ตอนที่ 401 นั่งบนภูเขาแล้วมองดูเสือกัดกัน
ไป๋เสว่เอ๋อร์ค่อยๆ ติดตามสวี่เยว่หรูไปจนถึงบริเวณหน้าบริษัทอย่างระมัดระวัง และเมื่อเห็นเธอขึ้นรถแท็กซี่ไปแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็รีบโบกรถแท็กซี่อีกคัน และตามเธอไปอย่างรวดเร็ว
ระหว่างที่อยู่ในเวลางานแบบนี้ สวี่เยว่หรูกลับแอบออกไปอย่างลุกลี้ลุกลน แถมสถานที่ที่เธอกำลังมุ่งหน้าไปนั้นก็ยิ่งทำให้เธอดูน่าสงสัยเป็นอย่างมากด้วย
และมันก็เป็นไปอย่างที่เธอคิดเอาไว้ หลังจากที่เธอตามสวี่เยว่หรูไปตลอดทาง รถแท็กซี่คันที่อยู่ตรงหน้าก็ไปจอดนิ่งสนิทอยู่ที่หน้าประตูสโมสรแห่งหนึ่ง
ถึงแม้ตอนนี้จะยังเป็นเวลากลางวัน แต่บริเวณหน้าประตูของสโมสรแห่งนั้นก็ดูเงียบเชียบไม่มีคนเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีคนเดินเข้าออกประตูอยู่เสมอ แสดงให้เห็นว่าเบื้องหลังประตูแห่งนี้ยังคงเปิดทำการตามปกติ
ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังคงนั่งรออยู่ในรถ และแอบดูสวี่เยว่หรูเดินไปที่บริเวณหน้าประตูสโมสรจากหน้าต่างรถ จากนั้น สวี่เยว่หรูก็เดินหายลับเข้าไปในสโมรสรอย่างง่ายดาย ไป๋เสว่เอ๋อร์กำมือแน่น และเปิดประตูรีบตามเธอเข้าไปในสโมสรทันที
ตั้งแต่ที่เธอพบสวี่เยว่หรูจนถึงตอนนี้ผ่านมาได้หลายวันแล้ว แต่เผยลี่เชินกลับยังไม่ได้ทำอะไรกับเธอ นั่นแสดงให้เห็นว่าเขายังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนมากพอที่จะมัดตัวเธอ แต่ทว่าถ้าวันนี้เธอค้นพบอะไรบางอย่างที่นี่เข้าล่ะก็ เธอจะต้องช่วยเผยลี่เชินได้อย่างแน่นอน!
ระหว่างที่ไป๋เสว่เอ๋อร์กำลังแอบเดินตามสวี่เยว่หรูขึ้นไปยังบริเวณชั้นสามอย่างลับๆ เธอก็เห็นกับตาเลยว่าสวี่เยว่หรูกำลังเดินเข้าไปในห้องรับรองส่วนตัวที่ตั้งอยู่บริเวณมุมระเบียงทางเดิน
ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบเดินตามไปอย่างรวดเร็ว จากนั้น เธอก็ไปหยุดอยู่ที่ประตูหน้าห้อง และค่อยๆ เขย่งตัว แอบดูสวี่เยว่หรูผ่านกระจกบานเล็กๆ ที่ติดอยู่ที่หน้าห้องทันที เธอมองเห็นว่าภายในนั้นมีคนนั่งอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งเสิ่นหรูเฟิงก็อยู่ที่นั่นด้วย! และสวี่เยว่หรูก็กำลังนั่งอยู่ข้างๆ เขา
ส่วนคนที่กำลังนั่งอยู่ที่อีกด้านหนึ่งของเสิ่นหรูเฟิงนั้น ก็เป็นชายวัยกลางคนที่มีพุงขนาดใหญ่ และคนที่นั่งถัดจากเขาไปก็น่าจะเป็นผู้ช่วยของเขา
นอกจากนั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ยังเห็นเอกสารจำนวนหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะกาแฟด้วย เห็นได้ชัดว่า พวกเขากำลังเจรจาทางธุรกิจอยู่อย่างแน่นอน!
และในตอนนี้เอง จู่ๆ สวี่เยว่หรูก็หยิบเอกสารจำนวนหนึ่ง ออกมาจากกระเป๋าถือส่วนตัวของเธอที่วางอยู่ด้านข้างในทันที!
ภายในใจของไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกบีบแน่นขึ้นมาในทันที เธอจึงรีบคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอย่างไม่ลังเล และรีบกดถ่ายรูปผู้คนข้างในเอาไว้อย่างรวดเร็ว
เอกสารที่อยู่ในมือของสวี่เยว่หรูจะต้องเป็นเอกสารลับของบริษัทเผยซื่ออย่างแน่นอน! ไม่อย่างนั้น เธอคงไม่เสียเวลายอมเอาตัวเองเข้ามาเสี่ยงอันตรายถึงขนาดนี้ แถมยังรีบนั่งรถมาที่นี่ในเวลาเข้างานแบบนี้หรอก!
ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังคงถ่ายภาพเก็บไว้อีกหลายภาพ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ยินในสิ่งที่พวกเขาคุยกันเท่าไรนัก แต่ด้วยรูปภาพที่เธอถ่ายเอาไว้ทั้งหมดพวกนี้นั้น แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
“คุณทำอะไรน่ะ!”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังของเธอในทันที ไป๋เสว่เอ๋อร์ตัวสั่นไปทั้งตัวด้วยความกลัว และเกือบทำโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือร่วงลงไปด้วย เธอรีบหันหลังกลับมาอย่างรวดเร็ว และเมื่อเธอเห็นบริกรที่อยู่ในเครื่องแบบกำลังยืนอยู่ที่บริเวณด้านหลังของเธอ เธอก็รีบเอ่ยปากขึ้นมาทันทีว่า “ฉัน…ฉันมาหาเพื่อนของฉันค่ะ สงสัยฉันจะมาผิดห้อง……”
เธอยิ้มพร้อมกับกล่าวขอโทษบริกร จากนั้น เธอก็รีบเดินหนีออกไปในทันที
บริกรคนนั้นไม่สนใจในสิ่งที่เธอพูดเลยแม้แต่น้อย “หยุดก่อนครับ! ลบรูปที่คุณถ่ายทั้งหมดเมื่อครู่นี้ด้วย!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็รีบก้าวเท้าต่อไปอย่างไม่ลังเล และรีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
“แกร๊ก!”
ทันใดนั้น ประตูของห้องรับรองส่วนตัวก็ถูกใครบางคนเปิดออก สวี่เยว่หรูขมวดคิ้วและมองไปที่บริกรที่กำลังเตรียมวิ่งไล่ตามใครบางคนอยู่ จากนั้น ก็เอ่ยปากถามเขาออกไปว่า “นี่! คุณทำอะไรของคุณน่ะ!”
บริกรคนนั้นลังเลไปครู่หนึ่ง จากนั้น เขาก็รีบโค้งขอโทษอย่างรวดเร็ว “เมื่อครู่นี้ ผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังแอบยืนถ่ายรูปอยู่ที่หน้าห้องรับรองส่วนตัวของพวกคุณ ระหว่างที่ผมกำลังอยากจะถามเธอให้แน่ใจ เธอก็วิ่งหนีหายไปแล้วครับ!”
“ผู้หญิงเหรอ” สีหน้าของสวี่เยว่หรูดูเคร่งเครียดขึ้นมาเล็กน้อย “ผู้หญิงคนนั้นหน้าตายังไง!”
หลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายของบริกรแล้ว ใบหน้าของสวี่เยว่หรูก็ยิ่งซีดเผือดมากขึ้นไปอีก เธอยืนอยู่ที่หน้าประตู และคิดไม่ออกว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี เสิ่นหรูเฟิงก็เดินออกมาจากห้องรับรองส่วนตัวพอดี
เขาจ้องมองไปที่สวี่เยว่หรู แล้วก็มองไปที่บริกรชายคนนั้น จากนั้น เขาก็ถามด้วยเสียงเข้มว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
สวี่เยว่หรูพูดออกไปอย่างอ้ำอึ้ง “เมื่อกี้ เขาบอกว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งมาแอบยืนถ่ายรูปอยู่ตรงประตูหน้าห้องรับรองส่วนตัวของพวกเรา ฉันกลัวว่า…….”
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของเสิ่นหรูเฟิงก็ดูเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย “ไปเช็กภาพวงจรปิดดูว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร!”
สวี่เยว่หรูกัดริมฝีปาก และได้แต่ตกปากรับคำ จากนั้น เธอก็เดินตามบริกรคนนั้นไป
10 นาทีต่อมา สวี่เยว่หรูอยู่ที่ห้องควบคุมกล้องวงจรปิด และกำลังเพ่งไปที่ภาพที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ทันใดนั้น เธอก็รีบต่อสายโทรหาเสิ่นหรูเฟิงทันที “หรูเฟิง! ฉันเจอแล้วค่ะ! ผู้หญิงคนนั้น……คือไป๋เสว่เอ๋อร์!”
สีหน้าของเสิ่นหรูเฟิงนิ่งขรึมไปครู่หนึ่ง “ทำไมถึงเป็นเธอไปได้ล่ะ”
ขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั้น เขาก็วางสายโทรศัพท์ และรีบกดโทรออกไปยังหมายเลขหนึ่งในทันที “ไงไอ้ลูกชาย มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจะสร้างปัญหาให้กับฉัน เธอน่าจะเพิ่งออกไปจากสโมสร นายไปจับตัวผู้หญิงคนนั้นมาเดี๋ยวนี้!”
หลังจากนั้นไม่นาน สวี่เยว่หรูก็รีบวิ่งกลับไปยังห้องรับรองส่วนตัวอย่างเหนื่อยหอบ เมื่อเห็นเสิ่นหรูเฟิงที่มีสีหน้าจริงจังยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องรับรอง ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาเล็กน้อย “หรูเฟิง เธอจะต้องเห็นว่าฉันกับคุณอยู่ด้วยกันแน่นอน พวกเราควรจะทำยังไงกันดีคะ ถ้าเกิดว่าเธอเอาเรื่องนี้ไปบอกเผยลี่เชินล่ะก็……”
“ผมส่งคนไปจับตัวเธอแล้วล่ะ จับตัวเธอให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน” ดวงตาของเสิ่นหรูเฟิงดูลึกล้ำมากขึ้น และปรากฏความเย็นชาขึ้นภายในแววตาของเขา “ผู้หญิงคนนี้ เพิ่งกลับมาที่ไห่เฉิงได้ไม่นาน ก็คิดจะสร้างปัญหาให้กับผมเสียแล้ว รนหาที่ตายจริงๆ !”
ในขณะเดียวกัน หลังจากที่ไป๋เสว่เอ๋อร์วิ่งออกมาจากสโมสรได้ไม่นาน เธอก็พลางเดินพลางวิ่งไปตามถนน พยายามเรียกรถให้จอดรับเธอ แต่ทว่าหลังจากที่เรียกอยู่เป็นเวลานาน กลับไม่มีรถแท็กซี่ผ่านมาทางนี้เลยสักคันเดียว
ขณะที่เธอกำลังกระวนกระวายใจอย่างมาก ทันใดนั้น ก็มีรถคันหนึ่งวิ่งตรงมาที่เธอทันที รถคันนั้นเข้ามาจอดข้างๆ เธอ ชายหนุ่มคนหนึ่งเลื่อนกระจกหน้าต่างรถลงมา และยิ้มให้กับเธอ “คุณผู้หญิง คุณจะไปไหนเหรอครับ ให้ผมไปส่งคุณนะ”
เมื่อเธอเห็นชายหนุ่มคนนั้นเข้า เธอก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาในทันที เธอจึงส่ายหัว และตอบปฏิเสธออกไป “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ”
ขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็ก้าวเท้าและเตรียมที่จะเดินจากไป
ทันใดนั้น ประตูที่ด้านหลังของรถยนต์ก็ถูกใครบางคนเปิดออกมาในทันที ผู้ชายคนหนึ่งเดินลงจากรถ และตรงเข้าจับตัวเธอจากด้านหลังในทันที พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้!”
