สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 355

ตอนที่ 355

ตอนที่ 355 ถูกสะกดรอยตามแล้ว

ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดฟันแน่น เอ่ยถามย้อนกลับด้วยน้ำเสียงที่ยกสูงขึ้นว่า “คุณกำลังบีบบังคับฉัน?”

เผยลี่เชินตอบกลับออกมาอย่างเป็นระบบระเบียบ “เปล่า คุณเพียงแค่ต้องการความใจเย็นในการพิจารณาทบทวน ก่อนหน้าที่คุณจะใจเย็นลงนั้น ผมต้องการหลักประกันในความปลอดภัยของคุณ”

ฟังเขาพูดเช่นนี้ ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็เกิดความโมโหออกมาจากใจจริง “ไม่ว่าจะเป็นตอนนี้ หรือว่าอนาคต คำตอบของฉันก็มีเพียงหนึ่งเดียว เด็กคนนี้ฉันจะต้องให้กำเนิดออกมาให้ได้!”

พูดประโยคนี้จบ ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ตัดสายโทรศัพท์ลงอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

ไป๋เสว่เอ๋อร์กุมโทรศัพท์เอาไว้แล้วหอบหายใจอย่างรุนแรง เธอกำหมัดแน่น ไร้หนทางไปชั่วขณะ

เธอจะต้องหนีออกไปให้ได้!หนีกลับไปยังเมืองไห่เฉิงก่อนค่อยว่ากัน!

หลังจากที่ใจเย็นลงมา ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ได้ทำการตัดสินใจ เธอกัดฟันแน่น นำกระเป๋าสตางค์และเอกสารที่สำคัญเก็บเอาไว้กับตัว จากนั้นดึงประตูห้องให้เปิดออก

“คุณเลขาไป๋ คุณมีอะไรที่ต้องการหรือเปล่าครับ?” สีหน้าของบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหน้าประตูเคร่งขรึมและจริงจัง

ไป๋เสว่เอ๋อร์แสร้งทำเป็นสีหน้าปกติ “ฉันยังไม่ได้ทานข้าว ตอนนี้จะไปหาอะไรทานสักหน่อยที่ห้องอาหารของโรงแรม คุณตามฉันไปก็ได้ อย่ามารบกวนฉันก็พอ”

คำพูดของเธอเพิ่งออกมาจากปาก มือของบอดี้การ์ดก็ได้ยื่นเข้ามา ขวางทางของเธอเอาไว้ในทันที “ไม่มีความจำเป็นต้องให้คุณเลขาไป๋วุ่นวายไปด้วยตัวเองครับ ท่านประธานเผยกำชับมาแล้วว่า โทรศัพท์เรียกบริการอาหารภายในห้องพักโดยตรงเลยก็ได้แล้วครับ บิลทั้งหมดให้จดไว้ภายในชื่อของท่าน”

ได้ยินดังนั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ตัวแข็งทื่อ พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ

เป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ เทียบกับเผยลี่เชินแล้ว ทักษะวิชาของเธอยังตื้นเกินไปจริงๆ!

หมุนตัวกลับเข้าไปในห้องด้วยความคับแค้นใจ ไป๋เสว่เอ๋อร์กำหมัดแน่น คิดวิธีอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็กดโทรบริการอาหารภายในห้องพัก เรียกอาหารมานิดหน่อย จากนั้นนั่งเหม่อลอยอยู่บนโซฟา

สายตากวาดไปถึงยังหน้าระเบียง เธอก็เกิดไหวพริบขึ้นมา รีบลุกยืนขึ้น เดินออกไปนอกระเบียงในทันที

เพื่อที่จะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ดีมากยิ่งขึ้น ระเบียงใช้การออกแบบที่กึ่งเปิดโล่งท้องฟ้า ไม่มีราวลูกกรงใดๆ เป็นระเบียงกว้างที่อยู่ประมาณหนึ่งเมตรกว่าๆ

ไป๋เสว่เอ๋อร์มองดูระเบียงของห้องที่อยู่ด้านข้างเล็กน้อย ระยะห่างไม่ไกลจากทางนี้มากนัก แต่ตรงกลางก็เว้นช่องว่างเอาไว้จริงๆ คิดอยากจะกระโดดจากทางนี้ไปทางฝั่งนั้น ค่อนข้างที่จะมีความยาก

ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดฟันแน่น ยื่นมือออกไป คิดจะลองวัดระดับความยาวดู แต่กลับยังคงมีความรู้สึกหวาดผวาอยู่

“ก๊อกๆๆ!”

ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังสะท้อนขึ้นทำให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้สติกลับคืนมาในทันที เธอเดินไปถึงหน้าประตู พอเปิดประตูก็เห็นบริกรที่กำลังเข็นรถอาหารยืนอยู่ด้านนอก

รอจนกระทั่งบริกรเดินจากไปแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ถือโอกาสทานอะไรนิดหน่อยไปสองสามคำ จากนั้นก็เดินไปยังหน้าระเบียงคิดหาวิธีการต่อ

ทันใดนั้น ระเบียงของฝั่งตรงข้ามก็มีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏขึ้นมา เธอเดินมาถึงบนหน้าระเบียง มองเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์พอดี ทั้งสองคนสบสายตากัน ไม่ช้าต่างฝ่ายก็ต่างเบนสายตาไปทางอื่น

ชั่วพริบตา วิธีการที่ปรากฏขึ้นภายในสมองอย่างมากมายเมื่อสักครู่นี้นั้นในวินาทีนี้ได้พังทลายลงโดยสมบูรณ์แบบ

เดิมทีเธอยังคิดจะลองดูว่าจะสามารถกระโดดจากทางนี้ไปยังฝั่งนั้นได้หรือไม่ คิดไม่ถึงว่าห้องนั้นมีคน เกรงว่าถึงเวลาต่อให้เธอไปถึงยังฝั่งนั้นแล้ว สร้างความวุ่นวายทำให้มีการเคลื่อนไหวอะไรเกิดขึ้น ก็คงจะดึงดูดความสนใจของบอดี้การ์ดมาได้อยู่ดี

เธอถอนหายใจออกมา กำลังหมุนตัวเพื่อเดินกลับเข้าไปในห้อง อยู่ๆหญิงสาวบนระเบียงที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยปากถามขึ้นมาว่า “เฮ้ คุณเป็นดาราใช่ไหมคะ?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ หันไปมองหญิงสาวคนนั้นอย่างสับสนมึนงง

ผู้หญิงคนนั้นมีผมสีน้ำตาลเข้ม ด้านในยังทำไฮไลท์สีฟ้าอยู่ประปราย ดูแล้วมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นอย่างมาก

หญิงสาวคนนั้นเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์นิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมา ก็เลิกคิ้วเอ่ยถามต่อไปว่า “ฉันเห็นว่าด้านหน้าประตูของคุณยังมีบอดี้การ์ดคอยยืนอยู่ เพื่อคุ้มกันความปลอดภัยของคุณ?”

ได้ยินดังนั้น มุมริมฝีปากของไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ปรากฏรอยยิ้มเย้ยหยันตัวเองออกมาเล็กน้อย เธอส่ายศีรษะ หยอกล้อตนเองว่า “คุ้มกันความปลอดภัยอะไรกันคะ เพื่อเป็นการสอดแนมมากกว่า”

หญิงสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้ยินดังนั้น นัยน์ตาก็สะท้อนความประหลาดใจขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นก็ยกมุมริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ “ฉันคิดไม่ถึงจริงๆค่ะ ต้องการความช่วยเหลือไหมคะ? ฉันช่วยคุณแจ้งตำรวจ?”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์ส่ายศีรษะเล็กน้อย จากนั้นเธอก็สูดหายใจเข้าเต็มปอด หันหน้าไปหาเธอแล้วเอ่ยถามขึ้นว่า “แจ้งตำรวจนี่ช่างเถอะค่ะ คุณสามารถช่วยเหลืออย่างอื่นได้ไหมคะ?”

หลังจากนั้นไม่กี่นาที ผู้หญิงคนนั้นก็นำบอร์ดยาวอันหนึ่งออกมาจากในห้อง วางแนวนอนไว้บนระเบียงของทั้งสองด้าน เธอยักคิ้วเล็กน้อย “คุณปีนขึ้นมาค่ะ ตามบอร์ดมาที่นี่”

มองไปที่บอร์ดนั้นแวบหนึ่ง ไป๋เสว่เอ๋อร์มีความประหลาดใจขึ้นมาเล็กน้อย “บอร์ดโต้คลื่น?”

