ตอนที่ 378 ต้องการพ่อสักคน
เผยลี่เชินฝ่าฝูงชนที่วุ่นวายแน่นหนาออกมา คนรอบข้างต่างพากันตื่นตกใจ เสียงดังลุกฮือขึ้นมาทันที
เมื่อได้ยินเสียงดังขึ้นไม่ไกล ไป๋เสว่เอ๋อตัวเย็นขึ้น รีบย่ำเดินเร็วขึ้น จู่ๆเธอกระวนกระวายขึ้นมา กำมือทั้งสองแน่นจนเหงื่อออกไม่หยุด
หลังจากที่เผยลี่เชินออกมาจากฝูงชนได้ เงาของผู้หญิงที่คุ้นเคยใส่เสื้อคลุมสีครีมคนนั้นก็หายไปแล้ว
เขาขมวดคิ้วขึ้น รีบก้าวเดินอย่างรวดเร็ว หันไปมองรอบๆ ก็ไม่เห็นคนนั้นเอง เขากำหมัดแน่น รู้สึกเจ็บปวดใจอย่างไร้เรี่ยวแรง
เขาเห็นเธออย่างชัดเจน! รู้สึกได้ว่าต้องเป็นเธออย่างแน่นอน! ทำไมถึงต้องหายจากสายตาของเขาไปแบบนี้!
ฉีเฟิงรีบเดินตามถามเผยลี่เชินขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ประธานเผย เกิดอะไรขึ้นครับ?”
เงียบไปครู่หนึ่ง เผยลี่เชินอดกลั้นความโมโหเอาไว้ พูดขึ้นด้วยเสียงนิ่งเรียบ “ไม่มีอะไร นายอยู่ที่นี่ก่อน งานดำเนินต่อ”
หลังจากพูดจบ เขาหันหลังเดินกลับเข้าไปที่ตึกตระกูลเผยอย่างรวดเร็ว ทิ้งผู้คนมากมายที่ยืนสับสนอยู่ไว้ด้านนอก
เหอหย่าหานที่อยู่บนเวทีมองดูฝ่ายชายที่เดินออกไปอย่างไม่สนใจอะไร ทิ้งเธอไว้ต่อหน้าผู้คนจำนวนมากที่ต่างพากันวิจารณ์ต่างๆนานา ตอนนั้นเอง เธอรู้สึกเพียงแค่รู้สึกว่าเธอเสียหน้าจนโกรธหน้าร้อนผ่าวไปหมด
เธอกำหมัดขึ้นแน่น รู้สึกเสียใจและน้อยใจขึ้นมาทันที
พิธีกรที่อยู่ด้านข้างยิ้มทำอะไรไม่ถูก พูดจากหยอกล้อแก้ขัด จากนั้นเชิญให้เหอหย่าหานพูดกล่าวบางอย่าง เมื่อพูดจบก็เชิญเธอลงจากเวที
เมื่อถึงช่วงจับของรางวัล และ ดาราขึ้นเวทีร่วมกิจกรรม ไม่นานนักบรรยากาศบนเวทีก็ครึกครื้นขึ้นมาอีกครั้งเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เหมือนเป็นข้อผิดพลาดที่มาแทรกเพียงช่วงเดียว ทำให้ทุกคนลืมเรื่องที่เกิดขึ้นไปอย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อกลับไปบนรถเหอหย่าหานกัดฟันไม่พอใจ โกรธโมโหทนไม่ไหว
ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของอัญมณีแบรนด์ Involve ตอนที่เผยลี่เชินอยากจะเชิญนักออกแบบอัญมณีคนนั้นมา เธอทุ่มเทพยายามทำทุกวิถีทางบินไปเชิญเขามาจากต่างประเทศหลายครั้งกว่าจะคุยกันได้อย่างลงตัว คิดไม่ถึงเลยว่า เมื่อเผยลี่เชินไม่มีผู้หญิงคอยอยู่เคียงข้าง จะทำให้เขาเมินเฉยต่อเธอมากเพียงนี้…..
เหอหย่าหานกัดริมฝีปากแน่น หยิบมือถือขึ้นมากดโทรออก
“ฮัลโหล พ่อ เมื่อครู่เผยลี่เชินทิ้งหนูไว้บนเวทีคนเดียวแล้วเขาก็ออกไปข้างนอก เขาไม่สนใจความรู้สึกของหนูเลยสักนิด….”
เหอชิงเฟิงได้ยินเช่นนั้น ขมวดคิ้วขึ้น พูดปลอบเธอ “ไม่เป็นไรนะ พรุ่งนี้ก็จัดงานวันสุดท้ายแล้วใช่ไหม? ลูกทนอีกหน่อย เดี๋ยวพ่อจะให้เขามาทานข้าวที่บ้าน สั่งสอนเขาสักหน่อย!”
เมื่อได้ยินพ่อพูดเช่นนั้น เหอหย่าหานจึงจะสบายใจขึ้น “งั้น…พ่อจะพูดถึงเรื่องนั้นกับเขาไหม?”
“แน่นอน! ครั้งนี้พ่อคิดไว้ดีแล้ว จะเรียกท่านเผยมา พ่อจะพูดเรื่องแต่งงานต่อหน้าพ่อของเขา เผยลี่เชินไม่กล้าปฏิเสธต่อหน้าอย่างแน่นอน”
เหอหย่าหานไม่มั่นใจ จึงลังเลถามต่อ “งั้นถ้าเขาไม่ยอมรับล่ะ?”
“หึ!” เหอชิงเฟิงสบถออกมา “ถ้าไม่ตอบตกลงพ่อก็จะเลิกคบกับท่านเผย ลูกสาวของพ่อมอบใจทั้งใจให้กับเขาไปหมดแล้ว เผยลี่เชินคงจะไม่ตาบอดไม่เลือกลูกหรอก!”
เหอหย่าหายได้ยินเช่นนั้น “อิอิ” ยิ้มออกมาทันที
ความโกรธที่อัดอั้นอยู่ในใจลดลงไปทันที เหอหย่าหานวางสายลง เงยหน้าออกไปทางหน้าต่างมองไปที่หน้าตึกตระกูลเผย ยิ้มเยาะ
ต้องมีสักวัน เธอจะทำให้เผยลี่เชินยอมรับเธอให้ได้!
อีกด้านหนึ่ง ไป๋เสว่เอ๋อเดินออกมาจากซุ้มร้านค้าเล็กๆ มองออกไปรอบๆทั้งหน้าและหลัง ไม่เห็นเงาของเผยลี่เชินจึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เมื่อครู่เธอเห็นเงาสะท้อนจากกระจกว่าเผยลี่เชินวิ่งตามเธอมา เธอจึงตกใจรีบเข้าไปแอบในร้านค้า แอบอยู่นานจึงจะกล้าเดินออกมา
เธอคิดว่าตัวเองจะปิดบังความรู้สึกของตัวเองได้ดี อีกทั้งไม่ได้เจอกับเผยลี่เชินเป็นเวลานาน เขาคงจำเธอไม่ได้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่า….
สูดหายใจเข้าลึก ทำให้ใจเย็นลง ไป๋เสว่เอ๋อเดินตรงไปยังทางด้านหน้า โบกแท็กซี่คันหนึ่งมุ่งหน้าไปยังพิพิธภัณฑ์ดาราศาสตร์
หลังจากขึ้นไปบนรถ ไป๋เสว่เอ๋อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เธอเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันที
ช่วงไม่กี่ปีมานี้เธอได้ยินจากลู่เหยาว่าเผยลี่เชินตามหาเธอตลอด แต่ทำไมเขาถึงต้องตามหาเธอ เธอไม่กล้าคาดเดา ไม่กล้าคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอจึงยิ่งไม่กล้าไปเจอหน้าเขา
นี่คือข้อดีของการไม่ออกไปเจอเขา ยังไงพรุ่งนี้เธอก็จะกลับแล้ว
เธอถอนหายใจโล่งอก ไป๋เสว่เอ๋อดื่มน้ำอึกหนึ่ง ทำใจให้สบายมากขึ้น ผ่านไปครู่นึง รถแท็กซี่ก็ขับมาถึงหน้าประตูพิพิธภัณฑ์ดาราศาสตร์ เธอโทรหาเจียงหวั่นหวั่นทันที
เธอเดินเข้าไปตามทางในพิพิธภัณฑ์ ในที่สุดไป๋เสว่เอ๋อก็เห็นห้องท้องฟ้าจำลอง เธอเดินเข้าไปไม่ไกลนักก็เห็นห้าวเจ๋อน้อยนั่งอยู่ข้างๆรูปปั้นดวงดาว ยิ้มฉีกฟันตาหยี มีเจียงหวั่นหวั่นกำลังถ่ายรูปให้เขาอยู่ข้างๆ
เมื่อเห็นห้าวเจ๋อน้อย ไป๋เสว่เอ๋อก็ยิ้มขึ้นมาทันที
แม้ว่าเธอกับเผยลี่เชินจะไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว แต่อย่างน้อยสวรรค์ก็ได้ประทานเทวดาตัวน้อยมาให้ ชีวิตของเธอก็ถือว่าสมบูรณ์แล้ว
“แม่….”
ห้าวเจ๋อน้อยเห็นไป๋เสว่เอ๋อยืนอยู่ไม่ไกล ดีใจกระโดดโลดเต้น นั่งซุกซนอยู่บนบันไดสูง เท้าน้อยๆกระโดดไปมา
ไป๋เสว่เอ๋อรู้สึกอบอุ่นไปทั้งใจ รีบยื่นแขนออกไปอุ้มเขา ยิ้มพลางถามขึ้น “คิดถึงแม่แล้วใช่ไหม?”
“คิดถึงแน่นอนสิครับ!” ห้าวเจ๋อน้อยอ้าแขนทั้งสอง “คิดถึงขนาดนี้เลย!”
เจียงหวั่นหวั่นถือมือถือ เล็งไปที่เขาทั้งสองพอดี ยิ้มและพูดขึ้น “สองคน! หันมานี่สิ! ”
ไป๋เสว่เอ๋อกับห้าวเจ๋อน้อยหันหน้ากลับมา ทั้งสองยิ้มอย่างสดใสเบิกบาน “แชะ” เสียงชัตเตอร์ดังขึ้น บันทึกฉากความทรงจำที่สวยงามเอาไว้
“สวยมากเลย!” เจียงหวั่นหวั่นเดินกระโดโลดเต้นเข้าไปหาไป๋เสว่เอ๋อ ยื่นภาพถ่ายให้ทั้งสองดู
ห้าวเจ๋อน้อยก้มมองดูรูปถ่าย จู่ๆก็พูดขึ้น “ถ้ามีพ่อด้วยคงจะดี…”
เขาพูดออกมาแบบนี้ ไป๋เสว่เอ๋อกับเจียงหวั่นหวั่นชะงักไปทันที
บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบทำอะไรไม่ถูก เจียงหวั่นหวั่นรีบเปลี่ยนเรื่องพูดทันที ชี้ไปที่กล้องดูดาวด้านข้าง พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “เจ๋อน้อยดูนั่นสิ! ดูน่าสนุกเนอะ! เดี๋ยวน้าพาไปเล่นนะ!”
เมื่อพูดเปลี่ยนเรื่อง ห้าวเจ๋อน้อยก็เล่นต่ออย่างมีความสุข แต่ไป๋เสว่เอ๋อที่นั่งอยู่ด้านข้างกลับซึมไปทันที
ถูกเจียงหวั่นหวั่นดึงไปอีกข้างหนึ่ง สีหน้าของไป๋เสว่เอ๋อพูดขึ้นอย่างจริงจัง “วันนี้เธอพูดอะไรกับเขาไปบ้าง?”
“ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น” เจียงหวั่นหวั่นประหม่าเล็กน้อย “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาพูดถึงพ่อขึ้นมาได้”
เมื่อได้ยินเธอพูดเช่นนั้น ไป๋เสว่เอ๋อจึงนึกถึงคำพูดละเมอของห้าวเจ๋อน้อยเมื่อคืน ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
ไป๋เสว่เอ๋อถอนหายใจ “ดูเหมือนว่าเขาต้องการพ่อจริงๆแล้ว”
เจียงหวั่นหวั่นตกใจ รีบยื่นมือไปจับมือของไป๋เสว่เอ๋อไว้ “เสว่เอ๋อ เธอคงไม่ได้คิดอยากจะไปหาเผยลี่เชินใช่ไหม?”
“จะเป็นไปได้ยังไง?” ไป๋เสว่เอ๋อขมวดคิ้ว เธอสูดหายใจเข้าลึก พูดขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา “ฉันกำลังคิดว่าจะตอบรับลู่เหยาดีไหม”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจียงหวั่นหวั่นทำตาโตอยากรู้อยากเห็น มองหน้าเธออย่างไม่กระพริบตา “เขาดีกับเธอขนาดนั้น ถ้าฉันเป็นเธอฉันตอบรับไปแล้วล่ะ!”
ได้ยินน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความหยอกล้อ ไป๋เสว่เอ๋อหัวเราะ เบนสายตาไปทางอื่น แต่คนที่เธอคิดถึงอยู่กลับไม่ใช่ลู่เหยา แต่เป็นเผยลี่เชินที่เพิ่งเจอที่ตึกตระกูลเผย
ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน คนที่เธอเห็นเมื่อครู่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวไม่ไปไหน
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ขัดจังหวะความคิดของเธอทั้งหมด
เป็นโทรศัพท์จากแม่ไป๋ ไป๋เสว่เอ๋อขมวดคิ้ว จากนั้นก็กดตัดสายทันที