ขณะที่ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังคงไม่สามารถดิ้นหลุดหนีไปได้ เธอก็ถูกผู้ชายคนนั้นโปะผ้าลงไปที่ปากกับจมูกของเธอ ทันทีที่เธอสูดดมกลิ่นแปลกๆ ของผ้านั้นเข้าไปภายในจมูก เธอที่เคยดิ้นหนีอยู่เมื่อครู่นี้ จู่ๆ แขนขาของเธอก็อ่อนแรงและหมดสติไปในที่สุด……
ณ ห้องรับรองส่วนตัวภายในสโมสร
สวี่เยว่หรูมองดูหญิงสาวที่นอนอยู่บนโซฟาด้วยท่าทีที่กังวลและไม่สบายใจเป็นอย่างมาก “หรูเฟิงคะ ถึงแม้ว่าเราจะลบรูปภาพพวกนั้นไปหมดแล้ว แต่ถ้าไป๋เสว่เอ๋อร์ฟื้นขึ้นมาแล้ว เธอจะต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกเผยลี่เชินอย่างแน่นอน และเมื่อถึงตอนนั้น เผยลี่เชินคงไม่ปล่อยพวกเราเอาไว้แน่ค่ะ”
เสิ่นหรูเฟิงยิ้มขึ้นที่มุมปาก “กลัวอะไรกัน ผมมีวิธีแล้ว”
เขาเดินตรงไปที่โซฟาแล้วนั่งลง จากนั้นก็กระซิบพูดออกมาว่า “ผมไปเจอกับเผยอี้มาเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เขาเล่าให้ผมฟังว่าเผยลี่เชินยกเลิกการแต่งงานระหว่างเขากับตระกูลเหอเพื่อไป๋เสว่เอ๋อร์ ถ้าเกิดว่าคุณเป็นคุณหนูบ้านเหอล่ะก็ คุณจะรู้สึกอย่างไรล่ะ อุตส่าห์อดทนรอผู้ชายคนหนึ่งอย่างมั่นคงมานานตั้งหลายปี แต่สุดท้ายยังไงก็ถูกเขาปฏิเสธอยู่ดี ผู้หญิงคนนั้นคงจะต้องเกลียดไป๋เสว่เอ๋อร์เข้าไส้เลยว่าไหมล่ะ”
สวี่เยว่หรูยังคงไม่ค่อยเข้าใจมากนัก “คุณหมายความว่ายังไง”
“เราก็นั่งบนภูเขาแล้วมองดูเสือสองตัวกัดกันไงล่ะ” เสิ่นหรูเฟิงยิ้ม “เราก็อาศัยจังหวะนี้ส่งตัวผู้หญิงคนนั้นให้เหอหย่าหานโดยตรง ให้เธอจัดการกับไป๋เสว่เอ๋อร์ด้วยตัวเอง เราไม่ต้องไปออกหน้า และถ้าเกิดเผยลี่เชินจะเล่นงานใครสักคนเข้าล่ะก็ เรื่องนี้มันก็ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเราอยู่แล้ว”
เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้แล้ว สวี่เยว่หรูก็เข้าใจขึ้นมาทันที “แล้วเราจะบอกเหอหย่าหานยังไงล่ะคะ”
เสิ่นหรูเฟิงกระซิบบอกอย่างเบาๆ ว่า “ก็ใช้สักเบอร์โทรไปหาเธอไง จากนั้นก็บอกเธอว่าไป๋เสว่เอ๋อร์อยู่ที่นี่ ยังไงเธอก็จะต้องมาที่นี่อย่างแน่นอน”
ด้วยวิธีนี้ พวกเขาก็ทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากเรื่องนี้อย่างสมบูรณ์ และยังสามารถนั่งดูการแสดงที่น่าตื่นเต้นโดยที่ไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ ได้อีกด้วย
สวี่เยว่หรูหาโทรศัพท์มือถือของใครบางคนมา จากนั้น เธอก็กดเบอร์ต่อสายไปหาเหอหย่าหาน หลังจากที่เสียงดังขึ้นไม่กี่ครั้ง ปลายสายก็กดรับสายทันที “ฮัลโหล”
“คุณเหอคะ ฉันมีของขวัญชิ้นใหญ่อยากที่จะส่งให้คุณค่ะ”
“คุณเป็นใคร”
“ฉันเป็นใครไม่สำคัญหรอกค่ะ คุณเหออยากจะให้ไป๋เสว่เอ๋อร์หายไปจากโลกใบนี้ไหมคะ ตอนนี้เธออยู่ที่ห้องรับรองหมายเลข 325 ของสโมสรซิงเล่อตรงถนนชิงเฟิง เธอกำลังหมดสติอยู่ ถือเป็นโอกาสที่ดีอย่างมาก คุณเหอควรจะรักษาโอกาสนี้ไว้ให้ดีนะคะ!”
หลังจากที่เธอพูดจบ สวี่เยว่หรูก็กดวางสายอย่างไม่ลังเลในทันที พร้อมกับยิ้มให้เสิ่นหรูเฟิงที่นั่งอยู่ตรงข้าม
ชายคนนั้นยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างเย็นชา จากนั้น เขาก็ลุกขึ้นยืน และโอบไหล่ของสวี่เยว่หรูเดินออกไปข้างนอก เขาพลางเดินพลางพูดว่า “ตอนนี้ก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว เราจะต้องทำลายภาพวงจรปิดของสโมสรแห่งนี้ซะ”