งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! – ตอนที่ 54

ตอนที่ 54

บทที่54 โล่เฟยเอ๋อพบกับการปล้น

หลังจากที่ออกมาจากคลับดี้เหาแล้ว โล่เฟยเอ๋อเดินมาข้างถนนเพื่อเรียกแท็กซี่

ทันใดนั้นมีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขับตรงเข้ามาจากที่ไกล เธอที่ไม่ได้สังเกตเห็น เมื่อมอเตอร์ไซค์คันนั้นขับผ่านเธอ คนที่นั่งอยู่บนนั้นยื่นมือออกมาและคว้ากระเป๋าเธอ

ความรู้สึกแรกที่โล่เฟยเอ๋อสัมผัสได้คือแรงมหาศาลที่ดึงกระเป๋าไปจากบ่าเธอ จากนั้นเธอไม่สามารถทรงตัวได้และล้มไปข้างหน้า

หลังจากล้มลงกับพื้น เธอรู้สึกได้เพียงความเจ็บตั้งแต่ข้อศอกไปจนถึงหัวเข่าอย่างสุดหัวใจ จนเกือบจะทำให้เธอเป็นลม

คนข้างร้องเอะอะเสียงดัง: “ขโมย…”

และมีคนมาช่วยพยุงเธอให้ลุกขึ้นจากพื้น “คุณคะ ไม่เป็นไรนะคะ”

“คุณ กระเป๋าคุณโดนกระชากไปแล้ว คุณรีบแจ้งความเถอะ”

“คุณคะคุณล้มแรงมาก งั้นคุณรีบไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่า…”

คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างพากันพูดยกใหญ่ โล่เฟยเอ๋อเจ็บจนทนไม่ไหว ไม่มีแก่ใจจะตอบพวกเขาเลย

สุดท้ายโล่เฟยเอ๋อขอยืมโทรศัพท์คนที่เดินผ่านมาเพื่อโทรหาหซิวหชูเฉียว

หลังจากหซิวหชูเฉียวมาแล้วจึงได้พาโล่เฟยเอ๋อไปโรงพยาบาล

ด้วยแรงกระชากที่เยอะมากจากมอเตอร์ไซค์ เมื่อโล่เฟยเอ๋อล้มลงไปนอนกับพื้น ฝ่ามือทั้งสองข้างเป็นแผลถลอกปอกเปิกเลือดซิบเนื้อเปิด

แพทย์หญิงที่ทำแผลให้โล่เฟยเอ๋อสอบถามด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณบาดเจ็บขนาดนี้? เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”

“ไม่ระวังเลยล้มค่ะ” โล่เฟยเอ๋อ ตอบ

แพทย์หญิงส่ายหน้าแล้วพูด “แผลล้มโดยไม่ระวังของคุณหนักเอาการนะคะ”

โล่เฟยเอ๋อสีหน้าเก้ ๆ กัง ๆ ไม่พูดอะไร แต่กลับเป็นหซิวหชูเฉียวที่อยู่ข้าง ๆ ที่เริ่มพูดก่อน

“เธอโดนขโมยวิ่งราวมาค่ะ กระเป๋าก็โดนกระชากไป คนก็ล้มอย่างที่เห็นค่ะ”

แพทย์หญิงได้ยินสิ่งที่หซิวหชูเฉียว พูดแล้วตกตะลึง “แก๊งวิ่งราวอาละวาดหนักไปแล้วนะเนี่ย?”

หซิวหชูเฉียวพูดเสริม “ใช่ค่ะ พวกขยะสังคม”

“หวังว่าตำรวจจะจับพวกนี้ได้ไว ๆ นะ” แพทย์หญิงพูดเสร็จแล้วจึงได้สั่งยาให้กับโล่เฟยเอ๋ออีกหลายตัว

สุดท้ายจึงได้หันมาบอกเพิ่ม: “เสร็จแล้ว อย่าให้แผลโดนน้ำนะคะ พรุ่งนี้มาทำแผลด้วย”

“ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณหมอ” หซิวหชูเฉียวขอบคุณคุณหมอและพยุงโล่เฟยเอ๋อออกจากห้องตรวจ

หลังจากออกมาจากห้องตรวจแล้วหซิวหชูเฉียวอดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำ “นี่โล่เฟยเอ๋อ เธอไม่ได้ไปหาสุดที่รักเธอหรอกเหรอ? แล้วทำไมถึงโดนวิ่งราว?”

เมื่อได้ยินคำว่า ‘สุดที่รัก’ สามคำนี้ โล่เฟยเอ๋อแววตามืดมน จากนั้นพูด “ฉันรอแท็กซี่อยู่ข้างทาง แล้วก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”

หซิวหชูเฉียวถอนหายใจแล้วพูด: “ช่างเถอะ เธอไม่เป็นไรก็พอแล้ว พวกเราไปโรงพักกันก่อนดีกว่า”

“อืม” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า

เมื่อทำการบันทึกประจำวันที่โรงพักและให้รายละเอียดสิ่งของในกระเป๋าเสร็จแล้วโล่เฟยเอ๋อและหซิวหชูเฉียวจึงเดินทางกลับบ้าน

เดิมทีที่เจ็บปวดใจเพราะเรื่องของซูซีมู่ บวกกับเรื่องที่ตอนนี้โดนวิ่งราวโล่เฟยเอ๋อกลับเข้าห้องแล้วไม่ออกจากห้องอีกเลย แม้แต่ตอนที่หซิวหชูเฉียวเรียกให้เธอออกมาทานข้าวเย็นก็ปฏิเสธ

เมื่อกลางวันที่ซูซีมู่ได้รับโทรศัพท์นั้นเป็นสายของคนงานบ้านซูโทรมาบอกว่าคุณท่านเกิดป่วยกะทันหัน ซูซีมู่จึงรีบบอกลู่ยู่และร้อนรนรีบออกไปเพื่อไปหาคุณท่านซู

คุณท่านซูไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแค่เป็นลมฉับพลันเท่านั้น ซูซีมู่รอจนคุณท่านซูฟื้นแล้วจึงออกจากบ้านซู

เมื่อเห็นเสื้อผ้าชุดเก่าของโล่เฟยเอ๋อที่ทิ้งไว้ในรถจึงนึกขึ้นได้ เขาลืมทิ้งโล่เฟยเอ๋อไว้ที่คลับดี้เหา

เขารีบหยิบโทรศัพท์มือถือโทรหาโล่เฟยเอ๋อ ผลคือโทรศัพท์ของโล่เฟยเอ๋อปิดเครื่อง

เขาจึงทำได้เพียงโทรหาลู่ยู่แทน

จากการที่โทรไปหาลู่ยู่จึงทำให้ซูซีมู่รู้ว่าโล่เฟยเอ๋อกลับไปหลังจากที่เขาออกไปไม่นาน

ถึงแม้ว่าจะเป็นคำตอบที่พอเดาได้แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จู่ ๆ ซูซีมู่ก็รู้สึกวุ่นวายใจอย่างบอกไม่ถูก

เขาตัดสายลู่ยู่ไป หมุนพวงมาลัยไปทางชุมชนปี้ไหเพื่อไปหาโล่เฟยเอ๋อ

สุดท้ายเมื่อขับไปครึ่งทาง เขาได้รับสายจากโจวเฉิง บอกว่าที่บริษัทมีปัญหา ซูซีมู่จึงต้องยอมแพ้ที่จะไปหาโล่เฟยเอ๋อแล้วรีบไปที่บริษัทแทน

เพราะหมอกำชับว่าต้องไปทำแผลใส่ยา ดังนั้นโล่เฟยเอ๋อจึงไปโรงพยาบาลช่วงบ่ายในวันที่สอง แต่ครั้งนี้ไม่ได้ให้หซิวหชูเฉียวมาเป็นเพื่อน แต่ไปคนเดียว

โรงพยาบาลคนเยอะมากโล่เฟยเอ๋อต่อคิวนานกว่าสิบนาทีจึงได้ลงทะเบียน

หลังจากลงทะเบียน เธอจึงรีบไปที่ห้องตรวจ เป็นผลให้ไม่ทันสังเกตเดินชนกับคนที่เดินผ่านมา

ด้วยแรงปะทะที่แรงมาก ทำให้โล่เฟยเอ๋อไม่ทันได้ทรงตัว และล้มไปข้างหลัง เมื่อเห็นภาพว่าตัวเองกำลังจะโอบกอดกับพื้นดิน ทันนั้นมือคู่หนึ่งที่มีพลังก็จับเอวเธอไว้ทันเวลาพอดี ทำให้โล่เฟยเอ๋อไม่ล้มลงไป

“คุณไม่เป็นไรนะครับ?” เสียงอันอ่อนโยนดังมาจากเหนือศีรษะ

“ฉันไม่เป็นไร…” โล่เฟยเอ๋อเงยหน้าและได้เห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มและหล่อเหลา เธอชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูด: “อันที่เป็นฉันที่ไม่ระวังและชนคุณ ขอโทษค่ะ”

“ไม่เป็นไร” ชายหนุ่มส่ายหน้าและปล่อยมือที่โอบเอวโล่เฟยเอ๋อ

“อือ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าจากนั้นจึงหันหลังแล้วจากไป

หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อจากไปแล้ว ชายหนุ่มหันกลับและเตรียมที่จะจากไป

เดินไปได้ไม่กี่ก้าว โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็เสียงดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋า เมื่อเห็นเบอร์โทรศัพท์ที่โชว์ก็ยิ้มออกมา “ฮัลโหล ลู่ยู่”

“เหซิงโม่ นายกลับมาเมื่อเช้าไม่ใช่รึไง? ตอนนี้ไปตายอยู่ไหนล่ะเนี่ย?” ปลายสายเป็นเสียงโวยวายของลู่ยู่

“ก็กินข้าวเย็นไม่ใช่เหรอ? นี่บ่ายสองเอง นายจะรีบไปไหน?” เหซิงโม่ยิ้มเจื่อน ๆ

ลู่ยู่หัวเราะแหะ ๆ แล้วพูด: “ก่อนไปกินข้าวเย็นก็ไปนั่งเล่นที่คลับดี้เหาก่อนสิ”

“นายกับฉันไม่นั่งเล่น? ไม่เอาดีกว่า” ไปกับเจ้าลู่ยู่ที่ไม่รู้เรื่องอะไร สู้นอนอยู่โรงแรมดีกว่า

ลู่ยู่พูดขึ้น: “ยังมีซูซีมู่ด้วยนะ”

“ซูซีมู่ยุ่งขนาดนั้น กลางวันแสก ๆ ขนาดนี้ออกมาได้ด้วยเหรอ? ลู่ยู่นายหลอกฉันเหรอ?” เหซิงโม่ ส่ายหน้า ไม่เชื่อที่ลู่ยู่พูดสักนิดเดียว หมอนี่ไม่น่าเชื่อถือเลยจริง ๆ

เมื่อได้ยินชัดว่าเหซิงโม่ไม่เชื่อ ลู่ยู่ก็โวยวายเสียงดัง “เหซิงโม่นายคิดว่าฉันจะหลอกนายล่ะสิ?”

เหซิงโม่ ไม่ตอบลู่ยู่ ถือว่ายอมรับไปโดยปริยาย

“ เหซิงโม่ ซูซีมู่ให้ฉันมาชวนนายเลยนะ นายไม่มาถือว่านายขาดทุนแล้วล่ะ”

เมื่อได้ยินลู่ยู่บอกว่าซูซีมู่เป็นคนนัดเหซิงโม่เลิกคิ้วอย่างคิดไม่ถึงแล้วจึงถาม “เจอที่ไหน?”

ลู่ยู่เงียบไปครู่หนึ่งแล้วถาม “อีกหนึ่งชั่วโมง เจอกันที่คลับดี้เหา”

“แล้วเจอกัน”

งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว!

งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว!

Status: Ongoing

โล่เฟยเอ๋อคิดไม่ถึง เธอมาเข้าร่วมงานแต่งงานของพี่สาว แต่สุดท้าย เธอกลายเป็นเจ้าสาวซะเอง หนี ต้องหนีไป ซูซีมู่เป็นคนที่ชอบควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง อยากสั่งให้เขาแต่งงานอย่างเชื่อฟัง ไม่มีทาง เมื่อโล่เฟยเอ๋อที่กำลังหนีงานแต่งงานมาพบกับซูซีมู่ที่กำลังหนีงานแต่งงานเหมือนกัน จะเกิดอะไรขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท