บทที่ 69 แสร้งว่าในใจของเขามีเธออยู่
ซูซีมู่เอาพรมมาคลุมบนตัวโล่เฟยเอ๋อ หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นเดินไปที่หน้าโซฟา เตรียมอ่านเอกสารที่ตัวเองพกกลับมา กลับถูกสีทาเล็บที่วางอยู่บนโต๊ะชาดึงดูดไว้เสียก่อน
พูดตามความจริง ตอนที่ได้ยิน สงเฟยเหวิน บอกว่าโล่เฟยเอ๋อชอบสีทาเล็บมาก เขาคาดไม่ถึงจริงๆ
ที่เขารู้มา โล่เฟยเอ๋อไม่เคยใช้เครื่องสำอางเลย
ยิ่งสีทาเล็บ เขาไม่เคยเห็นเธอใช้เลยสักครั้ง อีกทั้งสีทาเล็บขวดนี้ยังเป็นสีแดงสดอีกต่างหาก
ในตาปรากฏความแปลกใจขึ้น ซูซีมู่เบนสายตาไปมองของอย่างอื่นที่วางอยู่ข้างสีทาเล็บ
สมุดภาพที่โล่เฟยเอ๋อซื้อ
นี่ถึงค่อยสอดคล้องกับความทรงจำที่เขามีต่อโล่เฟยเอ๋อขึ้นมาหน่อย
มุมปากยกยิ้ม เขาหยิบเอกสารออกมาจากในกระเป๋าราชการ และทำการอ่านมัน
ถึงแม้ว่าจะปรึกษาหารือวิธีแก้ไขโครงการกับกลุ่มนายทุน LM เรียบร้อยแล้ว แต่เขายังคงเชิญรองประธานบริษัทกลุ่มนายทุน LM มาร่วมรับประธานอาหารค่ำด้วยกันโดยเฉพาะ เพื่อแสดงถึงการให้ความสำคัญต่อฝ่ายตรงข้าม
พาเธอไปงานเลี้ยงส่วนตัวด้วยดีกว่า
มองคนที่นอนอยู่บนเก้าอี้โยก มุมปากของซูซีมู่ก็ยกขึ้น
โล่เฟยเอ๋อนอนไปสองชั่วโมง ระหว่างนั้น สงเฟยเหวิน ก็ได้เอาแผ่นหนังเรื่องzero มาให้ซูซีมู่ด้วย
โล่เฟยเอ๋อลืมตา จ้องไปที่ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ข้างนอกหน้าต่างสักพัก หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นนั่ง
พอตัวของเธอขยับ พรมที่อยู่บนตัวก็ร่วงลงมา โล่เฟยเอ๋อถึงได้สังเกตว่าบนตัวของตัวเองมีพรมคลุมไว้อยู่
คงจะเป็น คุณสง ที่เอามาคลุมให้เธอ! โล่เฟยเอ๋อถอนหายใจออกมา หลังจากนั้นก็ลุกขึ้น
เพิ่งเดินได้สองก้าว ก็สังเกตเห็นคนที่อยู่เหนือความคิดนั่งอยู่บนโซฟา
เขาก้มหน้าจ้องเอกสารบนมือ ขนตางอนยาว เกิดเป็นองศาที่สวยมาก
แสงอาทิตย์ตอนเย็นทะลุหน้าต่างยาวที่กว้างขวาง และสาดส่องไปบนตัวเขาอย่างสงบ ทำให้ทั้งตัวของเขาดูเหมือนภาพวาดที่ประณีตและสวยงามจนไม่สามารถบรรยายได้
เขาสมบูรณ์แบบจนไม่ใช่ความจริง ราวกับจะสูญหายไปในวินาทีต่อมา
โล่เฟยเอ๋อเดินเข้าไปอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ คิดอยากจะคว้าอะไร……
ซูซีมู่กำลังอ่านเอกสาร ข้อมูลมีปัญหานิดหน่อย เขากำลังหาข้อมูล อยู่ๆด้านหน้าก็มีเงาคนปรากฏขึ้นมา
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมา และสบเข้ากับสายตาที่โล่เฟยเอ๋อจ้องเขาอยู่พอดี
การกระทำของเขา ทำให้โล่เฟยเอ๋อตื่นเต็มตา เธอลังเลไปครึ่งวินาที หลังจากนั้นก็เบี่ยงสายตาอย่างลุกลี้ลุกลน
ซูซีมู่ไม่ได้สังเกตถึงความปิดปกติของโล่เฟยเอ๋อ เขาวางเอกสารบนมือลง พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ “ ตื่นแล้ว? ”
โล่เฟยเอ๋อส่งเสียงอือเบาๆ หลังจากนั้นก็สูดหายใจเข้าลึกๆ รอจนใจสงบลง ถึงค่อยพูดกับซูซีมู่ด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงอย่างเป็นธรรมชาติ “ คุณกลับมาตอนไหนหรอ? ”
“ เมื่อสักครู่ ” ซูซีมู่พูดตอบนิ่งๆ
โล่เฟยเอ๋อส่งเสียงโอ้ อยู่ๆสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่สีทาเล็บที่วางอยู่บนโต๊ะชา
สีทาเล็บขวดนี้เธอไม่ได้ใช้หรอก เพียงแค่ซื้อเพราะการพูดจูงใจของ สงเฟยเหวิน ก็เท่านั้น โยนทิ้งไปดีกว่า
โล่เฟยเอ๋อคิดได้ดังนั้น จึงยื่นมือไปหยิบสีทาเล็บที่วางอยู่บนโต๊ะชาขึ้นมา เตรียมจะเอาไปทิ้งในถังขยะ
อยู่ๆเสียงของซูซีมู่ก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน “ คุณชอบอันนี้? ”
อันนี้? อันไหน? โล่เฟยเอ๋อมองซูซีมู่งงๆ
เขาเห็นโล่เฟยเอ๋อไม่พูดอะไร ก็นึกว่าโล่เฟยเอ๋อเป็นเหมือนที่ สงเฟยเหวิน บอกไว้แบบนั้นจริงๆ ชอบสีทาเล็บ แต่ไม่อยากทาด้วยตัวเอง เขาจึงพูดขึ้นมา: “ ให้ผมช่วยทาให้คุณ? ”
“ หา? ” เขาพูดอะไร? เขาพูดว่าจะช่วยทาให้เธอ? เธอกำลังฝันไปใช่ไหม? โล่เฟยเอ๋อรู้สึกงงอีกครั้ง
แม้แต่ซูซีมู่หยิบสีทาเล็บไปจากในมือเธอ เธอก็ยังไม่รู้ตัว
ซูซีมู่หมุนสีทาเล็บขวดเล็กที่อยู่ในมือไปมา พูดตามความจริง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นของสิ่งนี้
เขาไม่ค่อยชอบให้สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าผู้หญิงเข้าใกล้ตัวเขา เพราะฉะนั้น ของพวกนี้จึงไม่เคยมาปรากฏอยู่ข้างตัวของเขาเลย
เขาเปิดสีทาเล็บ กลิ่นที่ฉุนจมูกปะทะหน้า เป็นกลิ่นที่ไม่ค่อยดีนัก
เขาขมวดคิ้ว อดกลั้นความรู้สึกที่อยากจะเอาของสิ่งนี้โยนออกไปด้านนอก หลังจากนั้นก็ตบตำแหน่งที่อยู่ข้างตัว “ มานั่งนี่ ”
โล่เฟยเอ๋อถึงรู้ว่าซูซีมู่คิดจะช่วยเธอทาจริงๆ ไม่ได้ล้อเล่น
โล่เฟยเอ๋อกลืนน้ำลายและพูดขึ้นมา: “ เอ่อ……ฉันทำเองดีกว่า ”
ซูซีมู่ไม่ได้ตอบเธอ เขาพูดขึ้นมาตรงๆ “ ทายังไง? ”
อย่าโทษที่ซูซีมู่ถามแบบนี้ เขาไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้จริงๆ
“ ใช้แปรงเล็กอันนั้น จุ่มสีทาเล็บ และทาลงไปบนนิ้วนาง ” ในเมื่อซูซีมู่อยากจะช่วยเธอทา โล่เฟยเอ๋อจึงชี้นำซูซีมู่อย่างไม่เสแสร้งอีกต่อไป
ซูซีมู่ถือขวดสีทาเล็บด้วยมือซ้าย ถือแปรงเล็กด้วยมือขวา จุ่มสีทาเล็บ และทาลงไปบนนิ้วนางของโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อยกหนังตาขึ้นมองใบหน้าหล่อที่อยู่ข้างหน้านิ่งๆ
เขาก้มหนังตาเล็กน้อย ไม่กระพริบตา สีหน้าตั้งใจ เหมือนกำลังทำเรื่องสำคัญอยู่
บางที เขาอาจจะไม่ได้ทาสีเล็บให้เธอ เพราะต้องการแสดงความชอบต่อเธอ แต่เธอสามารถเสแสร้ง แสร้งว่าในใจของเขามีเธออยู่
และเธอจะซ่อนเขาไว้ในก้นบึ้งหัวใจ แบบนี้ก็เพียงพอแล้ว
พอแล้ว
ตอนโล่เฟยเอ๋อชะงักไป ซูซีมู่ก็ทาสีเล็บที่นิ้วนางให้เธอเสร็จแล้ว
เขาเงยหน้าขึ้นมาถามเบาๆ “ ต้องการทานิ้วไหนอีก? ”
โล่เฟยเอ๋อดึงสติกลับมา และส่ายหน้า “ ไม่ ไม่ต้องแล้ว แค่นิ้วนี้ค่ะ ”
ซูซีมู่รู้สึกแปลกใจ ทำไมทาแค่นิ้วเดียว ในความทรงจำของเขา ผู้หญิงคนอื่นทาทุกนิ้วครบทั้งสองมือ ดูแล้วทำให้คนรู้สึกทนไม่ไหว
แต่โล่เฟยเอ๋อทาเพียงนิ้วเดียว ยังดีหน่อย
ซูซีมู่ไม่ได้พูดอะไรมาก ทำการปิดฝาสีทาเล็บ และเอากลับไปวางบนโต๊ะชา หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นเตรียมไปล้างมือที่ห้องน้ำ
เพิ่งเดินได้สองเก้า เขาก็สังเกตเห็นโล่เฟยเอ๋อหยิบสีทาเล็บที่วางอยู่บนโต๊ะชา ไปทิ้งในถังขยะ
ไม่ใช่ว่าชอบสีทาเล็บมากหรอกหรอ? ทำไมถึงได้ทิ้งละ?
รู้สึกว่าประโยชน์ของสีทาเล็บของเธอ จะใช้มาทาแค่นิ้วนางข้างขวานั้นนะ
ซูซีมู่ส่ายหน้าไปมา รู้สึกว่าตัวเองคิดมากเกินไป
เธอมีความสุขก็พอ ทิ้งก็ทิ้งสิ
โล่เฟยเอ๋อไม่รู้ความคิดของซูซีมู่ สิ่งของพวกสีทาเล็บ เดิมทีเธอก็ไม่ได้ชอบอยู่แล้ว
ถ้าไม่ใช่ว่าซูซีมู่บอกว่าจะช่วยทาให้เธอ เธอคงจะทิ้งไปแล้ว
“ แต่ดีที่ยังไม่ได้ทิ้ง ไม่อย่างนั้นเขาจะทาสีทาเล็บให้เธอได้ยังไงละ ” โล่เฟยเอ๋อก้มหน้ามองสีทาเล็บบนนิ้วนางข้างขวา มุมปากค่อยๆยกขึ้น…