ายต้นฉบับล่าสุดของหนังสือการแข่งขันประมูลของทางบริษัทเรา อีเมล์นั้นผ่านทางชื่อบัญชีของคุณเลขาไป๋ส่งเข้าไปครับ”

เผยลี่เชินปฏิเสธออกมาโดยจิตใต้สำนึกในทันที “เป็นไปไม่ได้!”

ฉีเฟิงหยุดชะงักไปเล็กน้อย แล้วเอ่ยปากพูดต่อไปว่า “ผมได้ให้คนกลับไปที่บริษัทเพื่อตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของคุณเลขาไป๋แล้ว ทางนั้นยังไม่ได้ตอบกลับมา”

สีหน้าของเผยลี่เชินเยือกเย็นจนถึงขีดสุด ประธานคนอื่นๆที่นั่งอยู่ในโต๊ะเดียวกันก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง ต่างไม่กล้าที่จะรบกวนเผยลี่เชิน

หลังจากนั้นยี่สิบนาทีกว่า ฉีเฟิงก็ได้รับสายโทรศัพท์อีกครั้ง เผยลี่เชินลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินออกจากห้องรับรองพิเศษ หยิบโทรศัพท์ไปจากมือของฉีเฟิงในทันที

“พูดมา ตรวจสอบพบอะไร?”

“ในบันทึกอีเมล์ส่งออกของคุณเลขาไป๋ไม่มีอีเมล์ฉบับนั้นครับ”

ได้ยินดังนั้น เผยลี่เชินก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่วินาทีต่อมา เสียงในสายโทรศัพท์ฝั่งนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง “แต่เรียกคืนอีเมล์ที่ลบไป มีเอกสารอีเมล์ฉบับนึงส่งไปยังคอมพิวเตอร์ของบริษัทตระกูลเสิ่นจริงๆ เนื้อหาก็คือรูปภาพของหนังสือการแข่งขันประมูล”

มือที่จับโทรศัพท์มือถือเอาไว้บีบแน่นอย่างรุนแรง สายตาของเผยลี่เชินลึกล้ำขึ้น หลังจากหยุดชะงักอยู่นาน ในที่สุดก็เอ่ยปากออกมาว่า “ผมเข้าใจแล้ว”

ฉีเฟิงเห็นสีหน้าของเผยลี่เชิน ดูเหมือนจะคาดเดาถึงผลลัพธ์ได้ เขาเอ่ยปากถามขึ้นว่า “ท่านประธานเผย พวกเราจะทำยังไงกันดีครับ?”

เผยลี่เชินนิ่งเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า “กลับคฤหาสน์”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ทานข้าวเสร็จ ส่งเจียงหวั่นหวั่นขึ้นรถแท็กซี่ จากนั้นตนเองก็โบกรถแท็กซี่อีกคันกลับไปยังคฤหาสน์

เพิ่งจะเข้ามาในคฤหาสน์ ป้าจางก็ออกมาต้อนรับ สีหน้าเคร่งขรึมอยู่เล็กน้อย “คุณหนูไป๋ คุณผู้ชายกลับมานานมากแล้ว รอคุณหนูอยู่ในห้องหนังสือตลอดเวลาเลยค่ะ”

“ค่ะ ฉันจะขึ้นไปหาเขาเดี๋ยวนี้” ไป๋เสว่เอ๋อร์วางกระเป๋าลง ไปยังห้องหนังสือที่ชั้นสองในทันที

ผลักประตูห้องหนังสือออก ภายในห้องมืดสลัว เปิดเพียงโคมไฟตั้งพื้นแสงไฟสีส้มที่มุมกำแพงด้านข้างโซฟา มองเห็นโครงร่างผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเลือนลาง

ยังไม่ทันจะเดินเข้าไปใกล้ ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็รู้สึกได้ถึงลมหายใจอันเยือกเย็นที่แพร่กระจายออกมาจากตัวของเผยลี่เชิน

“เป็นอะไรไปคะ?” เธอเดินเข้าไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว พร้อมเอ่ยถามขึ้น

เผยลี่เชินขยับตัวเล็กน้อย เงยหน้ามองไปที่เธอ สายตาเยือกเย็นและจริงจัง หลังจากนั้นชั่วขณะ เขาถึงได้เอ่ยปากออกมาวว่า “หนังสือการแข่งขันประมูล เป็นคุณที่แพร่งพรายให้กับเสิ่นหรูเฟิงใช่ไหม?”

ฝีก้าวที่กำลังเดินขึ้นไปข้างหน้าของไป๋เสว่เอ๋อร์หยุดชะงักลง หลังจากนิ่งเงียบไปชั่วขณะ ถึงได้เอ่ยถามขึ้นมาว่า “หมายความว่าอะไรคะ?”

เธอแพร่งพรายหนังสือการแข่งขันประมูลเมื่อไรกัน?

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท