บทที่ 11 คนเลวมาดัก
การปรากฏตัวของ เห้อจิ้นเหยาในตอนท้ายส่งผลต่ออารมณ์ของโล่เฟยเอ๋อ
ในหัวมึนงง แม้แต่การวาดออกแบบก็ยังเหม่อลอย หลังจากผ่านวันเสาร์ไปอย่างไร้ประโยชน์ วันอาทิตย์ โล่เฟยเอ๋อออกไปพร้อมกับอัลบั้มรูปภาพ
หลังจากเดิน ลานกว้างหวั้นด๋าไปไม่กี่รอบ อารมณ์ก็รู้สึกดีขึ้น โล่เฟยเอ๋อเข้าสตาร์บัคส์ที่อยู่ใกล้กับลานกว้างหวั้นด๋า
หลังจากดื่มกาแฟสักแก้วอย่างสบาย ๆ เธอหยิบอัลบั้มรูปภาพออกมาแล้วเริ่มวาด
ภาพนี้ใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมง
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่า โล่เฟยเอ๋อมองภาพออกแบบในมืออย่างพอใจ “ในที่สุดก็วาดเสร็จแล้ว”
มือลูบบนภาพวาด โล่เฟยเอ๋อหนีบภาพใส่ในสมุดภาพที่อยู่ในกระเป๋าอย่างระวัง หลังจากนั้นก็จ่ายเงินแล้วออกจากร้านกาแฟ
เธอพึ่งออกมาจาก ลานกว้างหวั้นด๋า เตรียมที่จะไปสถานีรถไฟใต้ดินเพื่อที่จะนั่งรถไฟใต้ดินกลับ ทันในนั้นก็มีเสียงเรียก “เฟยเอ๋อ?”
โล่เฟยเอ๋อหันศีรษะ ก็เห็น กู้ชิงหลันยืนอยู่ไม่ไกล เธอขมวดคิ้ว หมุนตัวเตรียมจะเดินหนีไป
กู้ชิงหลันรีบวิ่งเข้าไปขวางเธอ ““เฟยเอ๋อช่วงนี้ผมโทรหาคุณหลายสายมาก แต่โทรหาคุณไม่ติดเลย…”
เขายังพูดไม่ทันจบ โล่เฟยเอ๋อก็ขัดจังหวะเขาตรงๆ “มีธุระอะไร?”
“เฟยเอ๋อ ผมอยากจะบอกคุณว่า ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณผิดหวัง พ่อของ หซิวฉีเป็นรองประธานบริษัทของเรา มันเกี่ยวกับอนาคตของผมในบริษัท ดังนั้นผมเลยต้องเลือกเธอ” กู้ชิงหลันลดเสียงลง แล้วพูดต่อว่า “แต่ว่า เฟยเอ๋อ คุณต้องรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับ หซิวฉีไม่มีอะไรเลย พูดได้ชัดเจนว่า ผมไม่ได้รักเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้ว่าจะแต่งงานแต่ก็เพื่ออาชีพการงาน มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อความรักระหว่างเรา”
โล่เฟยเอ๋อยืนแข็ง เธอไม่อยากจะเชื่อว่าคนน่ารังเกียจคนนี้ที่อยู่ข้างหน้าเธอ จะเป็นคนที่เธออยากจะมอบความไว้ใจในชีวิตมาก่อน
โล่เฟยเอ๋อยิ้มอย่างเย็นชา หลังจากนั้นก็พูดไปทาง กู้ชิงหลันว่า “ขอโทษนะ ฉันยังมีธุระ ขอตัวก่อน”
กู้ชิงหลันคว้ามือของโล่เฟยเอ๋อ “เฟยเอ๋อ คุณต้องเชื่อผม คนที่ผมชอบคือคุณ”
โล่เฟยเอ๋อได้ฟังสิ่งที่กู้ชิงหลันได้พูดก่อนหน้านี้ ก็กลัวจะตื่นเต้นจนทำให้นอนไม่หลับ แต่ โล่เฟยเอ๋อตอนนี้ได้ฟังสิ่งที่ กู้ชิงหลันพูด แค่รู้สึกสะอิดสะเอียน
“ปล่อย” โล่เฟยเอ๋อใช้แรงดึงมือออก อยากตะสลัดออก แต่สลัดไม่ออก
“ไม่ปล่อย” กู้ชิงหลันไม่ยอมปล่อย แต่กลับรัดแน่นขึ้น
โล่เฟยเอ๋อขมวดคิ้ว เหลืองมองผู้คนรอบข้างแล้วพูดว่า “คุณก็น่าจะรู้ว่าที่นี่เป็นที่สาธารณะ คุณจะลำบากแน่ถ้าคุณสร้างปัญหา”
ฟังคำพูดของ โล่เฟยเอ๋อ กู้ชิงหลันก็ลังเลไปครู่หนึ่ง แล้วก็ปล่อยมือของเธอออก
หลังจาก โล่เฟยเอ๋อได้รับอิสระ ก็หมุนตัวแล้ววิ่งไป
หลังจากที่วิ่งจนพ้นสายตาของ กู้ชิงหลันแล้ว เธอค่อยๆหยุดอยู่ใต้ต้นไม้ข้างถนน แล้วก็มองคนที่เดินผ่านไปผ่านมาบนถนนอย่างว่างเปล่า
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ เป็นวันหยุดอยู่แล้ว แต่ ซูซีมู่มีลูกค้าคนสำคัญที่ต้องไปพบ โจวเฉิงในฐานะผู้ช่วยของเขา ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องทำตาม
สองชั่วโมงครึ่งก็เสร็จสิ้นการพบลูกค้า พวกเขาพบลูกเสร็จก็เตรียมกลับบริษัท
ถนนในเมืองA แออัดมากกว่าปกติ สถานที่ที่ ซูซีมู่พบกับลูกค้าก็อยู่ใกล้กับลานกว้างหวั้นด๋า ถนนคนเดินการค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองA ความแออัดนั้นก็มากขึ้น
รถเกือบจะออกตัว แต่อีกครึ่งนาทีก็หยุดอีก
นั่งรถยนต์ครึ่งชั่วโมง แต่รถขยับไปข้างหน้าได้ประมาณหนึ่งกิโลเมตร ซูซีมู่ที่นั่งเบาะหลัง มองออกไปจากหน้าต่างรถยนต์อย่างดูเหมือนจะหมดความอดทน
ตอนที่รถยนต์กำลังจะขับผ่าน ลานกว้างหวั้นด๋า ซูซีมู่ที่นั่งอยู่ที่เบาะหลัง อยู่ๆก็พูดเสียงดังขึ้น “หยุด!”
โจวเฉิงสะดุ้งด้วยเสียงที่ตกใจของซูซีมู่ หักพวงมาลัย แล้วเบรกฉุกเฉินอยู่กลางถนน
ซูซีมู่มองไปทางลานกว้างหวั้นด๋าด้วยความหม่นหมอง ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
รถข้างหลังขยับไม่ได้ เลยส่งเสียงบีบแตร
โจวเฉิงถามอย่างไม่แน่ใจ “ประธานซู มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
ซูซีมู่ดูเหมือนไม่ได้ยิน สายตามองไปยังทิศทางนั้นตาไม่กระพริบ
โจวเฉิงมองตามสายตาของซูซีมู่ไป เขาทองเห็นอะไร? เห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังจับ… กำลับจับมือคุยอยู่กับคุณโล่
และความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายคนนั้นกับคุณโล่ก็ดูไม่ปกติเลย หรือว่าเป็นศัตรูหัวใจของประธานซู? จึจึ… ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสีหน้าของประธานซูถึงไม่ดี โจวเฉิงมองซูซีมู่ในกระจกหลังอย่างระมัดระวัง
คนขับรถด้านหลังลงรถมา ทั้งด่าทั้งเคาะรถของพวกเขา โจวเฉิงขอโทษพวกเขาอย่างสุภาพ
และ ซูซีมู่ดูเหมือนจะจิตหลุดไปแล้ว มองดูทิศทางนั้นอย่างไม่มีปฏิกิริยา
จนกระทั่ง โล่เฟยเอ๋อรีบวิ่งหนีออกไปจากกู้ชิงหลัน ดูเหมือนว่าสติของ ซูซีมู่พึ่งจะกลับมา พูดไปทางโจวเฉิงว่า “ตามไป”
โจวเฉิงนิ่งไปสองสามวิก่อนจะตอบสนอง หมุนพวงมาลัยรถยนต์ไปยังทางที่ โล่เฟยเอ๋อวิ่งหนีไป
ทันใดนั้นข้างๆก็มีเสียงเบรก โล่เฟยเอ๋อที่ใจหายเงยหน้าขึ้นมา รถที่คุ้นเคยกระแทกเข้ากับดวงตาของเธอ
โล่เฟยเอ๋อนิ่ง ในใจกำลังคิดว่าเคยเห็นรถคันนี้ที่ไหน
ณ ตอนนี้ประตูที่นั่งคนขับถูกเปิดออก โจวเฉิงลงมาจากรถอ้อมมาด้านหน้า มาหาเธอ
โล่เฟยเอ๋อจำโจวเฉิงได้ ก็ยืนขึ้น “เป็นคุณ”
“อือ เมื่อกี้ผมเห็นคุณตรงนั้น ก็เลยตามมา“โจวเฉิงตอบ
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าแล้วถาม “คุณมาทำธุระที่นี่เหรอ?”
“มาทำธุระนิดหน่อย ขึ้นรถสิ” โจวเฉิงพูดแล้วก็เปิดประตูหลังให้โล่เฟยเอ๋อ
“ขอบคุณค่ะ” โล่เฟยเอ๋อขอบคุณ หลังจากนั้น หมุนตัวกำลังจะขึ้นรถ ก็เจอเข้ากับ ซูซีมู่ที่นั่งอยู่ในรถ
ซูซีมู่กำลังหรี่ตาลง ดูเหมือนจะรับรู้สายตาของเธอ ก็ลืมตาขึ้นมา สบตากับ โล่เฟยเอ๋อพอดี
การพบกันครั้งที่แล้วไม่สวยเท่าไหร่ ทำให้โล่เฟยเอ๋อไม่รู้ว่าควรจะขึ้นรถหรือลงรถ
เขาไม่แปลกใจที่ประธานซูจะทำอะไรไม่ถูกกับโล่เฟยเอ๋อ
เย็นชาอะไร? เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณโล่ ความเย็นชาอย่างไร้เหตุผลของประธานซู
โรคกลัวเชื้อโรคอะไร? เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณโล่ ก็ขจัดไปได้หมด
พูดน้อยอะไร? เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณโล่ เอ่อ… ก็ยังพูดน้อยอยู่
โจวเฉิงยังพูดในใจไม่ทันจบ ทันใดนั้น สายตาของพายุเฮอริเคนที่เยือกเย็นก็พัดมาทางเขา
เขาก็ละสายตา แล้วก็ปิดประตูรถ ขึ้นแล้ว แล้วขับรถออก