บทที่ 22 ซูซีมู่เอาแต่ใจมาก
โล่เฟยเอ๋อคิดว่าซูซีมู่จะไปถามพนักงานที่เคาน์เตอร์ว่าสถานที่จัดงานอยู่ที่ไหน จึงรีบเปิดปากพูด “สถานที่จัดงานอยู่ชั้นสาม”
แต่โดยไม่คาดคิดซูซีมู่ไม่ได้สนใจคำพูดของเธอเลย ยังคงลากเธอไปทางเคาน์เตอร์ ทำสีหน้าเย็นชาพลางพูดกับพนักงานว่า “เตรียมห้องที่ดีที่สุดให้ฉันห้องหนึ่ง”
“ไม่ต้อง … ” โล่เฟยเอ๋อตั้งใจจะพูดว่าไม่ต้องเตรียมห้อง แต่สายตาพลันหันไปเห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของซูซีมู่เข้า จึงเก็บคำพูดที่เหลือกลืนลงคอไป
พนักงานต้อนรับตกใจแทบเสียสติเมื่อเห็นสีหน้าของซูซีมู่ ก็รีบเช็คอินห้องให้พวกเขาด้วยความรวดเร็ว จากนั้นจึงเรียกพนักงานอีกคนให้พาพวกเขาไปที่ห้อง
ลิฟท์ตรงขึ้นไปยังชั้นสูงสุดทันที
พนักงานเดินนำทางพวกเขาไปตามทางเดินยาว ๆ เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาไปไม่รู้กี่รอบ จากนั้นก็หยุดลงที่หน้าประตูห้องห้องหนึ่ง
พนักงานใช้คีย์การ์ดเปิดประตูในพวกเขา เปิดไฟและแอร์เรียบร้อยก็ถอยกลับออกไป
ซูซีมู่กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้อง จากนั้นจึงปล่อยแขนของโล่เฟยเอ๋อ เขาถอดสูทตัวนอกออกพลางหันไปพูดกับว่าโล่เฟยเอ๋อว่า “ไปอาบน้ำ”
อาบน้ำ? อย่าบอกนะว่าเขา… โล่เฟยเอ๋อแอบหันไปมองซูซีมู่ที่ถอดสูทตัวนอกออกแล้วก็พลันตัวสั่นขึ้นมา
ซูซีมู่ไม่รู้ถึงความคิดของโล่เฟยเอ๋อ เขาโยนสูทลงบนโซฟา จากนั้นก็หยิบมือถือขึ้นมาจากกระเป่ากางเกง กดอยู่สักพักและโทรออก
“ภายในครึ่งชั่วโมง เอาชุดราตรีผู้หญิงไซlส์เอ็มมาที่ห้องโล่เฟยเอ๋อโล่เฟยเอ๋อโล่เฟยเอ๋อโรงแรมหมิงจู” ซูซีมู่พูดกับคนในโทรศัพท์จบก็ตัดสายไป
เสื้อผ้าผู้หญิง? โล่เฟยเอ๋องงแล้วงงอีก ก้มมองเสื้อผ้าบนร่างตัวเองที่เปียกจนบางไปหมด ถึงเข้าใจความหมายของซูซีมู่ที่ให้เธอไปอาบน้ำ คือต้องการให้ถอดเสื้อผ้าออกแล้วไปอาบน้ำ ไม่ใช่แบบที่เธอคิด… คิดถึงตัวเองที่กล้าเอาความคิดแบบนี้ไปเข้าใจผิดเขาได้ โล่เฟยเอ๋อก็รู้สึกผิดในใจขึ้นมา
ซูซีมู่หันกลับมายังเห็นว่าโล่เฟยเอ๋อยังคงใส่ชุดเปียกๆยืนอยู่ที่เดิม ก็พูดขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์ “ยืนโง่อยู่ทำไม? ไม่รีบไปอาบน้ำ? อยากเป็นหวัดหรือไง?”
