สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 428

ตอนที่ 428

ตอนที่ 428 เห็นมันให้เป็นศัตรูของคุณ

บรรยากาศเงียบลงไปครู่หนึ่งอย่างกะทันหัน

เวินซิวหวีจ้องมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า นิ่งเงียบไปหลายวินาที มองดูสีหน้าที่จริงจังทั้งยังแฝงไปด้วยความดื้อรั้นเล็กน้อยของเธอ ก็รู้สึกมีความสนใจขึ้นมาอย่างประหลาด

“ครับ ในเมื่อคุณคิดที่จะจัดการแบบเงียบๆ งั้นก็ทำตามที่คุณพูด เพียงแต่…”

อยู่ๆเขาก็ลากเสียงยาวขึ้นมาอย่างกะทันหัน นัยน์ตาปรากฏรอยยิ้มเล็กน้อยออกมา “ผมช่วยคุณมากขนาดนี้แล้ว คุณก็ต้องรับปากคำขออย่างนึงของผม”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินดังนั้น ก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย คิดถึงคำพูดเหล่านั้นที่เขาพูดกับตนเองตอนที่อยู่บนรถเมื่อสักครู่นี้ ก็อ้าปากเตรียมคิดที่จะปฏิเสธ

แต่ใครจะรู้ว่าเวินซิวหวีกลับหัวเราะออกมาเล็กน้อย ส่งสัญญาณให้เธอมองไปยังเวทีซ้อมมวยที่อยู่ด้านข้าง “ต่อยเป็นเพื่อนผมสักยก”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นรีบเอ่ยปากออกมาว่า “ฉันไม่เป็นค่ะ…”

“ผมสอนคุณ” เวินซิวหวีตัดบทพูดของเธอไปในทันที มองไปยังพนักงานที่อยู่ด้านข้างพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า “พาเธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”

ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดหายใจเข้าเต็มปอด ในใจรู้ดีว่าเรื่องมาถึงตอนนี้ ถึงเธอคิดยืนกรานที่จะไป ก็ต้องไปไม่พ้นอย่างแน่นอน ทำได้เพียงตามพนักงานหญิงคนนั้นเดินไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่อยู่ด้านข้าง

พนักงานหยิบชุดมวยชุดใหม่ส่งให้กับเธอ จากนั้นก็ออกจากที่นั่นไป ไป๋เสว่เอ๋อร์เปลี่ยนเสื้อผ้าไปด้วย ใจลอยไปด้วย ในสมองคิดเพียงแต่คำพูดเหล่านั้นที่เวินซิวหวีพูดกับเธอตอนอยู่บนรถไปๆมาๆ

เขาคิดอยากจะพูดโน้มน้าวให้เธอทำงานให้กับเขา ไม่หยุดที่ง่ายดายขนาดนั้นอย่างแน่นอน หากเธอเดาไม่ผิดแล้วล่ะก็ เขาคงอยากจะใช้เธอเป็นเครื่องมือไปรับมือกับเผยลี่เชิน ขอเพียงแค่สามารถจับเอาเผยลี่เชินให้อยู่ในมือได้ เช่นนั้นแผนการของเขาก็จะสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นไร้อุปสรรคในเมืองไห่เฉิง

ดังนั้น เขาพยายามใช้ความคิดอย่างเต็มที่ทุกวิถีทาง ลองหยั่งเชิงครั้งแล้วครั้งเล่า ก็เพราะเขารู้ดีว่าเผยลี่เชินนั้นแคร์เธอมาก

ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดริมฝีปากเล็กน้อย เริ่มที่จะเป็นห่วงเผยลี่เชินขึ้นมาอย่างประหลาด หากข้อตกลงสามสิบวันของพวกเขามาถึงกำหนด เธอพาห้าวเจ๋อน้อยออกไปจากเมืองไห่เฉิง เผยลี่เชินคนเดียวจะสามารถรับมือกับการหลอกลวงซึ่งกันและกัน หอกทวนจากที่แจ้งลูกธนูจากด้านหลังเหล่านี้ได้อยู่อีกหรือเปล่านะ?

ตระกูลเผย เผยซื่อ บวกกับคุณเวินคนหนึ่งเพิ่มเข้าไปอีก อันตรายที่หลบอยู่ภายในเหล่านี้ ต่างก็ราวกับระเบิดเวลาแต่ละลูก แอบแฝงอยู่ที่ข้างกายของเขา ต่างก็มีโอกาสที่จะเอาชีวิตของเขาได้ตลอดเวลา!

พอคิดมาถึงตรงนี้ ใจทั้งดวงของไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ถูกดึงขึ้นมาจนมาถึงคอหอย หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จอย่างร้อนรน เธอก็เดินมาถึงด้านหน้าเวทีซ้อมมวย เห็นเวินซิวหวีได้เปลี่ยนเป็นชุดออกกำลังกายสีขาว กำลังปรับนวมอยู่

เห็นเธอเดินเข้ามา เวินซิวหวีก็ยิ้มขึ้นเล็กน้อย หยิบนวมคู่หนึ่งเดินเข้ามา เอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “ยื่นมือออกมาครับ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ฉันทำเองดีกว่าค่ะ”

“คุณไม่มีทางสวมได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งหากสวมไม่ดีก็มีโอกาสที่จะบาดเจ็บได้ง่าย” เวินซิวหวีเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง ไม่เหมือนกำลังพูดโกหก

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอทำได้เพียงยื่นมือออกไป ให้เขานำนวมสวมเข้าบนมือของตนเอง

ทุกอย่างเตรียมพร้อมเสร็จสรรพ ไป๋เสว่เอ๋อร์เดินตามเวินซิวหวีมาถึงยังกระสอบทรายที่อยู่ด้านข้าง ชายหนุ่มออกหมัดแย็บไปที่กระสอบทราย “มาครับ วอร์มร่างกายกันก่อน”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ยกหมัดขึ้นมาต่อยลงไปบนกระสอบทราย

“ปึ้ง” ดังขึ้น กระสอบทรายไม่ได้มีการตอบสนองที่มากมายนัก ไป๋เสว่เอ๋อร์กลับรู้สึกว่ามือของตนเองสั่นเล็กน้อย เธอขมวดคิ้วขึ้น ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ก็เห็นเวินซิวหวีที่อยู่ด้านข้างตั้งท่าพร้อม ปล่อยหมัดออกไปที่กระสอบทรายอย่างมีแรงและแม่นยำ

หมัดราวกับเม็ดฝน ต่อยไปบนกระสอบทรายติดต่อกันหลายต่อหลายครั้ง กระสอบทรายอันหนักอึ้งที่ถูกแขวนเอาไว้เริ่มแกว่งไหวไปมาไม่หยุด รัศมีของการเคลื่อนไหวกว้างมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากที่สาธิตไประลอกหนึ่ง เวินซิวหวีถึงได้หยุดลง ใช้หมัดหยุดกระสอบทรายให้อยู่กับที่ เงยหน้ามองไปยังไป๋เสว่เอ๋อร์พร้อมกับเอ่ยถาม “เห็นชัดเจนหรือยังครับ?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้าเล็กน้อยอย่างคิดอะไรอยู่ ในขณะที่กำลังลังเลว่าจะออกหมัดไปดีหรือไม่อยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงของเขาพูดขึ้นมาอีกว่า “เห็นกระสอบทรายเป็นศัตรูของคุณ เห็นเป็นเฉิงเผิง หากพบกับคนที่คิดอยากจะทำร้ายคุณอีก คุณต้องใช้ความสามารถของตนเอง นี่คือความเป็นไปได้ที่มากที่สุดในการพยายามต่อสู้เพื่อตัวคุณเอง”

คำพูดที่อยู่ๆก็ดังขึ้นมาอย่างกะทันหันของชายหนุ่ม ทำให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ตกตะลึงไปชั่วขณะ ความรู้สึกสับสนขึ้นมา

ที่เขาพูดนั้นไม่ผิด เรื่องที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงคราวก่อนเธอสามารถอาศัยสิ่งที่เรียกว่าความโชคดีทั้งหมดหนีรอดออกมาได้ หากในตอนแรกเธอไม่ได้คิดอะไรมากดื่มเหล้าแก้วนั้นลงไป หรือว่าไฟมาช้ากว่านี้อีกหน่อย ต่างก็มีโอกาสที่จะเกิดเป็นตอนจบอีกแบบนึง

เธอไม่อาจจะเอาความหวังทั้งหมดฝากไว้ที่โชคชะตา แต่สิ่งที่เธอสามารถทำได้ก็คือพยายามแข็งแกร่งขึ้นมา แข็งแกร่งจนสามารถปกป้องตนเองได้!