หญิงสาวคนนั้นยิ้มอย่างภาคภูมิใจ แล้วพยักศีรษะ “ฉันเป็นโค้ชกีฬาโต้คลื่นค่ะ ช่วงนี้มาพักร้อนที่เมืองปินเฉิง คุณรีบขึ้นมา สองก้าวก็ถึงแล้ว”

แม้ว่าในใจจะชัดเจนว่าบอร์ดโต้คลื่นนั้นแข็งแรงมั่นคง แต่ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ยังมีความหวาดกลัวอยู่เล็กน้อย หลังจากที่ลังเลอยู่หลายต่อหลายครั้ง พอคิดถึงลูกที่อยู่ในท้อง เธอก็มีความกล้าหาญขึ้นมาในชั่วขณะ ปีนขึ้นมาที่ริมระเบียง เหยียบไปบนบอร์ดโต้คลื่น ก้าวไปยังฝั่งนั้นในทันที

ในวินาทีที่ขาทั้งสองข้างลงสู่พื้นนั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์ถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

ไป๋เสว่เอ๋อร์หันหน้าไปมองผู้หญิงคนนั้น ยิ้มให้กับเธออย่างจริงใจ “ขอบคุณค่ะ!”

หญิงสาวคนนั้นโบกไม้โบกมือเล็กน้อย เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “ขอบคุณอะไรกันคะ ระหว่างทางพบคนถูกรังแกก็ต้องยืดอกยื่นมือเข้าไปช่วย ฉันชื่อเผิงหรั่นค่ะ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้มพร้อมกับจับมือทักทายกับเธอ “ไป๋เสว่เอ๋อร์ค่ะ”

หลังจากทักทายกันสองสามประโยค ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็เอ่ยปากขึ้นด้วยท่าทีที่จริงจังว่า “ฉันมาถึงฝั่งนี้ก็ไม่ได้อีกเหมือนกันค่ะ บอดี้การ์ดกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตู แค่ฉันออกไปก็ถูกเห็นเข้าแล้ว”

เผิงหรั่นได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากนั้นครู่หนึ่ง อยู่ๆเธอก็หยิบเสื้อกันหนาวแบบสวมทับสีดำของตัวเองที่อยู่ด้านข้างขึ้นมา “คุณเปลี่ยนใส่ชุดของฉัน สวมหมวก อีกสักครู่ฉันจะไปคุยๆกับบอดี้การ์ดคนนั้น คุณออกไปแล้วอาศัยโอกาสเดินไปอีกด้านหนึ่ง อย่าลงลิฟต์ ให้ลงไปทางบันได”

เรื่องมาถึงตอนนี้ ดูเหมือนก็มีเพียงแค่วิธีนี้แล้ว

ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้า มองไปที่เผิงหรั่นด้วยสีหน้าท่าทางที่จริงจัง แล้วเอ่ยออกมาทีละคำทีละประโยคว่า “เผิงหรั่น ขอบคุณมากค่ะ”

หลังจากทั้งสองคนแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์กันแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็เปลี่ยนใส่ชุดของเธอ เดินตามเธอมาถึงยังหน้าประตู

สิ่งที่เห็นก็คือเผิงหรั่นถอดเสื้อคลุมที่อยู่บนร่างกายออก เผยให้เห็นบิกินี่ที่เซ็กซี่ออกมาในทันที เธอส่งยิ้มให้กับไป๋เสว่เอ๋อร์เล็กน้อย ก้าวขาเดินไปหาบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่หน้าประตูด้านข้าง

“พี่ชาย ขอแอดวีแชทได้ไหมคะ? หุ่นของพี่ดีมากเลย!หน้าตาก็เป็นแบบในสเปคของฉันเลยค่ะ!”

อยู่ๆก็มีสาวสวยเซ็กซี่ปรากฏออกมาอย่างกะทันหันทำให้บอดี้การ์ดตกตะลึงไปในทันที เขาอ้าปากค้างเล็กน้อย ตอบกลับอย่างอึกๆอักๆ

สุดท้าย ในตอนที่บอดี้การ์ดก้มหน้าหยิบเอาโทรศัพท์มือถือของเผิงหรั่นไปกดไอดีวีแชทอยู่นั้น เผิงหรั่นก็โบกมืออีกข้างที่แอบเอาไว้ข้างหลังส่งให้กับไป๋เสว่เอ๋อร์เล็กน้อย

ไป๋เสว่เอ๋อร์เข้าใจขึ้นมาในทันที รีบก้าวขาออกจากห้อง แล้วเลี้ยวเดินไปอีกทางอย่างไร้ซุ่มไร้เสียง

รีบเดินเข้ามาในห้องบันไดหนีไฟ จากนั้นไป๋เสว่เอ๋อร์ถึงได้ถอนหายใจยาวออกมา

เธอหนีออกมาได้แล้วจริงๆ!

ออกมาจากโรงแรมด้วยความรวดเร็ว ไป๋เสว่เอ๋อร์โบกแท็กซี่คันหนึ่งจากริมถนน เพื่อตรงไปยังสนามบิน

“โชเฟอร์ค่ะ รบกวนไปสนามบินค่ะ”

คนขับรถแท็กซี่ตอบรับ ถือโอกาสเอ่ยออกมาประโยคนึงว่า “แม่หนู สนามบินค่อนข้างไกล อาจจะใช้เวลานานนิดนึงนะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ” หัวใจของไป๋เสว่เอ๋อร์เต้นอย่างบ้าคลั่ง หันหน้าไปมองประตูใหญ่ของโรงแรมที่ไกลออกไปเรื่อยๆด้านนอกหน้าต่าง จากนั้นถึงได้ถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอก

วันนี้หากไม่ใช่ได้พบกับเผิงหรั่น ไม่แน่ตอนนี้เธอก็คงยังโดนขังอยู่ในห้อง

ตอนนี้เวลาได้ล่วงเลยมาถึงพลบค่ำ เผยลี่เชินกับฝ่ายผู้ร่วมลงทุนก็คงจะเจรจากันได้พอสมควรแล้ว เธอจำเป็นต้องรีบทำเวลา ช่วงก่อนที่เผยลี่เชินจะกลับมานี้เธอจะต้องรีบไปให้ถึงสนามบิน และขึ้นไปบนเครื่องบินให้เร็วที่สุด

รถเคลื่อนไหวไปได้ระยะหนึ่ง คนขับรถที่นั่งอยู่บนที่นั่งฝั่งคนขับก็มองไปยังกระจกมองหลังหลายต่อหลายครั้งต่อเนื่องกันไม่หยุด

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง อยู่ๆเขาก็เอ่ยปากถามออกมาว่า “แม่หนู คุณไปทำอะไรใครเอาไว้ใช่หรือเปล่า?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ หันหน้ามองไปทางคนขับรถด้วยความประหลาดใจ “โชเฟอร์ หมายความว่าอะไรคะ…”

คนรับรถเอ่ยปากขึ้นอย่างใจเย็น “ด้านหลังมีรถคันนึงตามพวกเรามาตลอดตั้งแต่หน้าประตูใหญ่ของโรงแรม คุณรู้จักหรือเปล่าครับ?”

ได้ยินดังนั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ตัวแข็งทื่อขึ้นมาในทันที เธอหันหน้ากลับไปอย่างตื่นตระหนก มองเห็นด้านหลังรถแท็กซี่ มีรถคันหนึ่งตามมาอย่างไม่ใกล้ไม่ไกลนักจริงๆ

นั่นไม่ใช่รถของเผยลี่เชิน เป็นอีกคันที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน! อีกทั้งทะเบียนรถก็ยังเป็นทะเบียนของเมืองปินเฉิง

หรือว่าจะเป็นลูกน้องของเผยลี่เชินงั้นหรอ?

ไป๋เสว่เอ๋อร์กำหมัดแน่น หันหน้ากลับไปมองคนขับรถ แล้วเอ่ยปากออกมาว่า “โชเฟอร์คะ รบกวนคุณช่วยฉันสลัดเขาออกไปที!

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท