สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 459

ตอนที่ 459

ตอนที่ 459 ต้องฟื้นขึ้นมา

เมื่อเห็นกู้หลี่เหลียงและเจียงหวั่นหวั่นพร้อมเจ๋อน้อยเดินออกไปไกลแล้ว เผยลี่เชินจึงจะเดินกลับเข้าไปในห้อง

ตอนนี้ไป๋เสว่เอ๋อร์ต้องมีคนเฝ้าตลอด เขาเองก็ไม่ไว้ใจคนอื่น

เขาเดินเข้าไปใกล้เตียง นั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้า ยื่นมือไปจับมืออันบอบบางของหล่อนไว้

เขาก้มหน้าลง ประทับจูบลงบนหลังมือของหล่อน พูดขึ้น “ไป๋เสว่เอ๋อร์ คุณจะต้องตื่นขึ้นมานะ”

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฟ้ามืดลงอย่างไม่รู้ตัว มีพยาบาลเข้ามาตรวจจากนั้นก็ออกไป ไม่นานนัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

เผยลี่เชินลุกขึ้น ผลักประตูออก เห็นลูกน้องยืนอยู่หน้าประตู

“มีเรื่องอะไร?”

ลูกน้องคนหนึ่งรวบรวมความกล้าพูดขึ้น “ประธานเผย ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วครับ…”

เผยลี่เชินตอบกลับด้วยเสียงนิ่งเรียบ “ไปเถอะ ผลัดกันไป ห้ามไม่มีใครเฝ้าหน้าประตูเด็ดขาด”

“รับทราบครับ ต้องการให้พวกเราสั่งข้าวมาให้ด้วยไหมครับ คุณเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ยังไม่ได้ทานอะไรเลย…”

“ไม่ต้อง”

เผยลี่เชินพูดตัดบททันที จากนั้นเดินกลับเข้าไปในห้อง ปิดประตูลง

เวลาในตอนนี้ เขากินอะไรไม่ลงจริงๆ

สองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว เผยลี่เชินยืนอยู่ข้างหน้าต่าง มองดูแสงสีอันครึกครื้นภายนอก แต่ในใจเขากลับเย็นชาเหลือเกิน

ทันใดนั้น เสียงของประตูดังขึ้น ฉีเฟิงตะโกนเข้ามา “ประธานเผย ผมเองครับ”

เผยลี่เชินรู้สึกตื่นตัวขึ้นทันที รีบเดินออกไป ยังไม่ลืมที่จะหันมาเหลือบมองดูไป๋เสว่เอ๋อร์

เขาเดินไปเปิดประตูออก ฉีเฟิงรายงานเขาด้วยเสียงนิ่งขรึม “จับได้แล้วครับ”

เผยลี่เชินได้ยินเช่นนั้น กระตุกคิ้วขึ้น ถามต่อ “จับได้ที่ไหน?”

“หล่อนปรากฏตัวอยู่ที่โรงแรมเล็กๆข้างสถานีรถไฟ ซื้อตั๋วรถไฟไปเมืองลั่วเฉิงคืนวันนี้ครับ”

“อื้ม” สีหน้าของเผยลี่เชินเยือกเย็นสุดทน “ที่บริษัทมีความคืบหน้าอะไรไหม?”

“ตั้งแต่ตอนบ่ายพวกผู้ถือหุ้นไม่มีการทักท้วงหรือโวยวายอะไรอีก คงเป็นเพราะได้เห็นข่าวแล้ว เผยอี้ก็ไม่ทราบว่าไปไหน อีกอย่างตอนที่พวกเราไปจับเย่หรงชิว ยังค้นเจอพินัยกรรมและจดหมายที่คุณท่านเผยทิ้งไว้จากหล่อนด้วยครับ”

ฉีเฟิงพูดพลาง ยื่นของในมือให้เผยลี่เชิน

สายตาของเผยลี่เชินนิ่งไปทันที เมื่อเห็นพินัยกรรมและจดหมายที่เปื้อนเลือด เขาเจ็บปวดใจจนพูดอะไรไม่ออก

ถ้าไม่ได้เป็นเพราะไป๋เสว่เอ๋อร์ ตอนนี้เรื่องราวทั้งหมดคงไม่ใช่เช่นนี้

เขารับพินัยกรรมและจดหมายด้วยมือที่สั่นคลอน ค่อยๆเปิดอ่านดู เนื้อหาในพินัยกรรมเขียนเรื่องการแบ่งมรดกไว้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังได้ทำการมอบอำนาจให้ทนายของตัวเอง ดังนั้น พินัยกรรมของเขาจึงมีผลทางกฎหมายแน่นอน