ถูกคำพูดของเวินซิวหวีทำให้ความมุ่งมั่นในการต่อสู้และการตัดสินใจลุกโชนขึ้นมาอย่างกะทันหัน ไป๋เสว่เอ๋อร์คิดย้อนกลับไปถึงการเคลื่อนไหวและท่าทางของชายหนุ่มเมื่อสักครู่นี้ ใช้แรงออกหมัดไปที่กระสอบทรายในทันที

หนึ่งที สองที…อยู่ๆความคลุ้มคลั่งภายในจิตใจก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา การเคลื่อนไหวของไป๋เสว่เอ๋อร์เป็นมาตรฐานมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ระดับความแรงก็ทรงพลังมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกัน

“ดีมาก!” เวินซิวหวีมองดูไป๋เสว่เอ๋อร์ นัยน์ตาปรากฏความชื่นชมออกมาเล็กน้อย “ผมจะสอนคุณสักสองสามท่า คุณดูผมเอาไว้นะ…”

ไม่รู้เนื้อรู้ตัว เวลาก็ได้ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่า เวินซิวหวีมองดูหญิงสาวที่นั่งพักผ่อนและดื่มน้ำอยู่ข้างๆ อยู่ๆก็ยิ้มขึ้นมาพร้อมเอ่ยถามออกมาว่า “อยากจะผ่านการทดสอบท่ากับผมสักหน่อยไหม?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์กลืนน้ำลงไปอึกนึง หยุดชะงักไปชั่วขณะ ทันใดนั้นสายตาก็เปล่งประกายขึ้น “ได้สิคะ!”

ในขณะที่พูด เธอก็ลุกขึ้นมา นำนวมสวมให้เรียบร้อยด้วยการเคลื่อนไหวที่กระฉับกระเฉง จากนั้นขึ้นไปบนเวทีซ้อมมวยในทันที

เทียบกับในตอนแรก สายตาของไป๋เสว่เอ๋อร์ได้เฉียบคมขึ้นมาไม่น้อย เธอรอเวินซิวหวีขึ้นมาบนเวที หลังจากที่ทั้งสองคนเตรียมพร้อม ก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

ไป๋เสว่เอ๋อร์ลงมือก่อนจึงมีโอกาสในการตัดสินใจ ออกหมัดโจมตีเข้าไปก่อน เวินซิวหวีก็พลางถอยพลางป้องกันอย่างชำนาญ รอจนกระทั่งไป๋เสว่เอ๋อร์หยุดชะงักไปเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนแผนขึ้นมาอย่างกะทันหัน ฝีก้าวเข้าไปข้างหน้า เริ่มที่จะโจมตี

ไป๋เสว่เอ๋อร์จะป้องกันยังไงก็ยังคงป้องกันไม่ไหว บวกกับเดิมทีเธอก็เป็นมือใหม่อีก ทั้งยังเป็นผู้หญิง ก็ต้องไม่ใช่คู่ต่อกรของเขาเป็นธรรมอยู่แล้ว ในขณะที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายนั้น เธอถูกบีบจนถอยไปข้างหลังอย่างต่อเนื่อง ทันใดนั้น ด้านหน้าก็มองเห็นเธอกำลังจะถอยไปจนถึงขอบเวทีมวย เวินซิวหวีขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างกะทันหัน ยื่นมือข้างหนึ่งออกไปดึงเธอเอาไว้ “ระวัง!”

ใต้เท้าของไป๋เสว่เอ๋อร์คือความว่างเปล่า ยังไม่ทันจะมีการตอบสนองกลับคืนมา ก็ถูกคนกระชากเอาไว้อีกครั้ง ดึงเข้าสู่อ้อมแขนในทันที

เวินซิวหวีกอดเธอเอาไว้แน่น ถอยหลังออกไปสองสามก้าว ถึงได้ยืนอย่างมั่นคงขึ้นมา เขาก้มศีรษะลง มองดูหญิงสาวที่มีเหงื่อออกบางๆบนบริเวณหน้าผากแก้มทั้งสองข้างแดงขึ้นเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าจะไม่อยากปล่อยมือไปชั่วขณะ

เขาที่ไม่ชอบที่จะสัมผัสร่างกายกับคนอื่นมากมายมาโดยตลอด ตอนนี้สำหรับไป๋เสว่เอ๋อร์แล้วกลับไม่มีความรู้สึกต่อต้านเลยแม้แต่น้อย

ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง เงยหน้าขึ้นไปโดยจิตใต้สำนึก พอมองเห็นเผยลี่เชินที่มีสีหน้าที่มืดมนยืนอยู่หน้าบริเวณทางเข้าลานซ้อมมวย มุมริมฝีปากก็ยกขึ้นมาโดยที่ไม่รู้ตัว

เขาปล่อยไป๋เสว่เอ๋อร์ออก ถอยหลังออกไปเล็กน้อย ส่งยิ้มให้กับเธอราวกับตั้งใจก็ไม่ปาน “คุณไม่เป็นอะไรนะ?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ส่ายศีรษะเล็กน้อย เอ่ยขึ้นอย่างหมดความสนุกว่า “ไม่ต่อยแล้วค่ะ”

ในขณะที่พูด เธอก็หมุนตัวลงจากเวทีซ้อมมวย ในขณะที่กำลังจะปลดนวมออกนั้น อยู่ๆก็มองเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยขึ้นมาอย่างกะทันหัน วินาทีนั้น ร่างกายของเธอก็แข็งทื่อขึ้นมาโดยจิตใต้สำนึกในทันที

เผยลี่เชิน…เขามาได้ยังไงกัน?

ไป๋เสว่เอ๋อร์แม้กระทั่งนวมก็ยังไม่ทันที่จะถอดออก ก้าวขาเดินไปทางที่เขาอยู่ด้วยความร้อนรน แต่ใครจะรู้ว่าสีหน้าของชายหนุ่มมืดมนจนถึงขีดสุด สายตาหยุดอยู่บนร่างกายของเธอครู่หนึ่ง จากนั้นหมุนตัวเตรียมที่จะเดินจากไป

ไป๋เสว่เอ๋อร์ลนลานขึ้นมาภายในจิตใจ ก้าวขาวิ่งตามไปอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ในที่สุดก็ตามเขาทันที่หน้าประตูสนามซ้อมมวย “เผยลี่เชิน!”

กางแขนทั้งสองข้างออกรั้งเขาเอาไว้ ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดหายใจเข้าเต็มปอด “คุณ…อย่าไป!”

เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไรไป ทั้งไม่รู้จะอธิบายยังไง ทั้งยังไม่อยากให้เขาไป

เผยลี่เชินขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น โน้มสายตามองลงมาที่เธอ เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “ทำไมผมไม่รู้ว่าคุณสนิทกับเขาขนาดนี้แล้ว?”

“ไม่ใช่ เขาบอกว่าคนที่จับได้ในคราวก่อนต่างก็ยอมรับหมดแล้ว เลยเรียกฉันมาที่นี่ ฉัน…”

ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดริมฝีปากเล็กน้อย ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงแล้ว

วินาทีต่อมา แขนก็ถูกคนจับเอาไว้อย่างกะทันหัน เผยลี่เชินขมวดคิ้วขึ้น ช่วยเธอถอดนวมที่เมื่อสักครู่นี้ไม่ทันได้ถอดออก หมุนตัวส่งให้กับลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านข้าง “คืนกลับไป”

พูดจบ เขาก็จูงมือเล็กๆที่มีเหงื่อออกเล็กน้อยของไป๋เสว่เอ๋อร์ ดึงเธอเดินไปทางที่รถจอดเอาไว้อีกด้านในทันที

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท