บทที่ 49 ขโมยจูบ
ในห้องที่เงียบสงบมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ลอยฟุ้งในอากาศ
โล่เฟยเอ๋อนั่งที่ข้างเตียง ปลายนิ้วของเธออยู่ที่คอด้านหลังของซูซีมู่ กดอย่างช้าๆแต่แข็งแรง
“รู้สึกดีขึ้นไหม?”
“อืม ดีขึ้นเยอะแล้ว ขอบคุณมาก”ซูซีมู่หันไปมองที่โล่เฟยเอ๋อ แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
มองไปที่ซูซีมู่ หัวใจดวงน้อยๆของโล่เฟยเอ๋อก็ร่วงลงอย่างช้าๆ
“ไม่เป็นไร นอนดีๆ ฉันจะนวดให้คุณอีกที”
“อืม”ซูซีมู่หันกลับมา ค่อยๆหรี่ตาลงอย่างอ่อนเพลีย
มือของโล่เฟยเอ๋อนวดอยู่ตลอด ใบหน้าแสดงออกมาอย่างอ่อนโยน ริมฝีปากยกขึ้นด้วยความอบอุ่นที่พึงพอใจ
ขณะที่กำลังนวด อาการปวดต้นคอก็ค่อยๆหายไป ขนตาโค้งงอนของซูซีมู่กะพริบลงช้าๆ เขาค่อยๆหลับตาลงแล้วหลับไปในที่สุด
โล่เฟยเอ๋อหยุดนวดโดยไม่รู้ตัว มองไปที่ด้านหลังของคนที่นอนอยู่บนเตียงตรงหน้าเธอ
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ลุกขึ้นและลุกเบาๆไปที่ปลายเตียงแล้วเดินไปอีกฝั่ง
สายตาที่โลภเล็กน้อยก้มหน้าลงบนใบหน้าของซูซีมู่
ภายใต้แสงสลัวข้างๆเตียงเส้นโครงร่างใบหน้าที่สมบูรณ์แบบนั้นเหมือนได้รับการวาดขึ้นมาอย่างประณีต
โล่เฟยเอ๋อจ้องไปที่ซูซีมู่ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
เธอกล้าที่จะเปิดเผยความรู้สึกของเธอ เมื่อเขากำลังหลับอยู่เท่านั้น
เมื่อเธอไม่มีความกล้าที่จะเปิดเผยความรู้สึกกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ ซูซีมู่อาจจะไม่สนใจเธออีก
“คุณอาจจะชอบฉันนิดหน่อย……”โล่เฟยเอ๋อกระซิบเบาๆและมือของเธอก็ค่อยๆเอื้อมไปแตะที่ใบหน้าของซูซีมู่
ปลายนิ้วของเธอไม่น้อยเลยเพราะความตื่นเต้น
เมื่อปลายนิ้วสัมผัสใบหน้าเขา เธอก็หยุดลงอย่างขี้ขลาด
โล่เฟยเอ๋อมองคนตรงหน้าที่นอนอย่างเงียบสงบอย่างโลภมาก
เธอกลืนน้ำลายก่อนจะเอานิ้วมือแตะใบหน้าของเขาอย่างระมัดระวัง และในที่สุดก็ค่อยๆเอานิ้วแตะที่แก้มของซูซีมู่
ทันทีที่หน้าของโล่เฟยเอ๋อสัมผัสแก้มของซูซีมู่ เธอรู้สึกเหมือนกระแสไฟไหลเข้ามาที่นิ้วเธออย่างรวดเร็ว ทำให้หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะและนิ้วก็สั่นไม่หยุด
โล่เฟยเอ๋อกลัวที่จะปลุกซูซีมู่ เธอรีบดึงมือกลับ
เธอมองดูใบหน้าที่หลับใหลของซูซีมู่อย่างถี่ถ้วนและพบว่าเขายังคงหลับสนิทและโล่เฟยเอ๋อก็ยื่นมือออกไปอีก
คราวนี้เธอค่อยๆแตะระมัดระวัง จากซูซีมู่ที่ใสสะอาด หน้าผากที่อิ่มเอิบ คิ้วขม จมูกสวยเข้ากับดวงตา ใบหน้าที่ละเอียดอ่อน และในที่สุดริมฝีปากบางสมบูรณ์แบบ
ถึงริมฝีปากของ ทำให้นึกถึงเมื่อครั้งที่เขาจูบเธอความรู้สึกที่นุ่มนวลและอบอุ่นหัวใจในความทรงจำก็ทำให้หัวใจโล่เฟยเอ๋อเต้นรัว
เธอจ้องที่ริมฝีปากของซูซีมู่อย่างตั้งใจใ บหน้าของเธอขยับเข้ามาใกล้ใบหน้าของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ
แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว แอบครั้งนี้คงจะดี……
โล่เฟยเอ๋อบอกตัวเองอย่างนั้นและในที่สุดก็แตะริมฝีปากของซูซีมู่อย่างระมัดระวัง
เธอไม่กล้าขยับมากเกินไป เธอแตะริมฝีปากของซูซีมู่เบาๆ แล้วค่อยๆถอยกลับอย่างรวดเร็ว
หลังจากได้สิ่งที่เขาต้องการแล้วโล่เฟยเอ๋อก็ยิ้มอย่างมีความสุข
หลังจากจ้องมองใบหน้าของซูซีมู่อย่างโลภมาก เธอเอื้อมมือไปหยิบผ้าห่มมาห่มให้เขาอย่างเบามือแล้วลุกออกจากห้องไป
โล่เฟยเอ๋อออกไปไม่นาน ซูซีมู่ก็ลืมตาขึ้นมา
เขาลุกขึ้นและมองไปรอบๆห้อง ไม่เห็นโล่เฟยเอ๋อ เขาก็หรี่ตาลง เขาก็ดึงผ้าห่มออกและลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว
ใส่รองเท้าแตะแล้วเดินออกจากห้อง ตรงไปที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง
ในห้องนั่งเล่นยังสว่าง มีเพียงโคมไฟติดผนังอันเดียวที่ยังคงติดอยู่ และโล่เฟยเอ๋อไม่ได้อยู่แล้ว
ซูซีมู่รีบเดินไปที่โต๊ะน้ำชาและหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโดยไม่ต้องคิดอะรมาก เขากดโทรหาโล่เฟยเอ๋อทันที
หลังจากรอสายเขาสังเกตเห็นว่ามันเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว
ดึกขนาดนี้แล้ว เธอน่าจะหลับไปแล้ว……
กลัวที่จะปลุกเธอ ซูซีมู่รีบวางสายโทรศัพท์ที่ดังขึ้นสองสามครั้ง
เขาวางสายโทรศัพท์ได้สองสามวินาที โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
มันคือโล่เฟยเอ๋อที่โทรมา ปลายนิ้วของซูซีมู่สั่นไปหมด เขากลืนกินน้ำลายแล้วกดรับสาย
เขายังไม่ทันได้พูด โล่เฟยเอ๋อก็พูดขึ้นมาด้วยความกระวนกระวายเล็กน้อยว่า“ป็นอะไรไป?คุณปวดต้นคออีกแล้วเหรอ?”
ได้ยินโล่เฟยเอ๋อพูดด้วยความกังวล ลึกๆในใจของซูซีมู่ก็รู้สึกพองโต
“ไม่ใช่”ซูซีมู่หยุดไปครู่หนึ่ง ถึงพูดต่อ“ถึงบ้านหรือยัง”
โล่เฟยเอ๋อตอบ‘อืม’กลับไป แล้วพูดว่า:“ฉันอยู่บนรถแท็กซี่ อีกสักพักถึงจะถึงบ้าน”
อยู่บนรถแท็กซี่?ที่แท้เธอเพิ่งออกไปไม่นาน!
ซูซีมู่เม้มปากแล้วถาม“ทำไมไม่เรียกผม?”
โล่เฟยเอ๋อนิ่งไปสองสามวินาทีถึงตอบกลับมา:“คุณไม่ค่อยสบาย แล้วก็หลับไปแล้วด้วย”
ซูซีมู่บีบนิ้วมือของเขาแน่นลงบนโทรศัพท์แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า“ไม่ปลอดภัย”
“ฉันนั่งแท็กซี่เป็นปกติอยู่แล้ว ไม่เป็นไร”โล่เฟยเอ๋อตอบด้วยรอยยิ้ม
ซูซีมู่‘หึ’ออกมาแล้วไม่ได้พูดอะไรอีก
โล่เฟยเอ๋อเงียบไปสองสามวินาทีแล้วพูดว่า:“ต่อไปจะไม่ทำอย่างนี้อีก ฉันสัญญา”
ซูซีมู่ ‘อืม’เบาๆ
“พรุ่งนี้คุณอยากกินจะกินอะไร?ฉันจะเอาอาหารเช้าไปให้คุณ”คราวนี้เสียงของโล่เฟยเอ๋อไม่ค่อยพอใจ
ซูซีมู่ก็ถูกเธอทำให้รู้สึกแบบเดียวกัน มุมปากเขายกขึ้นเล็กน้อยแล้วตอบว่า “โจ๊ก”
โล่เฟยเอ๋อตอบว่า‘ได้’แล้วถามกลับ:“คุณชอบโจ๊กแบบไหน”
“อะไรก็ได้”ซูซีมู่ที่ปกติมักจะจู้จี้จุกจิกบอกว่าอะไรก็ได้ ถ้าโจวเฉิงได้ยิน อาจจะต้องถอนหายใจให้เสน่ห์ของคุณโล่
สายนี้ไม่ได้จบที่อาหารเช้า แต่ยังคุยต่อไป
แม้ว่าส่วนใหญ่โล่เฟยเอ๋อจะพูด แต่ซูซีมู่ก็กำลังฟังอยู่
แต่ซูซีมู่ไม่ได้วางสายไป เขายังตอบโล่เฟยเอ๋อเป็นครั้งคราว
เมื่อโล่เฟยเอ๋อบอกเขาว่าถึงบ้านแล้ว,ซูซีมู่ก็บอกราตรีสวัสดิ์กับโล่เฟยเอ๋อ
แม้โล่เฟยเอ๋อจะนอนดึก แต่วันรุ่งขึ้นเธอก็ว่าที่วิลล่าซูซีมู่แต่เช้า
แต่ซูซีมู่มาเปิดประตูให้โล่เฟยเอ๋อด้วยท่าทางสะลึมสะลือ
ในความคิดของโล่เฟยเอ๋อ เธอคิดว่าซูซีมู่เหมือนเทพที่ไม่กินอาหารบนโลกมนุษย์
และตอนนี้เขาเพิ่งตื่นขึ้นมาซูซีมู่เหมือนจะไม่เฉยเมยกับอาหารของมนุษย์ทำให้รู้สึกว่าเขายังเป็นมนุษย์อยู่
น้อยคนนักที่จะเห็นซูซีมู่เป็นแบบนี้!
โล่เฟยเอ๋อแอบถอนหายใจอย่างพอใจใน เธอหัวเราะออกมาแล้วถามว่า“คุณต้องการที่จะนอนต่อไหม?”
“ไม่แล้ว”ซูซีมู่ส่ายหัว แล้วหันกลับไปทางห้องน้ำ
หลังจากมองตามหลังซูซีมู่ โล่เฟยเอ๋อยิ้มออกมาแล้วถืออาหารเช้าเข้าไปในครัว