โล่เฟยเอ๋อเห็นว่าซูซีมู่นั้นดูเหมือนจะไม่โกรธแล้ว ในใจก็ผ่อนคลายลง
เธอยิ้มให้ซูซีมู่ แล้วจึงหมุนตัวเข้าห้องน้ำไป
ถอดชุดที่เปียกชุมนั้นออก โล่เฟยเอ๋อก็รีบเข้าไปอาบน้ำด้วยน้ำร้อน ตู้ในห้องน้ำมีไดร์เป่าผมอยู่แต่เธอกลับหาปลั๊กไม่เจอ
โล่เฟยเอ๋อครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่จากนั้นถึงถือไดร์เดินออกมา
ซูซีมู่นั่งอยู่บนโซฟากำลังดูมือถืออยู่ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นก็เงยหน้าขึ้นไปมอง ก็เห็นโล่เฟยเอ๋อเดินผมเปียกออกมาจากห้องน้ำ
“ในห้องน้ำไม่มีที่เสียบปลั๊ก” โล่เฟยเอ๋อรีบยกไดร์เป่าผมที่อยู่ในมือขึ้น
ซูซีมู่ไม่ได้พูดอะไร เขากวาดตามองไปทั่วห้อง สุดท้ายก็ชี้ไปที่ปลั๊กที่อยูข้างโซฟาที่เขานั่งอยู่ “ตรงนี้”
โล่เฟยเอ๋อส่งเสียง “อึม” ตอบรับ แล้วเดินไปเสียบปลั๊กไดร์เป่าผม ตัวนั่งลงบนโซฟาอีกฝั่งแล้วเริ่มเป่าผม
ตอนแรกเธอก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ กังวลว่าเสียงดังจากไดร์เป่าผมจะไปรบกวนเขา แต่เมื่อเห็นสีหน้าของซูซีมู่นิ่งเรียบ นั่งดูโทรศัพท์อยู่พลางเท้าแขนกับโซฟา เธอก็ค่อยรู้สึกวางใจขึ้นมา
ยังไม่ทันที่ผมจะแห้ง ก็มีเสียงกริ่งดังมาจากด้านของประตู
ซูซีมู่เงยหน้ามองโล่เฟยเอ๋อเล็กน้อย จากนั้นก็เก็บโทรศัพท์ ลุกขึ้นเดินไปทางประตู
“ประธาณซู เสื้อผ้าที่นายสั่ง” โจวเฉิงยื่นถุงกระดาษหลายถุงส่งให้ซูซีมู่
วันนี้โจวเฉิงน่าสงสารจริง ๆ เดิมทีเขาคิดว่าเขารีบทำงานที่ประเทศMเสร็จก่อนกำหนด กลับประเทศมา ประธาณซูของเขานั้นจะให้เขาพักสักสองสามวัน
ปรากฏว่าเขาเพิ่งพักไปไม่ถึงครึ่งวัน ประธาณซูของเขาก็โทรมาให้เขาเตรียมชุดผู้หญิงเอามาส่งให้ที่โรงแรมภายในครึ่งชั่วโมง
ในขณะที่เขายังงงอยู่นั้น เขาก็ใช้ความเร็วที่สุดในชีวิตออกไปซื้อมา จากนั้นก็เอามาส่งที่โรงแรมนี้
โจวเฉิงแอบสอดส่ายสายตาเข้ามาในห้อง อยากดูหน้าหญิงสาวที่ประธาณซูแอบซ่อนเอาไว้
แต่หน้าเสียดาย นอกจากเสียงที่ดังลั่นของไดร์เป่าผม เขาก็มองไม่เห็นอะไรเลย
เห็นว่าโจวเฉิงยังไม่กลับไป สายตายังคงจ้องเข้าไปในห้อง ซูซีมู่ก็รู้ได้ทันทีว่าเขากำลังคิดจะทำอะไร
เขามองกลับเข้าไปในห้อง จากนั้นก็พูดขึ้นเสียงเรียบ ๆ “ยังมีธุระ?”
แน่นอนว่าโจวเฉิงไม่กล้าพูดว่าเขาอยากเห็นหญิงสาวที่อยู่ในห้องนั้น ทำได้แค่เพียงส่ายหน้า “ไม่… ไม่มีแล้วครับ”
ซูซีมู่ส่งเสียงอือตอบรับในลำคอ จากนั้นก็มองโจวเฉิงด้วยสายตานิ่ง ๆ
โจวเฉิงถูกสายตาของซูซีมู่มองจนรู้สึกได้ว่าขนหัวกำลังลุก ก็ค่อยๆพูดออกมาเบา ๆ ประโยคหนึ่ง “ประธาณซูผมยังมีธุระ” จากนั้นก็เดือนออกไปด้วยความรวดเร็ว
ซูซีมู่ปิดประตูเสร็จก็เดินเข้ามา เขายื่นถุงกระดาษให้โล่เฟยเอ๋อ “เสื้อผ้าของคุณ”
โล่เฟยเอ๋อเอ่ยขอบคุณเบา ๆ รับถุงกระดาษมากแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำ
สิบนาทีถัดมา เธอก็เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกลับชุดที่เปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว
ซูซีมู่กวาดตามองเสื้อผ้าบนตัวเธอ ขนาดกำลังพอดี แบบชุดก็สวย
โจวเฉิงเจ้าเด็กนั่น ก็มีรสนิยมอยู่บ้าง
โล่เฟยเอ๋อไม่รู้ว่าซูซีมู่กำลังคิดอะไรอยู่ มองเห็นว่าเขากำลังจ้องตัวเองอยู่ก็พลันคิดไปว่ามีอะไรไม่ถูกต้องหรือเปล่า เธอก้มหน้ามองตัวเอง มองแล้วมองอีกอยู่อย่างนั้น
“ไปเถอะ” ซูซีมู่พูดส่ง ๆ ออกมาคำหนึ่ง จากนั้นก็เดินนำหน้าออกจากห้องไปก่อน
โล่เฟยเอ๋อหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนโซฟา แล้วเดินตามออกไป
ออกมาจากห้อง เดินไปตามทางเดินยาว ๆ ลงลิฟท์ มาถึงสถานที่จัดงานแต่งบริเวณชั้นสาม
หลังจากออกมาจากลิฟท์ ซูซีมู่ก็ไม่ได้มีท่าทางเหมือนตอนอยู่ในห้องที่เดินนำหน้าทั้งรีบและเร็ว แต่กลับลดความเร็วลงไม่รีบและก็ไม่ช้าเกินไปเพื่อเดินอยู่ข้างๆโล่เฟยเอ๋อ จนเดินมาถึงจุดลงทะเบียน
หลังจากลงชื่อเสร็จ ในขณะที่ซูซีมู่และโล่เฟยเอ๋อกำลังจะเดินเข้าไปในงาน โทรศัพท์มือถือของซูซีมู่ก็ดังขึ้น
โล่เฟยเอ๋อหยุดฝีเท้าลงและหันหน้าไปทางซูซีมู่ “คุณไปรับโทรศัพท์ก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันเข้าไปรอข้างใน”
ซูซีมู่ส่งเสียงตอบรับเบาๆพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง เดินไปยังทางตรงกันข้ามกับสถานที่จัดงานพร้อมกับกดรับโทรศัพท์
โล่เฟยเอ๋อมองตามหลังซูซีมู่อยู่สองสามวินาที แล้วจึงหมุนตัวเดินเข้าไปในงาน
เธอทักทายบ่าวสาว จากนั้นจึงเดินเข้าไปรวมกลุ่มกับเพื่อนร่วมระดับชั้นของเธอ
หญิงสาวหลายสิบคนในระดับชั้นเดียวกับเธอไม่มีใครสักคนที่จะไม่พาผู้ชายของตัวเองมาด้วย
ปรากฏว่าถังหซิวฉีนั้นมากับกู้ชิงหลัน
โล่เฟยเอ๋อมองไปทางพวกเขาด้วยแววตาราบเรียบ แล้วจึงหาที่ว่างนั่งลง
ทุกคนเห็นโล่เฟยเอ๋อก็หันมาทักทาย “เฟยเอ๋อ มาแล้วเหรอ ไม่เจอกันนานเลย”
โล่เฟยเอ๋อยิ้มพร้อมตอบกลับไป “ขอโทษด้วย พอดีมีธุระนิดหน่อยเลยมาช้าน่ะ”
ถังหซิวฉีเห็นว่าทุกคนให้ความสนใจกับโล่เฟยเอ๋อ นัยน์ตาของเธอก็มีประกายความริษยาออกมา
เป็นแบบนี้ทุกครั้ง แค่เพียงโล่เฟยเอ๋อปรากฏตัวเธอก็เปลี่ยนเป็นธาตุอากาศทันที
ทำไมต้องเป็นโล่เฟยเอ๋อ? เธอมีตรงไหนที่ด้อยกว่าโล่เฟยเอ๋องั้นหรือ?
เธอคิดหาเหตุผลร้อยแปดว่าทำไมต้องเป็นเช่นนี้ทุกครั้ง
ไม่ วันนี้เธอจะไม่แพ้! ถังหซิวฉีมองไปทางโล่เฟยเอ๋อที่มาคนเดียว นัยต์ตาของเธอก็ปรากฏความดำมืดขึ้น