สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 357

ตอนที่ 357

ตอนที่ 357 คุณก็เป็นผู้เคราะห์ร้ายเช่นเดียวกัน

ไป๋เสว่เอ๋อร์คิดไม่ถึงมาก่อนเลยว่า การมีอยู่ของตนเองจะสามารถนำพาผลกระทบที่ใหญ่ขนาดนี้มาสู่ผู้อื่นได้ ถึงขั้นอาจจะพรากชีวิตของผู้บริสุทธิ์คนหนึ่งไป!

เผยลี่เชินยื่นมือออกมา ฝ่ามือที่กว้างใหญ่กุมมือของหญิงสาวเอาไว้ น้ำเสียงอ่อนลงเล็กน้อย “เรื่องนี้โทษคุณไม่ได้”

รู้สึกได้ถึงความร้อนจากฝ่ามือของชายหนุ่ม ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ราวกับสัมผัสเข้ากับเปลวไฟก็ไม่ปาน ดึงมือของตัวเองกลับมาโดยอัตโนมัติ เธอถามย้อนกลับอย่างทั้งตกตะลึงและยังปวดใจว่า “โทษฉันไม่ได้งั้นหรอ? หากไม่ใช่เป็นเพราะฉัน เขาจะมานอนอยู่ในโรงพยาบาลได้ยังไงกัน?”

คำพูดเพิ่งหลุดออกมาจากปาก ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น บอดี้การ์ดคนหนึ่งผลักประตูเดินเข้ามา มองดูเผยลี่เชินกับไป๋เสว่เอ๋อร์ที่อยู่ในห้อง สีหน้าลังเลเล็กน้อย

เผยลี่เชินขมวดคิ้วขึ้น สีหน้าอึมครึมลงมา “มีเรื่องอะไร?”

“ประธานเผย ญาติของคนขับรถที่ได้รับบาดเจ็บมาถึงแล้วครับ…”

มองเห็นสีหน้าของเผยลี่เชินมืดมนขึ้นมาอย่างกะทันหัน แม้แต่สายตายังแฝงไปด้วยความรู้สึกกดดันเล็กน้อย บอดี้การ์ดหยุดคำพูดไปในทันที ชะงักงันไปชั่วขณะ จากนั้นหมุนตัวเดินออกจากห้องผู้ป่วยไป

เผยลี่เชินได้สติกลับคืนมา หันหน้าไปทางไป๋เสว่เอ๋อร์ ยกมือขึ้นตบไปที่ไหล่ของเธอเบาๆ เอ่ยปลอบขวัญว่า “ผมจะจัดหาวิธีการรักษาที่ดีที่สุดให้กับเชา วางใจเถอะ คุณตั้งใจพักผ่อนให้ดีๆ”

ได้ยินประโยคที่บอดี้การ์ดคนนั้นพูดเมื่อครู่นี้ ในใจของไป๋เสว่เอ๋อร์ก็สับสนวุ่นวายเป็นอย่างมาก แทบอยากจะออกไปดูอาการของคนขับรถและสภาวะคนในครอบครัวของเขาภายในเดี๋ยวนั้น แต่เผยลี่เชินจะต้องไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน

สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอพยักหน้าเล็กน้อย ค่อยๆเอนตัวลงไป

เห็นเธอเชื่อฟังคำสั่ง เผยลี่เชินถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก “ผมไปแค่ครู่เดียวก็กลับมา”

รอจนกระทั่งเขาหมุนตัวเดินออกจากห้องไป ได้ยินเสียงปิดประตูลงแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ลุกขึ้นมาจากเตียง สวมรองเท้าแตะ ก้าวขาเดินไปทางข้างนอก

ความรู้สึกผิดที่อยู่ภายในจิตใจสุดท้ายก็ค่อยๆเหนือกว่าขึ้นมา ไป๋เสว่เอ๋อร์รวบรวมความกล้า ดึงประตูห้องผู้ป่วยให้เปิดออก

เป็นไปตามคาด ด้านนอกประตูมีบอดี้การ์ดยืนอยู่

ไม่รอให้บอดี้การ์ดเอ่ยปากเชิญเธอกลับเข้าไป เธอก็ชิงเอ่ยปากขึ้นมาก่อน “ฉันจะไม่หนี คุณไม่ต้องมารั้งฉัน ไม่เช่นนั้นผลลัพธ์ที่ตามมาคุณคงรับผิดชอบไม่ไหว”

บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าความดุดันที่ไม่มีความหวาดกลัวใดๆทั้งสิ้นในดวงตาของเธอทำให้ตกใจเข้า บอดี้การ์ดลังเลอยู่เล็กน้อย สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่เดินตามอยู่ที่ด้านหลังของไป๋เสว่เอ๋อร์อย่างไม่ใกล้ไม่ไกลนัก

มองดูไกลๆ ไป๋เสว่เอ๋อร์มองเห็นหน้าประตูห้องผู้ป่วยห้องหนึ่งตรงบริเวณทางเลี้ยวระเบียงทางเดินมีคนจำนวนไม่น้อยยืนอยู่ มีเสียงเอะอะโวยวายเล็กน้อย ในกลุ่มคนสามารถมองเห็นเงาร่างที่สูงโปร่งของเผยลี่เชิน

ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ เสียงพูดเล็กน้อยบางส่วนชัดเจนมากยิ่งขึ้น

“นี่จะให้พวกเราสองแม่ลูกทำยังไงดีล่ะ!”

หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งร้องห่มร้องไห้ ดวงตาบวมเปล่งจนกลายเป็นลูกท้อ ด้านข้างมีสาวน้อยที่สวมชุดนักเรียนยืนก้มศีรษะอยู่ ร้องไห้สะอึกสะอื้นไปด้วยใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาไปด้วย

หัวใจของไป๋เสว่เอ๋อร์บีบรัดแน่นอย่างรุนแรง ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอย่างหนึ่งพุ่งขึ้นมาภายในจิตใจอย่างประหลาด

ฉีเฟิงเดินเข้าไปเอ่ยปากปลอบประโลมหญิงวัยกลางคนคนนั้น “หมอบอกว่ามีโอกาสที่จะฟื้นขึ้นมา ยังไงก็อดทนรอสักหน่อยเถอะครับ”

หญิงวัยกลางคนเสียงแหบพร่า เอ่ยถามย้อนกลับว่า “งั้นถ้าหากฟื้นขึ้นมาไม่ได้ล่ะ?”

ประโยคเดียว ทำให้คนที่อยู่ด้านข้างไม่มีใครพูดอะไรต่อออกมา

บรรยากาศค่อนข้างเยือกเย็น หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เผยลี่เชินก็คลายคิ้วที่ขมวดเข้าหากันแน่นลง เอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “รอผ่านพ้นระยะสังเกตการณ์ หากเขายังไม่ฟื้นขึ้นมา ผมจะหาหมอที่ดีที่สุดให้ พวกคุณวางใจนะครับ ค่าการรักษาและค่าครองชีพของพวกคุณ พวกเราจะรับผิดชอบเอง”

ได้ยินดังนั้น หญิงวัยกลางคนก็เอ่ยขึ้นพร้อมด้วยเสียงสะอึกสะอื้น “ฉันไม่ต้องการเงินของพวกคุณ!ฉันเพียงแค่อยากจะให้สามีของฉันฟื้นขึ้นมา!ฉันไม่อยากให้ลูกสาวของฉันไม่มีพ่อ!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้าง ในวินาทีที่ได้ยินประโยคนี้นั้น ต่อมน้ำตาก็พังทลาย น้ำตาไหลอาบไปทั่วทั้งใบหน้า

เธอไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกของการสูญเสียคนในครอบครัวที่สนิทมากที่สุดไปอย่างกะทันหันเช่นนั้นได้ดีไปกว่านี้อีกแล้ว ในวินาทีนั้นอยู่ๆหัวใจก็ว่างเปล่าขึ้นมาในทันที

อดกลั้นความรู้สึกภายในจิตใจเอาไว้ ไป๋เสว่เอ๋อร์ก้าวขาเข้าไปใกล้สองสามก้าว แต่ว่าพอมองเห็นสาวน้อยที่ก้มหน้าร้องไห้อยู่นั้น คำพูดทั้งหมดที่ทะลักมาถึงริมฝีปากของเธอก็ถูกกลืนกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง

ในเวลาแบบนี้ การปลอบใจคือเรื่องที่ไร้ประโยชน์ เธอเคยผ่านมาก่อน ดังนั้นจึงยิ่งเข้าใจดี

เผยลี่เชินหันข้างมาเล็กน้อย ในวินาทีที่มองเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์นั้น คิ้วก็ขมวดเข้าหากันแน่นขึ้นมาในทันที เขาหมุนตัวมารั้งไว้ที่ด้านหน้าของเธอ ก้มศีรษะเอ่ยถามออกมาว่า “ไม่ใช่ว่าให้คุณตั้งใจพักผ่อนให้ดีๆหรอ? ทำไมถึงมาที่นี่ได้?”

มองเห็นหญิงสาวที่น้ำตาไหลออกมาอย่างหยุดเอาไว้ไม่ได้ หัวใจของเผยลี่เชินก็บีบตัวเข้าหากันแน่น เขายกมือขึ้นเชยคางของเธอขึ้นมาเบาๆ ช่วยเธอปาดน้ำตาที่อยู่บนใบหน้าออก

ไป๋เสว่เอ๋อร์เอ่ยปากด้วยเสียงที่สั่นเทา “โทษฉันคนเดียว…หากไม่ใช่ฉัน…”

หญิงวัยกลางคนที่แต่เดิมยืนอยู่ข้างๆได้ยินประโยคนี้ ก็เบิกตาโพลงขึ้นมาในทันที เดินอย่างรวดเร็วเข้ามาเอ่ยถามว่า “คุณพูดว่าอะไรนะ? โทษคุณคนเดียวอะไร?”

เผชิญหน้ากับการซักถามของญาติผู้ได้รับความเสียหาย ความเข้มแข็งของไป้เสว่เอ๋อร์ก็สลายหายไปโดยสมบูรณ์แบบ เธอละอายใจยิ่งไม่กล้าเผชิญหน้ากับครอบครัวของโชเฟอร์คนขับรถ!

มองดูหญิงวัยกลางคนที่เริ่มสูญเสียการควบคุม สีหน้าของเผยลี่เชินก็อึมครึมลงไปเล็กน้อย หันหน้าไปมองบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ข้างๆ บอดี้การ์ดเดินเข้ามาด้วยความรวดเร็ว จับเธอรั้งเอาไว้ในทันที

“คุณปล่อยฉัน!สามีของฉันเกิดเรื่องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอ!พวกคุณปิดบังอะไรฉันเอาไว้กันแน่?”

“ฉันคือบุคคลในครอบครัว!มีอะไรที่ไม่สามารถบอกกับฉันได้?”

เสียงซักถามของหญิงวัยกลางคนดังสะท้อนออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้จิตใจของไป๋เสว่เอ๋อร์เจ็บปวดขึ้นมาเป็นระลอก กลับพูดอะไรไม่ออกมาซักประโยค

เธอควรจะพูดยังไง? เพราะว่าสามีของเธอขับรถพ่วงเธอไปด้วย ดังนั้นถึงได้รับผลกระทบไปด้วย?

เผยลี่เชินยื่นมือออกไป กุมหัวไหล่ของไป๋เสว่เอ๋อร์เอาไว้แน่น ใช้ร่างกายของตนเองบดบังสายตาของเธอเอาไว้ “ผมส่งคุณกลับห้องผู้ป่วย”

ในขณะที่กึ่งดันกึ่งลาก ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ถูกส่งกลับมายังห้องผู้ป่วย แต่สิ่งที่ดังก้องไปมาในสมองก็ยังคงเป็นฉากเมื่อสักครู่นี้…

ตอนนี้โชเฟอร์คนขับรถยังคงหมดสติอยู่ตลอดเวลา ใครจะไปรู้ว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไรกันล่ะ?

“ไป๋เสว่เอ๋อร์!” ข้างใบหูอยู่ๆก็ดังสะท้อนเสียงที่ทุ้มต่ำของชายหนุ่มขึ้น “คุณต้องคิดให้เข้าใจว่า เรื่องนี้คุณก็เป็นผู้รับเคราะห์คนหนึ่งเช่นเดียวกัน!คุณไม่จำเป็นต้องตำหนิตัวเองขนาดนั้น!”

แม้ว่าเขาจะพูดเช่นนี้ แต่ในใจของไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ยังคงอัดอั้นอะไรบางอย่างเอาไว้ เป็นสิ่งที่กลืนไม่เข้าคายออกมาก็ไม่ได้

เรี่ยวแรงค่อยๆหมดลง ไป๋เสว่เอ๋อร์เอนตัวลงไปบนเตียง จ้องมองไปที่ฝ้าเพดาน ไม่พูดอะไรออกมาซักประโยค ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบลงมา

เผยลี่เชินมองดูสภาพเช่นนี้ของเธอ ก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ หมุนตัวเดินออกจากห้องผู้ป่วยไป

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา โทรออกไปที่เบอร์ๆหนึ่ง “เตรียมรถบ้านเอาไว้หนึ่งคัน หลังจากนี้หนึ่งชั่วโมงมาที่หน้าประตูโรงพยาบาล ข้ามคืนกลับไปยังเมืองไห่เฉิงในทันที”

แทนที่จะอยู่ที่นี่ให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้รับผลกระทบทางด้านอารมณ์ต่างๆ สู้พาเธอกลับไปตั้งใจสงบจิตใจให้เย็นบำรุงร่างกายให้แข็งแรงไปเลยยังจะดีซะกว่า

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงกว่า อาศัยในขณะที่ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังคงนอนหลับอยู่ เผยลี่เชินก็ได้ทำการเดินเรื่องออกจากโรงพยาบาล นำเธอเคลื่อนย้ายจากห้องผู้ป่วยไปบนรถบ้านในทันที

ขับรถข้ามคืนเดินทางกลับอย่างเร่งรีบ ในที่สุดก่อนฟ้าสางของวันที่สองก็มาถึงเมืองไห่เฉิง

ในความเลือนราง ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ตื่นขึ้นมา พบว่าตนเองกำลังนอนอยู่บนรถคันหนึ่ง ชุดผู้ป่วยที่อยู่บนร่างกายก็ยังไม่ทันที่จะได้เปลี่ยน

ด้านข้างดังสะท้อนเสียงที่แหบพร่าเล็กน้อยของชายหนุ่มขึ้นมา “ตื่นแล้วหรอ?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์รวบรวมสติกลับคืนมา ถึงได้ตื่นขึ้นมาโดยสมบูรณ์แบบ เธอมองเห็นดวงตาของเผยลี่เชินเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยที่แดงสด บนใบหน้ายังแฝงไปด้วยความอิดโรยเล็กน้อย ราวกับไม่ได้นอนมาทั้งคืน

ไป๋เสว่เอ๋อร์ค่อยๆลุกขึ้นนั่ง เอ่ยถามออกมาว่า “นี่พวกเราจะไปที่ไหนกันคะ?”

เผยลี่เชินกดไปที่หัวไหล่ของเธอเบาๆ “คุณพักผ่อนต่ออีกหน่อย อีกครึ่งชั่วโมงพวกเราก็ถึงบ้านกันแล้ว”

ได้ยินดังนั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ประหลาดใจอย่างไม่หยุดหย่อน คิดไม่ถึงว่าเวลาเพียงแค่คืนเดียว เผยลี่เชินจะพาเธอตรงกลับมาถึงเมืองไห่เฉิง

ร่างกายสะดุ้งขึ้น เธอคิดถึงคนขับรถที่ยังอยู่ในโรงพยาบาลขึ้นมาอย่างกะทันหัน เธอขมวดคิ้วพร้อมกับเอ่ยถาม “โชเฟอร์ฟื้นหรือยังคะ? ยังมีคนในครอบครัวของเขา อารมณ์มั่นคงขึ้นมาหน่อยหรือยัง!”

เห็นเธอถามติดต่อกันมากมายหลายคำถาม ต่างก็เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเธอเอง เผยลี่เชินก็ขมวดคิ้วขึ้น เอ่ยปากออกมาเบาๆว่า “ฝั่งนั้นผมจะเป็นคนจัดการ แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือคุณเองต้องสงบลงมาก่อน”

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท