บทที่ 38 ที่แท้เธอก็ชอบเขา
ซูซีมู่ตกใจที่โล่เฟยเอ๋อปากุญแจรถใส่เขา
“ผมผิดเอง คุณอย่าโกรธเลยนะ”
โล่เฟยเอ๋อหมุนตัวเดินไปโดยที่ไม่ยอมพูดอะไร
ซูซีมู่เกิดกังวลขึ้นมาเมื่อเห็นโล่เฟยเอ๋อเดินจากไปก็รีบเข้าไปคว้ามือเธอไว้
“ปล่อยนะ” ดวงตาของโล่เฟยเอ๋อค่อย ๆ แดงขึ้นเรื่อย
“ไม่” ซูซีมู่ดึงโล่เฟยเอ๋อเข้ามาไว้ในอ้อมกอด โล่เฟยเอ๋อยกมือขึ้นดันเขา ฟางเส้นสุดท้ายขาดผึง น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาทีละหยด
“ไม่ต้องมากอดฉัน ไปกอดผู้หญิงพวกนั้นในวิลล่านู่น” โล่เฟยเอ๋อไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำเสียงของตัวเองมันแสดงออกว่าหึงแค่ไหน
ซูซีมู่นิ่งไปสองวิถึงตอบกลับคำพูดของโล่เฟยเอ๋อ
“ผมไม่ได้แตะต้องผู้หญิงพวกนั้น”
ซูซีมู่กลัวว่าโล่เฟยเอ๋อจะไม่เชื่อก็พูดซ้ำอีกครั้ง “จริง ๆ ผมอยู่แต่ในห้องน้ำตลอด”
“จริงเหรอ?” โล่เฟยเอ๋อเงยหน้าขึ้นมองซูซีมู่
ซูซีมู่ลดสายตาลงแล้วพูดเสียงเบา “คือ…มีผู้หญิงคนหนึ่ง…”
มีผู้หญิงอยู่กับเขา? สีหน้าของโล่เฟยเอ๋อแย่ลง
“เธอมาแตะผม…แต่ผมผลักเธอล้มแล้วเข้าไปอยู่ในห้องน้ำ พอทำความสะอาดตัวเองเสร็จก็ออกมาเลย” ซูซีมู่ค่อย ๆ อธิบายช้า ๆ อย่างชัดถ้อยชัดคำ
โล่เฟยเอ๋อเพ่งตามองซูซีมู่ ผมกับเสื้อเชิ้ตยังเปียกอยู่
โล่เฟยเอ๋อทั้งดีใจและทุกข์ใจ
ดีใจที่เขาไม่ได้แตะต้องผู้หญิงพวกนั้น ทุกข์ใจที่เขาต้องมาสวมเสื้อที่เปียกไปกว่าครึ่งตัวทั้งที่อากาศหนาวแบบนี้
เธอพูดอย่างรวดเร็ว “รีบเอาสูทมาใส่เร็ว ๆ เลย เกิดป่วยขึ้นมาจะทำยังไง?”
ซูซีมู่รู้ว่าโล่เฟยเอ๋อหายโกรธแล้วก็โล่งใจ เขาส่ายหัว “ไม่ใส่แล้ว สูทมันโดนผู้หญิงคนนั้นแตะแล้ว”
“กลับไปเปลี่ยนชุดกันเถอะ” โล่เฟยเอ๋อก่นด่าผู้หญิงคนนั้นที่แตะต้องซูซีมู่ไว้ยาวมากแล้วดึงมือของซูซีมู่พาออกไปจากclubเจียงหนาน
ซูซีมู่ไม่คัดค้านโล่เฟยเอ๋อ อะไรก็ได้ขอแค่เธอมีความสุข
พอเข้ามาในคฤหาสน์ โล่เฟยเอ๋อก็สั่งให้ซูซีมู่ไปอาบน้ำ
“รีบไปอาบน้ำจะได้ไม่เป็นหวัด”
ซูซีมู่รู้สึกเหมือนกำลังถูกหยาม เขาดูเหมือนคนป่วยง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?
แต่เป็นความหวังดีของโล่เฟยเอ๋อ เขาไม่อยากปฏิเสธก็เดินขึ้นไปชั้นบนอย่างเชื่อฟัง
พอซูซีมู่ขึ้นไปชั้นบนโล่เฟยเอ๋อก็วางกระเป๋าลงบนโซฟาแล้วหยิบรีโมทมาเปิดทีวี
เปิดมาเจอช่องที่เธอชอบมาก ก็เลือกดูช่องนี้ทันที
เกือบยี่สิบนาทีต่อมาซูซีมู่ลงมาจากชั้นบนหลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้ว
สายตาของโล่เฟยเอ๋อย้ายจากทีวีไปที่ร่างของซูซีมู่ “อาบเสร็จแล้วเหรอ?”
ซูซีมู่พยักหน้าตอบรับแล้วถามกลับ “คุณหิวไหม? ให้ผมทำอาหารเย็นให้ไหม?”
เมื่อโล่เฟยเอ๋อได้ยินคำว่า ‘อาหารเย็น’ ก็รู้สึกหิวทันที แต่ตอนนี้ดึกแล้วเธอไม่อยากรบกวนซูซีมู่จึงส่ายหัวปฏิเสธ “ดึกแล้ว ไม่ต้องทำหรอก”
ซูซีมู่เลิกคิ้วขึ้น “ถ้าอย่างนั้นกินเค้กไหม? ทีรามิสุยังอยู่ในตู้เย็น”
ได้ยินชื่อเค้กที่ชอบที่สุดอย่างทีรามิสุโล่เฟยเอ๋อก็พยักหน้าทันที “อื้อ”
ซูซีมู่ขำกับท่าทางของเธอแล้วลุกไปที่ห้องครัว
ไม่นานเขาก็ออกมาพร้อมกับทีรามิสุชิ้นใหญ่ในมือ
โล่เฟยเอ๋อมองเค้กในมือของซูซีมู่ก็ถามอย่างแปลกใจ “ทำไมมีชิ้นเดียว? คุณไม่กินเหรอ?”
ซูซีมู่ส่ายหัว “ผมไม่กินขนมหวาน”
“อ้อ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า รับเค้กในมือซูซีมู่มากินอย่างมีความสุข
ซูซีมู่มองเธออยู่เงียบ ๆ
รอจนโล่เฟยเอ๋อทานเค้กเสร็จถึงถาม “เอาอีกไหม?”
“ไม่แล้ว” โล่เฟยเอ๋อส่ายหัว
ซูซีมู่ตอบรับแล้วหยิบเอากระดาษทิชชูออกมาสองแผ่นจากโต๊ะเล็กตรงหน้ายื่นให้โล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อ พูด ‘ขอบคุณ’ แล้วเอาทิชชูมาเช็ดปาก
ซูซีมู่ถือจานเข้าไปในห้องครัว แล้วออกมาอีกครั้งพร้อมกับนมในมืออีกสองแก้ว
เขายื่นให้โล่เฟยเอ๋อแก้วหนึ่งแล้วนั่งลง
โล่เฟยเอ๋อดื่มนมในมือและมองซูซีมู่ที่กำลังดื่มนมไปด้วย
แม้แต่ดื่มนมก็ยังดูจริงจัง
ทำให้โล่เฟยเอ๋อคิดถึงคำฮิตบนอินเทอร์เน็ตขึ้นมาได้ พูดน้อยหน้านิ่ง คิ้วคมดั่งมีด
ความเพอร์เฟคที่ผู้ชายควรมี ผู้ชายข้างตัวล้วนมีทั้งหมด
สิ่งที่ใช้เพื่อระงับความปรารถนาไม่ใช่ ‘การกระทำที่เย็นชา’ แต่เป็นการที่ได้อยู่ไกลกันถึงทำให้ความรักเหล่านั้นท่วมท้นออกมา ถึงจะเป็นชายที่เต็มไปด้วยความรัก
การกระทำที่เกิดความรัก… โล่เฟยเอ๋อคิดถึงตอนที่เธอจูบกับซูซีมู่ใบหน้าก็เกิดแดงเห่อขึ้นมา
ซูซีมู่หันมามองก็เห็นว่าโล่เฟยเอ๋อมองเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ เขาเลิกคิ้วขึ้น “ทำไมเหรอ?”
“ไม่ ไม่มีอะไร” สติของโล่เฟยเอ๋อกลับมาก็ก้มลงดื่มนมต่อปิดบังความเขินอายแต่ใบหน้าแดงก่ำนั้นไม่สามารถปิดบังมันได้
ซูซีมู่มองใบหน้าแดงก่ำของโล่เฟยเอ๋อก็เกิดคำถาม “ทำไมหน้าแดง? เป็นไข้เหรอ?” แล้วเอื้อมมือไปทาบที่หน้าผากของโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อรับรู้ถึงสัมผัสที่อบอุ่นบนหน้าผาก เหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่างและใจเต้นแรง
“ไข้ก็ไม่มีทำไมหน้าแดงขนาดนี้?” ซูซีมู่เข้ามาใกล้โล่เฟยเอ๋อมากขึ้นเพื่อตรวจสอบใบหน้าของเธออย่างระมัดระวัง
ยิ่งซูซีมู่ขยับเข้ามาใกล้หัวใจของโล่เฟยเอ๋อก็ยิ่งเต้นแรงมากขึ้นไปอีก
ตึกตัก ตึกตัก
รู้สึกเหมือนหัวใจจะหลุดออกมา โล่เฟยเอ๋อไม่ใช่เด็กแล้วแม้ว่าจะไม่เคยมีความรักแต่ก็รู้ดีว่าที่เป็นอยู่นี้คืออะไร
“คือ…” โล่เฟยเอ๋อลุกพรวดขึ้นจากโซฟา
“ฉันอยากเข้าห้องน้ำ” โล่เฟยเอ๋อลืมคำพูดที่ต้องการพูดไปหมด ไม่รอคำตอบจากซูซีมู่ก็รีบวิ่งไปที่ห้องน้ำทันที
ซูซีมู่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มองไปทางห้องน้ำที่โล่เฟยเอ๋อรีบเข้าใช้อยู่เป็นเวลานาน
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ใช้ห้องน้ำ เธอนั่งอยู่บนชักโครก จับใบหน้าและรวบรวมจิตใจให้สงบลง
ในที่สุดเธอก็รู้แล้วว่าทำไมเมื่อกี้เธอถึงโกรธเมื่อรู้ว่าจะอาจจะมีผู้หญิงอยู่ข้างกายเขา เพราะเธอหึง หึงที่ข้างกายเขามีผู้หญิงคนอื่น
ดังนั้นเมื่อรู้ว่าเขาไม่ได้แตะต้องผู้หญิงเลยเธอก็เลยดีใจมาก
เธอไม่สามารถหลอกตัวเองได้อีกแล้วว่ามองเขาเป็นแค่เพื่อน…
ถ้าเป็นแค่เพื่อน เธอคงไม่คิดถึงเขาขนาดนั้นตอนที่เขาไปต่างประเทศ
ถ้าเป็นแค่เพื่อน เธอคงไม่ส่งข้อความหาเขาทั้งวันทั้งคืน ทั้งวันก็เอาแต่รอคอยข้อความและโทรศัพท์จากเขา
ถ้าเป็นแค่เพื่อน เธอคงไม่โกรธไม่เศร้าเพราะเขาขนาดนั้น
ถ้าเป็นแค่เพื่อน เวลาที่เขาไม่สบายเธอคงไม่ลาหยุดเพื่อไปซื้อยามาให้เขา ไปหายาตัวอื่นมาแทนยาที่เขาไม่ทาน
ถ้าเป็นแค่เพื่อน ตอนที่เธอถูกบริษัทเข้าใจผิดเพียงแค่ได้ยินเขาเรียกเธอก็ร้องไห้ออกมา
ถ้าเป็นแค่เพื่อน เธอก็จะไม่รู้สึกว่าไม่อยากออกไปจากบ้านเขา
…
จริง ๆ แล้ว เธอชอบเขาเข้าแล้ว..