ตอนที่ 367 ต้องไปดูเขาสักหน่อย
ไม่ถึงห้านาที เผยลี่เชินกับฉีเฟิงเดินออกมาจากประตู ยังไม่ทันได้ลงจากชานบันได จู่ๆ ก็ได้ยินเสียง “เผยลี่เชินออกมาแล้ว!”
ทันทีที่คำพูดจบลง คนกลุ่มหนึ่งกรูกันเข้ามาตรงชานบันได
ทั้งแสงแฟลช ไมโครโฟนจากสื่อรวมถึงกล้องต่างก็พุ่งเป้ามาที่เผยลี่เชิน ไม่มีที่ให้หลบซ่อน
“คุณเผยคะ พอจะบอกเล่าเหตุการณ์เกี่ยวกับคุณเฝิงตอนนี้ได้ไหมคะ? มีข่าวว่าคุณเฝิงตายแล้ว เป็นความจริงหรือว่าข่าวลือคะ?”
“คุณเผยช่วยเล่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคุณเฝิงเรื่องความรักความแค้นได้ไหมคะ?”
“ที่คุณไป๋เสว่เอ๋อร์โกรธแค้นเป็นเพราะคุณไปมีความสัมพันธ์สวาทกับเฝิงเช่น จนทำให้เธอแก้แค้น เป็นเรื่องจริงใช่ไหม? เหมือนกับคำที่คนทั่วไปพูดเพราะรักสามเส้าไม่ลงตัวจึงเกิดโศกนาฎกรรมขึ้น”
แสงแฟลชทำให้สีหน้าของเผยลี่เชินดูมืดมน เขาไม่คาดคิดว่าบรรดาสื่อทั้งหลายจะคาดเดากันไปต่างๆ นานา ความสามารถในการพูดหรือกระทำโดยไม่มีหลักฐานก้าวมาถึงระดับนี้แล้ว!
“ไม่มีรักสามเส้า! ขอให้ทุกคนใช้ความระมัดระวังในการนำเสนอข่าว ถ้าหากมีคนเขียนข่าวคนใดเขียนในทางให้ร้าย ผมจะดำเนินคดีตามกฎหมาย!”
พูดจบประโยคนี้ เผยลี่เชินก็ไม่พูดอะไรอีก หันไปทางฉีเฟิง เพื่อให้เขาพาออกไปจากฝูงชน
เมื่อขึ้นรถ ยังคงได้ยินเสียงจากด้านนอกรถ จนกระทั่งรถเคลื่อนตัวออกไป เผยลี่เชินถึงจึงรู้สึกโล่งหูขึ้นมานิดหน่อย
เขากำหมัดแน่น ความโกรธพลุ่งพล่านอยู่ในจิตใจ “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? นักข่าวรู้เรื่องที่พวกเรามาโรงพยาบาลได้อย่างไรกัน?”
เดิมทีการที่เขาได้รู้เรื่องข่าวการตายของเฝิงเช่นเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือความคิด ตอนนี้ถูกนักข่าวรุมล้อมพร้อมกับข่าวลือ ยิ่งเป็นเรื่องไม่คาดฝัน!”
ฉีเฟิงก้มศีรษะเล็กน้อย “ขอโทษครับประธานเผย ผมประมาทไปหน่อย เลยไม่ได้เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า”
“ฉันอยากรู้ว่าข่าวพวกนี้จู่ๆ มันออกมาได้อย่างไร”
ตั้งแต่เขาถึงโรงพยาบาลจนกระทั่งออกมา ใช้เวลาไม่เกินสองชั่วโมง ภายในระยะเวลาอันสั้น พวกนักข่าวได้รับข่าวและรีบไปรายล้อมเขาซึ่งมันพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาต้องมีแหล่งข่าว!
เรื่องนี้มันไม่ได้ง่ายอย่างที่พวกเขาคิดเสียแล้ว
หลังจากเงียบไปสักพัก ในที่สุดเผยลี่เชินเอ่ยปากพูด “ที่นักข่าวคาดเดากันเองมีเรื่องไร้สาระปะปนอยู่ไม่น้อย ไปจัดการก่อนล่วงหน้าให้เรียบร้อย”
ฉีเฟิงรีบรับปากทันที “ครับ”
เผยลี่เชินเงยหน้ามองไปยังแสงไฟที่อยู่ด้านนอก แต่จิตใจกลับรู้สึกสับสน
คืนนี้เป็นอีกคืนที่ถูกกำหนดให้เป็นคืนที่นอนไม่หลับอีกวันหนึ่ง
เช้าวันต่อมา ไป๋เสว่เอ๋อร์ตื่นขึ้นมาเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นเห็นเจียงหวั่นหวั่นนั่งบนโซฟากำลังดูซีรี่ย์
หลังจากที่หาวแล้วเธอจึงถามเบาๆ ว่า “หวั่นหวั่น ทำไมเธอตื่นเช้าจัง? วันนี้ไม่ไปทำงานหรือ?”
“ฉันลาหยุดสองสามวันเพื่ออยู่เป็นเพื่อนเธอ!” เจียงหวั่นหวั่นนั่งตัวตรง แล้วหันไปมองดูนาฬิกาแขวนที่กำแพง “นี่ก็ไม่เช้าแล้วนะ? สิบเอ็ดโมงแล้ว!”
เมื่อได้ยินจึงกวาดตาหันไปมองนาฬิกาซึ่งก็สิบเอ็ดโมงจริงๆ
ไป๋เสว่เอ๋อร์ยืดเอวแล้วกระซิบเบาๆ “ฉันเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะนอนได้ถึงขนาดนี้”
“เป็นเรื่องปกติของคนท้องที่ง่วงนอน!” เจียงหวั่นหวั่นหัวเราะ “อ้อ…ฉันเจียวไข่พร้อมกับโจ๊กข้าวโอ๊ตไว้ให้ เธอกินสักหน่อย จากนั้นพวกเราค่อยออกไปกินข้าวกัน”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ตอบรับพร้อมรอยยิ้ม “จ้า…”
กำลังจะยกโจ๊กออกมาจากห้องครัว ยังไม่ทันได้กิน เจียงหวั่นหวั่นไม่รู้เห็นอะไรเข้า จึงได้ร้องเสียงดังด้วยความตกใจ “โอ้…พระเจ้า!”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ถามอย่างตั้งใจ “เกิดอะไรขึ้น?”
เจียงหวั่นหวั่นระงับอารมณ์ทางสีหน้าเอาไว้ โดยการส่ายหัว “ไม่มีอะไร…”
ช่วงเช้าหลังจากตื่นนอนเธอเริ่มดูละครฮิต เมื่อสักครู่เพิ่งดูละครใหม่จบไป จากนั้นเห็นพลาดหัวข่าวการเสียชีวิตของเฝิงเช่นซึ่งกลายเป็นประเด็นร้อน แต่ที่น่าตกใจคือในภาพข่าวเห็นเผยลี่เชินอยู่ที่ประตูโรงพยาบาลเมื่อคืนนี้ ในข่าวพูดถึงความรักความแค้นระหว่างเผยลี่เชิน ไป๋เสว่เอ๋อร์และเฝิงเช่น
ไป๋เสว่เอ๋อร์สัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเฝิงเช่นตั้งแต่แรกก็เพราะเธอ เธอจึงเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอเป็นอย่างดี และเข้าใจว่าข่าวทั้งหมดถูกเขียนอย่างเหลวไหลสิ้นดี
แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร มันก็เป็นข่าวเชิงลบ ถ้าให้ไป๋เสว่เอ๋อร์เห็นมันคงไม่ดีต่อเธอแน่
เจียงหวั่นหวั่นมองไป๋เสว่เอ๋อร์ที่กำลังกินโจ๊ก ด้วยความรู้สึกกลัวตาลีตาลานโดยไม่รู้ตัว
ตอนที่ไป๋เสว่เอ๋อร์หยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ข้างๆ ทันใดนั้นเจียงหวั่นหวั่นรีบยื่นมือไปคว้าโทรศัพท์มือถือนั้นเอาไว้ก่อน “เธอ….ไม่ควรดู”
“ทำไมหรือ?” ไป๋เสว่เอ๋อร์สับสน
เจียงหวั่นหวั่นพูดปดด้วยความตื่นตระหนก “ไม่มีอะไร เอ่อ…รังสีที่ออกมาจากโทรศัพท์มือถือมันไม่ดีต่อเด็กในท้อง เธอไม่ควรดู”
ไป๋เสว่เอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขำๆ เมื่อได้ยิน และยื่นมือพร้อมกับพูดเบาๆ “ฉันไม่ดูเยอะหรอกน่า แค่โทรศัพท์หารุ่นพี่แล้วก็ไม่ดูเล่นหรอก เธอส่งโทรศัพท์มาให้ฉันก่อนเถอะ”
เจียงหวั่นหวั่นลังเลไปมา แต่ก็ไม่มีวิธีใดจริงๆ จึงได้แต่คืนโทรศัพท์ให้ไป๋เสว่เอ๋อร์
เมื่อได้รับโทรศัพท์กำลังหาสมุดบันทึกเบอร์โทรศัพท์ ทันใดนั้นมีข่าวที่ทำให้น่าตกใจ “เฝิงเช่นเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ การตายมีส่วนเกี่ยวข้องกับเผยลี่เชินประธานบริษัทเผยซื่อ!”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ตัวสั่น หยุดการโทรศัพท์ แน่ใจยิ่งว่าตัวเองไม่ได้ดูผิด จากนั้นเธอเปิดดูรายละเอียดของข่าว
เจียงหวั่นหวั่นเห็นสีหน้าของเธอเปลี่ยนไปและตอบกลับทันที “เสว่เอ๋อร์! เธออย่า….”
ไม่ว่าจะพูดอะไรมันก็สายไปเสียแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์เหลือบดูเนื้อหาของข่าวจนสั่นไปทั้งตัว
เผยลี่เชินไม่มีทางทำร้ายเฝิงเช่น เขารับปากกับเธอเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะส่งตัวเฝิงเช่นให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการ เขาไม่ใช่คนโง่ที่จะมานั่งจัดการเอง
เธอพลิกดูข่าวเหล่านี้อย่างรวดเร็ว และเห็นข่าวที่พูดเกินความจริงไปมาก ไป๋เสว่เอ๋อร์มีความคิดอยู่ในใจ ข่าวพวกนี้ไม่เป็นความจริง แต่ใช้ลูกเล่นเพื่อดึงดูดความสนใจอย่างเต็มที่!
ด้วยความว่องไวตามสไตล์เลขา ไป๋เสว่เอ๋อร์จึงรีบตรวจสอบราคาหุ้นของเผยซื่อ ซึ่งก็ราคาตกลงตามที่คาดไว้จริงๆ !
ไม่อยากจะคิด ราคาหุ้นที่ตกลง สำหรับเผยซื่อแล้ว ภายในหนึ่งวันมูลค่าทรัพย์สินหายไปในอากาศหลายสิบล้านหรืออาจจะหลายร้อยล้านขึ้นไป
เมื่อปีที่ผ่านมา ความเสียหายเช่นนี้สำหรับเผยซื่อแล้วไม่ถือว่าหนักหนา!
เธอไม่อยากจินตนาการ ในเวลานี้ความวุ่นวายในเผยซื่อจะกลายมาเป็นแบบนี้ได้!
ไป๋เสว่เอ๋อร์เหมือนจิตใจจะติดจุกอยู่ลำคอจนทำให้หายใจไม่สะดวก
เจียงหวั่นหวั่นที่อยู่ข้างๆ เห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ดูผิดปกติไป จึงถามด้วยความร้อนรน “เสว่เอ๋อร์ เธอเป็นอะไรไหมอะ? ข่าวในอินเตอร์เน็ตเขียนมั่วซั่ว เธออย่า….”
หลังจากเงียบไปสักพัก ไป๋เสว่เอ๋อร์นั่งไม่ติดลุกขึ้นทันทีทันใด ก้าวเท้าเดินเข้าไปในห้องนอนเปลี่ยนเสื้อผ้า
เจียงหวั่นหวั่นรีบเดินตามพร้อมกับพูดเตือนสติ “เสว่เอ๋อร์! เธอไม่ควรเข้าไปยุ่งนะ”
ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดตอบ “ฉันไม่ได้เข้าไปยุ่ง ตอนนี้ฉันแค่จะไปดูสถานการณ์ของเผยลี่เชินเท่านั้น”
เมื่อวันก่อนพวกเรายังทะเลาะโต้เถียงกันอยู่เลย แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ตอนนี้เขาเกิดเรื่อง เธอเองก็ไม่สามารถนั่งรออยู่เฉยๆ ที่บ้านได้
“เสว่เอ๋อร์! เธอลืมเรื่องที่พวกเราคุยกับประธานลู่เมื่อคืนนี้ไปแล้วหรือไง?” เจียงหวั่นหวั่นสีหน้าจริงจัง “เธอไปหาเขาตอนนี้ ก็เท่ากับว่าเธออ่อนแอ! เขาก็ไม่จะปล่อยเธอได้! แล้วสิ่งที่เราวางแผนกันไว้มันก็จะสูญเปล่า!”
เมื่อได้ยินแบบนี้เข้า ไป๋เสว่เอ๋อร์หยุดนิ่งการกระทำทุกอย่างไปสักครู่ แต่แรงกระตุ้นในหัวใจของเธอไม่ได้ลดลงเลย
เมื่อไป๋เสว่เอ๋อร์ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ จึงเงยหน้าหันไปมองเจียงหวั่นหวั่น พูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “หวั่นหวั่น เธอวางใจเถอะ แผนของพวกเราไม่มีทางสูญเปล่า เชื่อฉัน!”
พูดจบเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าสวมหมวกแก๊ป ถือกระเป๋าแล้วเดินจากไป
วันนี้เธอต้องไปเห็นเผยลี่เชินให้ได้!