ตอนที่ 238 โรคหัวใจกำเริบ
ไป๋เสว่เอ๋อยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่ที่เดิม มองดูเฝิงเช่นที่นอนอยู่ที่พื้นด้วยสีหน้าทรมาน หล่อนกัดฟันเดินกลับไป
“เฝิงเช่น เธอเป็นอะไร?”
ไป๋เสว่เอ๋อลองถามขึ้น แต่เฝิงเช่นกลับกุมหัวใจไว้แน่น ตาเหลือกขึ้น ตัวแข็ง ดูเหมือนหล่อนจะเป็นลมสลบไปแล้ว!
หรือว่า…หล่อนเป็นโรคหัวใจ?
จู่ๆความคิดนี้ก็แวบเข้ามาในหัวของหล่อน หล่อนหยิบมือถือออกมาด้วยความตกใจกลัว รีบกดโทร120 “…ขอเรียกรถพยาบาลมาที่เครือบริษัทตระกูลเผย มีคนเป็นลมสลบ! ”
หลังจากที่หล่อนบอกที่อยู่และสถานการณ์เสร็จก็วางสาย รีบลงไปนั่งคุกเข่าเรียกหล่อน “เฝิงเช่น…เฝิงเช่น…”
เฝิงเช่นไม่มีท่าทีตอบโต้อะไร ไป๋เสว่เอ๋อรู้สึกหวาดกลัวมาก ยื่นมือออกไปจับชีพจรของหล่อน แต่ทว่าชีพจรไม่เต้น….
ไป๋เสว่เอ๋อรีบเข้าไปใกล้หน้าอกของหล่อน โน้มตัวลงฟังเสียงชีพจร แต่บริเวณหน้าอกก็ไม่มีเสียงเต้นของหัวใจ เพียงแค่เสียงหายใจโรยรินก็ไม่มี!
ไม่ดีแล้ว! ถ้ารถพยาบาลมาไม่ทันเวลา หล่อนอาจจะเกิดเรื่องขึ้นได้!
ในสถานการณ์คับขันนี้ ไป๋เสว่เอ๋อนึกวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นขึ้นมาได้ การปั๊มหัวใจ!
หล่อนเคยได้รับการฝึกอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้นตอนอยู่ที่มหาวิทยาลัย และยังจำวิธีนั้นได้อย่างดี!
ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ตาม เวลานี้การช่วยชีวิตคนคืนสิ่งที่สำคัญที่สุด ไป๋เสว่เอ๋อรีบจัดท่าของเฝิงเช่น เพื่อให้หล่อนได้หายใจได้อย่างสะดวก หล่อนรีบนั่งคุกเข้าข้างหล่อนมือทั้งสองประสานกันบนหน้าอก จากนั้นออกแรงกดลงไปบริเวณกระดูกหน้าอกเพื่อช่วยชีวิต! 1 2 3 4 5…….
ทำในจังหวะและแรงที่เท่ากันสามสิบครั้ง จากนั้นไป๋เสว่เอ๋อก็หยุดทำด้วยท่าทีหอบกระหืด ทำการผาบปอดต่ออีกสองครั้ง จากนั้น ก็ปั๊มหัวใจต่ออีกสามสิบครั้ง…
ทำต่อเนื่องการสามเซ็ต หล่อนเหนื่อยจนหายใจหอบ แขนทั้งสองข้างปวดและเมื่อยล้า
หล่อนทำแบบนี้คนเดียวคงไม่ไหวแน่! หล่อนจึงตะโกนเรียกคนอื่นมาช่วย!
ไป๋เสว่เอ๋อกำลังจะลุกขึ้นร้องขอความช่วยเหลือ จู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าก้าวเข้ามา หล่อนตกใจตะลึง รีบเงยหน้าขึ้น ก็เห็นสวี่เยว่หรูและผู้ช่วยเสี่ยวหลิงยืนแข็งทื่ออยู่หน้าประตู
สายตาของสวี่เยว่หรูมองตรงมาที่มือของไป๋เสว่เอ๋อที่อยู่ตรงบริเวณคอของเฝิงเช่น หล่อนรีบเรียกสติกลับมา จากนั้นรีบถามขึ้น
“ไป๋เสว่เอ๋อ เธอทำอะไรน่ะ!”
ไป๋เสว่เอ๋อไม่อยากสนใจอะไรเยอะ รีบเอ่ยปากพูดขึ้น “รีบมาช่วยชีวิตสิ! เร็วหน่อย!”
เสี่ยวหลิวตกใจจนทำอะไรไม่ถูก หลังจากโดนไป๋เสว่เอ๋อตวาด หล่อนจึงจะรู้สึกตัวขึ้นมา บ่นพึมพำเดินเข้ามา
“ฉันเรียกรถพยาบาลแล้ว เสี่ยวหลิวรีบไปรับที่ประตูก่อน! ให้รอที่หน้าลิฟต์นะ!”
เสี่ยวหลิบรีบพยักหน้าลง พร้อมวิ่งออกไปทันที
ในที่สุด รถพยาบาลก็มาถึง ทีมแพทย์พยาบาลนำตัวของเฝิงเช่นหามขึ้นเปลผู้ป่วย รีบวิ่งไปกดลิฟต์ต่อ ไป๋เสว่เอ๋อก็รีบตามเข้าลิฟต์ไปด้วย
ผู้คนที่ล็อบบี้ด้านล่างต่างพากันตกใจ รถพยาบาลจอดอยู่ที่หน้าประตู เสียงหว๋อรถดังขึ้น ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด หามเปลเคลื่อนยายผู้ป่วยเข้าไปในรถ จู่ๆก็มีคนหนึ่งมาหยุดที่ประตู ประจวบเหมาะกับที่ทีมแพทย์กำลังออกไปหน้าประตู
“เช่นเช่น…เช่นเช่น!”
สีหน้าของถานปิดตกใจกระวนวาย ไม่อยากจะเชื่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รีบวิ่งออกไปพร้อมกับเปลหามผู้ป่วย ทันใดนั้นเขาก็เหลือบไป๋เสว่เอ๋อทางด้านข้าง สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
เมื่อเห็นไป๋เสว่เอ๋อ สีหน้าของถานปินไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันใด “เพราะเธอ! เพราะเธอแท้ๆ!”
เขายื่นมือออกไปดึงแขนของไป๋เสว่เอ๋อราวกับจะดึงให้ขาดด้วยความโกรธเคือง
ไป๋เสว่เอ๋อตกใจ รีบสะบัดมือของเขาออก พูดขึ้น “รอให้หล่อนถึงโรงพยาบาลอย่างปลอดภัยก่อน แล้วฉันค่อยอธิบายให้คุณฟัง!”
หล่อนทิ้งคำพูดนี้ไว้ให้เขา จากนั้นรีบวิ่งตามเปลผู้ป่วยไป
ถานปินนึกขึ้นมาได้ว่าเวลานี้ยังไม่เหมาะกับการถามหาความจริง เขาสงบสติลง รีบเดินตามรถพยาบาลไปเช่นกัน
เมื่อรถพยาบาลขับออกไป สวี่เยว่หรูที่ตามมาตั้งแต่ห้องทำงานประธานบริหานถึงชั้นหนึ่ง หยุดยืนที่ประตูด้วยสีหน้าที่นิ่งขรึม
เสี่ยวหลิวที่อยู่ด้านข้างรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา ถามขึ้นด้วยความกังวลใจ “พี่เยว่หรู พวกเราต้องไปโรงพยาบาลด้วยไหม?”
เงียบไปครู่หนึ่ง สวี่เยว่หรูคิดบางอย่างขึ้นมาได้ หล่อนกำหมัดแน่น พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “ไป! พวกเราต้องไปแน่นอน! พวกเราเป็นถึงพยานเหตุการณ์!”
หลังจากพูดจบ หล่อนรีบเดินลงไป ยกมือออกมาโบกรถแท็กซี่ เสี่ยวหลิวเห็นเช่นนั้น ก็ไม่กล้าจะยั้งอะไร ทำได้เพียงตามหล่อนไป
หน้าประตูห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลจงซิน เฝิงเช่นถูกหมอและพยาบาลเข็นตัวเข้าไป แต่ไป๋เสว่เอ๋อกับถานปินถูกกันไว้อยู่ข้างนอก
ถานปินมองดูประตูห้องฉุกเฉินที่ถูกปิดลง สีหน้าทุกข์ใจ กำหมัดขึ้นมาด้วยความโกรธแค้น หันหลังไปถามไป๋เสว่เอ๋อ “สรุปว่ามันเกิดอะไรขึ้น! เธอบอกมา! มันเกิดอะไรขึ้นแน่!”
เมื่อเห็นถานปินเดินตรงเข้ามาหาหล่อนด้วยท่าทีที่โกรธเคือง ไป๋เสว่เอ๋อสูดหายใจเข้าลึก พยายามใจเย็นให้มากที่สุด “เมื่อตอนที่ฉันกลับถึงห้องทำงาน เห็นเฝิงเช่นยืนอยู่ในห้อง ฉันถามหล่อนว่ามาทำอะไร ทันใดนั้นหล่อนก็หยิบของขว้างปาใส่ฉัน…ตะวาดใส่ฉัน ทั้งยังยกกระถางต้นไม้ในห้องเขวี้ยงใส่ฉันด้วย พอตอนที่ฉันกำลังจะวิ่งหนีออกจากห้อง หล่อนก็ล้มลงไปกองกับพื้น….ฉันเห็นว่าผิดปกติ จึงเรียกรถพยาบาลมา….”
“พูดจาซี้ซั้ว! ฉันว่าเธอเจตนาทำเรื่องนี้!” ถานปินโมโหมาก “หล่อนเป็นโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิด ห้ามเครียดหรือโมโห เธอเจตนาทำให้หล่อนตาย!”
“ฉันเปล่านะ!” ไป๋เสว่เอ๋อถูกถานปินขู่เข็ญจนก้าวถอยหลังไป
เมื่อพยาบาลด้านข้างเห็นสถานการณ์ไม่ดี! เห็นถานปินกำลังง้างมือขึ้นจะตบหล่อน พวกเขารีบเดินเข้ามาห้ามเขาไว้ “มีเรื่องอะไรก็คุยกันดีๆ! ห้ามทำร้ายกันในโรงพยาบาล!”
ครั้นถูกพยาบาลมาห้ามไว้ ถานปินใจเย็นขึ้น แต่สายตาของไป๋เสว่เอ๋อเยือกเย็นอย่างผิดปกติ เขายกมือขึ้น ชี้นิ้วชี้ไปที่ไป๋เสว่เอ๋อ “ถ้าเช่นเช่นเป็นอะไรขึ้นมา ฉันจะให้เธอชดใช้ทั้งหมด!”
ไป๋เสว่เอ๋อกำหมัดแน่น แผ่นหลังของหล่อนเต็มไปด้วยเหงื่อ
พยาบาลช่วยพูดให้ถานปินไปสงบสติอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อให้ทั้งสองแยกห่างออกจากกัน
ในตอนนั้นเอง สวี่เยว่หรูกับผู้ช่วยเสี่ยวหลิวเดินเข้ามาจากโถงทางเดิน
“เฝิงเช่นล่ะ? หล่อนเป็นอย่างไรบ้าง?” สวี่เยว่หรูรีบเดินเข้ามา เอ่ยปากถามไป๋เสว่เอ๋อ ไป๋เสว่เอ๋อขมวดคิ้วแน่น
เงียบอยู่ครู่ใหญ่
สวี่เยว่หรูเหลือบมองไปที่ถานปินที่อยู่ด้านข้าง แสร้งพูดเสียงดังขึ้น “เลขาไป๋ ถึงแม้ว่าจะมีความคับแค้นต่อกันมากเท่าไหร่่ ก็ไม่สมควรที่จะลงไม้ลงมือแบบนี้รึเปล่า?”
ไป๋เสว่เอ๋อได้ยินเช่นนั้น มองไปที่สวี่เยว่หรูด้วยความตกใจตะลึง “เธอพูดอะไรของเธอ?”
“ฉันกับเสี่ยวหลิวเห็นทุกอย่างแล้ว ว่าเมื่อครู่เธอทำอะไรกับเฝิงเช่นในห้องทำงานบ้าง…”
เมื่อถานปินที่อยู่ด้านข้างได้ยินเช่นนั้น รีบเดินปรี่เขามาทันที ถามขึ้นด้วยเสียงนิ่งขรึม “เธอว่าไงนะ?”
สวี่เยว่หรูแสร้งทำเป็นลังเล มองไปที่ถานปินด้วยความกระวนกระวายใจ นิ่งเงียบไม่พูดจา
“พูดมา!” สายตาของถานปินดุดัน “เมื่อครู่เธอพูดว่าอะไร!”
สวี่เยว่หรูถูกขึ้นเสียงใส่กลัวจนตัวสั่น จากนั้นค่อยๆพูดขึ้นแบบติดๆขัดๆ “ฉัน…ฉันกับเสี่ยวหลิวอยู่ที่ประตูห้องทำงาน เห็นเลขาไป๋กำลังบีบคอของเฝิงเช่น เฝิงเช่นล้มไปนอนลงบนพื้น แน่นิ่งไม่ขยับ…”
“พูดจาซี้ซั้ว!” ไป๋เสว่เอ๋อรู้สึกมึนงงไม่เข้าใจ “ฉันกำลังช่วยปั๊มหัวใจให้หล่อนต่างหากล่ะ!”
สวี่เยว่หรูรีบพูดโต้กลับ “ฉันพูดมั่วตรงไหน! ฉันเห็นกับตาตัวเอง เสี่ยวหลิวก็เห็นเช่นกัน!”
เสวี่ยวหลิวที่ยืนอยู่ด้านข้างเห็นไป๋เสว่เอ๋อนั้งคุกเข่าอยู่ด้านข้างของเฝิงเช่นจริงๆ เงาหลังของหล่อนบังเอิญบังท่าทางที่หล่อนทำอยู่ตอนนั้น หล่อนก็มองได้ไม่ชัดว่าไป๋เสว่เอ๋อกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ แต่ในสถานการณ์นี้ หล่อนถูกทำให้กลัวจนต้องพยักหน้าไปแบบไม่รู้ไม่ชี้…
“เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่ได้ทำแน่นอน….” ไป๋เสว่เอ๋อส่ายหน้าปฏิเสธ
“เพี้ยะ!” ตบลงไปที่ใบหน้าของหล่อนอย่างแรง