เมื่ออ่านพินัยกรรมจบ เผยลี่เชินเปิดซองจดหมายอ่านต่อ ลายมือที่คุ้นเคยเหล่านั้น ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจยิ่งนัก

จดหมายเปิดผนึกถึงครอบครัว เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกของคุณท่านเผย แสดงถึงความรักและห่วงใยต่อลูกหลาน

กล่าวถึงตั้งแต่เผยลี่เชิน เผยอี้ อีกทั้งห้าวเจ๋อน้อย ล้วนมีคำสั่งเสียที่ต่างกันออกไป

เมื่ออ่านจดหมายจบ เผยลี่เชินตัวสั่นไปทั้งตัว เมื่ออ่านถึงตอนที่คุณท่านเผยพูดถึงแม่แท้ๆของตน เขายิ่งรู้สึกทุกข์ทรมานใจ

ที่แท้แม่แท้ๆของเขาอยู่ภายในใจของคุณท่านเผยมาโดยตลอดและยังเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดอีกด้วย และเขา ก็ถือเป็นลูกชายที่คุณท่านเชื่อใจ ที่สุดและเอ็นดูมาโดยตลอด

ในส่วนของเผยอี้ คุณท่านได้เขียนเหตุผลที่แบ่งมรดกให้เขาเช่นนี้ ท่านเข้าใจดีว่านิสัยของเขาบุ่มบ่ามมุทะลุ ไม่เคยทำการใหญ่ ดังนั้นคุณท่านเผยจึงเพียงแต่หวังว่าเขาจะมีชีวิตที่สุขสบาย พออยู่พอกินก็ถือว่าใช้ได้ ไม่ต้องมีเงินทองมากมาย สำหรับเขาแล้ว เงินทองมหาศาลไม่ถือเป็นเรื่องดี แต่กลับเป็นหายนะต่างหาก

ในส่วนของห้าวเจ๋อน้อย คุณท่านเผยพูดถึงในเรื่องความเสียดายและอยากเติมเต็ม อยากเติมเต็มให้เจ๋อน้อยและไป๋เสว่เอ๋อร์ ในสิ่งที่ขาดหายไป นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาแบ่งมรดกให้กับพวกเขา

การที่คุณท่านเผยแบ่งมรดกเช่นนี้ได้ผ่านการครุ่นคิดพิจารณาจากเขามาพอสมควรแล้ว เขาเห็นการณ์ไกลมากกว่าคนอื่นๆ

เผยลี่เชินสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ กำหมัดแน่น ย้อนนึกถึงเรื่องราวเมื่อก่อน เขาเคยอคติโทษกล่าวคุณท่าน โทษเขาที่ไม่ให้ความสำคัญกับตัวเอง โทษที่เขาให้ใจกับคนนอก แต่ตอนนี้เขากลับเพิ่งค้นพบว่า แท้จริงแล้วเขาเป็นคนที่ฉลาดเฉียบแหลมและมองการณ์ไกลที่สุด

“ประธานเผยครับ พวกเราเอาไงกันต่อดีครับ?”

เผยลี่เชินเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นพูดขึ้นด้วยเสียงนิ่งขรึม “นำพินัยกรรมไปให้สื่อออกข่าว”

พินัยกรรมฉบับนี้ถือเป็นอาวุธชั้นดีที่จะปราบปรามอุปสรรคทุกสิ่งของตระกูลเผยได้

ในฐานะที่เขารักและเคารพคุณท่านเผยอย่างสุดซึ้ง เขาก็ต้องรักษาและปกป้องธุรกิจของตระกูลเผย เขาไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อทุกคนในเครือตระกูลเผย

“รับทราบครับ” ฉีเฟิงพยักหน้าลง แต่กลับมีท่าทีลังเลอยู่บ้าง “ประธานเผย เมื่อครู่ผมได้ยินลูกน้องที่เฝ้าอยู่หน้าห้องบ่นว่าคุณยังไม่ได้ทานอะไรเลย ผมก็เลยให้เขาไปซื้อข้าว คุณจะรับ…”

เผยลี่เชินมองไปที่กล่องข้าวที่ตั้งอยู่บนเก้าอี้ด้านข้าง พูดขึ้น “ไม่เป็นไร”

ฉีเฟิงหยุดชะงักไป พูดโน้มน้าวเขาต่อ “ประธานเผย ผมทราบดีว่าตอนนี้คุณทานอะไรไม่ลง แต่ตอนที่คุณไป๋ยังไม่ตื่นขึ้นมา คุณก็ไม่สามารถอ่อนแอ เป็นอะไรไปได้นะครับ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เผยลี่เชินลังเลสักพัก ท้ายสุดจึงพยักหน้าลง ยกมือขึ้นตบบ่าของฉีเฟิง “ฉันเข้าใจแล้ว นายไปทำงานเถอะ”

ฉีเฟิงพยักหน้าและเดินหันหลังกลับไป

เผยลี่เชินหันกลับไปดูหญิงสาวภายในห้อง จากนั้นก็หยิบกล่องข้าวขึ้นมากิน

ฉีเฟิงพูดถูก ตอนนี้ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังไม่ตื่นขึ้นมา เขาห้ามเป็นอะไรไปเด็ดขาด มากไปกว่านั้นถ้าเขาป่วยหรือเป็นอะไรไป เจ๋อน้อยจะอยู่อย่างไร? บริษัทตระกูลเผยจะดำเนินต่อไปยังไง?

ขณะเดียวกันนั้น มีรถหรูคันหนึ่งมาจอดอยู่หน้าตึกบริษัทตระกูลเผย สีหน้าเผยอี้นิ่งขรึมจ้องไปที่ผู้ชายที่ยืนอยู่ด้านข้าง

“เวินซิวหวี ตอนนี้แม่ของฉันอยู่ที่ไหน เรื่องอื่นไม่สำคัญทั้งนั้น!”

เวินซิวหวีทำสีหน้าเขม่น “ดังนั้น นายก็จะยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้? กว่าพวกเราจะ….”

“ฉันไม่สน!” เผยอี้โกรธจนตาจ้องเขม็ง “ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับแม่ของฉันจริงๆจะทำยังไง? นายเคยคิดบ้างไหม?”

เวินซิวหวีชะงักไป สายตาแฝงไปด้วยท่าทีเยาะเย้ย “ว่าไปแล้ว ฉันคงมองนายผิดไป นายรู้บ้างรึเปล่า นี่เป็นความต่างระหว่างนายกับเผยลี่เชินอย่างมากที่สุด นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้นายทำอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ”

คำพูดนี้ไปสะกิดแผลลึกในใจของเผยอี้จนเขาโมโห กระชากคอเสื้อเวินซิวหวี พูดด้วยความโกรธ “นายว่ายังไงนะ!”

เวินซิวหวียิ้มอย่างสะใจ พูดขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ฉันบอกว่าฉันมองคนผิดไป”

เผยอี้โกรธจนกัดฟันแน่น จ้องไปที่ผู้ชายตรงหน้า จากนั้นสักพัก เขาก็ยิ้มเย้ยขึ้น “นายคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่านายต้องการอะไร? นายช่วยฉันตรงไหน? นี่นายกำลังหลอกใช้ฉันเพื่อผลประโยชน์ของนาย! เวินซิวหวี นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเราตัดขาดกัน! เดี๋ยวนี้!”

เมื่อพูดจบ เขากระชากคอเสื้อของเวินซิวหวี เปิดประตูลงจากรถอย่างไม่ลังเล

เวินซิวหวียืนดูเผยอี้เดินจากไปด้วยสายตาอันเยือกเย็น พลางยกมือขึ้นจัดคอเสื้อ

ผู้ช่วยที่นั่งอยู่ข้างคนขับถามขึ้น “คุณเวินเป็นอะไรไหมครับ?”

“ไม่เป็นไร”

ผู้ช่วยถามต่อ “จะให้ส่งลูกน้องไปสั่งสอนเขาสักหน่อยไหมครับ?”

“ไม่ต้อง” เวินซิวหวียิ้มเยาะ “ไม่ต้องรอให้ฉันลงมือหรอก เดี๋ยวก็มีคนสั่งสองเขาให้”

พูดพลาง เบี่ยงสายตามองไป “ไปเถอะ”

ตอนแรกเขาหลอกใช้เผยอี้เป็นเครื่องมือจริงๆ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะโง่เขลาได้ขนาดนี้

แต่ทว่า เรื่องมาถึงตอนนี้ บริษัทตระกูลเผยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แม้ว่าความร่วมมือระหว่างเผยอี้กับเขาจะสิ้นสุดลง สำหรับเขาแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีประโยชน์อะไร

แต่เผยอี้ ไม่ต้องเดาก็สามารถรู้ได้ว่าเผยลี่เชินไม่มีทางปล่อยเขาให้หลุดมือไปแน่นอน

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท